1 “ข้าได้ทำพันธสัญญากับนัยน์ตาของตัวเองว่า จะไม่มองหญิงสาวด้วยใจกำหนัด 2 เพราะอะไรคือสิ่งที่พระเจ้าเบื้องบนทรงกำหนดให้มนุษย์? อะไรคือมรดกจากองค์ทรงฤทธิ์เบื้องบน? 3 ก็คือหายนะสำหรับคนชั่ว และภัยพิบัติสำหรับคนทำผิดไม่ใช่หรือ? 4 พระองค์ไม่ได้ทอดพระเนตรเห็นหนทางของข้า และทรงนับทุกย่างก้าวของข้าหรอกหรือ? 5 “หากข้าได้ดำเนินชีวิตในความเท็จ หรือเท้าของข้ามุ่งสู่การหลอกลวง 6 ขอพระเจ้าทรงชั่งข้าด้วยตราชูที่เที่ยงตรง แล้วจะทรงทราบว่าข้าไร้ตำหนิ 7 หากข้าเตลิดจากทางของพระเจ้า หากตาของข้าพาใจมัวเมา หรือหากมือของข้าแปดเปื้อนมลทิน 8 ก็ขอให้คนอื่นกินสิ่งที่ข้าได้หว่าน และขอให้พืชผลของข้าถูกถอนรากถอนโคน 9 “หากจิตใจของข้าถูกผู้หญิงล่อไป หรือหากข้าซุ่มอยู่ที่ประตูของเพื่อนบ้าน 10 ก็ขอให้ภรรยาของข้าไปโม่แป้งให้คนอื่น และให้ชายอื่นหลับนอนกับนาง 11 เพราะสิ่งนั้นน่าละอาย เป็นบาปที่ต้องถูกลงโทษ 12 มันเป็นไฟเผาผลาญสู่ความหายนะ และจะขุดรากถอนโคนสิ่งที่ข้าปลูกไว้ 13 “หากข้าไม่ให้ความยุติธรรม แก่คนรับใช้ชายหญิง ซึ่งมากล่าวโทษข้า 14 ข้าจะทำอย่างไรเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพระเจ้า? ข้าจะตอบอย่างไรเมื่อพระองค์ทรงเรียกให้ถวายรายงาน? 15 พระเจ้าผู้ทรงสร้างข้าในครรภ์ก็ทรงสร้างพวกเขาด้วยไม่ใช่หรือ? พระเจ้าองค์เดียวกันนี้ทรงสร้างเราทั้งสองฝ่ายในท้องแม่ไม่ใช่หรือ? 16 “หากข้าบอกปัดความต้องการของผู้ยากไร้ หรือปล่อยให้หญิงม่ายคอยเก้อ 17 หากข้าหวงอาหารไว้กับตัว ไม่ยอมแบ่งปันแก่ลูกกำพร้าพ่อ 18 ซึ่งอันที่จริงตั้งแต่หนุ่มมา […]
Category Archives: โยบ
โยบ 32
เอลีฮู 1 เพื่อนทั้งสามเลิกโต้ตอบกับโยบ เพราะโยบเห็นว่าตนเป็นคนชอบธรรม 2 แต่เอลีฮูบุตรบาราเคลชาวบุซีในครอบครัวของรามโกรธเคืองโยบที่อ้างว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกแทนที่จะเป็นพระเจ้า 3 และเอลีฮูก็โกรธเพื่อนทั้งสามของโยบด้วย เพราะพวกเขาพูดหักล้างโยบไม่ได้แต่ก็ยังปรักปรำโยบ 4 เอลีฮูรอที่จะพูดจนถึงขณะนี้ก็เพราะอายุน้อยกว่าคนอื่นๆ 5 เมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสามของโยบหมดคำพูดแล้ว เอลีฮูก็โกรธเคืองยิ่งนัก 6 ดังนั้นเอลีฮูบุตรบาราเคลชาวบุซีจึงกล่าวว่า “ข้าพเจ้าอายุน้อย ส่วนท่านมีอาวุโส ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงยับยั้งอยู่ ไม่กล้าบอกสิ่งที่ตัวเองรู้แก่ท่าน 7 ข้าพเจ้าคิดว่า ‘ควรให้ผู้อาวุโสพูด ผู้มีประสบการณ์นานปีควรสอนสติปัญญา’ 8 แต่ที่จริงเป็นจิตวิญญาณในตัวมนุษย์ ลมปราณแห่งองค์ทรงฤทธิ์ทำให้เขามีความเข้าใจ 9 ไม่ใช่คนแก่เท่านั้นที่มีปัญญา ไม่เพียงคนสูงอายุเท่านั้นที่เข้าใจว่าสิ่งใดถูกต้อง 10 “ฉะนั้นโปรดฟังข้าพเจ้าพูด ข้าพเจ้าจะบอกสิ่งที่ตัวเองรู้แก่ท่านด้วย 11 ข้าพเจ้าคอยอยู่ขณะที่ท่านพูด ข้าพเจ้าฟังเหตุผลของพวกท่าน ขณะที่พวกท่านกำลังสรรหาถ้อยคำมากล่าว 12 ข้าพเจ้าตั้งใจฟังเต็มที่ แต่ไม่มีผู้ใดในพวกท่านพิสูจน์ได้ว่าโยบผิด ไม่มีใครในพวกท่านตอบคำโต้แย้งของโยบได้ 13 อย่าพูดว่า ‘เราได้พบสติปัญญาแล้ว ขอให้พระเจ้าเป็นผู้พิสูจน์ว่าเขาผิด ไม่ใช่มนุษย์’ 14 แต่คำพูดของโยบไม่ได้มุ่งมาที่ข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะไม่ตอบโยบด้วยคำโต้แย้งของพวกท่าน 15 “พวกเขานั่งอับจนปัญญาไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว หมดถ้อยคำที่จะโต้แย้ง 16 ข้าพเจ้าจะต้องคอยต่อไปอีกหรือในเมื่อพวกเขานิ่งเงียบ? ในเมื่อพวกเขายืนนิ่งไม่มีคำตอบ? […]
โยบ 33
1 “โยบเอ๋ย บัดนี้โปรดตั้งใจฟัง จงเอาใจใส่ทุกถ้อยคำของข้าพเจ้าเถิด 2 ข้าพเจ้าพร้อมแล้วที่จะเอ่ยปาก คำพูดมารออยู่ที่ปลายลิ้นของข้าพเจ้าแล้ว 3 ถ้อยคำของข้าพเจ้ามาจากใจที่เที่ยงธรรม ริมฝีปากของข้าพเจ้าพูดในสิ่งที่ข้าพเจ้ารู้อย่างจริงใจ 4 พระวิญญาณของพระเจ้าได้สร้างข้าพเจ้า ลมปราณขององค์ทรงฤทธิ์ให้ชีวิตแก่ข้าพเจ้า 5 ฉะนั้นจงตอบข้าพเจ้ามาเถิด หากท่านตอบได้ จงเตรียมตัวของท่านและเผชิญหน้ากับข้าพเจ้า 6 ข้าพเจ้าก็เป็นเหมือนท่านต่อหน้าพระเจ้า ข้าพเจ้าเองก็เกิดมาจากดินเช่นกัน 7 ท่านไม่ต้องตื่นกลัวข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ไม่ใช่ผู้ที่จะเล่นงานท่านอย่างหนัก 8 “แต่ท่านได้พูดให้ข้าพเจ้าได้ยิน ข้าพเจ้าได้ฟังคำที่ท่านกล่าวนั้น 9 ท่านกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าบริสุทธิ์ปราศจากบาป ข้าพเจ้าเป็นคนสะอาดและไม่มีความผิด 10 ถึงกระนั้นพระเจ้าก็เอาผิดข้าพเจ้า พระองค์ทรงนับว่าข้าพเจ้าเป็นศัตรู 11 พระองค์ทรงจับข้าพเจ้าใส่ขื่อคา และทรงเฝ้าดูทุกหนทางของข้าพเจ้าอย่างใกล้ชิด’ 12 “แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่าท่านผิดในข้อนี้ เพราะพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์ 13 ทำไมท่านบ่นต่อว่าพระองค์ ว่าไม่ทรงตอบมนุษย์? 