โฮเชยา 1

1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งมีมาถึงโฮเชยาบุตรเบเออรีในรัชกาลอุสซียาห์ โยธาม อาหัส และเฮเซคียาห์แห่งยูดาห์ และในรัชกาลเยโรโบอัมบุตรกษัตริย์เยโฮอาชแห่งอิสราเอล ภรรยากับลูกๆ ของโฮเชยา 2 เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเริ่มตรัสผ่านโฮเชยานั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเขาว่า “จงไปรับหญิงเจ้าชู้มาเป็นภรรยา และรับลูกๆ ที่เกิดจากความไม่ซื่อสัตย์ของนางมาด้วย เพราะว่าดินแดนนี้มีความผิดฐานล่วงประเวณีอย่างร้ายแรงที่สุดโดยการละทิ้งองค์พระผู้เป็นเจ้า” 3 ฉะนั้นโฮเชยาจึงแต่งงานกับโกเมอร์ธิดาของดิบลาอิม นางก็ตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายคนหนึ่งให้แก่เขา 4 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโฮเชยาว่า “จงเรียกชื่อเด็กคนนี้ว่ายิสเรเอล เพราะในไม่ช้าเราจะลงโทษวงศ์วานของเยฮูเนื่องด้วยการประหารครั้งใหญ่ที่ยิสเรเอล และเราจะปิดฉากอาณาจักรอิสราเอลลง 5 ในวันนั้นเราจะหักธนูของอิสราเอลในหุบเขายิสเรเอล” 6 โกเมอร์ก็ตั้งครรภ์อีกและคลอดบุตรสาว แล้วพระองค์ตรัสกับโฮเชยาว่า “จงเรียกเด็กคนนี้ว่าโลรุหะมาห์เพราะเราจะไม่แสดงความรักต่อพงศ์พันธุ์อิสราเอลอีกต่อไป เราจะไม่อภัยให้พวกเขา 7 แต่เราจะแสดงความรักต่อพงศ์พันธุ์ยูดาห์และจะช่วยพวกเขา ไม่ใช่ด้วยธนู ดาบ สงคราม หรือด้วยม้าและพลม้า แต่โดยพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา” 8 หลังจากที่ให้โลรุหะมาห์หย่านมแล้ว โกเมอร์ก็มีบุตรชายอีกคนหนึ่ง 9 แล้วพระองค์ตรัสว่า “จงเรียกเขาว่าโลอัมมีเพราะพวกเจ้าไม่ใช่ประชากรของเราและเราไม่ใช่พระเจ้าของเจ้า 10 “ถึงกระนั้นชนชาติอิสราเอลจะเป็นเหมือนเม็ดทรายที่ชายทะเลซึ่งตวงนับไม่ได้ ในที่ซึ่งพระเจ้าตรัสแก่เขาว่า ‘เจ้าไม่ใช่ประชากรของเรา’ พวกเขาจะได้ชื่อว่า ‘บุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่’ 11 ประชากรยูดาห์และอิสราเอลจะถูกรวมเข้าด้วยกันอีก และพวกเขาจะแต่งตั้งผู้นำคนหนึ่งและจะพากันออกมาจากแผ่นดินนั้น เพราะวันแห่งยิสเรเอลจะยิ่งใหญ่ —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/HOS/1-50b7bc3e0ea56900cb3eb126211be641.mp3?version_id=179—

