1พงศาวดาร 6

วงศ์วานของเลวี

1 บุตรของเลวี ได้แก่

เกอร์โชน โคฮาท และเมรารี

2 บุตรของโคฮาท ได้แก่

อัมราม อิสฮาร์ เฮโบรน และอุสซีเอล

3 บุตรของอัมราม ได้แก่

อาโรน โมเสส และมิเรียม

บุตรของอาโรน ได้แก่

นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ และอิธามาร์

4 เอเลอาซาร์เป็นบิดาของฟีเนหัส

ฟีเนหัสเป็นบิดาของอาบีชูวา

5 อาบีชูวาเป็นบิดาของบุคคี

บุคคีเป็นบิดาของอุสซี

6 อุสซีเป็นบิดาของเศราหิยาห์

เศราหิยาห์เป็นบิดาของเมราโยท

7 เมราโยทเป็นบิดาของอามาริยาห์

อามาริยาห์เป็นบิดาของอาหิทูบ

8 อาหิทูบเป็นบิดาของศาโดก

ศาโดกเป็นบิดาของอาหิมาอัส

9 อาหิมาอัสเป็นบิดาของอาซาริยาห์

อาซาริยาห์เป็นบิดาของโยฮานัน

10 โยฮานันเป็นบิดาของอาซาริยาห์ (เขาเป็นปุโรหิตของพระวิหารที่โซโลมอนทรงสร้างขึ้นในกรุงเยรูซาเล็ม)

11 อาซาริยาห์เป็นบิดาของอามาริยาห์

อามาริยาห์เป็นบิดาของอาหิทูบ

12 อาหิทูบเป็นบิดาของศาโดก

ศาโดกเป็นบิดาของชัลลูม

13 ชัลลูมเป็นบิดาของฮิลคียาห์

ฮิลคียาห์เป็นบิดาของอาซาริยาห์

14 อาซาริยาห์เป็นบิดาของเสไรยาห์

และเสไรยาห์เป็นบิดาของเยโฮซาดัก

15 เยโฮซาดักถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้ประชากรยูดาห์และเยรูซาเล็มตกเป็นเชลยของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์

16 บุตรของเลวี ได้แก่

เกอร์โชนโคฮาท และเมรารี

17 รายชื่อบุตรของเกอร์โชน ได้แก่

ลิบนีกับชิเมอี

18 บุตรของโคฮาท ได้แก่

อัมราม อิสฮาร์ เฮโบรน และอุสซีเอล

19 บุตรของเมรารี ได้แก่

มาห์ลีกับมูชี

ตระกูลต่างๆ ของเลวีลำดับตามต้นตระกูลมีดังนี้

20 วงศ์วานของเกอร์โชน ได้แก่

ลิบนีซึ่งมีบุตรคือยาหาท ซึ่งมีบุตรคือศิมมาห์

21 ซึ่งมีบุตรคือโยอาห์ ซึ่งมีบุตรคืออิดโด ซึ่งมีบุตรคือเศราห์ ซึ่งมีบุตรคือเยอาเธรัย

22 วงศ์วานของโคฮาท ได้แก่

อัมมีนาดับ ซึ่งมีบุตรคือโคราห์

ซึ่งมีบุตรคืออัสสีร์

23 ซึ่งมีบุตรคือเอลคานาห์

ซึ่งมีบุตรคือเอบียาสาฟ ซึ่งมีบุตรคืออัสสีร์

24 ซึ่งมีบุตรคือทาหัท ซึ่งมีบุตรคืออูรีเอล ซึ่งมีบุตรคืออุสซียาห์ ซึ่งมีบุตรคือชาอูล

25 วงศ์วานของเอลคานาห์ ได้แก่

อามาสัย อาหิโมท

26 ซึ่งมีบุตรคือเอลคานาห์

ซึ่งมีบุตรคือโศฟัย ซึ่งมีบุตรคือนาหาท

27 ซึ่งมีบุตรคือเอลีอับ ซึ่งมีบุตรคือเยโรฮัม ซึ่งมีบุตรคือเอลคานาห์ ซึ่งมีบุตรคือซามูเอล

28 บุตรของซามูเอล ได้แก่

โยเอลผู้เป็นบุตรหัวปี

กับอาบียาห์บุตรคนรอง

29 วงศ์วานของเมรารี ได้แก่

มาห์ลีซึ่งมีบุตรคือลิบนี ซึ่งมีบุตรคือชิเมอี ซึ่งมีบุตรคืออุสซาห์

30 ซึ่งมีบุตรคือชิเมอา ซึ่งมีบุตรคือฮักกียาห์ ซึ่งมีบุตรคืออาสายาห์

นักดนตรีประจำพระวิหาร

31 ต่อไปนี้คือผู้ที่กษัตริย์ดาวิดทรงแต่งตั้งให้บรรเลงเพลงในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าหลังจากที่นำหีบพันธสัญญามาตั้งไว้ที่นั่นแล้ว

32 พวกเขาทำหน้าที่บรรเลงเพลงหน้าพลับพลา ซึ่งก็คือเต็นท์นัดพบ ตราบจนโซโลมอนสร้างพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่กรุงเยรูซาเล็มเสร็จแล้ว พวกเขาปฏิบัติหน้าที่ตามกฎระเบียบที่ตั้งไว้

33 คนเหล่านี้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่พร้อมกับบุตรทั้งหลายของตน ได้แก่

จากวงศ์โคฮาท คือ

เฮมานนักดนตรี

ซึ่งเป็นบุตรของโยเอล ซึ่งเป็นบุตรของซามูเอล

34 ซึ่งเป็นบุตรของเอลคานาห์ ซึ่งเป็นบุตรของเยโรฮัม

ซึ่งเป็นบุตรของเอลีเอล ซึ่งเป็นบุตรของโทอาห์

35 ซึ่งเป็นบุตรของศุฟ ซึ่งเป็นบุตรของเอลคานาห์

ซึ่งเป็นบุตรของมาฮาท ซึ่งเป็นบุตรของอามาสัย

36 ซึ่งเป็นบุตรของเอลคานาห์ ซึ่งเป็นบุตรของโยเอล

ซึ่งเป็นบุตรของอาซาริยาห์ ซึ่งเป็นบุตรของเศฟันยาห์

37 ซึ่งเป็นบุตรของทาหัท ซึ่งเป็นบุตรของอัสสีร์

ซึ่งเป็นบุตรของเอบียาสาฟ ซึ่งเป็นบุตรของโคราห์

38 ซึ่งเป็นบุตรของอิสฮาร์ ซึ่งเป็นบุตรของโคฮาท

ซึ่งเป็นบุตรของเลวี ซึ่งเป็นบุตรของอิสราเอล

39 ผู้ช่วยมือขวาของเฮมานคืออาสาฟ

ซึ่งเป็นบุตรของเบเรคิยาห์ ซึ่งเป็นบุตรของชิเมอา

40 ซึ่งเป็นบุตรของมีคาเอล ซึ่งเป็นบุตรของบาอาเสยาห์

ซึ่งเป็นบุตรของมัลคิยาห์

41 ซึ่งเป็นบุตรของเอทนี

ซึ่งเป็นบุตรของเศราห์ ซึ่งเป็นบุตรของอาดายาห์

42 ซึ่งเป็นบุตรเอธาน ซึ่งเป็นบุตรของศิมมาห์

ซึ่งเป็นบุตรของชิเมอี

43 ซึ่งเป็นบุตรของยาหาท

ซึ่งเป็นบุตรของเกอร์โชน ซึ่งเป็นบุตรของเลวี

44 ผู้ช่วยมือซ้ายของเขาคือเอธาน ตระกูลเมรารี

ซึ่งเป็นบุตรของคีชี ซึ่งเป็นบุตรของอับดี

ซึ่งเป็นบุตรของมัลลุค

45 ซึ่งเป็นบุตรของฮาชาบิยาห์

ซึ่งเป็นบุตรของอามาซิยาห์ ซึ่งเป็นบุตรของฮิลคียาห์

46 ซึ่งเป็นบุตรของอัมซี ซึ่งเป็นบุตรของบานี

ซึ่งเป็นบุตรของเชเมอร์

47 ซึ่งเป็นบุตรของมาห์ลี

ซึ่งเป็นบุตรของมูชี ซึ่งเป็นบุตรของเมรารี

ซึ่งเป็นบุตรของเลวี

48 ส่วนพี่น้องตระกูลเลวีได้รับมอบหมายหน้าที่อื่นๆ ทั้งหมดในพลับพลาซึ่งเป็นพระนิเวศของพระเจ้า

49 แต่อาโรนและวงศ์วานเป็นผู้ถวายเครื่องบูชาต่างๆ และเครื่องหอมบนแท่นบูชารวมทั้งดูแลกิจธุระทั้งหมดที่เกี่ยวกับอภิสุทธิสถาน และการขออภัยโทษบาปสำหรับอิสราเอลให้ครบถ้วนทุกประการตามที่โมเสสผู้รับใช้พระเจ้าได้บัญชาไว้

