เลวีนิติ 16

วันลบบาป

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสหลังจากที่บุตรชายสองคนของอาโรนสิ้นชีวิตเมื่อพวกเขาเข้ามาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า

2 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงเตือนอาโรนพี่ชายของเจ้าไม่ให้เข้าไปในอภิสุทธิสถานหลังม่านซึ่งอยู่เบื้องหน้าพระที่นั่งกรุณาที่อยู่บนหีบพันธสัญญาตามอำเภอใจ มิฉะนั้นเขาจะต้องตาย เพราะเราจะปรากฏในกลุ่มเมฆเหนือพระที่นั่งกรุณา

3 “ต่อไปนี้เป็นข้อปฏิบัติในการที่อาโรนจะเข้าไปยังบริเวณสถานนมัสการ เขาจะต้องนำวัวหนุ่มสำหรับเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปและแกะผู้สำหรับเป็นเครื่องเผาบูชาไป

4 เขาต้องสวมเสื้อตัวในอันบริสุทธิ์ที่ทำด้วยผ้าลินินกับเครื่องแต่งกายชั้นในผ้าลินินที่ติดกับร่างกายของเขา คาดสายคาดเอวลินิน และโพกศีรษะด้วยผ้าลินิน นี่เป็นเครื่องแต่งกายอันบริสุทธิ์ ดังนั้นเขาต้องอาบน้ำก่อนที่จะสวมใส่

5 ให้เขารับแพะผู้สองตัวสำหรับเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และแกะผู้หนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชาจากชุมชนอิสราเอล

6 “ให้อาโรนถวายวัวหนุ่มหนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป เพื่อลบบาปให้ตนเองและครอบครัว

7 จากนั้นจะนำแพะสองตัวมาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ

8 เขาจะต้องจับฉลากสำหรับแพะทั้งสองนั้น ฉลากอันหนึ่งสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้าและอีกอันหนึ่งสำหรับแพะรับบาป

9 อาโรนจะถวายแพะตัวที่ใช้ถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป

10 แต่แพะที่ได้รับเลือกโดยฉลากให้เป็นแพะรับบาปจะถูกนำมาถวายทั้งที่ยังมีชีวิตต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อเป็นการลบบาป โดยส่งมันเข้าไปในถิ่นกันดารเป็นแพะรับบาป

11 “อาโรนจะนำวัวหนุ่มมาฆ่าเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปเพื่อลบบาปให้ตนเองและครอบครัว

12 เขาจะเอากระถางไฟบรรจุถ่านคุโชนจากแท่นบูชาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและกอบผงเครื่องหอมซึ่งบดละเอียดสองกำมือนำเข้าไปหลังม่าน

13 เขาจะโรยเครื่องหอมบนไฟต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ควันเครื่องหอมปกคลุมทั่วพระที่นั่งกรุณาเหนือหีบพันธสัญญา เพื่อว่าเขาจะไม่ตาย

14 เขาจะนำเลือดบางส่วนของวัวหนุ่มเข้าไปและใช้นิ้วพรมบนด้านหน้าของพระที่นั่งกรุณาเจ็ดครั้ง

15 “แล้วอาโรนจะฆ่าแพะเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับประชากร และนำเลือดของมันเข้าไปหลังม่าน แล้วทำเช่นเดียวกับที่ทำกับเลือดวัวผู้คือ เขาจะพรมเลือดนั้นที่ข้างบนและข้างหน้าของพระที่นั่งกรุณา

16 เขาจะลบบาปสำหรับอภิสุทธิสถานด้วยวิธีนี้เพราะมลทินและการกบฏของชาวอิสราเอล ไม่ว่าบาปของเขาจะเป็นอะไร เขาจะต้องทำอย่างเดียวกันนี้สำหรับเต็นท์นัดพบซึ่งอยู่ท่ามกลางพวกเขา ซึ่งแวดล้อมด้วยมลทินของพวกเขา

17 ห้ามผู้ใดอยู่ในเต็นท์นัดพบขณะที่อาโรนเข้าไปทำการลบบาปในอภิสุทธิสถาน จนกว่าเขาจะออกมาอีกครั้งหลังจากลบบาปให้ตนเอง ให้ครอบครัวและชุมชนอิสราเอลทั้งหมดแล้ว

18 “จากนั้นอาโรนจะไปยังแท่นบูชา คือต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและทำการลบบาปสำหรับแท่นนั้น เขาจะเอาเลือดวัวผู้และเลือดแพะบางส่วนทาที่เชิงงอนของแท่น

19 แล้วเอานิ้วจุ่มเลือดพรมบนแท่นบูชาเจ็ดครั้ง เป็นการชำระแท่นนั้นให้บริสุทธิ์พ้นจากมลทินของชนอิสราเอล

20 “เมื่ออาโรนลบบาปสำหรับอภิสุทธิสถาน เต็นท์นัดพบ และแท่นบูชาเสร็จแล้ว เขาจะนำแพะที่มีชีวิตตัวนั้นมา

21 วางมือทั้งสองบนหัวแพะ สารภาพความชั่วร้ายและการละเมิดฝ่าฝืนของชนอิสราเอล ปลดเปลื้องบาปทั้งหมดลงบนแพะ แล้วมอบหมายให้ชายคนหนึ่งจูงแพะเข้าไปในถิ่นกันดาร

22 แพะตัวนั้นจะแบกรับบาปทั้งหมดของเหล่าประชากรเข้าสู่ที่เปลี่ยว ชายผู้นั้นจะปล่อยมันไว้ในถิ่นกันดาร

23 “จากนั้นให้อาโรนเข้าไปในเต็นท์นัดพบ ถอดชุดผ้าลินินซึ่งใช้สวมเข้าไปในอภิสุทธิสถานนั้นวางไว้ในเต็นท์นัดพบ

24 แล้วอาบน้ำชำระกายในที่บริสุทธิ์ สวมเสื้อผ้าชุดปกติ แล้วออกไปถวายเครื่องเผาบูชาสำหรับตนเองและเครื่องเผาบูชาสำหรับประชากร เพื่อลบบาปให้ตนเองและประชากร

25 เขาจะเผาไขมันของเครื่องบูชาไถ่บาปบนแท่นบูชาด้วย

26 “ชายคนที่จูงแพะเข้าไปปล่อยในถิ่นกันดารเสร็จแล้ว ต้องอาบน้ำ ซักเสื้อผ้า แล้วกลับเข้ามาในค่ายพัก

27 วัวหนุ่มและแพะซึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป ซึ่งอาโรนนำเลือดของมันเข้าไปในอภิสุทธิสถานเพื่อทำการลบบาป จะถูกนำไปเผาให้หมดนอกค่ายพัก รวมทั้งหนัง เนื้อ และไส้

28 แล้วผู้ทำหน้าที่เผาต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และค่อยกลับมาที่ค่ายพัก

29 “ต่อไปนี้เป็นข้อปฏิบัติถาวรสำหรับเจ้าคือ ห้ามเจ้าทำกิจธุระในวันที่สิบเดือนที่เจ็ด แต่จงบังคับตนไม่ว่าจะเป็นคนอิสราเอลโดยกำเนิดหรือเป็นคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้า

30 เพราะในวันนี้จะมีการลบบาปสำหรับเจ้า เพื่อชำระเจ้าให้สะอาด แล้วเจ้าจะสะอาดพ้นจากบาปทั้งสิ้นต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

31 เป็นสะบาโตแห่งการหยุดพัก เจ้าต้องบังคับตน ถือเป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุ

32 ปุโรหิตซึ่งได้รับการเจิมและสถาปนาให้เป็นมหาปุโรหิตสืบทอดจากบิดาจะเป็นผู้ลบบาป เขาจะต้องสวมชุดบริสุทธิ์ที่ทำจากผ้าลินิน

33 และลบบาปสำหรับอภิสุทธิสถาน เต็นท์นัดพบ และแท่นบูชา สำหรับปุโรหิตและประชากรทั้งปวงในชุมชน

34 “นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสำหรับเจ้าทั้งหลายสืบไปคือ ให้ลบบาปทั้งสิ้นสำหรับประชากรอิสราเอลปีละครั้ง”

และเขาก็ทำตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสสไว้

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/16-64ec4d89f1a0487004b4049516f1de38.mp3?version_id=179—

เลวีนิติ 17

ห้ามกินเลือด

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

2 “จงกล่าวแก่อาโรนกับบรรดาบุตรชายและปวงชนอิสราเอลว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาไว้ดังนี้ว่า

3 ชาวอิสราเอลคนใดถวายวัวลูกแกะหรือแพะในค่ายหรือนอกค่าย

4 แทนที่จะนำมาที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ เพื่อถวายเป็นเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าหน้าพลับพลาขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ถือว่าชายคนนั้นได้ทำผิดในเรื่องทำให้โลหิตตก และจะถูกตัดออกจากหมู่ประชากรของเขา

