อิสยาห์ 8

อัสซีเรียเป็นเครื่องมือขององค์พระผู้เป็นเจ้า

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงเอาหนังสือม้วนแผ่นใหญ่มาและใช้ปากกาเขียนลงไปว่า ‘มาเฮอร์ชาลาลหัชบัส’

2 และเราจะเรียกปุโรหิตอุรียาห์กับเศคาริยาห์บุตรเยเบเรคิยาห์ให้เป็นพยานที่เชื่อถือได้ของเรา”

3 แล้วข้าพเจ้าก็เข้าหาผู้เผยพระวจนะหญิง นางจึงตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงตั้งชื่อเขาว่ามาเฮอร์ชาลาลหัชบัส

4 ก่อนที่เด็กคนนั้นจะรู้จักเรียก ‘พ่อ’ หรือ ‘แม่’ กษัตริย์อัสซีเรียจะริบทรัพย์สมบัติของดามัสกัสและสะมาเรียไป”

5 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าอีกว่า

6 “เนื่องจากชนชาตินี้ได้ปฏิเสธ

น้ำแห่งชิโลอาห์ซึ่งไหลเอื่อยๆ

ไปชื่นชมเรซีน

และบุตรของเรมาลิยาห์

7 ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะใช้กระแสน้ำอันหลากเชี่ยวของยูเฟรติส

มาท่วมมิดพวกเขา

คือกษัตริย์อัสซีเรียกับกองทัพมหึมา

กระแสน้ำนั้นจะท่วมมิดทุกช่องทาง

และล้นทุกตลิ่ง

8 และกวาดเข้ามาในยูดาห์

ไหลวนเหนือดินแดนนั้น ไหลหลากท่วมถึงคอ

โอ อิมมานูเอลเอ๋ย!

ท่วมมิดยูดาห์จนสุดเขตแดน”

9 ประชาชาติทั้งหลายเอ๋ย โห่ร้องออกศึกไปเถิด และจงถูกบดขยี้!

ดินแดนไกลโพ้นทั้งปวง จงฟัง

เตรียมทำศึกเถิด และจงถูกบดขยี้!

เตรียมทำศึกเถิด และจงถูกบดขยี้!

10 วางแผนกลยุทธ์ไปเถิด แต่มันจะกลับตาลปัตร

ดำเนินตามแผนเถิด แต่จะไปไม่รอด

เพราะพระเจ้าทรงอยู่กับเรา

จงยำเกรงพระเจ้า

11 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเตือนข้าพเจ้าอย่างเข้มงวดไม่ให้ดำเนินตามวิถีทางของชนชาตินี้พระองค์ตรัสว่า

12 “ทุกสิ่งที่ชนชาติเหล่านี้เรียกว่าการคบคิดทรยศ

เจ้าอย่าเรียกว่าการคบคิดทรยศ

อย่ากลัวสิ่งที่พวกเขากลัว

อย่าหวาดหวั่น

13 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์คือผู้ที่เจ้าจะต้องถือว่าบริสุทธิ์

พระองค์คือผู้ที่เจ้าจะต้องยำเกรง

พระองค์คือผู้ที่เจ้าจะต้องขยาดกลัว

14 พระองค์จะทรงเป็นสถานนมัสการ

แต่สำหรับวงศ์วานทั้งคู่ของอิสราเอล

พระองค์จะทรงเป็นก้อนหินซึ่งทำให้ผู้คนสะดุด

และเป็นศิลาที่ทำให้พวกเขาล้มลง

และพระองค์จะเป็นกับดัก

และเป็นบ่วงแร้วสำหรับชาวเยรูซาเล็ม

15 พวกเขาหลายคนจะสะดุด

พวกเขาจะล้มลงและแตกสลาย

พวกเขาจะติดกับและถูกจับไป”

16 จงมัดคำพยานเข้าไว้ด้วยกัน

และประทับตราบทบัญญัติในหมู่สาวกของข้าพเจ้า

17 ข้าพเจ้าจะรอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้า

ผู้ทรงซ่อนพระพักตร์จากวงศ์วานของยาโคบ

ข้าพเจ้าจะไว้วางใจในพระองค์

18 ข้าพเจ้าและบุตรทั้งหลายที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว เราคือหมายสำคัญและสัญลักษณ์ในอิสราเอลจากพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ผู้ประทับบนภูเขาศิโยน

19 เมื่อคนบอกให้ท่านไปปรึกษาคนทรงเจ้าเข้าผีซึ่งกระซิบกระซาบบ่นพึมพำ ประชาชาติไม่ควรทูลถามพระเจ้าของตนหรือ? เหตุใดไปหารือกับคนตายเพื่อคนเป็น?

20 จงไปค้นดูบทบัญญัติและคำพยาน! หากพวกเขาไม่ได้พูดตามนี้ พวกเขาก็ไม่ได้มีแสงสว่างแห่งรุ่งอรุณอยู่เลย

21 พวกเขาจะซัดเซพเนจรไปอย่างทุกข์ลำเค็ญและหิวโหย เมื่อกันดารอาหารเขาจะเดือดดาลคลุ้มคลั่ง เงยหน้าขึ้นฟ้า แช่งด่ากษัตริย์และพระเจ้าของตน

22 แล้วพวกเขาจะมองไปยังแผ่นดินโลก และพบแต่ความทุกข์ลำเค็ญ ความมืดมน ความกลัดกลุ้ม และเขาจะถูกผลักเข้าสู่ความมืดมิด

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/8-034f1c51017033f83413a678e2f4afe3.mp3?version_id=179—

อิสยาห์ 9

เด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา

1 อย่างไรก็ตามผู้ทุกข์ลำเค็ญจะไม่เศร้าหมองอีกต่อไป ในอดีตพระเจ้าทรงทำให้ดินแดนเศบูลุนและนัฟทาลีต่ำลง แต่ในอนาคตพระองค์จะทรงเชิดชูกาลิลีที่ชาวต่างชาติอาศัยอยู่ ซึ่งรวมทั้งเมืองริมทะเลเลียบแม่น้ำจอร์แดน