50 วงศ์วานของอาโรน ได้แก่

เอเลอาซาร์ ซึ่งมีบุตรคือฟีเนหัส

ซึ่งมีบุตรคืออาบีชูวา

51 ซึ่งมีบุตรคือบุคคี

ซึ่งมีบุตรคืออุสซี ซึ่งมีบุตรคือเศราหิยาห์

52 ซึ่งมีบุตรคือเมราโยท ซึ่งมีบุตรคืออามาริยาห์

ซึ่งมีบุตรคืออาหิทูบ

53 ซึ่งมีบุตรคือศาโดก ซึ่งมีบุตรคืออาหิมาอัส

54 พื้นที่ซึ่งได้รับการแบ่งสรรให้เป็นเขตแดนสำหรับตั้งถิ่นฐานของพวกเขามีดังนี้ (สลากแรกสุดได้แก่ วงศ์วานของอาโรนในตระกูลโคฮาท)

55 พวกเขาได้รับเมืองเฮโบรนในยูดาห์และทุ่งหญ้าโดยรอบ

56 แต่ท้องทุ่งและหมู่บ้านของเมืองนั้นยกให้แก่คาเลบบุตรเยฟุนเนห์

57 วงศ์วานของอาโรนจึงได้รับเฮโบรน (เมืองลี้ภัย) ลิบนาห์ยาททีร์ เอชเทโมอา

58 ฮีเลน เดบีร์

59 อาชัน ยุททาห์และเบธเชเมชรวมทั้งทุ่งหญ้าโดยรอบ

60 และจากตระกูลเบนยามิน ได้รับกิเบโอนเกบา อาเลเมท และอานาโธทรวมทุ่งหญ้า

เมืองเหล่านี้รวม 13 เมืองแบ่งสรรกันในหมู่ตระกูลโคฮาท

61 คนอื่นๆ ที่เหลือในวงศ์วานของโคฮาทได้รับการแบ่งสรร 10 เมืองจากตระกูลต่างๆ ของมนัสเสห์ครึ่งเผ่า

62 สำหรับวงศ์วานของเกอร์โชนตามแต่ละตระกูลได้รับ 13 เมืองในบาชานจากเผ่าอิสสาคาร์ อาเชอร์ นัฟทาลี และบางส่วนของเผ่ามนัสเสห์ที่อยู่ในบาชาน

63 วงศ์วานของเมรารีตามแต่ละตระกูลได้รับ 12 เมืองจากเผ่ารูเบน กาด และเศบูลุน

64 เป็นอันว่าชนอิสราเอลได้มอบเมืองต่างๆ พร้อมทุ่งหญ้าแก่ชนเลวี

65 พวกเขาแบ่งสรรเมืองดังกล่าวให้จากเผ่ายูดาห์ สิเมโอน และเบนยามิน

66 เผ่าเอฟราอิมมอบเมืองต่างๆ พร้อมทุ่งหญ้าโดยรอบให้แก่ตระกูลต่างๆ ของโคฮาท

67 พวกเขาได้รับเมืองเชเคม (เมืองลี้ภัย)ในแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิม เมืองเกเซอร์

68 เมืองโยกเมอัม เมืองเบธโฮโรน

69 เมืองอัยยาโลน และเมืองกัทริมโมนพร้อมทุ่งหญ้า

70 เผ่ามนัสเสห์อีกครึ่งเผ่าได้มอบเมืองอาเนอร์และเมืองบิเลอัมพร้อมทั้งทุ่งหญ้าให้แก่ตระกูลอื่นๆ ที่เหลือของโคฮาท

71 เชื้อสายเกอร์โชนได้รับดังนี้

เผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่า

มอบเมืองโกลานในบาชานกับอัชทาโรท พร้อมทุ่งหญ้า

72 เผ่าอิสสาคาร์

มอบเมืองเคเดช เมืองดาเบรัท

73 เมืองราโมท และเมืองอาเนม พร้อมทุ่งหญ้า

74 เผ่าอาเชอร์

มอบเมืองมาชาล เมืองอับโดน

75 เมืองฮุกอก และเมืองเรโหบ พร้อมทุ่งหญ้า

76 และเผ่านัฟทาลี

มอบเมืองเคเดชในกาลิลี เมืองฮัมโมน และเมืองคีริยาธาอิม พร้อมทุ่งหญ้า

77 เชื้อสายเมรารี (ชนเลวีอื่นๆ ที่เหลือ)ได้รับดังนี้

เผ่าเศบูลุนมอบเมืองโยกเนอัม เมืองคารทาห์เมืองริมโมโนกับเมืองทาโบร์ พร้อมทุ่งหญ้า

78 เผ่ารูเบนจากอีกฟากของแม่น้ำจอร์แดนฝั่งตะวันออกของเมืองเยรีโค

มอบเมืองเบเซอร์ในถิ่นกันดาร เมืองยาซาห์

79 เมืองเคเดโมท และเมืองเมฟาอาท พร้อมทุ่งหญ้า

80 และเผ่ากาด

มอบเมืองราโมทในกิเลอาด เมืองมาหะนาอิม

81 เมืองเฮชโบนและเมืองยาเซอร์ พร้อมทุ่งหญ้า

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/1CH/6-feb83562575470d2d1fde7e42ab1a042.mp3?version_id=179—

1พงศาวดาร 7

วงศ์วานของอิสสาคาร์

1 บุตรของอิสสาคาร์ ได้แก่

โทลา ปูอาห์ ยาชูบ และชิมโรน รวมสี่คน

2 บุตรของโทลา ได้แก่

อุสซี เรไฟยาห์ เยรีเอล ยามัย อิบสัม และซามูเอล ล้วนแต่เป็นหัวหน้าครอบครัว ในรัชกาลของดาวิดมีกำลังพลจากวงศ์วานของโทลาซึ่งบันทึกไว้ในลำดับวงศ์ตระกูล 22,600 คน

3 บุตรของอุสซี ได้แก่

อิสราหิยาห์

บุตรของอิสราหิยาห์ ได้แก่

มีคาเอล โอบาดีห์ โยเอล และอิสชีอาห์ ทั้งห้าคนเป็นหัวหน้า

4 ตามบันทึกลำดับวงศ์ตระกูลของพวกเขา พวกเขามีกำลังพล 36,000 คน เพราะพวกเขามีภรรยาและบุตรมากมาย

5 กำลังพลจากทุกตระกูลของเผ่าอิสสาคาร์มี 87,000 คน ตามบันทึกลำดับวงศ์ตระกูล

วงศ์วานของเบนยามิน

6 บุตรทั้งสามของเบนยามิน ได้แก่

เบลา เบเคอร์ และเยดียาเอล

7 บุตรของเบลา ได้แก่

เอสโบน อุสซี อุสซีเอล เยรีโมท และอิรี ล้วนแต่เป็นหัวหน้าครอบครัว รวมห้าคน ตามบันทึกลำดับวงศ์ตระกูลของพวกเขา พวกเขามีกำลังพล 22,034 คน

8 บุตรของเบเคอร์ ได้แก่

เศมิราห์ โยอาช เอลีเอเซอร์ เอลีโอนัย อมรี เยเรโมท อาบียาห์ อานาโธท และอาเลเมท ทั้งหมดนี้เป็นบุตรของเบเคอร์

9 บันทึกลำดับวงศ์ตระกูลของพวกเขามีชื่อหัวหน้าตระกูลและกำลังพล 20,200 คน

10 บุตรของเยดียาเอล ได้แก่

บิลฮาน

บุตรของบิลฮาน ได้แก่

เยอูช เบนยามิน เอฮูด เคนาอะนาห์ เศธาน ทารชิช และอาหิชาฮาร์

11 บรรดาบุตรของเยดียาเอลล้วนเป็นหัวหน้าครอบครัว มีกำลังพล 17,200 คน

12 วงศ์วานของอิระคือ ชาวชุปปิมและหุปปิม ส่วนชาวหุชิมเป็นวงศ์วานของอาเฮอร์

วงศ์วานของนัฟทาลี

13 บุตรของนัฟทาลีผู้สืบเชื้อสายจากนางบิลฮาห์ ได้แก่

ยาซีเอล กุนี เยเซอร์ และชิลเลม

วงศ์วานของมนัสเสห์

14 วงศ์วานของมนัสเสห์ซึ่งเกิดจากภรรยาน้อยชาวอารัม ได้แก่

อัสรีเอลและมาคีร์บิดาแห่งกิเลอาด

15 มาคีร์ได้ภรรยาเป็นชาวหุปปิมและชุปปิม น้องสาวของมาคีร์คือมาอาคาห์

วงศ์วานอีกคนหนึ่งคือเศโลเฟหัดซึ่งมีแต่บุตรสาว

16 มาอาคาห์ภรรยาของมาคีร์มีบุตรซึ่งให้ชื่อว่า เปเรช น้องชายของเขาคือเชเรช ซึ่งมีบุตรคืออุลามกับราเคม