5 กฎข้อนี้มีไว้เพื่อให้ชนอิสราเอลเลิกถวายเครื่องบูชากลางแจ้ง พวกเขาต้องนำมาให้ปุโรหิต นั่นคือนำมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ แล้วเผาถวายเป็นเครื่องสันติบูชา

6 ปุโรหิตจะพรมเลือดบนแท่นบูชาตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ และเผาไขมันเป็นกลิ่นหอมซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย

7 ประชากรจะได้เลิกถวายเครื่องบูชาแก่เทวรูปแพะอันเป็นการทำตัวแพศยา นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสำหรับเจ้าทั้งหลายสืบไปทุกชั่วอายุ’

8 “จงกล่าวแก่พวกเขาว่า ‘เราขอย้ำว่าผู้ใดก็ตามไม่ว่าชาวอิสราเอลหรือคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเขาที่ถวายเครื่องเผาบูชาหรือเครื่องบูชาในที่อื่น

9 และไม่ได้นำมาตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบเพื่อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะต้องถูกตัดออกจากหมู่ประชากรของเขา

10 “ ‘เราจะเป็นปฏิปักษ์กับทุกคนที่กินเลือดทุกชนิด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นคนอิสราเอลหรือคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเขา เราจะตัดคนนั้นออกจากหมู่ประชากรของเขา

11 เพราะชีวิตของสิ่งมีชีวิตอยู่ในเลือด และเราได้ให้เลือดแก่เจ้าเพื่อลบบาปสำหรับตัวเจ้าบนแท่นบูชา เลือดนั้นเองที่ได้ลบบาปสำหรับชีวิตของคนๆ หนึ่ง

12 ฉะนั้นเราจึงสั่งชาวอิสราเอลว่า “พวกเจ้าและคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้าจะต้องไม่กินเลือด”

13 “ ‘ใครก็ตาม ไม่ว่าชาวอิสราเอลหรือคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้าที่ล่าสัตว์ แล้วฆ่าสัตว์หรือนกที่อนุญาตให้เป็นอาหารได้ จะต้องรินเลือดออกมาแล้วเอาดินกลบ

14 เพราะชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกอย่างคือเลือด นั่นเป็นเหตุที่เราพูดกับชาวอิสราเอลว่า “เจ้าจะต้องไม่กินเลือดของสิ่งมีชีวิตใดๆ เพราะชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดคือเลือดของมัน ผู้ใดกินเลือดจะต้องถูกตัดออก”

15 “ ‘ผู้ใดไม่ว่าคนอิสราเอลโดยกำเนิดหรือคนต่างด้าว ซึ่งกินซากของสัตว์ใดที่ตายเองหรือถูกสัตว์ร้ายฆ่าตาย จะต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และเป็นมลทินตามระเบียบพิธีจนถึงเวลาเย็น แล้วเขาจึงจะสะอาด

16 แต่หากเขาไม่อาบน้ำและซักเสื้อผ้า เขาจะต้องรับผิดชอบ’ ”

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/17-c0dee26997acc0ed459619fe02b8a09b.mp3?version_id=179—

เลวีนิติ 18

ความสัมพันธ์ทางเพศที่ผิดธรรมบัญญัติ

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

2 “ให้แจ้งชนอิสราเอลว่า ‘เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

3 เจ้าอย่าประพฤติตนตามอย่างชาวอียิปต์ซึ่งเจ้าทั้งหลายเคยอาศัยอยู่ด้วย และเจ้าอย่าทำอย่างชาวคานาอันในดินแดนซึ่งเรากำลังจะพาพวกเจ้าไป อย่าทำตามอย่างพวกเขา

4 จงเชื่อฟังบทบัญญัติของเราและใส่ใจทำตามกฎหมายของเรา เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

5 จงทำตามกฎหมายและบทบัญญัติของเรา เพราะผู้ใดที่เชื่อฟังจะมีชีวิตอยู่โดยสิ่งเหล่านี้ เราคือพระยาห์เวห์

6 “ ‘อย่าให้ผู้ใดในพวกเจ้าเข้าหาและมีเพศสัมพันธ์กับญาติสนิท เราคือพระยาห์เวห์

7 “ ‘อย่าทำให้บิดาอับอายขายหน้าโดยมีเพศสัมพันธ์กับมารดาของเจ้า นางเป็นมารดาของเจ้า อย่ามีเพศสัมพันธ์กับนาง

8 “ ‘อย่าทำให้บิดาอับอายขายหน้าโดยมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของบิดา

9 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับพี่สาวน้องสาวของเจ้า ไม่ว่าจะเป็นลูกสาวของบิดาหรือของมารดาเจ้า ไม่ว่าเกิดในบ้านเดียวกันหรือเกิดคนละที่

10 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับหลานสาวของเจ้าซึ่งทำให้ตัวเจ้าเองอับอายขายหน้า

11 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับลูกสาวของภรรยาของบิดาซึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของบิดาเจ้า เพราะนางคือพี่น้องของเจ้า

12 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับป้าหรืออาเพราะเป็นญาติสนิทของบิดาเจ้า

13 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับป้าหรือน้าเพราะเป็นญาติสนิทของมารดาเจ้า

14 “ ‘อย่าทำให้พี่ชายหรือน้องชายของบิดาเจ้าอับอายขายหน้า โดยมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของเขา เพราะนางเป็นป้าสะใภ้หรืออาสะใภ้ของเจ้า

15 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับบุตรสะใภ้ของเจ้า นางเป็นภรรยาของบุตรชายของเจ้า อย่ามีเพศสัมพันธ์กับนาง

16 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของพี่ชายหรือของน้องชายเจ้าเพราะนั่นทำให้พี่น้องของเจ้าอับอายขายหน้า

17 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับหญิงคนใดและกับลูกสาวของนาง และอย่ามีเพศสัมพันธ์กับหลานสาวของนาง เพราะหญิงเหล่านั้นเป็นญาติสนิทของนาง การทำเช่นนั้นเป็นความชั่ว

18 “ ‘อย่าเอาพี่สาวหรือน้องสาวของภรรยาของเจ้ามาเป็นคู่แข่งของนาง อย่ามีเพศสัมพันธ์กับพี่น้องของภรรยา ขณะที่ภรรยายังมีชีวิตอยู่

19 “ ‘อย่าเข้าหาเพื่อมีเพศสัมพันธ์กับหญิงที่กำลังมีประจำเดือน

20 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของเพื่อนบ้าน อันเป็นการสร้างมลทินแก่ตัวเองร่วมกับนาง

21 “ ‘อย่าเอาลูกหลานลุยไฟเซ่นบูชาพระโมเลค อย่าหมิ่นประมาทพระนามพระเจ้าของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์

22 “ ‘อย่าสมสู่รักร่วมเพศอันเป็นสิ่งน่ารังเกียจเดียดฉันท์

23 “ ‘อย่าสมสู่กับสัตว์ทำให้ตัวเองเป็นมลทิน ผู้หญิงก็ห้ามทอดกายให้สัตว์สมสู่ด้วย นั่นเป็นความวิปริต

24 “ ‘อย่าทำตัวให้มีมลทินด้วยเหตุใดๆ ในข้อเหล่านี้ ซึ่งเป็นการกระทำของชนชาติต่างๆ ซึ่งเรากำลังจะขับไล่ออกไปให้พ้นหน้าเจ้า

25 ทั่วดินแดนนั้นแปดเปื้อนมลทิน เราจึงลงโทษบาปของเขาเหล่านั้นและแผ่นดินกำลังสำรอกผู้ที่อาศัยอยู่ที่นั่นออกมา

26 แต่เจ้าต้องถือรักษากฎหมายและบทบัญญัติของเรา ทั้งชนอิสราเอลโดยกำเนิดและคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้า จะต้องไม่ทำสิ่งที่น่ารังเกียจเหล่านี้

27 เพราะประชาชนในดินแดนตรงหน้าเจ้าได้ทำสิ่งเหล่านี้ แผ่นดินนั้นจึงเป็นมลทิน

28 และหากเจ้าทำให้แผ่นดินเป็นมลทิน แผ่นดินนั้นก็จะสำรอกพวกเจ้าออกมา เหมือนที่ได้สำรอกชนชาติต่างๆ ออกมาก่อนหน้าเจ้า

29 “ ‘ทุกคนที่ทำสิ่งน่ารังเกียจอย่างใดอย่างหนึ่งเหล่านี้ จะต้องถูกตัดออกจากหมู่ประชากรของเขา

30 ฉะนั้นจงปฏิบัติตามข้อกำหนดของเรา อย่าดำเนินตามเยี่ยงอย่างอันน่ารังเกียจเหล่านี้ ซึ่งทำกันอยู่ก่อนหน้าพวกเจ้าเข้ามา อย่าทำตัวแปดเปื้อนไปกับพวกเขา เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า’ ”

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/18-446a960d69ca0f64ab5525bec5d59d36.mp3?version_id=179—