2 ประชากรผู้เดินอยู่ในความมืด

ได้เห็นแสงสว่างอันยิ่งใหญ่

บรรดาผู้อาศัยในดินแดนแห่งเงาของความตาย

แสงสว่างเริ่มสาดต้องพวกเขาแล้ว

3 พระเจ้าทรงขยายชนชาตินั้น

และเพิ่มพูนความปีติยินดีของพวกเขา

พวกเขาชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์

เหมือนคนเริงรื่นชื่นบานยามเก็บเกี่ยว

หรือยามแบ่งสมบัติที่ริบได้จากเชลย

4 เหมือนอย่างวันแห่งชัยชนะเหนือมีเดียน

พระองค์จะทรงทำลาย

แอกที่เป็นภาระของประชากรของพระองค์

คานที่พวกเขาต้องแบกหาม

และไม้ตะบองของผู้ที่กดขี่ข่มเหงเขา

5 รองเท้าทุกคู่ของนักรบซึ่งใช้ในสงคราม

และเสื้อผ้าทั้งหมดของพวกเขาที่โชกเลือด

จะถูกเผาไฟ

และใช้เป็นเชื้อเพลิง

6 ด้วยว่ามีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา

มีบุตรชายคนหนึ่งที่ประทานแก่เรา

และการปกครองจะอยู่บนบ่าของเขา

และเขาจะได้รับการขนานนามว่า

“ที่ปรึกษามหัศจรรย์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์

พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช”

7 การปกครองอย่างสันติของบุคคลนั้น

จะรุ่งเรืองขึ้นไม่สิ้นสุด

พระองค์จะทรงครอบครองเหนือบัลลังก์

และอาณาจักรของดาวิด

ทรงสถาปนาและผดุงอาณาจักรนั้นไว้

ด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม

ตั้งแต่เวลานั้นตราบนิรันดร์

พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ทรงกระตือรือร้น

ที่จะกระทำการนี้ให้สำเร็จ

องค์พระผู้เป็นเจ้า

8 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีพระดำรัสเป็นคำพิพากษาเกี่ยวกับอิสราเอล

พงศ์พันธุ์ของยาโคบว่า

9 ประชากรทั้งปวงจะรู้ถึงคำพิพากษา

คือเอฟราอิมและชาวสะมาเรียทั้งหลาย

ซึ่งกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง

และด้วยใจอหังการว่า

10 “อิฐทลายลงแล้วก็จริง

แต่เราจะสร้างขึ้นใหม่ด้วยหินสกัด

ต้นมะเดื่อทั้งหลายถูกโค่นลงไปแล้ว

แต่เราจะแทนที่ด้วยไม้สนซีดาร์”

11 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเสริมกำลังศัตรูของ

เรซีนขึ้นมาสู้กับพวกเขา

และทรงกระตุ้นศัตรูของพวกเขา

12 ชาวอารัมจากตะวันออก และชาวฟีลิสเตียจากตะวันตก

อ้าปากกว้างกลืนอิสราเอลเสีย

ถึงขนาดนี้แล้วพระพิโรธของพระเจ้าก็ยังไม่หันเห

พระองค์ยังคงเงื้อพระหัตถ์ค้างอยู่

13 แต่เหล่าประชากรก็ยังไม่ยอมหันกลับมาหาพระองค์ผู้ทรงลงโทษพวกเขา

ทั้งไม่ยอมแสวงหาพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

14 ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงตัดทั้งหัวและหางจากอิสราเอล

ทั้งกิ่งอินทผลัมและต้นอ้อภายในวันเดียว

15 หัวคือผู้อาวุโสและคนใหญ่คนโต

หางคือผู้เผยพระวจนะซึ่งสอนเท็จ

16 บรรดาผู้นำก็นำไปผิดทาง

และบรรดาผู้ตามก็ถูกนำให้หลงเตลิด

17 ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงชื่นชอบคนหนุ่ม

ทั้งจะไม่ทรงเอ็นดูสงสารลูกกำพร้าพ่อกับหญิงม่าย

เพราะทุกคนล้วนชั่วช้าอธรรม

ทุกปากพูดชั่ว

ถึงขนาดนี้แล้วพระพิโรธของพระเจ้าก็ยังไม่หันเห

พระองค์ยังคงเงื้อพระหัตถ์ค้างอยู่

18 แน่ทีเดียวความชั่วลุกโพลงดั่งกองไฟ

มันผลาญต้นหนามน้อยใหญ่ทั้งปวง

ทำให้ทั้งป่าลุกไหม้

ส่งควันโขมง

19 พื้นแผ่นดินจะถูกเผาผลาญ

โดยพระพิโรธของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

ประชากรจะเป็นเชื้อเพลิง

ไม่มีใครละเว้นพี่น้องของตน

20 พวกเขาจะเขมือบทางขวา

แต่ก็ยังหิวโหย

กินไปทางซ้าย

แต่ก็ยังไม่อิ่ม

ต่างก็จะเลี้ยงชีวิตด้วยเนื้อลูกหลานของตนเอง

21 มนัสเสห์และเอฟราอิมจะกัดกินกันเอง

และทั้งสองจะหันมาเล่นงานยูดาห์

ถึงขนาดนี้แล้วพระพิโรธของพระเจ้าก็ยังไม่หันเห

พระองค์ยังคงเงื้อพระหัตถ์ค้างอยู่

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/9-cc6dfb1c4c3a1d7904a3799d6f263384.mp3?version_id=179—

อิสยาห์ 10

1 วิบัติแก่บรรดาผู้ออกบทบัญญัติอันไม่เป็นธรรม

วิบัติแก่ผู้ที่ออกกฎหมายกดขี่ข่มเหง

2 เพื่อริดรอนสิทธิของผู้ยากไร้

และไม่ให้ความยุติธรรมแก่ประชากรผู้ถูกข่มเหงของเรา

ทำให้หญิงม่ายตกเป็นเหยื่อของพวกเขา

และลูกกำพร้าพ่อถูกปล้น

3 พวกเจ้าจะทำอย่างไรในวันลงทัณฑ์

เมื่อภัยพิบัติมาจากแดนไกล?

เจ้าจะหนีไปพึ่งใคร?

เจ้าจะเอาทรัพย์สมบัติไปเก็บไว้ที่ไหน?

4 จะไม่มีอะไรเหลือ นอกจากต้องไปคุดคู้อยู่ในหมู่เชลย

หรือไม่ก็ล้มลงในหมู่คนที่ถูกฆ่าตาย

ถึงขนาดนี้แล้วพระพิโรธของพระเจ้าก็ยังไม่หันเห

พระองค์ยังคงเงื้อพระหัตถ์ค้างอยู่

พระเจ้าพิพากษาอัสซีเรีย

5 “วิบัติแก่ชาวอัสซีเรีย ผู้เป็นไม้เรียวแห่งความโกรธของเรา

ผู้ถือกระบองแห่งความกริ้วของเรา!