17 บุตรของอุลาม ได้แก่

เบดาน

คนเหล่านี้คือวงศ์วานของกิเลอาดผู้เป็นบุตรของมาคีร์บุตรมนัสเสห์

18 ฮัมโมเลเคท น้องสาวของเขาให้กำเนิดอิชโฮด อาบีเอเซอร์ และมาห์ลาห์

19 บุตรของเชมิดา ได้แก่

อาหิยัน เชเคม ลิคฮี และอานียัม

วงศ์วานของเอฟราอิม

20 วงศ์วานของเอฟราอิม ได้แก่

ชูเธลาห์ซึ่งมีบุตรคือเบเรด

ซึ่งมีบุตรคือทาหัท ซึ่งมีบุตรคือเอเลอาดาห์

ซึ่งมีบุตรคือทาหัท

21 ซึ่งมีบุตรคือศาบาด ซึ่งมีบุตรคือชูเธลาห์

เอเซอร์และเอเลอัดถูกชาวพื้นเมืองของกัทฆ่าตายเมื่อจะไปยึดฝูงสัตว์ของคนเหล่านั้น

22 เอฟราอิมผู้เป็นบิดาเศร้าโศกอยู่หลายวัน และบรรดาญาติพากันมาปลอบโยนเขา

23 หลังจากนั้นเอฟราอิมก็ร่วมหลับนอนกับภรรยา นางตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายซึ่งเขาตั้งชื่อให้ว่าเบรียาห์เพราะเกิดเหตุโศกสลดในครอบครัว

24 บุตรสาวของเอฟราอิมคือเชเอราห์ผู้สร้างเมืองเบธโฮโรนบนและเบธโฮโรนล่างกับเมืองอุสเซนเชเอราห์

25 เบรียาห์มีบุตรคือเรฟาห์

ซึ่งมีบุตรคือเรเชฟซึ่งมีบุตรคือเทลาห์ ซึ่งมีบุตรคือทาหาน

26 ซึ่งมีบุตรคือลาดาน ซึ่งมีบุตรคืออัมมีฮูด

ซึ่งมีบุตรคือเอลีชามา

27 ซึ่งมีบุตรคือนูน ซึ่งมีบุตรคือโยชูวา

28 ถิ่นฐานของพวกเขาได้แก่ เมืองเบธเอลกับหมู่บ้านล้อมรอบนาอารันไปทางตะวันออก เมืองเกเซอร์กับหมู่บ้านโดยรอบไปทางตะวันตก และจากเมืองเชเคมกับหมู่บ้านโดยรอบไปจนถึงอัยยาห์และหมู่บ้านโดยรอบ

29 เลียบชายแดนของมนัสเสห์ได้แก่ เมืองเบธชาน เมืองทาอานาค เมืองเมกิดโด และเมืองโดร์ พร้อมทั้งหมู่บ้าน วงศ์วานของโยเซฟบุตรอิสราเอลอาศัยอยู่ในเมืองเหล่านี้

วงศ์วานของอาเชอร์

30 บุตรของอาเชอร์ ได้แก่

อิมนาห์ อิชวาห์ อิชวี และเบรียาห์ บุตรสาวคือเสราห์

31 บุตรของเบรียาห์ ได้แก่

เฮเบอร์กับมัลคีเอล ซึ่งเป็นบิดาของบิรซาวิท

32 เฮเบอร์เป็นบิดาของยาเฟลท โชเมอร์ และโฮธามกับชูอาน้องสาวของพวกเขา

33 บุตรของยาเฟลท ได้แก่

ปาสัค บิมฮาล และอัชวาท คนเหล่านี้คือบุตรของยาเฟลท

34 บุตรของโชเมอร์ ได้แก่

อาหิ โรห์กาห์ฮุบบาห์ และอารัม

35 บุตรของเฮเลมน้องชายของเขา ได้แก่

โศฟาห์ อิมนา เชเลช และอามัล

36 บุตรของโศฟาห์ ได้แก่

สุอาห์ ฮารเนเฟอร์ ชูอัล เบรี อิมราห์

37 เบเซอร์ โฮด ชัมมา ชิลชาห์ อิธรานและเบเอรา

38 บุตรของเยเธอร์ ได้แก่

เยฟุนเนห์ ปิสปาห์ และอารา

39 บุตรของอุลลา ได้แก่

อาราห์ ฮันนีเอล และรีเซีย

40 คนเหล่านี้คือวงศ์วานของอาเชอร์ เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นนักรบแกล้วกล้าผู้ได้รับเลือกสรรและเป็นผู้นำที่โดดเด่น พวกเขามีกำลังพล 26,000 คนตามบันทึกลำดับวงศ์ตระกูล

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/1CH/7-19a235ca368fe44f3983b0536a55626d.mp3?version_id=179—

1พงศาวดาร 8

ลำดับวงศ์ตระกูลของซาอูลชาวเบนยามิน

1 บุตรของเบนยามิน ได้แก่ เบลาบุตรหัวปี

คนที่สองคืออัชเบล คนที่สามคืออาหะราห์

2 คนที่สี่คือโนฮาห์ และคนที่ห้าคือราฟา

3 บุตรของเบลา ได้แก่

อัดดาร์ เกรา อาบีฮูด

4 อาบีชูวา นาอามาน อาโหอาห์

5 เกรา เชฟูฟาน และหุราม

6 เชื้อสายของเอฮูดซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวต่างๆ ที่อาศัยอยู่ที่เมืองเกบา และถูกบังคับให้ย้ายไปอยู่ที่เมืองมานาฮาท ได้แก่

7 นาอามาน อาหิยาห์ และเกราผู้ย้ายพวกเขาออกไปนอกประเทศและเป็นบิดาของอุสซากับอาหิฮูด

8 หลังจากชาหะราอิมหย่ากับนางหุชิมและนางบาอารา เขามีบุตรหลายคนที่เกิดในโมอับ

9 บุตรของเขาที่เกิดจากนางโฮเดช ได้แก่ โยบับ ศิเบีย เมชา มัลคาม

10 เยอูส สาเคีย และมิรมาห์ คนเหล่านี้คือบุตรชายของเขาซึ่งล้วนแต่เป็นหัวหน้าครอบครัว

11 บุตรที่เกิดจากหุชิมคือ อาบีทูบกับเอลปาอัล

12 บุตรของเอลปาอัล ได้แก่

เอเบอร์ มิชอัม เชเมด (ผู้สร้างเมืองโอโนกับโลด ทั้งหมู่บ้านโดยรอบ)

13 เบรียาห์และเชมา ล้วนเป็นหัวหน้าครอบครัวต่างๆ ซึ่งอาศัยในอัยยาโลน พวกเขาขับไล่ชาวเมืองกัทออกไป

14 อาหิโย ชาชัก เยเรโมท

15 เศบาดิยาห์ อาราด เอเดอร์

16 มีคาเอล อิชปาห์ และโยฮา คนเหล่านี้ล้วนเป็นบุตรของเบรียาห์

17 เศบาดิยาห์ เมชุลลาม ฮิสคี เฮเบอร์

18 อิชเมรัย อิสลิยาห์ และโยบับ คนเหล่านี้เป็นบุตรของเอลปาอัล

19 ยาคิม ศิครี ศับดี

20 เอลีเยนัย ศิลเลธัย เอลีเอล

21 อาดายาห์ เบไรอาห์ และชิมราท คนเหล่านี้เป็นบุตรของชิเมอี

22 อิชปาน เอเบอร์ เอลีเอล

23 อับโดน ศิครี ฮานาน

24 ฮานันยาห์ เอลาม อันโธธียาห์

25 อิฟไดยาห์ และเปนูเอล คนเหล่านี้เป็นบุตรของชาชัก

26 ชัมเชรัย เชหะรียาห์ อาธาลิยาห์

27 ยาอาเรชีอาห์ เอลียาห์ และศิครี คนเหล่านี้เป็นบุตรของเยโรฮัม

28 ทั้งหมดนี้เป็นหัวหน้าครอบครัวและผู้นำตามบันทึกลำดับวงศ์ตระกูล พวกเขาอาศัยที่เยรูซาเล็ม

29 เยอีเอลบิดาของกิเบโอนอาศัยอยู่ที่กิเบโอน

ภรรยาของเขาชื่อมาอาคาห์

30 บุตรหัวปีของเขาคืออับโดน บุตรคนต่อมาได้แก่ ศูร์ คีช บาอัล เนอร์นาดับ

31 เกโดร์ อาหิโย เศเคอร์

32 และมิกโลทผู้เป็นบิดาของชิเมอาห์ พวกเขาก็อาศัยอยู่ใกล้ๆ ญาติพี่น้องที่เยรูซาเล็มเช่นกัน

33 เนอร์เป็นบิดาของคีช ผู้เป็นบิดาของซาอูล ซาอูลเป็นบิดาของโยนาธาน มัลคีชูวา อาบีนาดับ และเอชบาอัล

34 บุตรของโยนาธาน ได้แก่

เมริบบาอัลบิดาของมีคาห์

35 บุตรของมีคาห์ ได้แก่

ปีโธน เมเลค ทาเรีย และอาหัส

36 อาหัสเป็นบิดาของเยโฮอัดดาห์ เยโฮอัดดาห์เป็นบิดาของอาเลเมท อัสมาเวท และศิมรี ศิมรีเป็นบิดาของโมซา

37 โมซาเป็นบิดาของบิเนอา ซึ่งเป็นบิดาของราฟาห์ ซึ่งเป็นบิดาของเอเลอาสาห์ ซึ่งเป็นบิดาของอาเซล