โฮเชยา 2

1 “จงเรียกน้องชายของเจ้าว่า ‘ประชากรของเรา’ และเรียกพี่สาวของเจ้าว่า ‘ผู้เป็นที่รักของเรา’ อิสราเอลถูกลงโทษและกลับสู่สภาพดี 2 “จงตำหนิมารดาของเจ้า จงตำหนินางเถิด เพราะนางไม่ใช่ภรรยาของเรา และเราไม่ใช่สามีของนาง ให้นางทิ้งความยั่วยวนจากใบหน้าของนาง และทิ้งความไม่ซื่อสัตย์จากอกของนางเถิด 3 มิฉะนั้นเราจะเปลื้องนางให้เปลือยเปล่า ล่อนจ้อนเหมือนวันที่นางเกิดมา เราจะทำให้นางเหมือนถิ่นกันดาร ให้นางเป็นดินแดนแห้งผาก และประหารนางด้วยความกระหาย 4 เราจะไม่แสดงความรักต่อลูกๆ ของนาง เพราะเป็นลูกชู้ 5 แม่ของเขาไม่ซื่อสัตย์ และให้กำเนิดพวกเขามาอย่างน่าอดสู นางกล่าวว่า ‘ฉันจะตามบรรดาชู้รักไป เขาให้อาหารและน้ำ ให้ขนสัตว์ ผ้าลินิน น้ำมัน และเครื่องดื่มแก่ฉัน’ 6 ฉะนั้นเราจะเอาพุ่มหนามกีดขวางหนทางของนาง เราจะล้อมกรอบจนนางหมดทางไป 7 นางจะวิ่งไล่ตามชู้รัก แต่ไม่ทัน นางจะเสาะหาพวกเขา แต่ไม่พบ แล้วนางจะบอกว่า ‘ฉันจะกลับไปหาสามีคนแรกของฉัน เพราะเมื่อก่อนฉันมีชีวิตที่ดีกว่านี้มากนัก’ 8 นางไม่รับรู้ว่าเรานี่แหละ คือผู้ที่ให้เมล็ดข้าว เหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมันแก่นาง คือผู้ที่ให้เงินและทอง ซึ่งพวกเขาใช้บูชาพระบาอัล 9 “ดังนั้นเราจะริบเมล็ดข้าวของเราเมื่อมันสุก และริบเหล้าองุ่นใหม่เมื่อได้ที่แล้ว เราจะเอาผ้าขนสัตว์และผ้าลินินของเราคืน […]

โฮเชยา 3

โฮเชยาคืนดีกับภรรยา 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงไปแสดงความรักแก่ภรรยาของเจ้าอีกครั้ง แม้ว่ามีคนอื่นรักนางอยู่และนางคบชู้ จงรักนางเหมือนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักชนอิสราเอล แม้ว่าพวกเขาหันไปหาพระอื่นๆ และรักขนมลูกเกดที่ถวายแก่พระเหล่านั้น” 2 ดังนั้นข้าพเจ้าจึงซื้อตัวนางคืนมาด้วยเงินหนัก 15 เชเขลและข้าวบาร์เลย์ประมาณ 330 ลิตร 3 ข้าพเจ้าจึงบอกนางว่า “เจ้าจะต้องอยู่กับเราหลายวัน เจ้าต้องเลิกทำตัวเป็นโสเภณี และไม่ทำตัวใกล้ชิดกับชายใดๆ แล้วเราจะอยู่กับเจ้า” 4 ฉะนั้นชาวอิสราเอลจึงอยู่โดยไม่มีกษัตริย์หรือเจ้านาย ไม่มีการถวายเครื่องบูชาหรือมีศิลาศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีเอโฟดหรือรูปเคารพเป็นเวลานาน 5 หลังจากนั้นชนชาติอิสราเอลจะกลับมาแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาและดาวิดกษัตริย์ของเขา พวกเขาจะตัวสั่นเข้ามาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าและกลับมาหาพระพรของพระองค์ในบั้นปลาย —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/HOS/3-a45dfceea463f0eda819e47782420cc0.mp3?version_id=179—