14 ที่จริงพระเจ้าตรัสด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง แม้ว่ามนุษย์ไม่สามารถประจักษ์ได้ 15 ในความฝัน ในนิมิตยามค่ำคืน เมื่อมนุษย์หลับสนิท ขณะเคลิ้มอยู่บนที่นอน 16 พระองค์อาจจะตรัสข้างหูของเขา และตักเตือนว่ากล่าวให้เขากลัว 17 เพื่อหันเหมนุษย์ไม่ให้ทำผิด […]
โยบ 34
1 แล้วเอลีฮูกล่าวว่า 2 “ฟังข้าพเจ้าเถิด ท่านผู้มีปัญญา โปรดฟังข้าพเจ้า ท่านผู้รอบรู้ 3 เพราะหูลิ้มลองถ้อยคำ เหมือนลิ้นลิ้มรสอาหาร 4 ขอให้พวกเราแยกแยะเองว่าอะไรถูก ขอให้พวกเราเรียนรู้ด้วยกันว่าสิ่งใดดี 5 “โยบกล่าวว่า ‘ข้าไม่มีความผิด แต่พระเจ้าไม่ให้ความยุติธรรมแก่ข้า 6 แม้ข้าเองเป็นฝ่ายถูก ก็ยังถูกหาว่าโกหก แม้ข้าไม่ได้ทำผิด ก็ยังถูกลงโทษเป็นแผลรักษาไม่หาย’ 7 มีใครบ้างที่เป็นเหมือนโยบ ผู้ดื่มด่ำความเย้ยหยันเหมือนดื่มน้ำ? 8 เขาเข้าเป็นพวกกับคนชั่ว เขาคบค้ากับคนเลว 9 เพราะเขาพูดว่า ‘มนุษย์ไม่ได้ประโยชน์อะไร จากการพยายามทำให้พระเจ้าพอพระทัย’ 10 “ดังนั้นจงฟังข้าพเจ้าเถิด ท่านผู้มีความเข้าใจ ไม่มีวันที่พระเจ้าจะทำชั่ว หรือองค์ทรงฤทธิ์จะทำผิด 11 พระองค์ทรงสนองแก่มนุษย์ตามสิ่งที่เขาได้ทำ ทรงให้เขาได้รับสมกับความประพฤติของเขา 12 เป็นไปไม่ได้ที่พระเจ้าจะทรงกระทำผิด หรือองค์ทรงฤทธิ์จะบิดเบือนความยุติธรรม 13 ใครหนอแต่งตั้งพระองค์ไว้เหนือโลก? ใครหนอให้พระองค์ควบคุมดูแลโลกทั้งหมด? 14 ถ้าหากพระองค์ตั้งพระทัย จะถอนจิตวิญญาณและลมปราณของพระองค์ไปเสีย 15 มวลมนุษยชาติก็จะพินาศสิ้น มนุษย์จะกลับกลายเป็นฝุ่นธุลีดังเดิม 16 “หากท่านมีความเข้าใจ ขอจงฟังถ้อยคำของข้าพเจ้า […]
โยบ 35
1 แล้วเอลีฮูกล่าวต่อไปว่า 2 “ท่านคิดว่ายุติธรรมแล้วหรือ? ที่ท่านพูดว่า ‘พระเจ้าจะทรงลบล้างข้อกล่าวหาทั้งหมดของข้าพเจ้า’ 3 แต่ท่านก็ยังทูลพระองค์ว่า ‘มีประโยชน์อะไรสำหรับข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะได้อะไรจากการไม่ทำบาป?’ 