38 อาเซลมีบุตรชายหกคน ตามรายชื่อดังนี้คือ อัสรีคัม โบเครู อิชมาเอล เชอาริยาห์ โอบาดีห์ และฮานาน คนเหล่านี้เป็นบุตรของอาเซล

39 บุตรของเอเชกน้องชายอาเซลได้แก่ อุลามบุตรหัวปี คนที่สองคือเยอูช และคนที่สามคือเอลีเฟเลท

40 บรรดาบุตรของอุลามเป็นนักรบแกล้วกล้าและเป็นนักธนู คนเหล่านี้มีบุตรและหลานรวม 150 คน

คนเหล่านี้คือวงศ์วานของเบนยามิน

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/1CH/8-cfaece40184e7017a8caf876b4373e6d.mp3?version_id=179—

1พงศาวดาร 9

1 ชนอิสราเอลทุกคนมีชื่ออยู่ในบันทึกลำดับวงศ์ตระกูลซึ่งบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งอิสราเอล ชนยูดาห์ต้องตกไปเป็นเชลยที่บาบิโลนเพราะไม่ซื่อสัตย์

ประชากรในเยรูซาเล็ม

2 พวกแรกที่กลับมาอาศัยอยู่ในเมืองของตนอีกครั้งมีชนอิสราเอล ปุโรหิต ชนเลวี และผู้ช่วยงานในพระวิหาร

3 คนจากเผ่ายูดาห์ เบนยามิน เอฟราอิม และมนัสเสห์ที่มาอาศัยในเยรูซาเล็ม ได้แก่

4 อุธัยผู้เป็นบุตรของอัมมีฮูด ผู้เป็นบุตรของอมรี ผู้เป็นบุตรของอิมรี ผู้เป็นบุตรของบานี วงศ์วานของเปเรศบุตรยูดาห์

5 จากเชื้อสายชิโลห์ ได้แก่

อาสายาห์ผู้เป็นบุตรหัวปี และบุตรทั้งหลายของเขา

6 จากเชื้อสายเศราห์ ได้แก่

เยอูเอล

และคนจากยูดาห์รวมจำนวน 690 คน

7 จากเผ่าเบนยามิน ได้แก่

สัลลูผู้เป็นบุตรของเมชุลลาม ผู้เป็นบุตรของโฮดาวิยาห์ ผู้เป็นบุตรของหัสเสนูอาห์

8 อิบเนยาห์ผู้เป็นบุตรของเยโรฮัม เอลาห์ผู้เป็นบุตรของอุสซี ผู้เป็นบุตรของมิครี และเมชุลลามผู้เป็นบุตรของเชฟาทิยาห์ ผู้เป็นบุตรของเรอูเอล ผู้เป็นบุตรของอิบนียาห์

9 รวมคนจากเผ่าเบนยามินตามบันทึกลำดับวงศ์ตระกูลได้ 956 คน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นหัวหน้าครอบครัว

10 บรรดาปุโรหิต ได้แก่

เยดายาห์ เยโฮยาริบ ยาคีน

11 อาซาริยาห์เจ้าหน้าที่ดูแลพระนิเวศของพระเจ้าผู้เป็นบุตรของฮิลคียาห์ ผู้เป็นบุตรของเมชุลลาม ผู้เป็นบุตรของศาโดก ผู้เป็นบุตรของเมราโยท ผู้เป็นบุตรของอาหิทูบ

12 อาดายาห์ผู้เป็นบุตรของเยโรฮัม ผู้เป็นบุตรของปาชเฮอร์ ผู้เป็นบุตรของมัลคียาห์ และมาอาสัยผู้เป็นบุตรของอาดีเอล ผู้เป็นบุตรของยาเซราห์ ผู้เป็นบุตรของเมชุลลาม ผู้เป็นบุตรของเมชิลเลมิท ผู้เป็นบุตรของอิมเมอร์

13 มีปุโรหิตซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวรวม 1,760 คน เป็นผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในพระนิเวศของพระเจ้า

14 จากเผ่าเลวี ได้แก่

เชไมอาห์ผู้เป็นบุตรของหัสชูบ ผู้เป็นบุตรของอัสรีคัม ผู้เป็นบุตรของฮาชาบิยาห์จากตระกูลเมรารี

15 บัคบัคคาร์ เฮเรช กาลาล และมัททานิยาห์ ผู้เป็นบุตรของมีคา ผู้เป็นบุตรของศิครี ผู้เป็นบุตรของอาสาฟ

16 โอบาดีห์ผู้เป็นบุตรของเชไมอาห์ ผู้เป็นบุตรของกาลาล ผู้เป็นบุตรของเยดูธูน และเบเรคิยาห์ผู้เป็นบุตรของอาสา ผู้เป็นบุตรของเอลคานาห์ ผู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านต่างๆ ของชาวเนโทฟาห์

17 ยามเฝ้าประตู ได้แก่

ชัลลูมผู้เป็นหัวหน้า อักขูบ ทัลโมน และอาหิมานกับพี่น้องของเขา

18 ยามเฝ้าประตูเหล่านี้ล้วนเป็นคนจากค่ายของเลวี พวกเขายังคงรับผิดชอบประตูหลวงด้านตะวันออกจนถึงทุกวันนี้

19 ชัลลูมผู้เป็นบุตรโคเร ผู้เป็นบุตรของเอบียาสาฟ ผู้เป็นบุตรของโคราห์ ชัลลูมและเพื่อนร่วมงานซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับเขา (ตระกูลโคราห์)รับผิดชอบเฝ้าอยู่ที่ธรณีประตูของพลับพลาเหมือนที่บรรพบุรุษของตนรับผิดชอบดูแลทางเข้าที่ประทับขององค์พระผู้เป็นเจ้า

20 แต่เดิมฟีเนหัสบุตรเอเลอาซาร์เป็นผู้ดูแลยามเหล่านี้ และองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเขา

21 เศคาริยาห์บุตรเมเชเลมิยาห์เป็นยามประตู ดูแลทางเข้าเต็นท์นัดพบ

22 ผู้ที่ได้รับเลือกเป็นยามเฝ้าที่ธรณีประตูรวม 212 คน มีรายชื่ออยู่ในบันทึกลำดับวงศ์ตระกูลของหมู่บ้านของตน ดาวิดกับผู้ทำนายซามูเอลได้แต่งตั้งให้ประจำหน้าที่

23 พวกเขากับวงศ์วานมีหน้าที่ดูแลทางเข้าพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่เรียกว่าพลับพลา

24 ยามเฝ้าประตูประจำการอยู่ทั้งสี่ด้านคือด้านตะวันออก ตะวันตก เหนือ และใต้

25 พี่น้องของเขาจากหมู่บ้านต่างๆ ผลัดเวรกันมาช่วยงานคราวละเจ็ดวัน

26 หัวหน้ายามเฝ้าประตูทั้งสี่คนซึ่งเป็นชนเลวีได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบห้องต่างๆ และคลังต่างๆ ในพระนิเวศของพระเจ้า

27 พวกเขาต้องเฝ้ายามประจำตำแหน่งรอบพระนิเวศของพระเจ้าตลอดคืน และจะมาไขกุญแจเปิดประตูทุกเช้า

28 บางคนมีหน้าที่ดูแลภาชนะต่างๆ ซึ่งใช้ในงานพระวิหาร จะตรวจนับเมื่อรับเข้าหรือนำออก

29 บางคนรับผิดชอบส่วนต่างๆ ของอาคาร ภาชนะทั้งปวงในสถานนมัสการ ตลอดจนแป้ง เหล้าองุ่น น้ำมัน เครื่องหอม และเครื่องเทศ

30 แต่ปุโรหิตบางคนดูแลการผสมเครื่องเทศ

31 มัททีธิยาห์คนเลวี ผู้เป็นบุตรหัวปีของชัลลูมตระกูลโคราห์ ได้รับมอบหมายหน้าที่ทำขนมปังถวายบูชา

32 พี่น้องตระกูลโคฮาทบางคนมีหน้าที่จัดเตรียมขนมปังวางไว้บนโต๊ะทุกวันสะบาโต

33 บรรดานักดนตรีซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวต่างๆ ของเลวี พักอยู่ในห้องที่พระวิหาร และได้รับการยกเว้นจากหน้าที่อื่นๆ เพราะต้องรับผิดชอบงานทั้งกลางวันและกลางคืน

34 คนเหล่านี้คือหัวหน้าครอบครัวและผู้นำต่างๆ ของชนเลวี มีรายชื่อตามบันทึกลำดับวงศ์ตระกูล พวกเขาพักอาศัยอยู่ที่เยรูซาเล็ม

ลำดับวงศ์ตระกูลของซาอูล

35 เยอีเอลบิดาของกิเบโอนอาศัยอยู่ที่กิเบโอน

ภรรยาของเขาคือมาอาคาห์

36 บุตรหัวปีของเขาชื่ออับโดน บุตรคนต่อๆ มาได้แก่ ศูร์ คีช บาอัล เนอร์ นาดับ

37 เกโดร์ อาหิโย เศคาริยาห์ และมิกโลท

38 มิกโลทเป็นบิดาของชิเมอัม พวกเขาอาศัยอยู่ใกล้ๆ ญาติพี่น้องในเยรูซาเล็มเช่นกัน

39 เนอร์เป็นบิดาของคีชผู้เป็นบิดาของซาอูล ผู้เป็นบิดาของโยนาธาน มัลคีชูวา อาบีนาดับ และเอชบาอัล