โฮเชยา 4

ข้อกล่าวหาต่ออิสราเอล 1 ชนอิสราเอลทั้งหลาย จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีข้อกล่าวหา ต่อเจ้าผู้อาศัยอยู่ในดินแดนนี้ ความว่า “ในดินแดนนี้ไม่มีความซื่อสัตย์ ไม่มีความรัก ไม่ยอมรับรู้พระเจ้า 2 มีแต่การสาปแช่งการโกหก และการเข่นฆ่า การลักขโมย และการล่วงประเวณี พวกเขาละเมิดพันธะผูกพันต่างๆ และเข่นฆ่ากันครั้งแล้วครั้งเล่า 3 ด้วยเหตุนี้แผ่นดินจึงโศกเศร้าคร่ำครวญ และทุกคนที่อาศัยอยู่ในดินแดนนี้ก็เสื่อมสูญไป สัตว์ในท้องทุ่ง นกในอากาศ และปลาในทะเลกำลังจะตายไป 4 “แต่อย่าให้ใครฟ้องร้อง อย่าให้ใครกล่าวโทษคนอื่น เพราะประชากรของเจ้า ก็เป็นเหมือนคนที่ฟ้องร้องกล่าวโทษปุโรหิต 5 เจ้าสะดุดล้มทั้งวันทั้งคืน และบรรดาผู้พยากรณ์ก็สะดุดล้มไปกับเจ้า ฉะนั้นเราจะทำลายมารดาของเจ้า 6 ประชากรของเราถูกทำลายไปเพราะขาดความรู้ “เนื่องจากเจ้าปฏิเสธความรู้ เราจึงไม่ยอมรับว่าพวกเจ้าเป็นปุโรหิตของเรา เนื่องจากเจ้าเพิกเฉยต่อบทบัญญัติของพระเจ้าของเจ้า เราจึงเพิกเฉยต่อลูกๆ ของเจ้า 7 จำนวนปุโรหิตเพิ่มมากขึ้นเท่าใด พวกเขาก็ยิ่งทำบาปต่อเรามากขึ้นเท่านั้น พวกเขาได้แลกองค์ผู้ทรงเกียรติสิริของพวกเขากับสิ่งที่น่าละอาย 8 พวกเขาเลี้ยงชีพด้วยบาปของประชากรของเรา และชื่นชอบความชั่วร้ายของพวกเขา 9 และจะเป็นเช่นนี้คือ ประชาชนเป็นอย่างไรปุโรหิตก็เป็นอย่างนั้น เราจะลงโทษทั้งสองฝ่ายเนื่องด้วยวิถีความประพฤติของพวกเขา และตอบสนองการกระทำของพวกเขา 10 “พวกเขาจะกิน แต่ไม่อิ่ม พวกเขาจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเป็นโสเภณี […]

โฮเชยา 5

คำพิพากษาอิสราเอล 1 “เหล่าปุโรหิต ฟังเถิด! อิสราเอลทั้งหลาย จงตั้งใจฟัง! ราชวงศ์เอ๋ย จงฟัง! นี่คือคำพิพากษาที่มีมาถึงเจ้า เจ้าเป็นกับดักที่มิสปาห์ เป็นตาข่ายที่ขึงไว้บนภูเขาทาโบร์ 2 บรรดากบฏก็พ่ายแพ้ยับเยิน เราจะตีสั่งสอนเขาทุกคน 3 เรารู้เรื่องของเอฟราอิมทุกอย่าง อิสราเอลไม่ได้ถูกซ่อนเร้นจากเรา เอฟราอิมเอ๋ย บัดนี้เจ้าได้หันไปเป็นโสเภณี อิสราเอลก็เสื่อมทรามลง 4 “การกระทำของพวกเขาไม่ยอมปล่อยพวกเขา ให้กลับมาหาพระเจ้าของพวกเขา วิญญาณแห่งการเป็นโสเภณีอยู่ในหัวใจของพวกเขา พวกเขาไม่ยอมรับองค์พระผู้เป็นเจ้า 5 ความหยิ่งผยองของอิสราเอลเป็นหลักฐานผูกมัดพวกเขา ชนอิสราเอลและแม้แต่เอฟราอิมเองก็สะดุดล้มลงในบาป ยูดาห์ก็ล้มลงไปกับพวกเขาด้วย 6 เมื่อพวกเขานำฝูงแกะและฝูงสัตว์ของตน มาแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาจะไม่พบพระองค์ พระองค์ทรงทิ้งพวกเขาไปเสียแล้ว 7 พวกเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาให้กำเนิดลูกนอกสมรส บัดนี้เทศกาลขึ้นหนึ่งค่ำของพวกเขา จะทำลายล้างพวกเขาและทุ่งนาของพวกเขา 8 “จงเป่าแตรในกิเบอาห์ จงเป่าเขาสัตว์ในรามาห์ จงโห่ร้องเหมือนออกศึกในเบธอาเวน เบนยามินเอ๋ย จงนำหน้าไป 9 ในวันลงทัณฑ์ เอฟราอิมจะถูกทิ้งร้าง เราประกาศสิ่งที่แน่นอน ท่ามกลางเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล 10 บรรดาผู้นำของยูดาห์ เป็นเหมือนคนที่โยกย้ายหลักหินกั้นเขตแดน เราจะระบายโทสะเหนือพวกเขา […]