4 “ข้าพเจ้าขอตอบท่าน และเพื่อนๆ ที่อยู่กับท่านด้วย 5 จงมองขึ้นไปบนฟ้าสวรรค์ ดูหมู่เมฆสูงโพ้นเหนือท่านสิ 6 หากท่านทำบาปจะมีผลอะไรต่อพระองค์? แม้ท่านทำบาปมากมายจะกระทบกระเทือนพระองค์อย่างไร? 7 หากท่านชอบธรรม ท่านได้ถวายอะไรแด่พระองค์หรือ? พระองค์ทรงรับสิ่งใดจากมือของท่านหรือ? 8 ความชั่วร้ายของท่านก็มีผลต่อคนอย่างท่านเท่านั้น และความชอบธรรมของท่านก็มีผลต่อมนุษย์เท่านั้น 9 “มนุษย์ร้องโอดครวญเมื่อถูกกดขี่ข่มเหง วิงวอนขอให้หลุดจากมือผู้มีอำนาจ 10 แต่ไม่มีใครกล่าวว่า ‘พระเจ้าพระผู้สร้างของข้าอยู่ที่ไหน? ผู้ประทานบทเพลงในยามค่ำคืน 11 ผู้ทรงสอนเรามากกว่าสัตว์ทั้งหลายในโลก และทำให้เราฉลาดกว่านกในอากาศ’ 12 พระองค์ไม่ได้ทรงตอบเมื่อมนุษย์ร้องทุกข์ เนื่องจากความหยิ่งผยองของคนชั่ว 13 แท้ที่จริงพระเจ้าไม่ทรงฟังคำวิงวอนไร้สาระของเขา องค์ทรงฤทธิ์ไม่สนพระทัยที่จะฟัง 14 ฉะนั้นพระองค์จะยิ่งไม่ทรงรับฟัง เมื่อท่านกล่าวว่าท่านไม่เห็นพระองค์ เมื่อกล่าวว่าคดีความของท่านอยู่ต่อหน้าพระองค์ และท่านต้องรอคอยพระองค์ 15 และยิ่งกว่านั้นเมื่อท่านกล่าวว่าพระองค์ไม่เคยลงโทษด้วยพระพิโรธ และพระองค์ไม่สังเกตดูความชั่วร้ายแม้แต่น้อย 16 ดังนั้นโยบเปิดปากกล่าวอย่างไร้สาระ และพูดมากโดยปราศจากความรู้” —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOB/35-fa766f8862e7bf4e5e62701c8f390b69.mp3?version_id=179—
โยบ 36
1 เอลีฮูกล่าวต่อไปว่า 2 “ขอให้รับฟังอีกสักหน่อย และข้าพเจ้าจะแสดงให้ท่านเห็นว่า มีอย่างอื่นอีกมากมายที่ต้องพูดแทนพระเจ้า 3 ข้าพเจ้าได้ความรู้มาจากแดนไกล ข้าพเจ้าจะชี้แจงให้ฟังว่าความยุติธรรมนั้นเป็นของพระผู้สร้างของข้าพเจ้า 4 มั่นใจเถิดว่าคำพูดของข้าพเจ้าเป็นความจริง ผู้รอบรู้แท้จริงอยู่กับท่านแล้ว 5 “พระเจ้าทรงฤทธิ์ แต่ก็ไม่ได้ทรงเหยียดหยามผู้ใด พระองค์ทรงฤทธิ์และแน่วแน่ในพระประสงค์ 6 พระองค์ไม่ทรงปล่อยให้คนชั่วมีชีวิตอยู่ แต่ประทานสิทธิ์ให้แก่ผู้ที่ทุกข์ทรมาน 7 พระเนตรของพระองค์ไม่หันไปจากคนชอบธรรม แต่ทรงให้เขานั่งบนบัลลังก์ร่วมกับเหล่ากษัตริย์ และเชิดชูเขาตลอดไป 8 แต่หากมนุษย์ถูกพันธนาการ ถูกมัดด้วยบ่วงทุกข์ทรมาน 9 พระองค์ก็ตรัสบอกพวกเขาว่าพวกเขาได้ทำอะไรลงไป ว่าพวกเขาทำบาปด้วยความผยองอย่างไรบ้าง 10 พระองค์ทรงทำให้พวกเขารับฟังการเตือนสอน และทรงบัญชาให้พวกเขากลับใจจากความชั่วร้าย 11 