40 บุตรของโยนาธาน ได้แก่

เมริบบาอัลผู้เป็นบิดาของมีคาห์

41 บุตรของมีคาห์ ได้แก่

ปีโธน เมเลค ทาเรีย และอาหัส

42 อาหัสเป็นบิดาของยาดาห์ ยาดาห์เป็นบิดาของอาเลเมท อัสมาเวท และศิมรี ศิมรีเป็นบิดาของโมซา

43 โมซาเป็นบิดาของบิเนอา ผู้เป็นบิดาของเรไฟยาห์ ผู้เป็นบิดาของเอเลอาสาห์ ผู้เป็นบิดาของอาเซล

44 อาเซลมีบุตรชายหกคน ตามรายชื่อดังนี้

อัสรีคัม โบเครู อิชมาเอล เชอาริยาห์ โอบาดีห์ และฮานาน คนเหล่านี้เป็นบุตรของอาเซล

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/1CH/9-4dc3ffd823ee5bc7364cdadf6f41b370.mp3?version_id=179—

1พงศาวดาร 10

ซาอูลฆ่าตัวตาย

1 ครั้งนั้นอิสราเอลสู้รบกับฟีลิสเตีย อิสราเอลแตกหนี และผู้คนมากมายล้มตายบนภูเขากิลโบอา

2 ทหารฟีลิสเตียประชิดตัวซาอูลกับโอรส และได้สังหารโอรสทั้งสามคือโยนาธาน อาบีนาดับ และมัลคีชูวา

3 การรบเป็นไปอย่างดุเดือด ทหารฟีลิสเตียยิงธนูเข้าใส่ซาอูล พระอาการสาหัส

4 ซาอูลตรัสกับผู้เชิญอาวุธว่า “จงชักดาบออกมาแทงทะลุร่างของเรา มิฉะนั้นพวกที่ไม่ได้เข้าสุหนัตเหล่านี้จะมาฆ่าเราและนำความอัปยศมาให้เรา”

แต่ผู้เชิญอาวุธไม่กล้าทำ ฉะนั้นซาอูลจึงโถมพระกายลงบนดาบของพระองค์เอง

5 เมื่อผู้เชิญอาวุธเห็นว่าซาอูลสิ้นพระชนม์แล้ว ก็ทุ่มกายลงบนดาบของตนตายตามไป

6 เป็นอันว่าซาอูลกับโอรสทั้งสามและทั้งราชวงศ์สิ้นชีวิตไปด้วยกัน

7 เมื่อชนอิสราเอลในหุบเขาเห็นกองทัพแตกหนี และเห็นว่าซาอูลกับโอรสสิ้นพระชนม์ ก็พากันละทิ้งบ้านเมืองหนีไป ชาวฟีลิสเตียก็เข้ายึดครอง

8 วันรุ่งขึ้นเมื่อชาวฟีลิสเตียออกมาปลดของมีค่าจากศพ ก็พบร่างของซาอูลและโอรสอยู่บนภูเขากิลโบอา

9 พวกเขาจึงปลดยุทธภัณฑ์ของซาอูลและตัดพระเศียรไป แล้วส่งผู้สื่อสารไปทั่วแดนฟีลิสเตีย ประกาศข่าวท่ามกลางเทวรูปและประชาชน

10 พวกเขาเก็บยุทธภัณฑ์ของซาอูลไว้ในวิหารของเทพเจ้าของตน และแขวนพระเศียรของซาอูลไว้ในวิหารของพระดาโกน

11 เมื่อชาวยาเบชกิเลอาดได้ยินถึงการกระทำของชาวฟีลิสเตียต่อซาอูล

12 ผู้กล้าหาญทั้งหมดของพวกเขาก็ออกไปนำพระศพของซาอูลกับโอรสทั้งสามกลับมาที่ยาเบช แล้วฝังพระอัฐิไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ในเมืองยาเบช แล้วพากันถืออดอาหารเป็นเวลาเจ็ดวัน

13 ซาอูลสิ้นพระชนม์เพราะไม่ซื่อสัตย์ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ปฏิบัติตามพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าถึงกับขอคำปรึกษาจากคนทรง

14 ซาอูลไม่ได้ทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์จึงทรงประหารซาอูล และยกอาณาจักรให้แก่ดาวิดบุตรของเจสซี

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/1CH/10-afd9b36521aded75bc6fde045c9fb07c.mp3?version_id=179—

1พงศาวดาร 11

ดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์

1 ชาวอิสราเอลทั้งปวงมาเข้าเฝ้าดาวิดที่เมืองเฮโบรน และทูลว่า “ข้าพระบาททั้งหลายเป็นพี่น้องร่วมสายโลหิตของฝ่าพระบาท

2 ตั้งแต่ในรัชกาลของกษัตริย์ซาอูล ฝ่าพระบาทก็ทรงเป็นผู้นำอิสราเอลในการรบ พระยาห์เวห์พระเจ้าของฝ่าพระบาทได้ตรัสกับฝ่าพระบาทไว้ว่า ‘เจ้าจะเป็นผู้เลี้ยงดูและเป็นผู้ปกครองของอิสราเอลประชากรของเรา’ ”

3 เมื่อผู้อาวุโสทั้งปวงของอิสราเอลมาเข้าเฝ้ากษัตริย์ดาวิดที่เมืองเฮโบรน พระองค์ทรงทำสัญญากับพวกเขาที่นั่นต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและพวกเขาเจิมตั้งดาวิดเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล เป็นจริงตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาไว้แล้วผ่านทางซามูเอล

ดาวิดพิชิตเยรูซาเล็ม

4 ดาวิดและชนอิสราเอลทั้งปวงเดินทัพมายังเยรูซาเล็ม (คือเมืองเยบุส) ชาวเยบุสซึ่งอาศัยอยู่ที่นั่น

5 กล่าวกับดาวิดว่า “เจ้าเข้ามาในนี้ไม่ได้หรอก” แต่ดาวิดยึดป้อมของเมืองศิโยน ซึ่งเรียกว่า “เมืองดาวิด” ได้

6 ดาวิดบอกไว้ว่า “ผู้ใดที่นำทัพบุกโจมตีเมืองเยบุสจะได้เป็นแม่ทัพ” โยอาบบุตรนางเศรุยาห์บุกไปเป็นคนแรก จึงได้เป็นแม่ทัพของดาวิด

7 ดาวิดจึงประทับอยู่ในป้อมปราการนั้น ที่นั่นจึงได้ชื่อว่า “เมืองดาวิด”

8 ดาวิดทรงขยายเมืองนั้นออกไปรอบๆ ป้อมปราการไปจนถึงกำแพงที่ล้อมรอบเมือง ในขณะที่โยอาบซ่อมแซมส่วนอื่นๆ ที่เหลือของเมือง

9 และดาวิดทรงยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์สถิตอยู่ด้วย

ยอดนักรบของดาวิด

10 ต่อไปนี้คือหัวหน้านักรบของดาวิด ซึ่งร่วมกับชนอิสราเอลทั้งปวงเสริมแสนยานุภาพของดาวิดทั่วราชอาณาจักร ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาไว้แล้ว

11 รายชื่อหัวหน้านักรบของดาวิดคือ

ยาโชเบอัมแห่งตระกูลฮัคโมนี เป็นหัวหน้ากองทหารของดาวิด เขาใช้หอกสังหารข้าศึกถึงสามร้อยคนในคราวเดียวกัน

12 คนต่อมาคือเอเลอาซาร์ บุตรโดดัยชาวอาโหอาห์

13 เขาอยู่เคียงข้างดาวิดในสงครามกับฟีลิสเตียที่เมืองปัสดัมมิม กองทัพอิสราเอลที่อยู่ในทุ่งข้าวบาร์เลย์กำลังเริ่มถอยหนี

14 แต่ดาวิดกับเขาปักหลักอยู่กลางทุ่ง รับมือและพิชิตชาวฟีลิสเตีย และองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานชัยชนะอันยิ่งใหญ่

15 ครั้งหนึ่งสามยอดนักรบของสามสิบยอดนักรบมาหาดาวิดที่ศิลาที่ถ้ำอดุลลัม ขณะกองทหารของฟีลิสเตียตั้งค่ายอยู่ในหุบเขาเรฟาอิม

16 ครั้งนั้นดาวิดอยู่ในที่มั่น ส่วนแนวรบของฟีลิสเตียอยู่ที่เมืองเบธเลเฮม

17 ดาวิดกระหายน้ำและเปรยขึ้นว่า “ถ้ามีใครไปนำน้ำจากบ่อใกล้ประตูเมืองเบธเลเฮมมาให้เราดื่มก็ดี!”