โฮเชยา 6

อิสราเอลไม่กลับใจ 1 “มาเถิด ให้เรากลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า แม้พระองค์ทรงฉีกเราเป็นชิ้นๆ แต่พระองค์จะทรงรักษาเรา แม้ทรงกระทำให้เราบาดเจ็บ แต่พระองค์จะทรงสมานแผลให้เรา 2 ภายในสองวัน พระองค์จะทรงฟื้นฟูเรา ในวันที่สาม พระองค์จะทรงให้เรากลับสู่สภาพดี เพื่อเราจะมีชีวิตอยู่ต่อหน้าพระองค์ 3 ให้เรายอมรับรู้องค์พระผู้เป็นเจ้า ให้เราบากบั่นต่อไปเพื่อรู้จักพระองค์ ตราบเท่าที่ดวงตะวันขึ้นจากฟ้าฉันใด พระองค์จะทรงปรากฏพระองค์ฉันนั้น พระองค์จะเสด็จมาหาเราเหมือนฝนในฤดูหนาว เหมือนฝนในฤดูใบไม้ผลิที่รดผืนแผ่นดิน” 4 “เอฟราอิมเอ๋ย เราจะทำอะไรให้เจ้าได้? ยูดาห์เอ๋ย เราจะทำอะไรกับเจ้าดี? ความรักของเจ้าเหมือนหมอกบางยามเช้า เหมือนน้ำค้างรุ่งอรุณซึ่งเหือดหายไป 5 ฉะนั้นเราจะมาห้ำหั่นเจ้าเป็นชิ้นๆ ด้วยผู้เผยพระวจนะของเรา เราจะประหารเจ้าด้วยถ้อยคำจากปากของเรา คำพิพากษาของเราจะจู่โจมเข้าใส่เจ้าดั่งสายฟ้าแลบ 6 เพราะเราประสงค์ความเมตตา ไม่ใช่เครื่องบูชา เราต้องการให้เจ้ารู้จักเราผู้เป็นพระเจ้ามากกว่าต้องการเครื่องเผาบูชา 7 พวกเขาทำลายพันธสัญญาเช่นเดียวกับอาดัม ที่นั่นพวกเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา 8 กิเลอาดเป็นเมืองของคนชั่ว แปดเปื้อนไปด้วยรอยเท้าแห่งโลหิต 9 กองโจรซุ่มคอยปล้นคนฉันใด หมู่ปุโรหิตก็ทำเช่นเดียวกันฉันนั้น พวกเขาเข่นฆ่าผู้คนบนเส้นทางไปเชเคม ก่อกรรมทำชั่วอย่างน่าอดสู 10 เราเห็นสิ่งที่เลวร้ายสิ่งหนึ่ง ในบ้านของอิสราเอล ที่นั่นเอฟราอิมยอมตัวเป็นโสเภณี และอิสราเอลทำตัวให้เป็นมลทิน 11 “ส่วนเจ้า […]