หากพวกเขาเชื่อฟังและปรนนิบัติพระเจ้า พวกเขาจะใช้ชีวิตที่เหลือด้วยความเจริญรุ่งเรือง และปีเดือนของพวกเขาจะเป็นที่อิ่มเอมใจ 12 แต่หากพวกเขาไม่ยอมฟัง พวกเขาจะพินาศด้วยคมดาบ และตายโดยปราศจากความรู้ 13 “คนอธรรมเก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจ แม้เมื่อพระองค์ทรงล่ามพวกเขาไว้ พวกเขาก็ไม่ร้องขอความช่วยเหลือ 14 พวกเขาเสียชีวิตตั้งแต่วัยฉกรรจ์ ตายในหมู่ผู้ชายขายตัวตามสถานบูชา 15 แต่พระเจ้าทรงกอบกู้ผู้ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์ พระองค์ตรัสกับเขายามทุกข์ลำเค็ญ 16 “พระองค์ทรงเกลี้ยกล่อมท่านให้ออกจากความทุกข์ยาก มายังสถานที่กว้างขวางไร้ข้อจำกัด มาสู่โต๊ะอาหารอันน่าอภิรมย์ของท่านซึ่งเพียบพร้อมด้วยอาหารอันโอชะ 17 […]
โยบ 37
1 “จิตใจของข้าพเจ้าสั่นระรัว และสะทกสะท้านด้วยข้อนี้ 2 ฟังสิ! ฟังเสียงกัมปนาทของพระองค์ เสียงดังก้องจากพระโอษฐ์ของพระองค์ 3 พระองค์ทรงปล่อยฟ้าแลบไปทั่วใต้ฟ้าสวรรค์ และทรงส่งออกไปไกลถึงสุดปลายแผ่นดินโลก 4 ติดตามด้วยพระสุรเสียงกึกก้อง เป็นเสียงกระหึ่มด้วยเดชานุภาพ เมื่อพระองค์ทรงเปล่งพระสุรเสียง พระองค์ก็ไม่ได้ทรงหน่วงเหนี่ยวสิ่งใดไว้ 5 พระสุรเสียงของพระเจ้าดังกึกก้องอย่างน่าอัศจรรย์ ทรงกระทำสิ่งยิ่งใหญ่เกินกว่าเราจะเข้าใจ 6 พระองค์ทรงบัญชาหิมะว่า ‘จงตกลงมาบนแผ่นดินโลก’ และตรัสกับสายฝนว่า ‘จงเทลงมาอย่างหนัก’ 7 พระเจ้าทรงทำให้มนุษย์หยุดจากงานของพวกเขา เพื่อมนุษย์ทั้งปวงที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นจะรู้ถึงพระราชกิจของพระองค์ 8 สัตว์ทั้งหลายเข้าสู่ที่กำบัง พักอยู่ในถ้ำของมัน 9 พายุออกมาจากแหล่งของมัน ความหนาวเย็นมากับลมกล้า 10 ลมหายใจของพระเจ้าทรงทำให้เกิดน้ำแข็ง ทรงทำให้ห้วงน้ำกว้างใหญ่แข็งตัว 11 พระองค์ทรงบรรจุความชุ่มชื้นไว้ในเมฆ และทรงกระจายสายฟ้าแลบออกไป 12 เมื่อพระองค์ทรงบัญชา เมฆก็หมุนวนเหนือพื้นผิวของทั้งโลก มันทำทุกอย่างตามที่ทรงบัญชา 13 พระองค์ทรงส่งเมฆมาเพื่อลงโทษมนุษย์ หรือเพื่อรดแผ่นดินโลกของพระองค์และแสดงความรักมั่นคงของพระองค์ 14 “ฟังเถิด โยบเอ๋ย จงนิ่งพิจารณาสิ่งอัศจรรย์ทั้งปวงของพระเจ้า 15 ท่านทราบไหมว่า พระเจ้าทรงควบคุมเมฆ และทำให้ฟ้าแลบได้อย่างไร? 16 ท่านทราบไหมว่าเมฆลอยอยู่ได้อย่างไร? […]