เลวีนิติ 19

บทบัญญัติต่าง ๆ

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

2 “จงแจ้งชุมชนอิสราเอลทั้งหมดว่า ‘เจ้าทั้งหลายจงบริสุทธิ์เพราะเราคือพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์

3 “ ‘เจ้าทุกคนจะต้องเคารพบิดามารดา และถือรักษาสะบาโตของเรา เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

4 “ ‘อย่าหันไปหาหรือกราบไหว้รูปเคารพ หรือหล่อโลหะเป็นพระสำหรับเจ้า เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

5 “ ‘เมื่อเจ้าถวายเครื่องสันติบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าจงทำอย่างถูกต้องเพื่อจะเป็นที่ยอมรับแทนตัวเจ้า

6 จงกินในวันที่ถวายนั้นหรือในวันรุ่งขึ้น ส่วนใดที่เหลือค้างถึงวันที่สามต้องเผาทิ้ง

7 ถ้านำมากินในวันที่สามก็เป็นสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ และเราจะไม่ยอมรับ

8 ใครก็ตามที่กินจะต้องรับผิดชอบ เพราะเขาได้ทำให้สิ่งที่บริสุทธิ์แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นมลทิน บุคคลนั้นจะต้องถูกตัดออกจากหมู่ประชากรของเขา

9 “ ‘เมื่อเจ้าเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหาร อย่าเก็บเกี่ยวจนถึงขอบนา และอย่าเก็บเมล็ดข้าวซึ่งตกเกลื่อนตามพื้นดิน

10 อย่าเก็บผลองุ่นซ้ำเป็นรอบสอง หรือเก็บที่หล่นอยู่ตามพื้น จงปล่อยไว้เป็นส่วนของคนยากจนและคนต่างด้าว เพราะเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

11 “ ‘อย่าลักขโมย

“ ‘อย่าโกหก

“ ‘อย่าหลอกลวงซึ่งกันและกัน

12 “ ‘อย่าสาบานเท็จโดยอ้างนามของเรา นั่นเป็นการลบหลู่พระนามพระเจ้าของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์

13 “ ‘อย่าปล้นชิงหรือเอารัดเอาเปรียบเพื่อนบ้าน

“ ‘อย่าหน่วงเหนี่ยวค่าแรงลูกจ้างไว้จนถึงรุ่งเช้า

14 “ ‘อย่าแช่งด่าคนหูหนวก หรือกลั่นแกล้งคนตาบอดให้เดินสะดุด แต่จงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์

15 “ ‘อย่าบิดเบือนความยุติธรรม อย่าลำเอียงเข้าข้างคนจนหรือคนใหญ่คนโต แต่จงตัดสินความอย่างเที่ยงธรรม

16 “ ‘อย่าเที่ยวซุบซิบนินทาว่าร้ายในหมู่ประชากรของเจ้า

“ ‘อย่ามุ่งร้ายหมายขวัญเพื่อนบ้าน เราคือพระยาห์เวห์

17 “ ‘อย่ามีใจเกลียดชังพี่น้องของเจ้า จงตักเตือนเพื่อนบ้านอย่างตรงไปตรงมา เพื่อเจ้าจะไม่ต้องมีส่วนร่วมในความผิดของเขา

18 “ ‘อย่าหาทางแก้แค้นหรืออาฆาตจองเวรคนใดในหมู่ประชากรของเจ้า แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง เราคือพระยาห์เวห์

19 “ ‘จงรักษากฎหมายของเรา

“ ‘อย่าผสมพันธุ์สัตว์ต่างชนิดกัน

“ ‘อย่าหว่านเมล็ดพืชต่างพันธุ์ปนเปกันในที่ดินของเจ้า

“ ‘อย่าสวมเสื้อผ้าที่ทอจากวัสดุต่างชนิดกัน

20 “ ‘ชายใดหลับนอนกับทาสหญิงซึ่งหมั้นหมายกับชายอีกคนหนึ่ง แต่ทาสหญิงคนนั้นยังไม่ได้ถูกไถ่ไว้หรือยังไม่ได้รับอิสรภาพ ชายหญิงคู่นั้นจะต้องถูกลงโทษตามสมควร แต่ทั้งคู่ไม่มีโทษถึงตาย เพราะทาสหญิงนั้นยังไม่เป็นไท

21 อย่างไรก็ตามชายคนนั้นต้องนำแกะผู้มาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชาลบความผิดที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ

22 ปุโรหิตจะใช้แกะผู้ของเครื่องบูชาลบความผิดทำการลบบาปให้เขาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับบาปที่เขาได้ทำ และบาปของเขาจะได้รับการอภัย

23 “ ‘เมื่อเจ้าเข้าไปยังดินแดนนั้นแล้ว และได้ปลูกไม้ผลชนิดใดก็ตาม จงถือว่าผลของมันเป็นของต้องห้ามอย่ากินผลไม้ที่เกิดในสามปีแรกเพราะถือเป็นของต้องห้าม

24 ในปีที่สี่ ผลของมันทั้งหมดจะบริสุทธิ์ เป็นเครื่องบูชาแห่งการสรรเสริญแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

25 แต่เจ้าจะกินผลของมันได้ในปีที่ห้า ด้วยวิธีนี้พืชพันธุ์ของเจ้าจะเพิ่มพูน เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

26 “ ‘อย่ากินเนื้อซึ่งยังมีเลือดค้างอยู่

“ ‘อย่าทำนายโชคชะตาราศี หรือเป็นพ่อมดหมอผี

27 “ ‘อย่าถอนไรผมหรือขริบเคราของเจ้า

28 “ ‘อย่าเชือดเนื้อตัวเองเพื่อไว้อาลัยคนตาย หรือสักเครื่องหมายใดๆ บนกายของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์

29 “ ‘อย่าทำให้บุตรสาวของเจ้าเสื่อมเสียโดยให้นางเป็นโสเภณี มิฉะนั้นแผ่นดินจะกลายเป็นถิ่นค้าประเวณี และเต็มไปด้วยความชั่วร้าย

30 “ ‘จงถือรักษาสะบาโตของเรา และเคารพสถานนมัสการของเรา เราคือพระยาห์เวห์

31 “ ‘อย่าหันไปหาคนทรงหรือหมอผี เพราะพวกเขาจะทำให้เจ้าเป็นมลทิน เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

32 “ ‘เจ้าจงให้เกียรติและแสดงความเคารพนับถือต่อผู้อาวุโส และจงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์

33 “ ‘อย่าเอารัดเอาเปรียบคนต่างด้าวในดินแดนของเจ้า อย่าทำไม่ดีกับเขา

34 เจ้าต้องปฏิบัติต่อเขาเช่นเดียวกับคนอิสราเอลโดยกำเนิด จงรักพวกเขาเหมือนรักตนเอง เพราะเจ้าเองเคยเป็นคนต่างด้าวในประเทศอียิปต์ เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

35 “ ‘อย่าใช้มาตรอันไม่เที่ยงตรงในการชั่ง ตวง วัด

36 จงใช้มาตรอันเที่ยงตรงในการชั่ง ตวง วัด ทั้งเอฟาห์และฮินที่เที่ยงตรงเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์

37 “ ‘จงถือรักษาและปฏิบัติตามกฎหมายและบทบัญญัติทั้งสิ้นของเรา เราคือพระยาห์เวห์’ ”

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/19-ec2bf0635310de9b467b41a4e6632d8c.mp3?version_id=179—

เลวีนิติ 20

โทษทัณฑ์ของบาป

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

2 “จงกล่าวแก่ชนอิสราเอลว่า ‘ผู้ใดก็ตามไม่ว่าชาวอิสราเอลหรือคนต่างด้าวซึ่งมาอาศัยอยู่กับพวกเขา ที่ยกลูกหลานของตนให้พระโมเลคจะต้องตาย ประชากรในชุมชนจะเอาหินขว้างเขา

3 เราเองจะเป็นปฏิปักษ์กับคนนั้น และตัดเขาออกจากหมู่ประชากรของเขา เพราะการที่เขายกลูกให้พระโมเลคก็ทำให้สถานนมัสการของเราเป็นมลทินและลบหลู่นามอันบริสุทธิ์ของเรา

4 และหากประชากรในชุมชนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ไม่ยอมประหารคนนั้นที่ยกลูกให้พระโมเลค

5 เราจะเป็นศัตรูกับคนนั้นและครอบครัวของเขา และจะตัดเขากับทุกคนที่ทำตามเขาที่ขายตัวให้พระโมเลคออกจากหมู่ประชากรของเขา

6 “ ‘เราจะเป็นศัตรูกับผู้ที่หันไปหาคนทรงและหมอผี ทำตัวแพศยาโดยการติดตามคนเหล่านี้ และเราจะตัดคนนั้นออกจากหมู่ประชากรของเขา

7 “ ‘จงชำระตัวและจงบริสุทธิ์ เพราะเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