6 เราส่งอัสซีเรียไปปราบชนชาติอธรรม

ไปเล่นงานชนชาติที่ยั่วโทสะเรา

ให้ไปปล้นและริบทรัพย์สิน

และเหยียบย่ำเขาดั่งย่ำโคลนในถนน

7 แต่เขาไม่ได้ตั้งใจเช่นนั้น

ไม่ได้คิดตามนั้น

เป้าหมายของเขาคือล้างผลาญ

ทำลายชนชาติต่างๆ ให้ดับสูญ

8 เขากล่าวว่า ‘แม่ทัพของเราล้วนแต่เป็นกษัตริย์ไม่ใช่หรือ?

9 คาลโนไม่ได้เหมือนคารเคมิชหรอกหรือ?

ฮามัทก็เหมือนอารปัดไม่ใช่หรือ?

และสะมาเรียก็เหมือนดามัสกัสไม่ใช่หรือ?

10 เช่นเดียวกับที่เรายึดบรรดาอาณาจักรที่เต็มไปด้วยรูปเคารพ

อาณาจักรซึ่งมีรูปเคารพมากกว่าของเยรูซาเล็มและสะมาเรีย

11 เราจะไม่จัดการกับเยรูซาเล็มและรูปเคารพต่างๆ

เหมือนที่เราทำกับสะมาเรียและรูปเคารพของพวกเขาหรือ?’”

12 เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงจัดการกับภูเขาศิโยนและเยรูซาเล็มเรียบร้อยแล้ว พระองค์จะตรัสว่า “เราจะลงโทษกษัตริย์อัสซีเรียเพราะใจที่เย่อหยิ่งอหังการและท่าทีที่ยโสโอหังของเขา

13 เพราะเขาโอ้อวดว่า

“ ‘เราทำการนี้ด้วยกำลังแห่งน้ำมือของเรา

และด้วยสติปัญญาของเรา เพราะเรามีความเข้าใจ

เรารื้อพรมแดนของประชาชาติต่างๆ

ปล้นทรัพย์สมบัติของเขา

เราปราบบรรดากษัตริย์ของพวกเขาเฉกเช่นผู้พิชิต

14 มือของเราฉกชิงทรัพย์สมบัติของประชาชาติต่างๆ

เหมือนคนเอื้อมไปเก็บรังนก

เรารวบรวมประเทศทั้งปวง

เหมือนคนเก็บไข่ที่ถูกทิ้งไว้

ไม่มีหน้าไหนกล้าขยับปีก

หรือปริปากร้อง’ ”

15 ขวานจะยกตนขึ้นข่มผู้ใช้มันหรือ?

เลื่อยจะอวดเบ่งทับถมผู้เลื่อยหรือ?

เฉกเช่นไม้ตะพดจะแกว่งใส่ผู้ใช้มันหรือ?

หรือไม้กระบองกวัดแกว่งเข้าใส่ผู้ที่ถือมันหรือ?

16 ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

จะทรงส่งโรคระบาดมาล้างผลาญเหนือนักรบแข็งแกร่งของเขา

จะมีไฟไหม้ลุกโชติช่วง

ภายใต้ความจองหองพองขนของพวกเขา

17 พระผู้เป็นแสงสว่างแห่งอิสราเอลจะกลายเป็นไฟ

องค์บริสุทธิ์ของพวกเขาจะเป็นเปลวเพลิง

ซึ่งเผาผลาญต้นหนามน้อยใหญ่ของเขา

วอดสิ้นภายในวันเดียว

18 ป่าอันมโหฬารและท้องทุ่งอันอุดมสมบูรณ์ของเขา

จะถูกทำลายไปสิ้น

เหมือนคนป่วยที่ชีวิตถูกกัดกร่อนไป

19 ต้นไม้ในป่าของเขาจะเหลืออยู่น้อยนิด

ขนาดเด็กก็ยังเขียนตัวเลขจำนวนนั้นได้

ชนหยิบมือที่เหลือของอิสราเอล

20 ในวันนั้นชนหยิบมือที่เหลือของอิสราเอล

คือวงศ์วานของยาโคบซึ่งรอดชีวิต

จะไม่พึ่งผู้นั้นซึ่งปราบพวกตนลง

แต่จะพึ่งพิงพระยาห์เวห์องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลอย่างแท้จริง

21 ชนหยิบมือที่เหลืออยู่จะกลับมา

ชนหยิบมือที่เหลือของยาโคบจะกลับมาหาพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์

22 โอ อิสราเอลเอ๋ย ถึงแม้ประชากรของเจ้าจะมากมายเหมือนทรายชายทะเล

ก็จะมีคนเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นที่จะกลับมา

หายนะครั้งนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว

อย่างเหลือล้นและชอบธรรม

23 องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์นี่แหละ

จะใช้หายนะซึ่งกำหนดไว้แล้วลงทัณฑ์ดินแดนทั้งหมด

24 ฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า

“ประชากรของเราในศิโยนเอ๋ย

อย่ากลัวชาวอัสซีเรีย

ซึ่งเอาไม้เรียวเฆี่ยนเจ้า

เอาไม้กระบองฟาดเจ้าเหมือนที่อียิปต์ได้ทำ

25 โทสะของเราที่พลุ่งขึ้นต่อเจ้าจะยุติลงในไม่ช้านี้

และความโกรธของเราจะหันไปทำลายล้างพวกเขา”

26 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะใช้แส้ฟาดพวกเขา

เหมือนเมื่อทรงปราบชาวมีเดียนที่ศิลาแห่งโอเรบ

จะทรงยกไม้เท้าขึ้นฟาดแม่น้ำทั้งหลาย

เหมือนที่ทรงกระทำในอียิปต์

27 ในวันนั้นภาระที่พวกเขาวางไว้จะถูกยกออกจากบ่าของพวกเจ้า

แอกของพวกเขาจะพ้นจากคอของพวกเจ้า

แอกนั้นจะถูกหัก

เพราะพวกเจ้าเติบโตขึ้นจนอ้วนพี

28 พวกเขาเข้ามาทางเมืองอัยยาท

ผ่านมิโกรนและสะสมเสบียงและอาวุธที่มิคมาช

29 พวกเขาผ่านด่านมาและพูดกันว่า

“เราจะตั้งค่ายพักแรมที่เกบา”

รามาห์สะทกสะท้าน

กิเบอาห์ของซาอูลเตลิดหนี

30 ร้องออกมาเถิด ธิดาแห่งกัลลิมเอ๋ย!