18 สามยอดนักรบนี้ก็ตีฝ่าแนวรบของฟีลิสเตียไปตักน้ำจากบ่อนั้นมาให้ แต่ดาวิดไม่ยอมดื่ม กลับรินลงต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

19 และกล่าวว่า “ขอพระเจ้าห้ามไว้ไม่ให้เราดื่มน้ำนี้! ควรหรือที่เราจะดื่มเลือดของคนเหล่านี้ซึ่งเสี่ยงชีวิตไปเอามา?” เนื่องจากพวกเขาเสี่ยงชีวิตไปเอาน้ำมา ดาวิดจึงไม่ยอมดื่ม

นี่คือวีรกรรมของสามยอดนักรบ

20 อาบีชัยน้องชายของโยอาบเป็นหัวหน้าของสามยอดนักรบ เขาใช้หอกสังหารข้าศึกถึงสามร้อยคน เขาจึงมีชื่อเสียงเลื่องลือเทียบเท่าสามยอดนักรบ

21 เขาเป็นหัวหน้าและมีเกียรติเป็นสองเท่าเหนือสามยอดนักรบ แม้จะไม่ได้เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น

22 เบไนยาห์บุตรเยโฮยาดาเป็นทหารกล้าจากเมืองขับเซเอลผู้สร้างวีรกรรมหลายครั้ง เขาสังหารยอดฝีมือสองคนของโมอับ ครั้งหนึ่งเขาลงไปในหลุมฆ่าสิงโตในวันที่หิมะตกหนัก

23 และเขาได้สังหารคนอียิปต์คนหนึ่งซึ่งสูงถึง 5 ศอกแม้ว่าคนนั้นถือหอกใหญ่เท่ากับไม้กระพั่นทอผ้า แต่เบไนยาห์ถือไม้พลองเข้าสู้ เขากระชากหอกจากมือของชาวอียิปต์คนนั้นและสังหารด้วยหอก

24 นี่คือวีรกรรมของเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา เขาก็มีชื่อเสียงเลื่องลือเทียบเท่าสามยอดนักรบด้วย

25 เขามีเกียรติมากกว่าใครๆ ในสามสิบยอดนักรบ แต่ไม่ได้รวมอยู่ในสามยอดนักรบ ดาวิดทรงแต่งตั้งให้เขาดูแลกองทหารรักษาพระองค์

26 เหล่านักรบ ได้แก่

อาสาเฮลน้องชายของโยอาบ

เอลฮานันบุตรโดโด คนเบธเลเฮม

27 ชัมโมทคนฮาโรด

เฮเลสคนเปโลน

28 อิราบุตรอิกเขชคนเทโคอา

อาบีเอเซอร์คนอานาโธท

29 สิบเบคัยคนหุชาห์

อิลัยคนอาโหอาห์

30 มาหะรัยคนเนโทฟาห์

เฮเลดบุตรบาอานาห์คนเนโทฟาห์

31 อิธัยบุตรรีบัยคนกิเบอาห์ในเขตเบนยามิน

เบไนยาห์คนปิราโธน

32 หุรัยคนห้วยกาอัช

อาบีเอลคนอารบา

33 อัสมาเวทคนบาฮารู

เอลียาห์บาคนชาอัลโบน

34 เหล่าบุตรของฮาเชมคนกิโซ

โยนาธานบุตรชากีคนฮาราร์

35 อาหิอัมบุตรสาคาร์คนฮาราร์

เอลีฟัลบุตรเออร์

36 เฮเฟอร์คนเมเคราห์

อาหิยาห์คนเปโลน

37 เฮสโรคนคารเมล

นาอารัยบุตรเอสบัย

38 โยเอลน้องชายของนาธัน

มิบฮาร์บุตรฮากรี

39 เศเลกคนอัมโมน

นาหะรัยคนเบโรท ผู้เชิญอาวุธประจำตัวของโยอาบบุตรนางเศรุยาห์

40 อิราคนอิธรา

กาเรบคนอิธรา

41 อุรียาห์คนฮิตไทต์

ศาบาดบุตรอาห์ลัย

42 อาดีนาบุตรชิซาคนรูเบน เป็นหัวหน้าของคนรูเบนและคนสามสิบคนที่อยู่กับเขา

43 ฮานานบุตรมาอาคาห์ โยชาฟัทคนมิธเน

44 อุสซียาคนอัชเทรัท

ชามาและเยอีเอลบุตรโฮธามคนอาโรเออร์

45 เยดียาเอลบุตรชิมรีและโยฮาคนทิไซต์ผู้เป็นน้องชาย

46 เอลีเอลคนมาหะไวต์

เยรีบัยและโยชาวิยาห์บุตรเอลนาอัม

อิทมาห์คนโมอับ

47 เอลีเอล โอเบด และยาอาซีเอลคนเมโซบัย

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/1CH/11-893211def070bbdd8401ff4867c70bf1.mp3?version_id=179—

1พงศาวดาร 12

เหล่านักรบมาสมทบกับดาวิด

1 ต่อไปนี้คือผู้ที่มาสมทบกับดาวิดที่ศิกลาก ขณะที่เขาถูกไล่ไปให้พ้นจากพระพักตร์ซาอูลบุตรคีช (พวกเขาอยู่ในหมู่นักรบซึ่งช่วยดาวิดสู้รบ

2 ล้วนเป็นนักธนูและเป็นมือสลิงผู้เชี่ยวชาญทั้งมือซ้ายและมือขวา ต่างก็มาจากเผ่าเบนยามินเช่นเดียวกับซาอูล) ได้แก่

3 หัวหน้าอาหิเยเซอร์และโยอาช ทั้งคู่เป็นบุตรของเชมาอาห์แห่งเมืองกิเบอา เยซีเอล และเปเลทบุตรของอัสมาเวท เบราคาห์ เยฮูจากเมืองอานาโธท

4 อิชมัยยาห์จากเมืองกิเบโอนผู้เป็นทหารกล้าซึ่งอยู่ในระดับผู้นำของสามสิบยอดนักรบ เยเรมีย์ ยาฮาซีเอล โยฮานัน โยซาบาดจากเมืองเกเดราห์

5 เอลูซัย เยรีโมท เบอัลลิยาห์ เชมาริยาห์ และเชฟาทิยาห์ จากตระกูลฮารูฟ

6 เอลคานาห์ อิสชีอาห์ อาซาเรล โยเอเซอร์กับยาโชเบอัมจากตระกูลโคราห์

7 และโยเอลาห์กับเศบาดิยาห์บุตรเยโรฮัมชาวเกโดร์

8 นักรบบางคนจากเผ่ากาดก็แปรพรรคมาอยู่กับดาวิดในที่มั่นในถิ่นกันดาร พวกเขาเป็นนักรบกล้าหาญผู้เจนศึกและช่ำชองในการใช้โล่กับหอก เป็นคนหน้าตาดุร้ายเหมือนสิงห์ ไวเหมือนละมั่งบนภูเขา

9 เอเซอร์เป็นหัวหน้า

โอบาดีห์เป็นรองหัวหน้า คนที่สามคือเอลีอับ

10 คนที่สี่คือมิชมันนาห์ คนที่ห้าคือเยเรมีย์

11 คนที่หกคืออัททัย คนที่เจ็ดคือเอลีเอล

12 คนที่แปดคือโยฮานัน คนที่เก้าคือเอลซาบาด

13 คนที่สิบคือเยเรมีย์ คนที่สิบเอ็ดคือมัคบันนัย

14 คนกาดเหล่านี้เป็นนายทัพที่ด้อยที่สุดก็ยังเหมาะกับพลนับร้อย และที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็เหมาะกับพลนับพัน

15 พวกเขาข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปในเดือนที่หนึ่งซึ่งเป็นฤดูน้ำหลาก และสู้รบกับทุกคนในหุบเขาทั้งด้านตะวันออกและตะวันตก

16 มีคนอื่นๆ จากเผ่าเบนยามินและยูดาห์มาหาดาวิดในที่มั่น

17 ดาวิดออกไปพบพวกเขาและกล่าวว่า “หากพวกท่านมาหาเราอย่างสันติ มาช่วยเรา เราก็พร้อมที่จะให้ท่านเข้าพวก แต่หากท่านมาเพื่อทรยศมอบเราให้แก่ศัตรูของเรา ทั้งๆ ที่มือของเราไม่ได้ทำร้ายใคร ก็ขอให้พระเจ้าของบรรพบุรุษของเราทอดพระเนตรและตัดสินโทษท่านเถิด”

18 แล้วพระวิญญาณเสด็จลงมาเหนืออามาสัยผู้นำของสามสิบยอดนักรบ และเขากล่าวว่า

“ดาวิดเอ๋ย! เราเป็นพวกท่าน

บุตรเจสซีเอ๋ย! เราเป็นฝ่ายท่าน

ความสำเร็จจงเป็นของท่าน

ความสำเร็จจงเป็นของทุกคนที่ช่วยเหลือท่าน

เพราะพระเจ้าของท่านจะทรงช่วยท่าน”