โยบ 38
องค์พระผู้เป็นเจ้า 1 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบโยบออกมาจากพายุว่า 2 “นี่ใครหนอที่บดบังคำปรึกษาของเรา ด้วยถ้อยคำที่ปราศจากความรู้? 3 จงคาดเอวอย่างลูกผู้ชาย เราจะถาม แล้วเจ้าจงตอบ 4 “เจ้าอยู่ที่ไหนเมื่อเราวางฐานรากของโลก? หากเจ้าเข้าใจ จงบอกเรามาเถิด 5 ใครที่กำหนดขนาดให้โลก? เจ้าย่อมรู้แน่นอน! ใครหนอเป็นผู้ขึงเชือกวัดรอบโลก? 6 อะไรที่ค้ำจุนฐานรากของมันไว้ และใครเป็นผู้วางศิลามุมเอกของมัน 7 ขณะที่เหล่าดวงดาวแห่งรุ่งอรุณขับขานบทเพลงด้วยกัน และทูตสวรรค์ทั้งมวลโห่ร้องด้วยความชื่นชมยินดี? 8 “ใครเป็นผู้ปิดประตูกั้นทะเล เมื่อมันพุ่งขึ้นมาเหมือนออกจากครรภ์ 9 เมื่อเราใช้เมฆเป็นอาภรณ์ของมัน ใช้ความมืดทึบห่อหุ้มมัน 10 เมื่อเรากำหนดขอบเขตจำกัดมันไว้ ตั้งประตูและดาลกั้นไว้ 11 เมื่อเราพูดว่า ‘เจ้าไปได้ไกลแค่นี้ จะไปไกลกว่านี้ไม่ได้ คลื่นคะนองของเจ้าจะหยุดอยู่ตรงนี้แหละ’? 12 “เจ้าเคยบงการรุ่งอรุณ หรือกำหนดตำแหน่งให้แก่รุ่งสาง 13 เพื่อให้มันสาดแสงไปถึงชายขอบแผ่นดิน และสลัดคนชั่วออกไปใช่ไหม? 14 แผ่นดินเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเหมือนดินเหนียวซึ่งถูกประทับตรา ลักษณะของมันโดดเด่นออกมาเหมือนของเสื้อผ้าอาภรณ์ 15 คนชั่วร้ายไม่ได้รับความสว่าง และแขนที่เงื้อง่าของเขาก็ถูกหัก 16 “เจ้าเคยเดินทางไปถึงที่ตาน้ำของห้วงสมุทร หรือเดินในห้วงลึกของมันไหม? 17 ประตูของความตายเคยเผยให้เจ้าเห็นบ้างไหม? […]
โยบ 39
1 “เจ้ารู้หรือไม่ว่าแพะภูเขาตกลูกเมื่อใด? เจ้าเฝ้าดูกวางตัวเมียคลอดลูกอ่อนหรือ? 2 เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันตั้งท้องกี่เดือน? เจ้ารู้เวลาที่มันตกลูกหรือ? 3 พวกมันหมอบตัวลงให้กำเนิดลูกอ่อน การเจ็บท้องคลอดของมันสิ้นสุดลง 4 ลูกอ่อนของมันเติบโตและแข็งแรงขึ้นในป่า แล้วก็จากไปไม่กลับมาอีก 5 “ใครปล่อยลาป่าให้เป็นอิสระ? ใครแก้เชือกที่ผูกมันไว้? 