โฮเชยา 7

1 เมื่อใดก็ตามที่เราจะรักษาอิสราเอล เมื่อนั้นบาปทั้งหลายของเอฟราอิมจะถูกตีแผ่ และอาชญากรรมของสะมาเรียจะถูกเปิดโปง พวกเขาชอบการหลอกลวง พวกขโมยพังเข้าไปในบ้านเรือน โจรผู้ร้ายก็ปล้นชิงตามท้องถนน 2 แต่พวกเขาไม่สำนึก ว่าเราจดจำการกระทำอันชั่วร้ายทั้งปวงของพวกเขา บาปของพวกเขาท่วมท้นเหนือพวกเขา มันอยู่ตรงหน้าเราเสมอ 3 “พวกเขาทำให้กษัตริย์พอพระทัยด้วยความชั่วช้าของพวกเขา ทำให้บรรดาเจ้านายพอใจด้วยคำโกหกของพวกเขา 4 พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นคนเล่นชู้ เร่าร้อนเหมือนเตาอบ ที่คนทำขนมปังไม่ต้องโหมไฟในเตานั้น ตั้งแต่ลงมือนวดแป้งจนก้อนแป้งขึ้นฟู 5 ในวันฉลองกษัตริย์ของเรา บรรดาเจ้านายก็เร่าร้อนด้วยฤทธิ์เหล้าองุ่น และกษัตริย์นั้นก็จับมือกับคนเยาะเย้ย 6 จิตใจของพวกเขาเหมือนเตาอบ พวกเขาใช้เล่ห์เพทุบายเข้าหากษัตริย์ อารมณ์ของเขาคุกรุ่นอยู่ตลอดคืน และตอนเช้าก็ร้อนแรงเหมือนไฟลุกจ้า 7 พวกเขาทุกคนร้อนเหมือนเตาอบ กลืนกินผู้ปกครองของพวกเขา กษัตริย์ทั้งปวงของเขาล้มลง และไม่มีสักคนในพวกเขาร้องทูลเรา 8 “เอฟราอิมเข้าปะปนกับชาติต่างๆ เอฟราอิมเป็นเหมือนขนมปิ้งที่ไม่ได้พลิกด้าน 9 คนต่างชาติสูบพลังวังชาของเขาไป แต่เขาไม่รู้สึกตัวเลย ผมของเขาหงอกประปรายแล้ว แต่เขาไม่ได้สังเกตเลย 10 ความหยิ่งผยองของอิสราเอลปรักปรำตนเอง แม้จะเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่ยอมหันมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา หรือแสวงหาพระองค์ 11 “เอฟราอิมเป็นเหมือนนกเขา ที่ถูกหลอกง่ายและไร้สติ เดี๋ยวร้องหาอียิปต์ เดี๋ยวหันมาหาอัสซีเรีย 12 เมื่อพวกเขาไป เราจะเหวี่ยงตาข่ายของเราจับเขาไว้ […]

