ความรักของพระเจ้าต่ออิสราเอล 1 “เมื่ออิสราเอลยังเด็กอยู่ เรารักเขา เราเรียกบุตรของเราออกจากอียิปต์ 2 แต่ยิ่งเราเรียกอิสราเอลมากเท่าใด พวกเขายิ่งไกลห่างจากเรามากเท่านั้น พวกเขาถวายเครื่องบูชาแก่พระบาอัล และเผาเครื่องหอมถวายรูปปั้นต่างๆ 3 เรานี่แหละสอนให้เอฟราอิมหัดเดิน เราโอบอุ้มพวกเขาไว้ในอ้อมแขน แต่พวกเขาไม่ตระหนัก ว่าเรานี่แหละเป็นผู้รักษาพวกเขาให้หาย 4 เรานำพวกเขาด้วยสายใยแห่งความเมตตา และด้วยพันธะแห่งความรัก เราปลดแอกจากคอของพวกเขา และก้มลงมาป้อนอาหารพวกเขา 5 “พวกเขาจะไม่กลับไปยังอียิปต์หรือ และอัสซีเรียจะไม่ปกครองพวกเขาหรือ ในเมื่อพวกเขาไม่ยอมกลับใจ? 6 ดาบทั้งหลายจะกวัดแกว่งอยู่ในเมืองต่างๆ ของพวกเขา จะทำลายดาลประตูของพวกเขา และทำให้แผนการต่างๆ ของพวกเขาจบสิ้นลง 7 ประชากรของเราตั้งใจทิ้งเราไป แม้ว่าพวกเขาจะร้องทูลต่อเราผู้สูงสุด เราก็จะไม่เชิดชูพวกเขาเลย 8 “เอฟราอิมเอ๋ย เราจะปล่อยเจ้าหลุดมือไปได้อย่างไร? อิสราเอลเอ๋ย เราจะยอมปล่อยเจ้าไปได้อย่างไร? เราจะปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนอัดมาห์ได้หรือ? เราจะทำให้เจ้าเหมือนเศโบยิมได้อย่างไร? จิตใจที่อยู่ภายในเราก็เปลี่ยนไป ความเมตตาเอ็นดูของเราก็ได้รับการปลุกขึ้น 9 เราจะไม่ลงโทษเจ้าตามความโกรธอันรุนแรงของเรา หรือหันมาทำลายล้างเอฟราอิมอีก เพราะเราเป็นพระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์ เป็นองค์บริสุทธิ์ท่ามกลางเจ้า เราจะไม่มาด้วยความโกรธ 10 เขาจะติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงเปล่งพระสุรเสียงดุจราชสีห์ เมื่อพระองค์ทรงเปล่งเสียงกึกก้อง ลูกๆ […]
Category Archives: โฮเชยา
โฮเชยา 12
1 เอฟราอิมเลี้ยงชีพด้วยลม เขาติดตามลมตะวันออกทั้งวัน เขาทวีการโกหกและความอำมหิต เขาทำสัญญากับอัสซีเรีย และส่งน้ำมันมะกอกไปยังอียิปต์ 2 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงดำเนินคดีกับยูดาห์ พระองค์จะทรงลงโทษยาโคบตามวิถีทางความประพฤติของเขา และตอบแทนเขาตามการกระทำของเขา 3 เขาฉวยส้นเท้าของพี่ชายไว้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ครั้นหนุ่มใหญ่เขาก็ต่อสู้กับพระเจ้า 4 เขาสู้กับทูตสวรรค์และเอาชนะได้ เขาร่ำไห้อ้อนวอนขอความเมตตา พระองค์ทรงพบเขาที่เบธเอล และตรัสกับเขาที่นั่น 5 พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระยาห์เวห์เป็นพระนามอันเกรียงไกรของพระองค์! 6 แต่เจ้าต้องกลับมาหาพระเจ้าของเจ้า จงผดุงความรักและความยุติธรรม และรอคอยพระเจ้าของเจ้าเสมอ 7 พวกพ่อค้าโกงตาชั่ง เขารักการฉ้อฉล 8 เอฟราอิมโอ้อวดว่า “เราร่ำรวยมากและกลายเป็นเศรษฐี ด้วยทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเรา พวกเขาจะไม่พบความชั่วช้าหรือบาปใดๆ ในเราเลย” 9 “เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้พาเจ้าออกมาจากอียิปต์ เราจะทำให้เจ้าอาศัยอยู่ในเต็นท์อีกครั้ง เหมือนเมื่อครั้งเทศกาลงานเลี้ยงตามกำหนดของเจ้า 10 เราพูดกับบรรดาผู้เผยพระวจนะ ให้นิมิตมากมายแก่พวกเขา และกล่าวคำอุปมาผ่านทางพวกเขา” 11 กิเลอาดชั่วร้ายหรือ? ชาวเมืองนั้นไร้ค่านัก! พวกเขาถวายวัวผู้ในกิลกาลหรือ? แท่นบูชาของพวกเขาจะเป็นเหมือนกองหิน บนทุ่งที่ไถแล้ว 12 ยาโคบหนีไปยังแดนอารัม อิสราเอลปรนนิบัติรับใช้เพื่อจะได้ภรรยา เขาเลี้ยงแกะเพื่อจ่ายเป็นค่าตัวนาง 13 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้ผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งนำอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ […]
โฮเชยา 13
พระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้า 1 เมื่อเอฟราอิมกล่าว ผู้คนก็สั่นสะท้าน เขาเป็นที่ยกย่องในอิสราเอล แต่เขาก็มีความผิดและตายไปเพราะกราบไหว้พระบาอัล 2 บัดนี้ เขายิ่งทำบาปมากขึ้น เขาใช้เงินทำรูปเคารพเพื่อตัวเขาเอง เป็นเทวรูปที่ปั้นแต่งขึ้นอย่างชาญฉลาด ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผลงานของช่างฝีมือ ผู้คนกล่าวถึงคนเหล่านี้ว่า “พวกเขาใช้มนุษย์เป็นเครื่องบูชา และจูบเทวรูปลูกวัว” 3 ฉะนั้นเขาจะเป็นเหมือนหมอกในยามเช้า เหมือนน้ำค้างยามรุ่งอรุณซึ่งหายลับไป เหมือนแกลบปลิวจากลานนวดข้าว เหมือนควันที่ลอยออกไปทางหน้าต่าง 4 “แต่เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์ เจ้าจะไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากเรา และไม่มีผู้ช่วยให้รอดอื่นใดยกเว้นเรา 5 เราฟูมฟักดูแลเจ้าในทะเลทราย ในดินแดนอันร้อนระอุ 6 เมื่อเราเลี้ยงดูพวกเขา พวกเขาก็อิ่มหนำ เมื่ออิ่มหนำแล้ว พวกเขาก็หยิ่งผยองขึ้น และลืมเรา 7 ดังนั้นเราจึงจู่โจมเข้าใส่พวกเขาเหมือนสิงโต เราจะซุ่มอยู่ริมทางเหมือนเสือดาว 8 เหมือนแม่หมีที่ถูกขโมยลูกไป เราจะเข้าโจมตีและฉีกพวกเขาออก เราจะเป็นดั่งราชสีห์ที่กลืนกินพวกเขา สัตว์ป่าจะฉีกพวกเขาออกเป็นชิ้นๆ 9 “อิสราเอลเอ๋ย เจ้าถูกทำลายล้าง เพราะเจ้าต่อสู้เราผู้ที่ช่วยเหลือเจ้า 10 ไหนล่ะกษัตริย์ของเจ้า ผู้ที่จะช่วยเจ้าได้? ไหนล่ะเจ้าเมืองทั้งปวง ที่เจ้าพูดว่า ‘ให้เรามีกษัตริย์และเจ้านายเถิด’? 11 ฉะนั้นเราจึงให้กษัตริย์แก่เจ้าด้วยโทสะของเรา และเราก็พรากเขาไปด้วยความกริ้วโกรธของเรา […]
โฮเชยา 14
การกลับใจใหม่ซึ่งนำพระพรมา 1 อิสราเอลเอ๋ย จงหันกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าเถิด ที่เจ้าล่มจมลงก็เพราะบาปทั้งหลายของเจ้า! 2 จงนำคำอ้อนวอนมาด้วย และกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด จงทูลพระองค์ว่า “ขอทรงอภัยบาปทั้งสิ้นของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงรับข้าพระองค์ทั้งหลายไว้ด้วยพระคุณ เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะถวายคำสรรเสริญจากริมฝีปากของข้าพระองค์ทั้งหลาย 3 อัสซีเรียไม่อาจช่วยเหล่าข้าพระองค์ได้ ข้าพระองค์ทั้งหลายจะไม่พึ่งม้าศึก จะไม่เรียกสิ่งที่มือของข้าพระองค์ทั้งหลายสร้างขึ้นนั้นว่า ‘บรรดาพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย’ อีกต่อไป เพราะลูกกำพร้าพ่อจะพบความเมตตาสงสารในพระองค์” 4 “เราจะรักษาความดื้อด้านของพวกเขา และจะรักพวกเขาอย่างเต็มที่ เพราะเราหายโกรธพวกเขาแล้ว 5 เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างพร่างพรมให้อิสราเอล เขาจะผลิบานดั่งดอกลิลลี่ เขาจะหยั่งรากลง เหมือนสนซีดาร์แห่งเลบานอน 6 หน่ออ่อนของเขาจะเติบโตขึ้น เขาจะงดงามรุ่งโรจน์เหมือนต้นมะกอก และส่งกลิ่นหอมเหมือนสนซีดาร์แห่งเลบานอน 7 ผู้คนจะพักพิงในร่มเงาของเขาอีก เขาจะเจริญงอกงามเหมือนเมล็ดข้าว จะผลิบานเหมือนเถาองุ่น ชื่อเสียงเลื่องลือเหมือนเหล้าองุ่นจากเลบานอน 8 เอฟราอิมเอ๋ย เราจะต้องเกี่ยวข้องอะไรกับรูปเคารพทั้งหลายอีก? เราจะตอบเขาและห่วงใยดูแลเขา เราเป็นเหมือนต้นสนเขียวชอุ่ม เจ้าจะมีผลงอกงามเพราะเรา” 9 ผู้ใดเฉลียวฉลาด? ผู้นั้นจะประจักษ์สิ่งเหล่านี้ ผู้ใดมีวิจารณญาณ? ผู้นั้นจะเข้าใจ วิถีทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าล้วนถูกต้อง ผู้ชอบธรรมดำเนินในวิถีทางเหล่านี้ แต่ผู้กบฏต่อพระเจ้าก็สะดุดอยู่ในทางของพระองค์ —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/HOS/14-c7516445c1516d8428f7aa74a14bd1bc.mp3?version_id=179—