8 จงรักษาและปฏิบัติตามกฎหมายของเรา เราคือพระยาห์เวห์ผู้ทำให้เจ้าบริสุทธิ์

9 “ ‘ผู้ใดแช่งด่าบิดามารดาของตนจะต้องมีโทษถึงตาย เขาได้แช่งด่าบิดามารดาของเขาเอง ที่เขาต้องตายนั้นก็เพราะความผิดของเขาเอง

10 “ ‘ผู้ใดเป็นชู้กับภรรยาของคนอื่น คือกับภรรยาของเพื่อนบ้าน ทั้งชายและหญิงที่เป็นชู้กันจะต้องถูกประหาร

11 “ ‘ผู้ใดหลับนอนกับภรรยาของบิดา ก็ทำให้บิดาของตนอับอายขายหน้า ทั้งชายและหญิงคู่นั้นจะต้องตาย ที่พวกเขาต้องตายนั้นก็เพราะความผิดของพวกเขาเอง

12 “ ‘ผู้ใดหลับนอนกับบุตรสะใภ้ของตน ทั้งคู่ต้องถูกประหารเพราะได้ทำสิ่งที่วิปริต ที่พวกเขาต้องตายนั้นก็เพราะความผิดของพวกเขาเอง

13 “ ‘ผู้ใดสมสู่รักร่วมเพศ พวกเขาทำสิ่งที่น่ารังเกียจเดียดฉันท์ จะต้องประหารทั้งคู่ ที่พวกเขาต้องตายนั้นก็เพราะความผิดของพวกเขาเอง

14 “ ‘ผู้ใดแต่งงานกับทั้งหญิงสาวและแม่ของนาง นั่นเป็นความชั่วช้า ทั้งสามคนจะต้องถูกเผา เพื่อไม่ให้มีความชั่วร้ายท่ามกลางพวกเจ้า

15 “ ‘ชายใดสมสู่กับสัตว์ จงประหารทั้งคนและสัตว์

16 “ ‘หญิงใดสมสู่กับสัตว์ จงประหารทั้งคนและสัตว์ ที่เขาต้องตายนั้นก็เพราะความผิดของเขาเอง

17 “ ‘ชายใดแต่งงานและมีเพศสัมพันธ์กับพี่สาวหรือน้องสาวของตน แม้จะต่างบิดาหรือต่างมารดา ก็เป็นการกระทำอันน่าละอาย ทั้งสองคนจะต้องถูกตัดออกไปต่อหน้าต่อตาหมู่ประชากรของพวกเขา เขาทำให้พี่สาวน้องสาวต้องอับอายขายหน้าและเขาจะต้องรับผิดชอบ

18 “ ‘ชายใดหลับนอนและมีเพศสัมพันธ์กับหญิงที่กำลังมีประจำเดือน ทั้งคู่จะต้องถูกตัดออกจากหมู่ประชากรของพวกเขา เพราะเขาได้เปิดเผยแหล่งโลหิตของนาง และนางก็ได้เปิดเผยด้วย

19 “ ‘ชายใดมีเพศสัมพันธ์กับป้า น้า หรืออาของตน ก็ทำให้ญาติสนิทอับอายขายหน้า ทั้งคู่จะต้องรับผิดชอบ

20 “ ‘ชายใดหลับนอนกับป้าสะใภ้ น้าสะใภ้ หรืออาสะใภ้ ก็ทำให้ลุง น้า หรืออาอับอายขายหน้า พวกเขาจะต้องรับผิดชอบและตายโดยปราศจากผู้สืบสกุล

21 “ ‘ชายใดแต่งงานกับพี่สะใภ้หรือน้องสะใภ้ของตน เป็นการกระทำอันไม่บริสุทธิ์ เขาทำให้พี่ชายน้องชายต้องอับอายขายหน้า คนทั้งคู่จะไม่มีบุตรสืบสกุล

22 “ ‘จงถือรักษาและปฏิบัติตามกฎหมายและบทบัญญัติทั้งสิ้นของเรา เพื่อดินแดนที่เรากำลังจะนำเจ้าทั้งหลายเข้าไปอาศัยจะไม่สำรอกพวกเจ้าออกมา

23 เจ้าอย่าได้ดำเนินตามขนบธรรมเนียมของประชาชาติทั้งหลายที่เรากำลังจะขับไล่ออกไปต่อหน้าเจ้า เพราะพวกเขาทำสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ เราจึงชิงชังพวกเขา

24 แต่เราพูดกับเจ้าว่า “เจ้าจะครอบครองดินแดนของพวกเขา เราจะให้ดินแดนนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า เป็นดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง” เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าผู้แยกเจ้าออกจากชนชาติเหล่านั้น

25 “ ‘ฉะนั้นเจ้าต้องแยกแยะระหว่างสัตว์และนกที่เป็นมลทินและไม่เป็นมลทิน อย่าปล่อยตัวแปดเปื้อนมลทินด้วยสัตว์ นก สัตว์ที่เลื้อยคลาน ซึ่งเราได้สั่งห้ามเจ้าแล้ว

26 เจ้าต้องบริสุทธิ์สำหรับเราเพราะเราผู้เป็นพระยาห์เวห์เป็นผู้บริสุทธิ์ และได้แยกเจ้าออกจากชาติอื่นๆ ทั้งปวง เพื่อเป็นกรรมสิทธิ์ของเรา

27 “ ‘คนทรงทั้งหญิงและชายหรือพ่อมดหมอผีท่ามกลางพวกเจ้าจะต้องตาย เจ้าจะต้องเอาหินขว้างพวกเขา ที่พวกเขาต้องตายนั้นก็เพราะความผิดของพวกเขาเอง’ ”

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/20-515204da80a2e41984b4944983be5b81.mp3?version_id=179—

เลวีนิติ 21

กฎเกณฑ์สำหรับปุโรหิต

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงพูดกับปุโรหิตผู้เป็นบุตรทั้งหลายของอาโรนว่า ‘ปุโรหิตจะต้องไม่ทำตัวเป็นมลทินตามระเบียบพิธีเพราะการตายของญาติของเขา

2 เว้นแต่เป็นญาติสนิท คือบิดามารดา บุตรชายบุตรสาว พี่ชายน้องชาย

3 หรือพี่สาวน้องสาวที่เป็นโสดซึ่งพึ่งพาเขาเนื่องจากนางไม่มีสามี เขาอาจจะทำให้ตัวเองเป็นมลทินเพื่อนาง

4 เขาจะต้องไม่ทำตัวเองให้เป็นมลทินเพราะคนที่มาเป็นญาติของเขาผ่านทางภรรยาและทำให้ตัวเองแปดเปื้อน

5 “ ‘ปุโรหิตจะต้องไม่โกนผม หรือกันเครา หรือเชือดเนื้อตัวเอง

6 เขาจะต้องบริสุทธิ์แด่พระเจ้าของเขา และห้ามลบหลู่หรือหมิ่นประมาทพระนามพระเจ้าของเขา เพราะเขาเป็นผู้ถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้าของพวกเขา พวกเขาต้องบริสุทธิ์

7 “ ‘ปุโรหิตจะต้องไม่แต่งงานกับหญิงโสเภณี หรือหญิงที่หย่าร้างจากสามี เพราะปุโรหิตเป็นผู้บริสุทธิ์แด่พระเจ้าของเขา

8 จงถือว่าพวกเขาบริสุทธิ์ เพราะพวกเขาเป็นผู้ถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้าของเจ้า จงถือว่าพวกเขาบริสุทธิ์เพราะเราผู้เป็นพระยาห์เวห์เป็นผู้บริสุทธิ์ เราเป็นผู้ทำให้เจ้าบริสุทธิ์

9 “ ‘บุตรสาวของปุโรหิตคนใดปล่อยตัวให้เป็นมลทินโดยเป็นหญิงโสเภณีก็ทำให้บิดาอับอายขายหน้า นางจะต้องถูกเผาไฟ

10 “ ‘มหาปุโรหิตเป็นผู้หนึ่งในบรรดาพี่น้องของเขาซึ่งได้รับการเจิมตั้งด้วยน้ำมันเจิมบนศีรษะและได้รับการสถาปนาให้สวมเครื่องแต่งกายปุโรหิต เขาจะต้องไม่ปล่อยผมรุงรังเป็นการไว้ทุกข์ หรือฉีกเสื้อผ้าของตน

11 เขาจะต้องไม่เข้าไปในสถานที่ซึ่งมีศพอยู่ เขาต้องไม่ทำให้ตัวเองเป็นมลทิน แม้แต่เพื่อบิดามารดาของเขา

12 เขาจะไม่ออกจากสถานนมัสการของพระเจ้าของเขา หรือทำให้สถานนมัสการนั้นเป็นมลทิน เพราะเขาได้รับการอุทิศถวายโดยน้ำมันเจิมของพระเจ้า เราคือพระยาห์เวห์