โฮเชยา 8

อิสราเอลจะเก็บเกี่ยวลมพายุหมุน 1 “จงหยิบแตรขึ้นจรดริมฝีปากของเจ้า! นกอินทรีตัวหนึ่งอยู่เหนือพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะเหล่าประชากรได้ละเมิดพันธสัญญาของเรา และกบฏต่อบทบัญญัติของเรา 2 อิสราเอลร้องเรียกเราว่า ‘ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ข้าพระองค์ทั้งหลายยอมรับว่าทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย!’ 3 แต่อิสราเอลปฏิเสธสิ่งที่ดีงาม ศัตรูจะไล่ตามเขา 4 เขาแต่งตั้งกษัตริย์โดยที่เราไม่เห็นด้วย เขาเลือกเจ้านายโดยที่เราไม่เห็นชอบ เขาใช้เงินและทองคำ สร้างเทวรูปทั้งหลาย พาตัวเองให้พินาศ 5 สะมาเรียเอ๋ย! จงขว้างเทวรูปลูกวัวของเจ้าทิ้งเสียเถิด ความโกรธของเราเผาผลาญเขา อีกนานเพียงใดพวกเขาจึงจะบริสุทธิ์ได้? 6 สิ่งเหล่านี้มาจากอิสราเอล! ช่างฝีมือได้สร้างลูกวัวตัวนี้ขึ้น มันไม่ใช่พระเจ้า เทวรูปลูกวัวของสะมาเรีย จะถูกทุบแตกเป็นเสี่ยงๆ 7 “พวกเขาหว่านลม และเก็บเกี่ยวลมพายุหมุน ต้นข้าวไม่มีรวง มันจะไม่ให้ข้าวสำหรับทำแป้ง แม้มันจะเกิดผล แต่ชาวต่างชาติก็จะกลืนกินหมด 8 อิสราเอลถูกกลืนกิน บัดนี้นางอยู่ท่ามกลางชนชาติต่างๆ เหมือนของไร้ค่า 9 เพราะพวกเขาขึ้นไปหาอัสซีเรีย เหมือนลาป่าเร่ร่อนอยู่ตามลำพัง เอฟราอิมได้ขายตัวให้ชู้รัก 10 ถึงแม้พวกเขาขายตัวไปอยู่ท่ามกลางชนชาติต่างๆ บัดนี้เราจะรวบรวมพวกเขาเข้าด้วยกัน พวกเขาเริ่มจะเสื่อมสูญไป ภายใต้การกดขี่ของกษัตริย์ผู้เกรียงไกร 11 “ถึงแม้เอฟราอิมสร้างแท่นบูชามากมายเพื่อถวายเครื่องบูชาไถ่บาป แต่มันก็กลายเป็นแท่นให้ทำบาป 12 เราเขียนบทบัญญัติของเรามากมายให้พวกเขา […]

โฮเชยา 9

การลงโทษอิสราเอล 1 อิสราเอลเอ๋ย อย่าชื่นชมยินดี อย่าเปรมปรีดิ์เหมือนชาติอื่นๆ เพราะเจ้าไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าของเจ้า เจ้ารักค่าจ้างของหญิงโสเภณี ตามลานนวดข้าวทุกแห่ง 2 ลานนวดข้าวและบ่อย่ำองุ่นจะไม่พอเลี้ยงประชากร เหล้าองุ่นใหม่ดับความกระหายของเขาไม่ได้ 3 พวกเขาจะไม่ได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินขององค์พระผู้เป็นเจ้า เอฟราอิมจะกลับไปอียิปต์ และกินอาหารที่มีมลทินในอัสซีเรีย 4 พวกเขาจะไม่ได้รินเหล้าองุ่นบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และเครื่องบูชาของเขาก็ไม่เป็นที่พอพระทัยพระองค์ เครื่องบูชาเหล่านี้จะเป็นเหมือนอาหารผู้ไว้ทุกข์สำหรับเขา ผู้ที่กินเข้าไปจะเป็นมลทิน อาหารนี้จะมีไว้เพื่อตัวเขาเอง ไม่เหมาะที่จะนำเข้ามาในวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า 5 พวกเจ้าจะทำอะไรในงานเลี้ยงฉลองตามกำหนด ในวันเทศกาลขององค์พระผู้เป็นเจ้า? 6 ถึงแม้พวกเขาจะรอดพ้นจากความพินาศย่อยยับ อียิปต์ก็จะรวบรวมพวกเขา และเมมฟิสจะฝังพวกเขาไว้ คลังเงินของพวกเขาจะถูกปกคลุมด้วยพืชหนาม ต้นหนามจะงอกขึ้นท่วมเต็นท์ของพวกเขา 7 วันแห่งการลงโทษกำลังมาถึง วันลงอาญามาใกล้แล้ว อิสราเอลจงรู้เถิด เพราะบาปของพวกเจ้ามากมายนัก เจตนาร้ายของพวกเจ้าใหญ่หลวงนัก ผู้เผยพระวจนะถูกนับว่าเป็นคนโง่ ผู้ที่พระเจ้าดลใจกลับถูกหาว่าเป็นคนบ้าคลั่ง 8 ผู้เผยพระวจนะพร้อมกับพระเจ้าของข้าพเจ้า เป็นยามดูแลเอฟราอิม แต่กับดักรอเขาอยู่ตลอดเส้นทาง และมีศัตรูในพระนิเวศของพระเจ้าของพวกเขา 9 พวกเขาจมดิ่งลงในความเสื่อมทราม เหมือนสมัยกิเบอาห์ พระเจ้าจะทรงระลึกถึงความชั่วช้าของพวกเขา และลงโทษบาปทั้งหลายของพวกเขา 10 “เมื่อเราพบอิสราเอล ก็เหมือนพบองุ่นในถิ่นกันดาร เมื่อเราเห็นบรรพบุรุษของพวกเจ้า ก็เหมือนเห็นผลมะเดื่อรุ่นแรก แต่เมื่อพวกเขามาที่บาอัลเปโอร์ […]