ไลชาห์เอ๋ย จงฟังเถิด!

อานาโธทที่น่าสงสารเอ๋ย!

31 มัดเมนาห์เตลิดหนี

ชาวเกบิมหลบเข้าที่ซ่อน

32 ในวันนี้พวกเขาจะหยุดอยู่ที่โนบ

จะชูหมัดหราบนภูเขาของธิดาแห่งศิโยน

ที่ภูเขาแห่งเยรูซาเล็ม

33 ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

จะทรงโค่นกิ่งทั้งหลายด้วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่

ต้นไม้สูงตระหง่านจะถูกโค่น

ต้นที่สูงผงาดถูกโค่นราบ

34 พระองค์จะทรงใช้ขวานฟันป่าทึบ

เลบานอนจะล้มลงต่อหน้าองค์ทรงฤทธิ์

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/10-98eeb1ab18dc9c4d5e8a64ec2b5d8b17.mp3?version_id=179—

อิสยาห์ 11

กิ่งจากเจสซี

1 หน่อหนึ่งจะงอกขึ้นมาจากตอของเจสซี

กิ่งหนึ่งจะเกิดผล จากรากของเขา

2 พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทับอยู่เหนือผู้นั้น

คือองค์พระวิญญาณแห่งสติปัญญาและความเข้าใจ

พระวิญญาณแห่งคำปรึกษาและอานุภาพ

พระวิญญาณแห่งความรู้และความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า

3 และเขาผู้นั้นจะปีติยินดีในความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า

เขาจะไม่พิพากษาตามที่ได้เห็นภายนอก หรือตัดสินตามที่ได้ฟัง

4 แต่เขาจะพิพากษาคนขัดสนด้วยความชอบธรรม

และตัดสินอย่างยุติธรรมเพื่อคนยากจนในแผ่นดินโลก

เขาจะฟาดโลกด้วยคำพิพากษาจากริมฝีปากของเขา

เขาจะประหารคนชั่วด้วยลมจากปากของเขา

5 ความชอบธรรมจะเป็นเข็มขัดของเขา

และความซื่อสัตย์จะเป็นสายคาดเอวของเขา

6 สุนัขป่ากับลูกแกะจะอาศัยอยู่ด้วยกัน

เสือดาวจะนอนเคียงข้างแพะ

ลูกวัวกับสิงโตและลูกอ่อนของสัตว์อื่นๆ จะอยู่ด้วยกัน

และเด็กเล็กๆ คนหนึ่งจะนำพวกมัน

7 แม่วัวจะกินหญ้าอยู่กับหมี

ลูกของมันทั้งสองจะนอนด้วยกัน

และสิงโตจะกินฟางเหมือนวัว

8 ทารกจะเล่นอยู่ใกล้รูงูเห่า

และเด็กเล็กๆ จะยื่นมือเข้าไปในรังของงูพิษ

9 พวกมันจะไม่ทำร้ายหรือทำลายกัน

ตลอดทั่วภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา

เพราะแผ่นดินโลกจะเต็มไปด้วยความรู้เรื่ององค์พระผู้เป็นเจ้า

ดุจน้ำปกคลุมทะเล

10 ในวันนั้นรากของเจสซีจะตั้งเด่นดุจธงสำหรับมวลประชาชาติ ชาติต่างๆ จะรวมพลกันมาหาเขา และที่พำนักของเขาจะสง่างาม

11 ในวันนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงยื่นพระหัตถ์ออกเป็นครั้งที่สอง เพื่อรับประชากรของพระองค์ที่เหลืออยู่นั้นกลับมาจากอัสซีเรีย อียิปต์บนและอียิปต์ล่าง จากคูชเอลาม บาบิโลนฮามัท และดินแดนชายฝั่งทะเลที่ห่างไกล

12 พระองค์จะทรงชูธงขึ้นเพื่อประชาชาติทั้งหลาย

และรวบรวมเชลยอิสราเอล

กับชนยูดาห์ที่กระจัดกระจายไป

กลับคืนมาจากสี่มุมโลก

13 ความอิจฉาของเอฟราอิมจะสิ้นไป

และศัตรูทั้งหลายของยูดาห์จะหมดสิ้น

เอฟราอิมจะเลิกอิจฉายูดาห์

และยูดาห์เลิกเป็นศัตรูกับเอฟราอิม

14 พวกเขาจะรุกไล่ลงมาตามลาดเขาฟีลิสเตียทางฟากตะวันตก

ร่วมกันปล้นชนชาตินั้นไปทางตะวันออก

พวกเขาจะเล่นงานเอโดมและโมอับ

ชาวอัมโมนจะยอมอยู่ใต้อำนาจพวกเขา

15 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำให้น้ำทะเลในอ่าวของอียิปต์แห้ง

พระองค์จะทรงโบกพระหัตถ์เหนือแม่น้ำยูเฟรติสด้วยกระแสลมแรงจัด

จะทรงแยกมันออกเป็นลำธารเจ็ดสาย

เพื่อผู้คนจะเดินลุยข้ามไปได้

16 จะมีทางหลวงสำหรับคนหยิบมือที่เหลือของพระองค์

ที่รอดมาจากอัสซีเรีย

เหมือนที่มีทางหลวงสำหรับอิสราเอล

เมื่อพวกเขาออกมาจากอียิปต์

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/11-c7acccaa0dbcd0251ccc50974265ce9f.mp3?version_id=179—

อิสยาห์ 12

บทเพลงสรรเสริญ

1 ในวันนั้น ท่านจะพูดว่า

“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์

ถึงแม้พระองค์ทรงพระพิโรธข้าพระองค์

พระพิโรธของพระองค์ก็ได้หันไป

และพระองค์ทรงปลอบโยนข้าพระองค์

2 แน่นอน พระเจ้าทรงเป็นความรอดของข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าจะวางใจและไม่กลัว

องค์พระผู้เป็นเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพลังและบทเพลงของข้าพเจ้า

พระองค์ได้ทรงมาเป็นความรอดของข้าพเจ้า”

3 ท่านจะตักน้ำจากบ่อแห่งความรอด

ด้วยความยินดี

4 ในวันนั้นท่านจะกล่าวว่า

“จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าจงร้องทูลออกพระนามของพระองค์

จงแจ้งให้หมู่ประชาชาติทราบถึงสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ

และประกาศว่าพระนามของพระองค์เป็นที่เทิดทูน

5 จงร้องเพลงสดุดีองค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ประเสริฐ