ดาวิดจึงรับพวกเขาไว้และตั้งให้เป็นหัวหน้ากองโจร

19 มีบางคนจากเผ่ามนัสเสห์แปรพรรคมาอยู่กับดาวิดเมื่อเขาร่วมทัพฟีลิสเตียจะไปรบกับซาอูล (ดาวิดกับพวกไม่ได้ช่วยชาวฟีลิสเตียรบ เพราะเมื่อขุนพลของฟีลิสเตียปรึกษากันแล้ว พวกเขากล่าวว่า “ถ้าเขาละทิ้งพวกเรา กลับไปเป็นพวกของซาอูลนายเดิม หัวของพวกเราคงหลุดจากบ่า”)

20 คนมนัสเสห์ที่มาเป็นพวกกับดาวิดขณะที่เขาไปศิกลากได้แก่ อัดนาห์ โยซาบาด เยดียาเอล มีคาเอล โยซาบาด เอลีฮู และศิลเลธัย ล้วนเป็นหัวหน้ากองพันในมนัสเสห์

21 พวกเขาเป็นนักรบกล้าหาญ เป็นนายทัพช่วยเหลือดาวิดต่อสู้กับกองโจร

22 มีคนมาสบทบกับดาวิดมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งดาวิดมีกองทัพยิ่งใหญ่เกรียงไกรเหมือนกองทัพของพระเจ้า

คนอื่นๆ ที่มาสมทบกับดาวิดที่เมืองเฮโบรน

23 ต่อไปนี้เป็นจำนวนพลรบที่มาสมทบกับดาวิดที่เมืองเฮโบรน เพื่อจะตั้งดาวิดเป็นกษัตริย์แทนซาอูล ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้แล้ว

24 มีนักรบจากยูดาห์ 6,800 คน มีโล่และหอกพร้อม

25 มีนักรบพร้อมออกศึกจากสิเมโอน 7,100 คน

26 จากเลวี 4,600 คน

27 รวมเยโฮยาดาซึ่งเป็นหัวหน้าในครอบครัวของอาโรนพร้อมกับคน 3,700 คน

28 และศาโดกนักรบหนุ่มผู้กล้าหาญพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ 22 คนจากครอบครัวของเขา

29 จากเบนยามินญาติพี่น้องของซาอูลมี 3,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เคยภักดีต่อฝ่ายซาอูลมาก่อน

30 มีนักรบกล้าหาญจากเอฟราอิม 20,800 คน ล้วนมีชื่อเสียงในตระกูลของตน

31 เผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่าส่งคนมาตามรายชื่อที่ระบุไว้ 18,000 คน เพื่อตั้งดาวิดเป็นกษัตริย์

32 มีหัวหน้าตระกูลจากอิสสาคาร์ 200 คน พร้อมทั้งญาติที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาทุกคนที่เข้าใจจังหวะเวลา และรู้ว่าอิสราเอลควรทำอย่างไร

33 มีนักรบเจนศึกจากเศบูลุน 50,000 คน พร้อมออกศึกโดยใช้อาวุธทุกชนิดและมีความภักดีต่อดาวิดอย่างแน่วแน่

34 มีเจ้าหน้าที่จากนัฟทาลี 1,000 คน และทหาร 37,000 คน ถือโล่และหอก

35 จากดานมี 28,600 คน พร้อมออกศึก

36 มีทหารเจนศึกจากอาเชอร์ 40,000 คน พร้อมรบ

37 ชนเผ่ารูเบน กาด และมนัสเสห์อีกครึ่งเผ่าจากฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน 120,000 คน มีอาวุธทุกชนิด

38 ทั้งหมดนี้เป็นนักรบที่สมัครใจออกศึก พวกเขามายังเมืองเฮโบรน ตั้งใจเต็มที่ที่จะเชิญดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล ชาวอิสราเอลอื่นๆ ทั้งหมดก็พร้อมใจกันที่จะตั้งดาวิดเป็นกษัตริย์

39 พวกเขากินเลี้ยงร่วมกับดาวิดเป็นเวลาสามวัน เพราะครอบครัวของพวกเขาได้จัดเตรียมเสบียงมาให้

40 ทั้งยังมีประชาชนทั้งใกล้และไกลเช่น อิสสาคาร์ เศบูลุน และนัฟทาลี นำอาหารบรรทุกมาบนลา อูฐ ล่อ และวัว นอกจากนั้นได้นำสิ่งของมากมายมาร่วมงานฉลองนี้ได้แก่ แป้ง มะเดื่ออัด ขนมลูกเกด เหล้าองุ่น น้ำมัน วัว และแกะ เพราะมีความชื่นชมยินดีในอิสราเอล

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/1CH/12-891ee178ad573efc11995caf7f9e4ed1.mp3?version_id=179—

1พงศาวดาร 13

อัญเชิญหีบพันธสัญญากลับมา

1 ดาวิดทรงหารือกับแม่ทัพนายกองทั้งปวง

2 แล้วตรัสกับชุมชนอิสราเอลทั้งปวงว่า “หากท่านทั้งหลายเห็นดีและเป็นพระประสงค์ของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา ให้เราส่งข่าวไปยังพี่น้องของเราทั่วแดนอิสราเอลทั้งใกล้หรือไกล รวมทั้งบรรดาปุโรหิตและคนเลวีในเมืองและในทุ่งหญ้าของพวกเขาให้มาร่วมกับเรา

3 ให้เราอัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระเจ้าของเรากลับคืนมา เพราะในรัชกาลกษัตริย์ซาอูล เราได้ละเลยหีบนั้น”

4 ชุมนุมประชากรทั้งหมดล้วนเห็นพ้องต้องกัน เพราะพวกเขาเห็นว่าเป็นสิ่งถูกต้อง

5 ดาวิดจึงทรงชุมนุมพลอิสราเอลทั่วแดน ตั้งแต่แม่น้ำชิโหร์ในอียิปต์จนจดเมืองเลโบฮามัทเพื่ออัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระเจ้ามาจากคีริยาทเยอาริม

6 ดาวิดและชนอิสราเอลทั้งปวงจึงไปยังบาอาลาห์แห่งยูดาห์ (คีริยาทเยอาริม) เพื่ออัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระเจ้าพระยาห์เวห์ซึ่งประทับระหว่างเครูบ อันเป็นหีบพันธสัญญาที่เรียกตามพระนาม

7 พวกเขาอัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระเจ้าจากบ้านของอาบีนาดับขึ้นบนเกวียนเล่มใหม่ โดยมีอุสซาห์และอาหิโยเป็นผู้นำทางมา

8 ดาวิดกับประชากรอิสราเอลทั้งปวงเฉลิมฉลองอย่างเต็มที่ต่อหน้าพระเจ้า มีการขับร้องและบรรเลงดนตรีด้วยพิณเขาคู่ พิณใหญ่ รำมะนา ฉาบ และแตร

9 เมื่อพวกเขามาถึงลานนวดข้าวของคิโดน วัวสะดุดเสียหลัก อุสซาห์ยื่นมือออกรับหีบพันธสัญญา

10 พระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงพลุ่งขึ้นต่ออุสซาห์ พระองค์ทรงประหารเขาที่ยื่นมือออกแตะต้องหีบพันธสัญญา เขาจึงสิ้นชีวิตลงต่อหน้าพระเจ้า

11 ดาวิดไม่พอพระทัยเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอุสซาห์ สถานที่แห่งนั้นจึงได้ชื่อว่า เปเรศอุสซาห์ตั้งแต่นั้นมา

12 ในวันนั้นดาวิดเกรงกลัวพระเจ้าและตรัสว่า “เราจะนำหีบพันธสัญญาของพระเจ้ากลับไปกับเราได้อย่างไร?”

13 ในที่สุดดาวิดก็ไม่ได้อัญเชิญหีบพันธสัญญาไปยังเมืองดาวิด แต่นำไปไว้ที่บ้านของโอเบดเอโดมชาวกัท

14 หีบพันธสัญญาคงอยู่กับครอบครัวของโอเบดเอโดมตลอดสามเดือน และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรครัวเรือนและกิจการงานทุกอย่างของเขา

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/1CH/13-50d37819b25a621c8182143d230333e8.mp3?version_id=179—

1พงศาวดาร 14

ครอบครัวของดาวิด

1 กษัตริย์ฮีรามแห่งเมืองไทระส่งทูตมาเข้าเฝ้าดาวิด พร้อมกับช่างสกัดหินและช่างไม้ และส่งซุงไม้สนซีดาร์มาเพื่อช่วยสร้างพระราชวังของดาวิด

2 ดาวิดทรงตระหนักว่าที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสถาปนาดาวิดเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล และทรงเชิดชูอาณาจักรของดาวิดอย่างมาก ก็เพื่อเห็นแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์

3 ที่กรุงเยรูซาเล็มดาวิดทรงมีมเหสีอื่นๆ อีกและมีโอรสธิดามากมาย

4 โอรสซึ่งประสูติที่นั่นได้แก่ ชัมมุวา โชบับ นาธัน โซโลมอน

5 อิบฮาร์ เอลีชูอา เอลเปเลท

6 โนกาห์ เนเฟก ยาเฟีย

7 เอลีชามา เบเอลยาดาและเอลีเฟเลท

ดาวิดพิชิตชาวฟีลิสเตีย

8 เมื่อชาวฟีลิสเตียได้ข่าวว่าดาวิดได้รับการเจิมตั้งเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล ก็ระดมพลทั้งหมดมาตามหาดาวิด ดาวิดทรงทราบเรื่องจึงออกไปรับมือ

9 เมื่อชาวฟีลิสเตียมาถึงและได้บุกเข้าปล้นหุบเขาเรฟาอิม

10 ดาวิดจึงทูลถามพระเจ้าว่า “ข้าพระองค์ควรออกไปโจมตีพวกฟีลิสเตียหรือไม่? พระองค์จะทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของข้าพระองค์หรือไม่?”