โฮเชยา 10

1 อิสราเอลเป็นองุ่นเถางาม เขาเกิดผลเพื่อตัวเอง เมื่อผลยิ่งดก เขาก็ยิ่งสร้างแท่นบูชาเพิ่ม เมื่อดินแดนของเขารุ่งเรืองขึ้น เขาก็ตกแต่งหินศักดิ์สิทธิ์ 2 จิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความหลอกลวง และบัดนี้พวกเขาต้องรับโทษ พระองค์จะทรงพังแท่นบูชาของพวกเขา และทำลายหินศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา 3 แล้วพวกเขาจะพูดว่า “เราไม่มีกษัตริย์ เพราะเราไม่ได้ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ถึงเรามีกษัตริย์ พวกเขาจะทำอะไรให้เราได้?” 4 พวกเขาสัญญาไว้มากมาย ทำข้อตกลง และสาบานเท็จ ฉะนั้นการฟ้องร้องคดีจึงงอกงาม เหมือนวัชพืชที่เป็นพิษในทุ่งนาที่ไถแล้ว 5 ประชาชนที่อาศัยในสะมาเรีย กลัวเทวรูปลูกวัวที่เบธอาเวน คนของพระนั้นจะคร่ำครวญถึงมัน ปุโรหิตผู้ลุ่มหลงมันก็เช่นกัน และบรรดาผู้ที่ชื่นชมในความโอ่อ่าตระการของพระนั้นก็เป็นไปด้วย เพราะมันจะถูกเนรเทศออกไป 6 มันจะถูกนำไปอัสซีเรีย เป็นเครื่องบรรณาการแก่กษัตริย์ผู้เกรียงไกร เอฟราอิมจะอับอายขายหน้า อิสราเอลจะอดสูเนื่องด้วยเทวรูปซึ่งทำด้วยไม้ของพวกเขา 7 สะมาเรียและกษัตริย์ของมันจะลอยหายไป เหมือนเศษไม้ที่อยู่บนผิวน้ำ 8 เทวสถานแห่งความชั่วร้ายซึ่งอยู่บนที่สูงของอิสราเอลจะถูกทำลาย มันเป็นบาปของอิสราเอล พืชหนามจะงอกขึ้น ปกคลุมแท่นบูชาของเขา แล้วพวกเขาจะกล่าวแก่ภูเขาทั้งหลายว่า “ปกคลุมเราไว้เถิด!” และบอกเนินเขาทั้งหลายว่า “ล้มมาทับเราเถิด!” 9 “อิสราเอลเอ๋ย เจ้าได้ทำบาปมาตั้งแต่สมัยกิเบอาห์ และเจ้ายังทำอยู่อย่างนั้นเรื่อยมา สงครามไม่ได้เล่นงานคนทำชั่ว ในกิเบอาห์หรอกหรือ? 10 […]