จงประกาศให้ทั่วทั้งโลกทราบถึงเรื่องนี้

6 ชาวศิโยนเอ๋ย จงโห่ร้องและร้องเพลงด้วยความชื่นชมยินดี

เพราะองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ประทับท่ามกลางพวกท่านนั้นยิ่งใหญ่นัก”

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/12-8044803c8b5c9cd257d34f0afd3577ba.mp3?version_id=179—

อิสยาห์ 13

คำพยากรณ์กล่าวโทษบาบิโลน

1 พระดำรัสเกี่ยวกับบาบิโลนซึ่งอิสยาห์บุตรอาโมศได้รับ

2 จงชูธงขึ้นเหนือยอดเขาหัวโล้น

จงร้องเรียกพวกเขา

จงส่งสัญญาณให้พวกเขา

เข้ามาทางประตูของบรรดาเจ้านาย

3 เราได้ออกคำสั่งแก่วิสุทธิชนของเรา

เราเรียกชุมนุมเหล่านักรบผู้ปีติยินดีในชัยชนะของเรา

ให้เป็นผู้ลบล้างโทสะของเรา

4 ฟังสิ เสียงอึกทึกบนภูเขา

ดั่งเสียงมหาชนล้นหลาม!

ฟังสิ เสียงครึกโครมในหมู่อาณาจักร

ดั่งเสียงชุมนุมประชาชาติ!

พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

ทรงกรีธาทัพมาเพื่อทำศึก

5 พวกเขามาจากดินแดนไกลโพ้น จากสุดขอบฟ้า

คือองค์พระผู้เป็นเจ้าและอาวุธแห่งพระพิโรธของพระองค์

เพื่อทำลายดินแดนทั้งหมด

6 จงร้องไห้เถิด เพราะวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว

วันนั้นจะมาถึงดั่งหายนะจากองค์ทรงฤทธิ์

7 ด้วยเหตุนี้แขนทุกแขนจะอ่อนปวกเปียก

หัวใจทุกดวงจะระทดท้อ

8 ความหวาดกลัวจะจู่โจมพวกเขา

ความปวดร้าวและทุกข์ทรมานจะเกาะกุมพวกเขา

พวกเขาจะทุรนทุรายดั่งผู้หญิงเจ็บท้องใกล้คลอด

พวกเขาจะมองตากัน

ใบหน้าแดงก่ำ

9 ดูเถิด วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามา

เป็นวันหฤโหด มาพร้อมกับความกริ้วและพระพิโรธอันรุนแรง

เพื่อทำให้ดินแดนนั้นเริศร้าง

และทำลายคนบาปทั้งปวงซึ่งอยู่ที่นั่น

10 เหล่าดวงดาวบนท้องฟ้าและหมู่ดาว

จะไม่ฉายแสง

ดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นจะถูกดับ

และดวงจันทร์จะไม่ทอแสง

11 เราจะลงโทษโลกเพราะความชั่วร้าย

ลงโทษคนชั่วเพราะบาปของพวกเขา

เราจะยุติความเย่อหยิ่งของคนทะนง

และจะทำให้ความอหังการของคนอำมหิตต่ำลง

12 เราจะทำให้มนุษย์หายากยิ่งกว่าทองคำบริสุทธิ์

หายากยิ่งกว่าทองคำของเมืองโอฟีร์

13 ดังนั้นเราจะทำให้ฟ้าสวรรค์สั่นสะท้าน

และโลกจะกระเด็นจากที่ตั้งของมัน

โดยพระพิโรธของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

ในวันแห่งพระพิโรธอันรุนแรงของพระองค์

14 แต่ละคนจะหันกลับไปหาพี่น้องร่วมชาติ

จะหนีกลับไปบ้านเกิดเมืองนอน

ดั่งละมั่งที่ถูกล่า

ดั่งแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง

15 ใครที่ถูกจับเป็นเชลยจะถูกแทงทะลุ

ทุกคนที่ถูกจับได้จะล้มตายด้วยดาบ

16 ลูกเล็กเด็กแดงของพวกเขาจะถูกจับฟาดจนแหลกเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าต่อตา

บ้านของพวกเขาจะถูกปล้น และภรรยาจะถูกข่มขืน

17 ดูเถิด เราจะเร่งเร้าชาวมีเดีย

ผู้ไม่แยแสเงินและไม่ใส่ใจทอง

มาต่อสู้กับพวกเขา

18 ธนูของเขาจะสังหารพวกคนหนุ่ม

เขาจะไม่ปรานีเด็กอ่อน

หรือเวทนาสงสารผู้เยาว์

19 บาบิโลน มณีแห่งอาณาจักรทั้งหลาย

ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของชาวบาบิโลน

จะถูกพระเจ้าล้มล้าง

เหมือนเมืองโสโดมและโกโมราห์

20 ตลอดทุกชั่วอายุจะไม่มีใครมาตั้งรกรากอีกต่อไป

ไม่มีใครมาอาศัยตลอดทุกชั่วอายุ

ไม่มีชาวอาหรับมาตั้งเต็นท์

ไม่มีคนเลี้ยงแกะพาฝูงแกะมาพักอีก

21 แต่สัตว์ป่าแห่งถิ่นทะเลทรายจะนอนอยู่ที่นั่น

บ้านเรือนทั้งหลายจะเต็มไปด้วยหมาใน

นกเค้าแมวจะอาศัยอยู่ที่นั่น

ที่นั่นแพะป่าจะโลดเต้นไปมา

22 บรรดาหมาป่าไฮยีน่าจะเห่าหอนอยู่ในป้อมปราการ

เหล่าหมาในอยู่ในปราสาทราชวังอันโอ่อ่าของเมืองนั้น

กำหนดเวลาของมันใกล้เข้ามาแล้ว

และไม่มีการยืดเวลาออกไปอีก

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/13-d1cdeeca2623424292c0b22dd1c5cbeb.mp3?version_id=179—

อิสยาห์ 14

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเอ็นดูสงสารยาโคบ

พระองค์จะทรงเลือกสรรอิสราเอลอีกครั้งหนึ่ง

และจะนำพวกเขากลับมาตั้งถิ่นฐานในแผ่นดินของพวกเขา

ชนต่างชาติจะมาสมทบ

และเข้าร่วมกับวงศ์วานของยาโคบ

2 ประชาชาติต่างๆ จะรับ

และนำพวกเขากลับคืนถิ่น

วงศ์วานอิสราเอลจะครอบครองประชาชาติต่างๆ

ซึ่งจะเป็นผู้รับใช้ชายหญิงในแผ่นดินขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ผู้ที่จับอิสราเอลเป็นเชลยจะตกเป็นเชลยของอิสราเอล

และอิสราเอลจะปกครองผู้ที่เคยกดขี่ข่มเหงพวกเขา

3 ในวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้เจ้าพ้นจากความทุกข์ทรมาน ความชุลมุนวุ่นวาย และพันธนาการอันโหดร้าย

4 เจ้าจะเย้ยหยันกษัตริย์บาบิโลนดังนี้ว่า

ผู้กดขี่ข่มเหงมาถึงจุดจบได้อย่างไรหนอ!