6 เราได้ให้ที่กันดารไว้เป็นบ้านของมัน และให้ย่านดินโป่งเป็นที่อาศัยของมัน 7 มันหัวเราะเยาะเสียงอึกทึกของตัวเมือง และมันไม่ได้ยินเสียงตะโกนของผู้ขับขี่ 8 แนวเขาเป็นทุ่งหญ้าของมัน ที่นั่นมันเสาะหาหญ้าเขียวทุกยอด 9 “วัวป่าจะยอมรับใช้เจ้าหรือ? มันจะอยู่ข้างๆ รางหญ้าของเจ้าในยามค่ำคืนหรือ? 10 เจ้าสามารถจับมันสนตะพายมาลากไถให้เจ้าหรือ? มันจะยอมไถที่ลุ่มตามเจ้าไปหรือ? 11 เจ้าจะพึ่งพากำลังมหาศาลของมันหรือ? เจ้าจะมอบงานหนักให้มันทำหรือ? 12 เจ้าจะเชื่อใจให้มันนำเมล็ดข้าวของเจ้า มายังลานนวดข้าวหรือ? 13 “นกกระจอกเทศกระพือปีกอย่างร่าเริง แต่ปีกของมันไม่อาจเทียบกับปีกและขนของนกกระสาดำได้ 14 มันวางไข่ที่พื้น และปล่อยให้อุ่นอยู่ในทราย 15 ไม่สนใจว่าอาจจะถูกเหยียบแตก หรือสัตว์ป่าจะมาเหยียบย่ำ 16 มันทำกับลูกอ่อนอย่างดุดัน ราวกับว่านั่นไม่ใช่ลูก และมันไม่ใส่ใจแม้ว่าจะเหนื่อยเปล่า 17 เพราะพระเจ้าไม่ได้ให้สติปัญญาแก่มัน หรือให้มันรู้จักคิด 18 แต่เมื่อมันกางปีกวิ่งไป […]
โยบ 40
1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโยบว่า 2 “ผู้ที่โต้แย้งกับองค์ทรงฤทธิ์มีอะไรจะแก้ไขพระองค์หรือ? ให้คนที่ฟ้องร้องพระเจ้าตอบมาสิ!” 3 โยบจึงกราบทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า 4 “ข้าพระองค์ไม่คู่ควร แล้วข้าพระองค์จะทูลตอบพระองค์ได้อย่างไร? ข้าพระองค์เอามือปิดปากไว้ 5 ข้าพระองค์พูดไปแล้ว แต่ข้าพระองค์ไม่มีคำตอบ พูดไปหลายครั้งหลายหนแล้ว ข้าพระองค์จะไม่พูดอีก” 6 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโยบจากพายุว่า 7 “จงคาดเอวไว้อย่างลูกผู้ชาย เราจะถาม แล้วเจ้าจงตอบ 8 “เจ้าจะทำให้ความยุติธรรมของเราเสื่อมไปหรือ? และหาว่าเราผิดเพื่อเจ้าจะเป็นฝ่ายถูกหรือ? 9 เจ้ามีแขนแข็งแรงเหมือนแขนของพระเจ้าหรือ? เจ้าเปล่งเสียงกัมปนาทเหมือนพระเจ้าได้หรือ? 10 ถ้าเช่นนั้นจงประดับตัวด้วยศักดิ์ศรีและสง่าราศี ห่มตัวด้วยเกียรติยศและบารมี 11 ระบายความเกรี้ยวกราดของเจ้าออกมาสิ มองดูทุกคนที่หยิ่งผยองและปราบเขาให้ตกต่ำลงมาสิ 12 จงมองดูทุกคนที่หยิ่งผยองและทำให้เขาต่ำลง บดขยี้คนชั่วร้ายในที่ซึ่งเขายืนอยู่สิ 13 จงฝังพวกเขาทุกคนไว้ด้วยกันในฝุ่นธุลี และกลบหน้าเขาไว้ในหลุมฝังศพ 14 แล้วเราเองจะยอมรับว่า มือขวาของเจ้าช่วยตัวเจ้าเองได้ 15 “จงมองดูเบเฮโมทเถิด เราได้สร้างมันขึ้นมาเหมือนที่เราสร้างเจ้า มันกินหญ้าเหมือนวัว 16 ดูบั้นเอวอันทรงพลัง และกล้ามเนื้อท้องของมันสิ! 17 หางของมันกวัดไกวเหมือนสนซีดาร์ เส้นเอ็นต้นขาของมันสานเข้าด้วยกันอย่างเหนียวแน่น 18 กระดูกของมันเหมือนท่อทองสัมฤทธิ์ […]