13 “ ‘หญิงที่เขาแต่งงานด้วยจะต้องเป็นหญิงพรหมจารี

14 เขาจะต้องไม่แต่งงานกับหญิงม่าย หญิงที่หย่าร้าง หรือหญิงโสเภณี หญิงที่เขาแต่งงานด้วยจะต้องเป็นหญิงพรหมจารีตระกูลเดียวกัน

15 เพื่อเขาจะไม่ทำให้วงศ์วานของเขาเป็นมลทินในหมู่ประชากรของเขา เราคือพระยาห์เวห์ผู้ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์’ ”

16 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

17 “จงกล่าวแก่อาโรนว่า ‘ตลอดทุกชั่วอายุวงศ์วานของเจ้า อย่าให้คนใดซึ่งมีร่างกายไม่สมประกอบเข้าไปถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้าของเขา

18 ผู้ใดที่มีตำหนิ อย่าเข้าไป ไม่ว่าตาบอด ขาพิการ เสียโฉม หรือพิกลพิการ

19 มือเท้าเป็นง่อย

20 หลังโกง แคระแกร็น ตาพิการ เป็นหิด เป็นโรคผิวหนัง หรือมีอวัยวะเพศไม่สมประกอบ

21 แม้จะเป็นวงศ์วานของปุโรหิตอาโรน ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาใกล้เพื่อถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเขาไม่สมประกอบ เขาจะต้องไม่เข้ามาใกล้เพื่อถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้าของเขา

22 เขาสามารถรับประทานเครื่องบูชาที่บริสุทธิ์หรือที่บริสุทธิ์ที่สุดของพระเจ้าของเขา

23 แต่เขาจะเข้าใกล้ม่านหรือเข้าใกล้แท่นบูชาไม่ได้เนื่องจากมีร่างกายไม่สมประกอบ ซึ่งจะเป็นการลบหลู่สถานนมัสการของเรา เราคือพระยาห์เวห์ผู้ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์’ ”

24 ดังนั้นโมเสสจึงบอกสิ่งเหล่านี้แก่อาโรนกับบุตรชายและปวงชนอิสราเอล

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/21-e1ecddd0faf0b6795f0fdda7ae530db1.mp3?version_id=179—

เลวีนิติ 22

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

2 “จงบอกอาโรนกับบุตรชายให้ปฏิบัติต่อเครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวอิสราเอลนำมาถวายแก่เรานั้นด้วยความเคารพยำเกรง จะได้ไม่เป็นการลบหลู่นามอันบริสุทธิ์ของเรา เราคือพระยาห์เวห์

3 “จงบอกกับพวกเขาว่า ‘นับแต่นี้ต่อไปทุกชั่วอายุ ลูกหลานของเจ้าคนใดซึ่งเป็นมลทินตามระเบียบพิธี แต่ยังขืนเข้าใกล้เครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวอิสราเอลนำมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้นั้นจะต้องถูกตัดขาด ไม่ให้มาอยู่ต่อหน้าเรา เราคือพระยาห์เวห์

4 “ ‘ถ้าลูกหลานคนใดของอาโรนที่เป็นโรคติดต่อทางผิวหนังหรือมีสิ่งที่หลั่งออกจากร่างกาย ห้ามกินเครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์จนกว่าจะรับการชำระให้บริสุทธิ์แล้ว เขาจะเป็นมลทินด้วยถ้าเขาแตะต้องสิ่งที่แปดเปื้อนจากศพหรือจากคนที่หลั่งน้ำอสุจิ

5 หรือถ้าเขาแตะต้องสัตว์เลื้อยคลานที่ทำให้เขาเป็นมลทิน หรือแตะต้องผู้ที่ทำให้เขาเป็นมลทิน ไม่ว่าจะเป็นมลทินในลักษณะใดก็ตาม

6 ผู้ที่แตะต้องสิ่งเหล่านั้นจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น เขาจะต้องไม่กินเครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์จนกว่าจะได้อาบน้ำชำระตัว

7 เมื่อดวงอาทิตย์ลับไปแล้ว เขาจึงจะสะอาด และกินเครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์นั้นได้ เพราะเป็นอาหารของเขา

8 เขาต้องไม่กินสัตว์ใดซึ่งตายเองหรือถูกสัตว์ป่าฆ่าตาย เพราะจะทำให้เขาเป็นมลทิน เราคือพระยาห์เวห์

9 “ ‘ปุโรหิตทั้งหลายต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของเรา เพื่อเขาจะไม่มีความผิดและตายเพราะลบหลู่สิ่งเหล่านั้น เราคือพระยาห์เวห์ผู้ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์

10 “ ‘ผู้ที่ไม่ใช่คนในครอบครัวของปุโรหิต ห้ามกินเครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่มาเยี่ยมเยียนปุโรหิตหรือลูกจ้างก็กินไม่ได้

11 ยกเว้นทาสที่ปุโรหิตซื้อตัวมาหรือลูกทาสที่เกิดในเรือนของปุโรหิตสามารถกินอาหารดังกล่าวได้

12 หากบุตรสาวของปุโรหิตแต่งงานกับคนที่ไม่ได้เป็นปุโรหิต ห้ามนางกินเครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับส่วนแบ่งมานั้น

13 แต่หากลูกสาวของปุโรหิตเป็นม่ายหรือหย่าร้างและไม่มีบุตร แล้วนางกลับมาอาศัยอยู่บ้านบิดาเหมือนตอนที่ยังเป็นสาว นางจะกินอาหารของบิดาได้อีก ผู้ใดก็ตามที่ไม่มีสิทธิ์ อย่ากินอาหารนี้

14 “ ‘หากผู้ใดกินเครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เขาต้องคืนให้แก่ปุโรหิตตามจำนวนที่เขากินไป และเพิ่มอีกหนึ่งในห้าของมูลค่าของสิ่งนั้น

15 ปุโรหิตจะต้องไม่ลบหลู่เครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวอิสราเอลนำมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

16 โดยยอมให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์กินเครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นเหตุให้พวกเขามีความผิดต้องชดใช้ เราคือพระยาห์เวห์ผู้ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์’ ”

เครื่องบูชาซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับ

17 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

18 “จงกล่าวแก่อาโรนกับบุตรชายและปวงชนอิสราเอลว่า ‘หากชาวอิสราเอลหรือคนต่างด้าวคนใดที่อาศัยในหมู่พวกเจ้า จะถวายเครื่องเผาบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ว่าจะถวายตามสัตย์ปฏิญาณหรือเป็นเครื่องบูชาตามความสมัครใจ

19 เจ้าจะต้องถวายสัตว์ตัวผู้ที่ไม่มีตำหนิ ไม่ว่าจะเป็นวัว แกะ หรือแพะ เพื่อของถวายนั้นจะเป็นที่ยอมรับแทนตัวเจ้า

20 อย่านำสิ่งใดที่มีตำหนิมาถวาย เพราะว่าสิ่งนั้นจะไม่เป็นที่ยอมรับแทนตัวเจ้า

21 ผู้ใดคัดเลือกสัตว์จากฝูงวัวหรือฝูงแพะแกะเป็นเครื่องสันติบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ว่าจะทำตามสัตย์ปฏิญาณหรือถวายตามความสมัครใจ จะต้องถวายสัตว์ที่ไม่มีตำหนิจึงจะเป็นที่ยอมรับ

22 อย่าถวายสัตว์ตาบอด พิกลพิการหรือไม่สมประกอบ มีแผล เป็นเรื้อน หรือโรคผิวหนังอื่นๆ แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าอย่านำมาวางบนแท่นบูชา ถวายเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

23 แต่ถ้าลูกวัวหรือลูกแกะที่นำมาถวายมีอวัยวะส่วนใดงอกผิดปกติหรือขาดหายไป อาจจะถวายเป็นเครื่องบูชาตามความสมัครใจได้ แต่จะไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นของถวายตามสัตย์ปฏิญาณ

24 สัตว์ตัวใดมีอวัยวะเพศไม่ปกติ ลีบ หรือถูกตอน อย่านำมาถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าเจ้าอย่าทำเช่นนี้ในดินแดนของเจ้า

25 เจ้าอย่ารับสัตว์เหล่านี้จากมือของคนต่างด้าวและถวายเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้าของเจ้า เพราะสัตว์ที่พิการและมีตำหนิจะไม่เป็นที่ยอมรับแทนตัวเจ้า’ ”

26 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

27 “เมื่อลูกวัว แกะ หรือแพะเกิดมา จงปล่อยมันไว้กับแม่เป็นเวลาเจ็ดวัน ตั้งแต่วันที่แปดเป็นต้นไปจึงจะเป็นที่ยอมรับให้เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

28 อย่าฆ่าลูกและแม่ของวัวหรือแกะในวันเดียวกัน

29 “เมื่อถวายเครื่องบูชาขอบพระคุณแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะต้องถวายตามวิธีซึ่งจะเป็นที่ยอมรับแทนตัวเจ้า