ความเกรี้ยวกราดของเขาสิ้นสุดลงได้อย่างไร!

5 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหักไม้เรียวของคนชั่วร้าย

ทรงหักคทาของผู้ครอบครอง

6 ซึ่งกระหน่ำตีชาติต่างๆ อย่างไม่หยุดยั้ง

ด้วยแรงโทสะ

และปราบนานาประเทศ

ด้วยการจู่โจมอย่างอำมหิต

7 ดินแดนทั้งปวงก็หยุดพักและสงบสุข

พวกเขาเปล่งเสียงร้องเพลง

8 แม้แต่ต้นสนต่างๆ และสนซีดาร์แห่งเลบานอน

ก็เปรมปรีดิ์และกล่าวว่า

“เดี๋ยวนี้เจ้าตกต่ำแล้ว

ก็ไม่มีคนตัดไม้มาโค่นเรา”

9 แดนมรณะเบื้องล่าง

ลุกขึ้นต้อนรับเจ้า

มันปลุกวิญญาณของบรรดาผู้ที่จากไปให้มาทักทายเจ้า

คือผู้ที่เคยเป็นผู้นำของโลก

มันทำให้เหล่ากษัตริย์ผู้เคยปกครองเหนือบรรดาประชาชาติ

ลุกขึ้นมาจากบัลลังก์ของพวกเขา

10 พวกเขาจะร้องออกมา

เป็นเสียงเดียวกันว่า

“บัดนี้ท่านก็อ่อนแอเหมือนพวกเรา

ท่านกลับกลายเป็นเหมือนเรา”

11 ความลำพองของเจ้าลงไปในหลุม

พร้อมกับเสียงพิณของเจ้า

หนอนยั้วเยี้ยอยู่ใต้ร่างของเจ้า

และไส้เดือนปกคลุมตัวเจ้า

12 โอ ดาวประจำรุ่ง โอรสแห่งรุ่งอรุณ!

เจ้าร่วงลงมาจากฟ้าสวรรค์แล้วสิหนา

ครั้งหนึ่งเจ้าเคยปราบประชาชาติต่างๆ ให้ตกต่ำ

แต่บัดนี้เจ้าถูกเหวี่ยงทิ้งลงมายังโลกเสียแล้ว!

13 เจ้ารำพึงว่า

“เราจะขึ้นไปสวรรค์

เราจะยกบัลลังก์ของเราขึ้น

เหนือดวงดาราทั้งปวงของพระเจ้า

เราจะครอบครองเหนือภูเขาแห่งการชุมนุม

บนยอดสูงสุดของภูเขาศักดิ์สิทธิ์

14 เราจะขึ้นไปเหนือเมฆ

เราจะตีเสมอองค์ผู้สูงสุด”

15 แต่เจ้าถูกนำลงมาสู่หลุมฝังศพ

มาสู่ห้วงเหวลึก

16 บรรดาผู้ที่เห็นเจ้าก็จ้องมอง

และใคร่ครวญชะตาของเจ้าว่า

“นี่หรือผู้เขย่าโลก

และทำให้อาณาจักรต่างๆ สั่นสะท้าน?

17 นี่หรือผู้ที่ทำให้โลกเป็นถิ่นกันดาร

ผู้ล้มล้างนครต่างๆ

และไม่ยอมปล่อยเชลยกลับคืนถิ่น?”

18 บรรดากษัตริย์ชาติต่างๆ

นอนอยู่ในหลุมฝังศพของตนอย่างสมเกียรติ

19 แต่ร่างของเจ้าถูกเหวี่ยงทิ้งออกมา

เหมือนกิ่งไม้หัก

ถูกทับถมด้วยร่างของคนที่ถูกฆ่า

ผู้ตายด้วยคมดาบ

ผู้ลงไปสู่พื้นหินของเหว

ดั่งศพที่ถูกเหยียบย่ำ

20 เจ้าจะไม่ได้รับการฝังศพอย่างพวกเขา

เพราะเจ้าได้ทำลายล้างดินแดนของเจ้า

และเข่นฆ่าประชากรของเจ้า

ลูกหลานของคนชั่วร้าย

จะไม่ถูกเอ่ยถึงอีกเลย

21 จงเตรียมที่สำหรับประหารลูกๆ ของเขา

เพราะบาปของบรรพบุรุษ

พวกเขาไม่ได้ขึ้นมาครอบครองดินแดนนั้น

ไม่ได้สร้างเมืองบนแผ่นดินโลก

22 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า

“เราจะลุกขึ้นมาต่อสู้พวกเขา

เราจะตัดชื่อคนที่เหลืออยู่

ทั้งเชื้อสายและวงศ์วานออกจากบาบิโลน”

องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

23 “เราจะทำให้บาบิโลนกลับกลายเป็นถิ่นนกเค้าแมว

เต็มไปด้วยหนองบึงและปลักโคลน

เราจะกวาดดินแดนนี้ด้วยไม้กวาดแห่งหายนะ”

พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น

คำพยากรณ์กล่าวโทษอัสซีเรีย

24 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ทรงปฏิญาณไว้ว่า

“เราวางแผนไว้อย่างไร มันจะเป็นอย่างนั้นแน่นอน

และเราประสงค์อย่างไร มันจะเกิดขึ้นตามนั้น

25 เราจะขยี้ทัพอัสซีเรียในดินแดนของเรา

เราจะเหยียบเขาลงที่ภูเขาของเรา

เราจะกำจัดแอกจากประชากรของเรา

และขจัดภาระจากบ่าของพวกเขา”

26 นี่เป็นแผนการที่กำหนดไว้สำหรับโลกทั้งโลก

นี่คือพระหัตถ์ซึ่งเงื้อขึ้นเหนือประชาชาติทั้งปวง

27 เพราะพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ได้ทรงกำหนดไว้ ใครเล่าจะพลิกผันได้?

พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์ออกมา ใครเล่าจะทำให้พระองค์ทรงหดพระหัตถ์กลับไป?