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “ไปเถิด เราจะมอบพวกเขาไว้ในมือของเจ้า”

11 ดาวิดกับพวกจึงบุกเข้าโจมตีทัพฟีลิสเตียที่บาอัลเปราซิมและมีชัยชนะ ดาวิดตรัสว่า “พระเจ้าทรงถาโถมเข้าใส่ศัตรูของข้าพเจ้าดั่งสายน้ำเชี่ยวด้วยมือของข้าพเจ้า” ที่แห่งนั้นจึงได้ชื่อว่า บาอัลเปราซิม

12 ชาวฟีลิสเตียทิ้งรูปเคารพของตนไว้ และดาวิดสั่งให้เผาทิ้ง

13 ต่อมาชาวฟีลิสเตียมาปล้นหุบเขาแห่งนั้นอีก

14 ดาวิดจึงทูลถามพระเจ้าอีกและพระเจ้าตรัสตอบว่า “อย่าบุกโจมตีทางด้านหน้า แต่จงโอบล้อมแล้วรุกเข้าโจมตีทางด้านหน้าของหมู่ต้นยางสน

15 เมื่อเจ้าได้ยินเสียงคล้ายเสียงย่ำเท้าบนยอดต้นยางสน จงบุกเข้าโจมตี เพราะเป็นสัญญาณว่าพระเจ้าได้เสด็จไปล่วงหน้าเพื่อเล่นงานกองทัพฟีลิสเตียแล้ว”

16 ดังนั้นดาวิดก็ทำตามที่พระเจ้าตรัสสั่ง และทำลายล้างทัพฟีลิสเตียตลอดทางตั้งแต่เมืองกิเบโอนจนถึงเมืองเกเซอร์

17 ชื่อเสียงของดาวิดจึงเลื่องลือไปทั่วทุกแดน และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้ชนชาติทั้งปวงยำเกรงดาวิด

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/1CH/14-9b6c0992e66e64b16707c49d05af57c0.mp3?version_id=179—

1พงศาวดาร 15

อัญเชิญหีบพันธสัญญามายังกรุงเยรูซาเล็ม

1 หลังจากดาวิดได้สร้างพระตำหนักต่างๆ สำหรับพระองค์ในเมืองดาวิดแล้ว ดาวิดก็ทรงเตรียมที่สำหรับหีบพันธสัญญาของพระเจ้าและตั้งพลับพลาขึ้นหลังหนึ่ง

2 แล้วดาวิดตรัสว่า “อย่าให้ผู้ใดอื่นเว้นแต่ชนเลวีอัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระเจ้า เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกพวกเขาให้หามหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าและรับใช้อยู่ต่อหน้าพระองค์ตลอดไป”

3 ดาวิดจึงทรงให้เรียกชุมนุมอิสราเอลทั้งปวงในกรุงเยรูซาเล็ม เพื่ออัญเชิญหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามายังที่ซึ่งดาวิดจัดเตรียมไว้

4 แล้วทรงให้วงศ์วานของอาโรนและชนเลวีมาพร้อมหน้ากัน

5 จากวงศ์วานโคฮาท

อุรีเอลเป็นหัวหน้าและญาติ 120 คน

6 จากวงศ์วานเมรารี

อาสายาห์เป็นหัวหน้าและญาติ 220 คน

7 จากวงศ์วานเกอร์โชน

โยเอลเป็นหัวหน้าและญาติ 130 คน

8 จากวงศ์วานเอลีซาฟาน

เชไมอาห์เป็นหัวหน้าและญาติ 200 คน

9 จากวงศ์วานเฮโบรน

เอลีเอลเป็นหัวหน้าและญาติ 80 คน

10 จากวงศ์วานอุสซีเอล

อัมมีนาดับเป็นหัวหน้าและญาติ 112 คน

11 แล้วดาวิดทรงบัญชาให้ปุโรหิตทั้งสองคือ ศาโดกกับอาบียาธาร์ และคนเลวีได้แก่ อุรีเอล อาสายาห์ โยเอล เชไมอาห์ เอลีเอล และอัมมีนาดับมาเข้าเฝ้า

12 แล้วตรัสว่า “ท่านทั้งหลายเป็นหัวหน้าตระกูลต่างๆ ของเลวี ท่านและพวกพ้องชาวเลวีจงชำระตนให้บริสุทธิ์และนำหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลมายังสถานที่ซึ่งเราได้จัดเตรียมไว้

13 ครั้งก่อนพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงพระพิโรธพวกเรา เพราะพวกท่านซึ่งเป็นคนเลวีไม่ได้เป็นผู้อัญเชิญหีบพันธสัญญา เราไม่ได้ทูลถามพระองค์ถึงวิธีการที่จะนำหีบมาตามที่ทรงกำหนดไว้”

14 ฉะนั้นเหล่าปุโรหิตและคนเลวีจึงชำระตนเพื่ออัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล

15 จากนั้นคนเลวีได้ยกหีบพันธสัญญาของพระเจ้าขึ้นบ่าโดยใช้คานหาม ตามที่โมเสสได้สั่งไว้ตามพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า

16 ดาวิดตรัสสั่งบรรดาหัวหน้าของคนเลวีให้แต่งตั้งพี่น้องเป็นนักร้อง เพื่อขับร้องบทเพลงรื่นเริงยินดีคลอเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ได้แก่ พิณใหญ่ พิณเขาคู่ และฉาบ

17 ชนเลวีจึงแต่งตั้งเฮมานบุตรโยเอล แต่งตั้งอาสาฟบุตรเบเรคิยาห์จากหมู่พี่น้องของเขา และแต่งตั้งเอธานบุตรคูชายาห์จากพี่น้องตระกูลเมรารี

18 พี่น้องที่เป็นผู้ช่วยรองลงมาได้แก่ เศคาริยาห์ยาอาซีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล อุนนี เอลีอับ เบไนยาห์ มาอาเสอาห์ มัททีธิยาห์ เอลีเฟเลหุ มิกเนยาห์ โอเบดเอโดม และเยอีเอลยามเฝ้าประตู

19 นักดนตรีคือเฮมาน อาสาฟ และเอธานเป็นผู้ตีฉาบทองสัมฤทธิ์

20 เศคาริยาห์ เอซีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล อุนนี เอลีอับ มาอาเสอาห์ และเบไนยาห์เล่นพิณใหญ่คลอตามทำนองอาลาโมท

21 มัททีธิยาห์ เอลีเฟเลหุ มิกเนยาห์ โอเบดเอโดม เยอีเอล และอาซาซิยาห์ เล่นพิณเขาคู่คลอตามทำนองเชมินิท

22 เคนานิยาห์หัวหน้าของคนเลวีรับผิดชอบดูแลการขับร้องเพราะเขาเชี่ยวชาญมาก

23 เบเรคิยาห์และเอลคานาห์เป็นยามประตูเฝ้าหีบพันธสัญญา

24 เชบานิยาห์ โยชาฟัท เนธันเอล อามาสัย เศคาริยาห์ เบไนยาห์ และเอลีเอเซอร์ ล้วนเป็นปุโรหิตผู้เป่าแตรนำหน้าหีบพันธสัญญาของพระเจ้า โอเบดเอโดมกับเยฮียาห์ก็เป็นยามประตูเฝ้าหีบพันธสัญญาด้วย

25 ดาวิดและบรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอลและนายทัพนายกองจึงไปอัญเชิญหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาจากบ้านของโอเบดเอโดมด้วยความชื่นชมยินดี

26 เพราะพระเจ้าทรงช่วยคนเลวีที่หามหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าเขาทั้งปวงจึงถวายวัวผู้เจ็ดตัวและแกะผู้เจ็ดตัว

27 ดาวิดพร้อมทั้งคนเลวีทั้งหมดที่อัญเชิญหีบพันธสัญญา คณะนักร้อง และเคนานิยาห์ผู้รับผิดชอบคณะนักร้องต่างก็สวมชุดผ้าลินิน ดาวิดทรงสวมเอโฟดลินินด้วย

28 เป็นอันว่าปวงชนอิสราเอลได้อัญเชิญหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามายังกรุงเยรูซาเล็มท่ามกลางเสียงโห่ร้องชื่นชมยินดี เสียงเป่าเขาแกะและแตร เสียงฉาบ เสียงพิณใหญ่และพิณเขาคู่

29 ขณะที่หีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าเข้าสู่เมืองดาวิด มีคาลราชธิดาของซาอูลมองจากหน้าต่าง เห็นกษัตริย์ดาวิดทรงร่ายรำและเฉลิมฉลองก็นึกดูแคลนอยู่ในใจ

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/1CH/15-b7153bcabd7b1cec59aa52c84cdac71c.mp3?version_id=179—