30 จงกินให้หมดในวันนั้น อย่าเหลือค้างถึงวันรุ่งขึ้น เราคือพระยาห์เวห์

31 “จงถือรักษาและปฏิบัติตามคำสั่งของเรา เราคือพระยาห์เวห์

32 อย่าลบหลู่นามอันบริสุทธิ์ของเรา ชนอิสราเอลจะต้องรับรู้ว่าเราบริสุทธิ์ เราคือพระยาห์เวห์ผู้ทำให้เจ้าบริสุทธิ์

33 และเป็นผู้นำเจ้าออกจากอียิปต์เพื่อเป็นพระเจ้าของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์”

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/22-44b2fcd0b96b6ad6dc8b40f945e32d41.mp3?version_id=179—

เลวีนิติ 23

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

2 “จงแจ้งชนอิสราเอลว่า ‘ต่อไปนี้เป็นเทศกาลที่เรากำหนดไว้ เป็นเทศกาลตามกำหนดขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่เจ้าต้องประกาศให้ถือเป็นการประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์

วันสะบาโต

3 “ ‘เจ้ามีหกวันไว้ทำงานต่างๆ แต่วันที่เจ็ดเป็นสะบาโตแห่งการหยุดพัก เป็นวันประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์ เจ้าอย่าทำงานใดๆ เลย ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหน วันนั้นเป็นสะบาโตแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

เทศกาลปัสกาและเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อ

4 “ ‘ต่อไปนี้คือเทศกาลที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดไว้ให้พวกเจ้าถือเป็นวันประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์ตามวาระ

5 เทศกาลปัสกาขององค์พระผู้เป็นเจ้าเริ่มตั้งแต่ดวงอาทิตย์ตกในวันที่สิบสี่เดือนที่หนึ่ง

6 เทศกาลกินขนมปังไม่ใส่เชื้อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเริ่มตั้งแต่วันที่สิบห้าของเดือนเดียวกัน จงกินขนมปังไม่ใส่เชื้อเป็นเวลาเจ็ดวัน

7 จงเรียกประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์ในวันแรกของเทศกาล อย่าทำงานใดๆ เลย

8 จงเผาเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเวลาเจ็ดวัน และในวันที่เจ็ดจงเรียกประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์ อย่าทำงานใดๆ เลย’ ”

เทศกาลผลแรก

9 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

10 “จงแจ้งชนอิสราเอลว่า ‘เมื่อเจ้าเข้าสู่ดินแดนซึ่งเราจะยกให้เจ้าและเก็บเกี่ยวผลผลิต จงนำข้าวฟ่อนแรกที่เก็บเกี่ยวได้มามอบให้แก่ปุโรหิต

11 ในวันถัดจากสะบาโต ปุโรหิตต้องยื่นฟ่อนข้าวนั้นถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อพระองค์จะทรงยอมรับแทนตัวเจ้า

12 ในวันที่เจ้ายื่นถวายฟ่อนข้าว เจ้าจะต้องถวายลูกแกะ อายุหนึ่งขวบไม่มีตำหนิหนึ่งตัวเป็นเครื่องเผาบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

13 พร้อมด้วยธัญบูชาคือ แป้งโม่ละเอียดประมาณ 4.5 ลิตรเคล้าน้ำมัน เพื่อเป็นเครื่องเผาบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นกลิ่นหอมที่พอพระทัย พร้อมกันนี้จงถวายเครื่องดื่มบูชาคือ เหล้าองุ่นประมาณ 1 ลิตรด้วย

14 เจ้าอย่ากินขนมปังหรือเมล็ดข้าวอบ หรือเมล็ดข้าวใหม่จนกว่าจะถึงวันที่เจ้านำเครื่องบูชาเหล่านี้มาถวายแด่พระเจ้าของเจ้า นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด

เทศกาลสัปดาห์

15 “ ‘หลังจากวันสะบาโต วันที่ได้นำฟ่อนข้าวมาเป็นเครื่องบูชายื่นถวาย จงนับจากวันนั้นไปจนครบเจ็ดสัปดาห์เต็ม

16 นับไปจนครบห้าสิบวันจนถึงวันถัดจากวันสะบาโตที่เจ็ด แล้วจงนำเมล็ดข้าวใหม่มาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

17 ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด จงนำขนมปังสองก้อนที่ทำจากแป้งละเอียดประมาณ 4.5 ลิตรใส่เชื้อมาเป็นเครื่องบูชายื่นถวายจากผลแรกแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

18 พร้อมกับขนมปังนี้ให้นำลูกแกะตัวผู้ไม่มีตำหนิอายุหนึ่งขวบเจ็ดตัว วัวหนุ่มหนึ่งตัวและแกะผู้สองตัวมาเป็นเครื่องเผาบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าพร้อมด้วยธัญบูชาและเครื่องดื่มบูชา ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องเผาบูชาด้วยไฟ เป็นกลิ่นหอมที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย

19 จากนั้นจงถวายแพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และลูกแกะอายุหนึ่งขวบสองตัวเป็นเครื่องสันติบูชา

20 ปุโรหิตต้องยื่นถวายลูกแกะสองตัวแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชายื่นถวายพร้อมกับขนมปังของผลแรก เป็นเครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับปุโรหิต

21 จงประกาศให้วันนั้นมีการประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์ และอย่าทำงานในวันนั้นเลย นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด

22 “ ‘เมื่อเจ้าเก็บเกี่ยวพืชผล อย่าเก็บจนเกลี้ยงไปถึงขอบนา อย่าเก็บเมล็ดข้าวที่ตกเกลื่อนกลาด จงปล่อยไว้ให้เป็นส่วนของคนยากไร้และคนต่างด้าว เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า’ ”

เทศกาลเสียงแตร

23 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

24 “จงแจ้งชนอิสราเอลว่า ‘ให้ถือวันที่หนึ่งของเดือนที่เจ็ดเป็นวันหยุดพัก มีการฉลองด้วยเสียงแตรกระหึ่ม เป็นวันประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์

25 ให้หยุดทำงานทุกอย่าง แต่จงถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า’ ”

วันลบบาป

26 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

27 “วันที่สิบของเดือนที่เจ็ดเป็นวันลบบาป ให้มีการประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์ จงบังคับตนและถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

28 อย่าทำงานใดๆ ในวันนั้นเพราะเป็นวันลบบาป เพื่อลบบาปให้แก่เจ้าต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

29 ผู้ใดไม่ได้บังคับตนในวันนั้น จะต้องถูกตัดออกจากหมู่ประชากรของเขา

30 ผู้ที่ทำงานใดๆ ในวันนั้น เราจะทำลายจากหมู่ประชากร

31 เจ้าอย่าทำงานใดๆ เลย นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด

32 ให้ถือเป็นวันสะบาโตแห่งการหยุดพักสำหรับเจ้า และเจ้าต้องบังคับตนตั้งแต่เย็นวันที่เก้าเดือนนั้นจนถึงเย็นวันรุ่งขึ้น เจ้าจะต้องถือรักษาสะบาโตของเจ้า”

เทศกาลอยู่เพิง

33 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

34 “จงแจ้งชนอิสราเอลว่า ‘วันที่สิบห้าของเดือนที่เจ็ดเป็นวันเริ่มฉลองเทศกาลอยู่เพิงขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ฉลองไปจนครบเจ็ดวัน

35 ในวันแรกเป็นวันประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์ อย่าทำงานใดๆ เลย

36 ทุกวันในช่วงเทศกาลนี้ จงถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเวลาเจ็ดวัน และในวันที่แปดให้มีการประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์และถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นพิธีปิดการประชุม อย่าทำงานใดๆ เลย

37 (“ ‘ต่อไปนี้คือเทศกาลที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดไว้ ซึ่งเจ้าจะต้องประกาศให้เป็นการประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำเครื่องบูชาด้วยไฟมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าคือเครื่องเผาบูชา เครื่องธัญบูชา เครื่องสัตวบูชาและเครื่องดื่มบูชาตามที่กำหนดไว้แต่ละวัน

38 เครื่องบูชาเหล่านี้เพิ่มเติมจากเครื่องถวายเพื่อสะบาโตต่างๆ ขององค์พระผู้เป็นเจ้าและเพิ่มเติมจากของถวายต่างๆ ตามคำปฏิญาณและของถวายตามความสมัครใจแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า)

39 “ ‘จงฉลองเทศกาลแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดเจ็ดวัน เริ่มตั้งแต่วันที่สิบห้าเดือนที่เจ็ดซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว ให้ถือวันแรกสุดและวันที่แปดเป็นวันแห่งการหยุดพัก

40 เจ้าจงนำสิ่งเหล่านี้มาในวันแรกคือผลไม้คัดอย่างดี กิ่งอินทผลัม กิ่งไม้ใบดก กิ่งปอปลาร์ และจงรื่นเริงยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าตลอดเจ็ดวัน

41 ในเดือนที่เจ็ดของทุกปี เจ้าจงฉลองเทศกาลแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเวลาเจ็ดวัน นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุ

42 ชาวอิสราเอลโดยกำเนิดทุกคนต้องอยู่ในเพิงตลอดเจ็ดวัน

43 เพื่อลูกหลานของเจ้าจะรู้ว่าเราได้ให้ชนอิสราเอลอาศัยอยู่ในเพิง เมื่อเรานำพวกเขาออกมาจากอียิปต์ เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า’ ”

44 ดังนั้นโมเสสจึงประกาศเทศกาลเหล่านี้ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดแก่ชนอิสราเอล

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/23-d8a7f5a0c378708d638f29e74d5638a7.mp3?version_id=179—

เลวีนิติ 24

น้ำมันและขนมปังเบื้องพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้า

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

2 “จงสั่งประชากรอิสราเอลให้นำน้ำมันบริสุทธิ์สกัดจากมะกอกมาเพื่อเติมตะเกียงให้ลุกอยู่เสมอ

3 ให้อาโรนคอยดูแลคันประทีปต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งอยู่นอกม่านที่กั้นหีบพันธสัญญาในเต็นท์นัดพบ ให้ลุกอยู่เสมอตั้งแต่เย็นจนกระทั่งเช้า นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุ

4 จงดูแลตะเกียงที่คันประทีปทองคำบริสุทธิ์ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เสมอ

5 “จงใช้แป้งละเอียดทำขนมปังสิบสองก้อน ก้อนหนึ่งใช้แป้งประมาณ 4.5 ลิตร

6 วางขนมปังนี้บนโต๊ะทองคำบริสุทธิ์ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยวางเป็นสองแถว แถวละหกก้อน

7 จงใส่เครื่องหอมบริสุทธิ์ไว้ทุกแถว เพื่อเป็นส่วนอนุสรณ์ เป็นสิ่งที่ใช้แทนขนมปัง และเพื่อเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

8 จงวางขนมปังนี้ไว้ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าสม่ำเสมอทุกสะบาโตในนามของชาวอิสราเอล เป็นพันธสัญญายืนยงถาวร

9 อาโรนกับบรรดาบุตรชายจะกินขนมปังเหล่านี้ในที่บริสุทธิ์ เพราะเป็นของบริสุทธิ์ที่สุด เป็นส่วนที่ปุโรหิตได้รับเป็นประจำจากเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า”

การลงโทษผู้หมิ่นประมาท

10 วันหนึ่งที่ค่ายพักแรม มีชายคนหนึ่งซึ่งมารดาเป็นชาวอิสราเอล ส่วนบิดาเป็นชาวอียิปต์ทะเลาะวิวาทกับชายอิสราเอลคนหนึ่ง

11 บุตรของหญิงอิสราเอลนั้นกล่าววาจาลบหลู่พระนามของพระเจ้าด้วยคำสาปแช่ง เขาจึงถูกนำตัวมาให้โมเสสตัดสิน (มารดาของเขาคือเชโลมิธบุตรสาวของดิบรีแห่งเผ่าดาน)

12 เขาถูกคุมตัวไว้จนกว่าพวกเขาจะทราบพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าชัดเจน

13 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

14 “จงนำตัวคนที่หมิ่นประมาทนั้นออกไปนอกค่ายพัก และให้ทุกคนที่ได้ยินเขากล่าวหมิ่นประมาทวางมือบนศีรษะของเขา จากนั้นชุมนุมประชากรทั้งหมดจงเอาหินขว้างเขา

15 จงแจ้งชนอิสราเอลว่า ‘ถ้าผู้ใดแช่งด่าพระเจ้า เขาจะต้องรับผิดชอบ

16 ผู้ใดหมิ่นประมาทพระนามพระยาห์เวห์ จะต้องมีโทษถึงตาย ชุมนุมประชากรทั้งหมดจะต้องเอาหินขว้างเขา ไม่ว่าคนต่างด้าวหรือคนอิสราเอลโดยกำเนิด ผู้ใดหมิ่นประมาทพระนามพระเจ้าจะต้องถูกประหาร

17 “ ‘ผู้ใดฆ่าคนจะต้องรับโทษถึงตาย

18 ผู้ใดฆ่าสัตว์ของคนอื่นจะต้องชดใช้ ชีวิตแลกชีวิต

19 โทษสำหรับการทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บคือถูกทำให้บาดเจ็บเช่นเดียวกัน

20 กระดูกหักแทนกระดูกหัก ตาแทนตา ฟันแทนฟัน เขาทำร้ายคนอื่นอย่างไรก็จะถูกทำร้ายอย่างนั้น

21 ผู้ใดฆ่าสัตว์จะต้องชดใช้สำหรับสัตว์ตัวนั้น ผู้ใดฆ่าคนจะต้องถูกประหาร

22 กฎเกณฑ์นี้สำหรับทั้งคนต่างด้าวและคนอิสราเอลโดยกำเนิด เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า’ ”

23 โมเสสจึงแจ้งชนอิสราเอล พวกเขาก็นำตัวชายที่หมิ่นประมาทออกไปนอกค่ายพัก เอาหินขว้างเขา ชาวอิสราเอลได้ทำตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสส

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/24-018d3ee2092d30312f43ca342c76bf41.mp3?version_id=179—

เลวีนิติ 25

ปีสะบาโต

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสบนภูเขาซีนายว่า

2 “จงแจ้งชนอิสราเอลว่า ‘เมื่อเจ้าทั้งหลายเข้าสู่ดินแดนซึ่งเราจะยกให้เจ้า ดินแดนนั้นจะต้องถือสะบาโตแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

3 เจ้าอาจจะหว่าน ลิดแขนงองุ่น หรือเก็บเกี่ยวพืชผลเป็นเวลาหกปี

4 แต่ปีที่เจ็ดเป็นสะบาโตถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นสะบาโตแห่งการหยุดพักสำหรับแผ่นดิน อย่าไถหว่านที่ดิน หรือลิดแขนงสวนองุ่นของเจ้า

5 อย่าเก็บเกี่ยวพืชผลใดๆ ซึ่งงอกขึ้นเอง และอย่าเก็บองุ่นซึ่งขึ้นเองตามแขนงที่เจ้าไม่ได้ลิด จงให้เป็นปีแห่งการหยุดพักสำหรับแผ่นดิน

6 พืชผลใดซึ่งงอกขึ้นในปีสะบาโตนั้นจะเป็นอาหารสำหรับเจ้าทุกคน ทั้งตัวเจ้าเอง ข้าทาสชายหญิง ลูกจ้าง หรือคนที่มาพักอาศัยชั่วคราวท่ามกลางเจ้า

7 ฝูงสัตว์และสัตว์ป่าในที่ดินของเจ้าก็เช่นกัน สามารถกินพืชผลที่งอกขึ้นนั้นได้

ปีกึ่งศตวรรษ

8 “ ‘ทุกปีที่ห้าสิบ หลังจากปีสะบาโตผ่านไปเจ็ดครั้ง นั่นคือเป็นเวลา 49 ปี

9 ในวันลบบาปคือวันที่สิบของเดือนที่เจ็ด จงเป่าแตรให้ดังทั่วทั้งแผ่นดินของเจ้า

10 จงถือรักษาปีกึ่งศตวรรษเป็นปีบริสุทธิ์ และประกาศอิสรภาพทั่วดินแดนแก่พลเมืองทุกคน เป็นปีเฉลิมฉลองพิเศษสำหรับเจ้า เจ้าแต่ละคนจงกลับสู่ที่ดินกรรมสิทธิ์ของครอบครัว และกลับสู่วงศ์ตระกูลของตน

11 ปีกึ่งศตวรรษเป็นวาระพิเศษสำหรับเจ้า อย่าหว่านและอย่าเก็บเกี่ยวสิ่งที่งอกขึ้นเอง หรืออย่าเก็บผลองุ่นที่ขึ้นเอง

12 เพราะเป็นปีเฉลิมฉลองพิเศษ และเป็นปีบริสุทธิ์สำหรับเจ้า จงกินแต่พืชผลที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

13 “ ‘ในปีกึ่งศตวรรษนี้ ทุกคนจงกลับสู่ที่ดินอันเป็นกรรมสิทธิ์ดั้งเดิมของตน

14 “ ‘หากเจ้าซื้อขายที่ดินกับพี่น้องร่วมชาติ อย่าเอารัดเอาเปรียบกัน

15 เจ้าจงซื้อที่ดินจากพี่น้องร่วมชาติโดยคำนวณราคาตามจำนวนปีนับจากปีกึ่งศตวรรษ เขาจะต้องขายให้เจ้าในราคาตามจำนวนปีที่เหลือสำหรับการเก็บเกี่ยวพืชผล

16 หากยังเหลืออีกหลายปี เจ้าจงเพิ่มราคา หากเหลือไม่กี่ปี จงลดราคา เพราะที่จริงแล้วสิ่งที่เขาขายให้เจ้าคือจำนวนพืชผลที่จะได้

17 อย่าเอารัดเอาเปรียบกัน จงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

18 “ ‘จงทำตามกฎหมายของเรา จงใส่ใจที่จะเชื่อฟังและปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา แล้วเจ้าจะดำเนินชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยในดินแดนนั้น

19 แล้วแผ่นดินจะให้พืชผลแก่เจ้า เจ้าจะอิ่มหนำสำราญและอยู่อย่างปลอดภัยในที่แห่งนั้น

20 เจ้าอาจถามว่า “แล้วพวกเราจะกินอะไรในปีที่เจ็ด หากเราไม่ปลูกและเก็บเกี่ยวพืชผลของเรา?”