คำพยากรณ์กล่าวโทษฟีลิสเตีย

28 ในปีที่กษัตริย์อาหัสสิ้นพระชนม์ มีพระดำรัสจากพระเจ้าดังนี้ว่า

29 ชาวฟีลิสเตียทั้งปวงเอ๋ย อย่ากระหยิ่มยิ้มย่อง

ว่าไม้เรียวที่ฟาดเจ้านั้นหักแล้ว

จากรากเหง้าของงูตัวนั้นจะเกิดงูพิษ

เป็นงูเห่าพิษร้ายซึ่งแว้งกัด

30 ผู้ยากไร้ที่สุดจะพบทุ่งหญ้า

และคนขัดสนจะเอนกายลงอย่างปลอดภัย

แต่เราจะทำลายล้างรากเหง้าของเจ้าด้วยการกันดารอาหาร

ซึ่งจะผลาญชีวิตพวกเจ้าที่เหลือรอด

31 ประตูเมืองเอ๋ย จงร้องไห้เถิด! นครเอ๋ย จงคร่ำครวญเถิด!

ชาวฟีลิสเตียทั้งปวง จงกลัวจนหัวหดไป!

ควันโขมงขึ้นจากทิศเหนือ

และแถวต่างๆ ที่ดาหน้าเข้ามาไม่มีล้าหลังสักคนเดียว

32 จะตอบทูตของประชาชาตินั้นว่าอย่างไร?

ก็ว่า

“องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสถาปนาศิโยนไว้

และคนที่ทุกข์ลำเค็ญในเมืองนั้นจะพบที่พักพิง”

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/14-56005c6a8efa0452e9a74d04e587c3bb.mp3?version_id=179—

อิสยาห์ 15

คำพยากรณ์กล่าวโทษโมอับ

1 พระดำรัสเกี่ยวกับโมอับมีดังนี้

นครอาร์ในโมอับถูกทำลาย

ย่อยยับในคืนเดียว!

นครคีร์ในโมอับถูกทำลาย

ย่อยยับในคืนเดียว!

2 ดีโบนขึ้นไปยังวิหาร

ขึ้นไปบนที่สูงทั้งหลายเพื่อร่ำไห้

โมอับไว้อาลัยให้เนโบและเมเดบา

ทุกคนโกนศีรษะเลี่ยน

ทุกคนโกนหนวดเคราเกลี้ยง

3 ตามท้องถนน ผู้คนสวมผ้ากระสอบ

บนหลังคาและตามลานเมือง

ทุกคนร้องคร่ำครวญ

และหมอบร่ำไห้

4 เฮชโบนและเอเลอาเลห์ส่งเสียงร้อง

ได้ยินไปไกลถึงยาฮาส

ฉะนั้นพลรบของโมอับร้องออกมา

และหัวใจก็ระทดท้อ

5 ดวงใจของเราร่ำไห้ให้กับโมอับ

ผู้ลี้ภัยของเขาเตลิดหนีไปไกลถึงโศอาร์

ไกลถึงเอกลัทเชลีชิยาห์

พวกเขาขึ้นไปตามทางสู่ลูฮีท

ไปพลางร้องไห้พลาง

พวกเขาคร่ำครวญเกี่ยวกับความย่อยยับของตน

ไปตลอดทางสู่โฮโรนาอิม

6 ลำน้ำนิมริมแห้งเหือด

และหญ้าก็เหี่ยวเฉา

พืชพันธุ์หมดสิ้น

และไม่มีความเขียวขจีเหลืออยู่

7 ดังนั้นทรัพย์สินที่พวกเขาหามาได้และเก็บสะสมไว้

พวกเขาก็แบกข้ามลำห้วยของหมู่ต้นปอปลาร์ไป

8 เสียงร้องของพวกเขาดังก้องไปตลอดชายแดนโมอับ

เสียงโอดครวญของพวกเขาไปไกลถึงเอกลาอิม

เสียงคร่ำครวญหวนไห้ดังไปถึงเบเออร์เอลิม

9 ห้วงน้ำของดีโมนจะแดงฉานไปด้วยเลือด

แต่เรายังจะลงมือกับดีโมนต่อไปอีก

สิงโตตัวหนึ่งจะตามล่าทั้งผู้ลี้ภัยชาวโมอับ

และไล่ล่าผู้ที่ยังอยู่ในดินแดน

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/15-7f192c1ebd5853fbb22ae1c0d3001036.mp3?version_id=179—

อิสยาห์ 16

1 จงส่งลูกแกะมาเป็นเครื่องบรรณาการ

แด่ผู้ครอบครองดินแดน

ส่งมาจากเสลา ข้ามถิ่นกันดาร

มายังภูเขาของธิดาแห่งศิโยน

2 บรรดาผู้หญิงของโมอับ

ถูกปล่อยไว้ริมตลิ่งของแม่น้ำอารโนน

เหมือนนกกระพือปีก

ซึ่งถูกผลักจากรัง

3 “โปรดให้คำปรึกษา

และช่วยตัดสินใจ

ในยามเที่ยงวันโปรดให้ร่มเงา

ดั่งยามค่ำคืน

โปรดให้ที่ซ่อนแก่ผู้หนีภัย

อย่าทรยศหักหลังผู้ลี้ภัย

4 ขอให้ผู้ลี้ภัยชาวโมอับพักอยู่กับท่าน

ขอเป็นที่พักพิงให้พวกเขาพ้นจากผู้ทำลาย”

ผู้กดขี่จะถึงจุดจบ

และความพินาศย่อยยับจะยุติลง

ผู้กดขี่ข่มเหงจะหมดสิ้นไปจากดินแดน

5 ราชบัลลังก์หนึ่งจะได้รับการสถาปนาขึ้นด้วยความรัก

ผู้หนึ่งจากวงศ์วานของดาวิด

จะนั่งบนบัลลังก์นั้นด้วยความซื่อสัตย์

เป็นผู้ตัดสินอย่างยุติธรรม

และส่งเสริมความชอบธรรม

6 เราได้ยินถึงความหยิ่งทะนงของโมอับ

ความอวดดี ความจองหอง

ความเย่อหยิ่ง และความโอหัง

แต่คำโอ้อวดของโมอับก็ว่างเปล่า

7 ฉะนั้นชาวโมอับจึงพากันร่ำไห้ให้กับแผ่นดินโมอับ

และร้องไห้คร่ำครวญให้แก่ผู้คนของคีร์หะเรเสท

8 ท้องทุ่งแห่งเฮชโบนก็เหี่ยวเฉา

เช่นเดียวกับเถาองุ่นของสิบมาห์

บรรดาผู้ครอบครองชาติต่างๆ

ได้เหยียบย่ำเถาองุ่นที่ดีที่สุด

ซึ่งครั้งหนึ่งเคยงอกงามไปถึงยาเซอร์

แพร่ขยายไปถึงถิ่นกันดาร

แตกหน่อผลิผล

ไปไกลถึงทะเล

9 ฉะนั้นเราจึงร่ำไห้เหมือนที่ยาเซอร์ร่ำไห้

ให้กับเถาองุ่นแห่งสิบมาห์

เฮชโบนเอ๋ย เอเลอาเลห์เอ๋ย

เราหลั่งน้ำตาให้เจ้าจนเปียกชุ่ม!