21 เราจะอวยพรเจ้าในปีที่หก จนแผ่นดินให้พืชผลมากพอสำหรับสามปี

22 ขณะที่เจ้าปลูกในช่วงปีที่แปด เจ้าจะยังกินพืชผลเก่านั้นต่อไปจนกระทั่งถึงฤดูเก็บเกี่ยวของปีที่เก้า

23 “ ‘ที่ดินจะขายขาดไม่ได้เพราะแผ่นดินเป็นของเรา พวกเจ้าเป็นเพียงคนต่างด้าวและผู้เช่าอาศัยทำกินจากเรา

24 ทั่วแดนที่เจ้าถือครองเป็นกรรมสิทธิ์ จงให้มีการไถ่ถอนที่ดินคืนได้

25 “ ‘หากพี่น้องร่วมชาติของเจ้ายากจนและขายที่ดินบางส่วนไป ญาติสนิทที่สุดของคนนั้นอาจจะมาไถ่คืนได้

26 หากไม่มีคนอื่นมาไถ่คืนให้เขา แต่ตัวคนนั้นเองร่ำรวยขึ้น มีเงินพอที่จะไถ่

27 เขาสามารถมาซื้อคืนในราคาซึ่งได้สัดส่วนกับจำนวนพืชผลจากวันที่ขายที่ดิน เจ้าของใหม่จะต้องยอมรับเงินจำนวนนั้นและคืนที่ดินให้

28 แต่หากเจ้าของเดิมไม่สามารถซื้อคืน ก็จะตกเป็นของเจ้าของคนใหม่จนถึงปีกึ่งศตวรรษซึ่งจะต้องคืนให้เจ้าของเดิมอีกครั้ง

29 “ ‘ผู้ใดขายบ้านในเขตกำแพงเมือง เขามีสิทธิ์ซื้อคืนอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาหนึ่งปีแรก

30 หากไม่ได้ซื้อคืนภายในหนึ่งปี บ้านที่อยู่ในกำแพงเมืองหลังนั้นจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของคนใหม่และลูกหลานของเขาอย่างถาวร ไม่ต้องคืนให้เจ้าของเดิมในปีกึ่งศตวรรษ

31 ส่วนบ้านซึ่งอยู่ในหมู่บ้านที่ไม่มีกำแพงเมืองล้อมรอบ จะเป็นเหมือนที่ดินโล่งคือซื้อคืนได้ทุกโอกาส และจะต้องคืนให้เจ้าของเดิมในปีกึ่งศตวรรษ

32 “ ‘คนเลวีมีสิทธิ์ที่จะไถ่บ้านของพวกเขาในเมืองของคนเลวีซึ่งเขาเป็นเจ้าของได้เสมอ

33 ดังนั้นทรัพย์สินของคนเลวี นั่นคือบ้านหลังใดที่ขายในเมืองใดก็ตามที่พวกเขาถือกรรมสิทธิ์ สามารถไถ่ถอนได้ และจะต้องคืนให้กับเจ้าของเดิมในปีกึ่งศตวรรษ เพราะบ้านทั้งหลายในเมืองต่างๆ ของคนเลวีเป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขาท่ามกลางคนอิสราเอล

34 แต่ห้ามขายที่ดินที่เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของเมืองนั้น เพราะเป็นกรรมสิทธิ์ถาวรของพวกเขา

35 “ ‘หากพี่น้องร่วมชาติของเจ้ายากจนลง ไม่สามารถหาเลี้ยงชีพได้ เจ้าจงช่วยเหลือเขาเหมือนที่เอื้อเฟื้อแก่คนต่างด้าวหรือผู้ที่อาศัยอยู่กับเจ้าชั่วคราว เพื่อเขาจะอยู่ท่ามกลางพวกเจ้าต่อไปได้

36 อย่าคิดดอกเบี้ยใดๆจากเขา แต่จงยำเกรงพระเจ้า เพื่อพี่น้องนั้นจะคงอยู่ท่ามกลางเจ้าได้

37 อย่าคิดดอกเบี้ยจากเงินที่ให้เขายืม หรือค้ากำไรจากการขายอาหารแก่เขา

38 เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์เพื่อยกดินแดนคานาอันให้แก่เจ้า และเพื่อเป็นพระเจ้าของเจ้า

39 “ ‘หากพี่น้องร่วมชาติของเจ้ายากจนและขายตัวเองให้เจ้า อย่าใช้งานเขาเยี่ยงทาส

40 แต่จงปฏิบัติต่อเขาเสมือนลูกจ้าง หรือผู้ที่มาอาศัยชั่วคราวท่ามกลางเจ้า และเขาจะปรนนิบัติรับใช้เจ้าจนถึงปีกึ่งศตวรรษ

41 เมื่อนั้นเขาและลูกๆ จะต้องได้รับการปลดปล่อยให้เป็นไทและกลับไปสู่วงศ์ตระกูลและที่ดินของบรรพบุรุษ

42 เพราะชนอิสราเอลเป็นผู้รับใช้ของเรา ซึ่งเรานำออกมาจากอียิปต์ เขาต้องไม่ถูกขายเป็นทาส

43 อย่าปกครองเขาอย่างทารุณอำมหิต แต่จงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า

44 “ ‘ทาสชายหญิงของเจ้าจะต้องมาจากชนชาติต่างๆ รอบๆ เจ้า เจ้าอาจซื้อทาสจากพวกเขา

45 และเจ้าอาจซื้อคนที่มาขออาศัยอยู่ชั่วคราวท่ามกลางเจ้าบางคน และสมาชิกในตระกูลของเขาที่เกิดในดินแดนของเจ้า และพวกเขาจะเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า

46 เจ้าจะยกพวกเขาให้เป็นมรดกสืบทอดไปยังลูกหลานหรือเป็นทาสชั่วชีวิตก็ได้ แต่ห้ามเจ้าปกครองพี่น้องร่วมชาติอิสราเอลอย่างทารุณโหดร้าย

47 “ ‘หากคนต่างด้าวหรือผู้มาอาศัยอยู่ชั่วคราวในหมู่พวกเจ้าร่ำรวยขึ้น แล้วมีชาวอิสราเอลพี่น้องร่วมชาติของเจ้าที่ยากจน และขายตัวเองเป็นทาสของคนต่างด้าวคนนั้นหรือของเครือญาติของเขา

48 เขามีสิทธิ์ไถ่ถอนตัวหลังจากขายตัวเป็นทาส ให้ญาติของเขาไถ่ตัวเขาคืนมา

49 จะเป็นลุง น้า อา ลูกพี่ลูกน้อง หรือใครก็ได้ซึ่งเป็นญาติตามสายเลือดในตระกูลของเขา หรือคนนั้นอาจจะไถ่ตัวเองเป็นไทเมื่อร่ำรวยมีเงินพอ

50 ตัวเขาและผู้ที่ซื้อเขาไปจะต้องนับเวลาจากปีที่เขาขายตัวเองเป็นทาสไปจนถึงปีกึ่งศตวรรษ ราคาที่จะไถ่ตัวเขาจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของอัตราค่าจ้างคนงานตามจำนวนปีเหล่านั้น

51 หากยังมีอีกหลายปีกว่าจะถึงปีกึ่งศตวรรษ เขาจะต้องจ่ายเกือบเท่าจำนวนค่าตัวเมื่อเริ่มเป็นทาส

52 หากอีกไม่กี่ปีก็ถึงปีกึ่งศตวรรษ เขาจะต้องคำนวนและจ่ายค่าไถ่ถอนตามจำนวนปีที่เหลือนั้น

53 ผู้ที่ซื้อตัวเขาไปจะต้องปฏิบัติต่อเขาเสมือนลูกจ้างรายปี เจ้าต้องดูแลไม่ให้เจ้าของปกครองเขาอย่างทารุณโหดร้าย

54 “ ‘หากเขายังไม่ได้รับการไถ่ตัวโดยวิธีเหล่านี้เขาและลูกหลานจะได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระเมื่อถึงปีกึ่งศตวรรษ

55 เพราะประชากรอิสราเอลเป็นผู้รับใช้ของเรา พวกเขาเป็นผู้รับใช้ที่เรานำออกมาจากอียิปต์ เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

—https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/25-2a59959442d7b3a79c64cd0266d9e3fe.mp3?version_id=179—