เสียงโห่ร้องยินดีเมื่อรวบรวมผลไม้สุกงอม

และเมื่อเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหารของเจ้านั้นก็เงียบไปแล้ว

10 ความรื่นเริงยินดีสูญสิ้นไปจากสวนผลไม้

ไม่มีใครร้องเพลงหรือโห่ร้องในไร่องุ่น

ไม่มีใครย่ำองุ่นที่บ่อย่ำเหล้าองุ่นอีกต่อไป

เพราะเราได้ยุติเสียงโห่ร้องนั้นแล้ว

11 ดวงใจของเราคร่ำครวญเพื่อโมอับดั่งเสียงพิณ

ส่วนลึกของจิตใจอาลัยคีร์หะเรเสท

12 เมื่อโมอับขึ้นไปยังสถานบูชาบนที่สูง

ก็เหนื่อยเปล่า

เมื่อขึ้นไปสวดวิงวอนที่เทวสถาน

ก็เปล่าประโยชน์

13 องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสเกี่ยวกับโมอับไว้เช่นนี้แหละ

14 บัดนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ภายในสามปี ตามปีของสัญญาว่าจ้างแรงงาน ความโอ่อ่าตระการและประชากรทั้งปวงของโมอับจะถูกเหยียดลง และผู้ที่รอดชีวิตอยู่ก็มีน้อยคนและอ่อนระโหยโรยแรง”

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/16-61235b1043c1d348b0aaad9a27ebbb4b.mp3?version_id=179—

อิสยาห์ 17

พระดำรัสกล่าวโทษดามัสกัส

1 พระดำรัสเกี่ยวกับดามัสกัสมีดังนี้ว่า

“ดูเถิด ดามัสกัสจะไม่เป็นนครอีกต่อไป

แต่จะกลายเป็นซากปรักหักพัง

2 นครต่างๆ ของอาโรเออร์จะถูกทิ้งร้าง

ทิ้งไว้ให้ฝูงแพะแกะซึ่งจะนอนลงที่นั่น

และไม่มีใครทำให้พวกมันตกใจกลัว

3 เมืองป้อมปราการจะสาบสูญไปจากเอฟราอิม

และอำนาจของดามัสกัสจะสิ้นสุดลง

ชนที่เหลืออยู่ของอารัมจะเป็นเหมือนศักดิ์ศรีของอิสราเอล”

พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น

4 “ในวันนั้นศักดิ์ศรีของยาโคบจะโรยรา

ความอ้วนพีแห่งเรือนร่างของเขาจะหายไป

5 จะเป็นเหมือนเวลาที่มีคนมาเกี่ยวข้าวที่ชูรวง

และแขนของเขาโอบฟ่อนข้าวไว้

เหมือนเวลาที่คนเก็บเศษรวงข้าวที่ตกอยู่

ในหุบเขาเรฟาอิม

6 ถึงกระนั้นก็ยังมีบางส่วนเหลืออยู่

เหมือนเมื่อใช้ไม้ฟาดต้นมะกอก

ก็ยังมีเหลืออยู่สองสามผลบนยอดสูง

หรือสี่ห้าผลบนกิ่งผลดก”

พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล

ประกาศดังนั้น

7 ในวันนั้นคนทั้งหลายจะมุ่งมององค์พระผู้สร้างของตน

และหันมาจับตามองที่องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

8 พวกเขาจะไม่มุ่งมองแท่นบูชาต่างๆ

อันเป็นฝีมือสร้างของตน

พวกเขาจะไม่เคารพนับถือเสาเจ้าแม่อาเชราห์

และแท่นเผาเครื่องหอมซึ่งตนสร้างขึ้นกับมือ

9 ในวันนั้นนครต่างๆ ที่เข้มแข็งซึ่งพวกเขาทิ้งไว้เพราะชาวอิสราเอลจะเป็นเหมือนที่ร้าง และมีพุ่มไม้น้อยใหญ่ขึ้นรกไปหมด และทุกสิ่งจะถูกทิ้งร้าง

10 เจ้าได้หลงลืมพระเจ้าองค์พระผู้ช่วยให้รอดของเจ้า

เจ้าไม่ได้ระลึกถึงพระศิลาผู้เป็นป้อมปราการของเจ้า

ฉะนั้นถึงแม้ว่าพวกเจ้าปลูกพืชพันธุ์ที่ดีที่สุด

และปลูกเถาองุ่นจากต่างแดน

11 แม้เจ้าทำให้มันงอกในวันเดียวกับที่เจ้าปลูกได้

และทำให้มันผลิตาในเช้าวันที่เจ้าลงต้นได้

ถึงอย่างนั้นก็จะไม่ได้เก็บเกี่ยวสิ่งใด

ในวันแห่งโรคภัยและความเจ็บปวดที่เกินเยียวยาได้

12 แน่ะ เสียงกระหึ่มของประชาชาติทั้งหลาย

กึกก้องดั่งทะเลคึกคะนอง!

เสียงคำรามของชนชาติต่างๆ ดังสนั่น

คล้ายกับทะเลคำราม!

13 แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาคำรามลั่นเหมือนเสียงน้ำบ่า

เมื่อพระเจ้าตรัสกำราบ พวกเขาก็หนีกระเจิดกระเจิง

เหมือนแกลบต้องลมบนเนินเขา

เหมือนหญ้าที่ถูกพายุพัดกระหน่ำ

14 ในยามเย็นมีความสยดสยองฉับพลัน!

ก่อนรุ่งสางพวกเขาก็จากไปแล้ว!

นี่คือส่วนของผู้ที่ปล้น

และแย่งชิงของของเราไป

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/17-a75dcc0a4f798a88e80595c773c2e7e0.mp3?version_id=179—