โยบ 1 แล้วโยบตอบว่า 2 “ขอให้ตั้งใจฟังคำของข้า ขอให้นี่เป็นการปลอบใจที่ท่านให้ข้า 3 ขอให้อดทนฟังขณะที่ข้าพูด แล้วหลังจากนั้นเชิญถากถางต่อไปได้ 4 “ข้าบ่นต่อว่าเรื่องมนุษย์หรือ? ทำไมข้าจะต้องอดกลั้นไว้? 5 จงมองดูข้า แล้วตกตะลึง และเอามือปิดปากไว้ 6 เมื่อข้าคิดเรื่องนี้ ข้าเองยังอกสั่นขวัญแขวน กายข้าก็สั่นสะท้าน 7 ทำไมหนอคนชั่วร้ายอยู่ไปจนแก่เฒ่า และเรืองอำนาจขึ้นเรื่อยๆ? 8 เขาอยู่เห็นลูกหลานมั่นคงเป็นปึกแผ่นรายล้อมตัวเขา ลูกหลานของเขาอยู่ต่อหน้าเขา 9 บ้านของเขาปลอดภัยและไม่ต้องหวาดกลัวสิ่งใด ไม่ต้องพานพบไม้เรียวของพระเจ้า 10 วัวผู้ของเขาผสมพันธุ์ไม่มีขาด แม่วัวของเขาตกลูกและไม่เคยแท้ง 11 เขามีลูกหลานมากมายเหมือนฝูงแพะแกะ เด็กๆ ของเขาก็ร้องเล่นเต้นรำ 12 พวกเขาร้องเพลงคลอเสียงพิณและรำมะนา รื่นเริงกับเสียงปี่ 13 เขาใช้ชีวิตอย่างเจริญรุ่งเรือง และเข้าสู่แดนมรณาด้วยความสงบสุข 14 ถึงกระนั้นเขาก็พูดกับพระเจ้าว่า ‘อย่ามายุ่งกับเรา! เราไม่อยากรู้วิถีทางของพระองค์ 15 องค์ทรงฤทธิ์เป็นใครกันเราจึงต้องรับใช้พระองค์? เราจะอธิษฐานต่อพระองค์ไปเพื่ออะไร?’ 16 แต่ความเจริญรุ่งเรืองของพวกเขาไม่ได้อยู่ในมือของพวกเขาเอง ข้าจึงไม่ใส่ใจคำแนะนำของคนชั่ว 17 “กี่ครั้งที่ตะเกียงของคนชั่วร้ายถูกดับไป? กี่ครั้งที่ภัยพิบัติเกิดกับเขา? […]
Category Archives: โยบ
โยบ 22
เอลีฟัส 1 แล้วเอลีฟัสชาวเทมานตอบว่า 2 “มนุษย์จะมีประโยชน์อันใดสำหรับพระเจ้าได้? แม้แต่คนเฉลียวฉลาดก็จะเป็นประโยชน์อะไรสำหรับพระองค์ได้? 3 หากท่านชอบธรรม นั่นจะทำให้องค์ทรงฤทธิ์พอพระทัยตรงไหน? หากท่านดีพร้อม จะมีประโยชน์อันใดสำหรับพระองค์? 4 “เพราะคุณธรรมของท่านหรือ พระองค์จึงทรงตำหนิและตั้งข้อหาท่าน? 5 ไม่ใช่เพราะท่านชั่วร้ายมากหรือ? ไม่ใช่เพราะบาปที่ไม่สิ้นสุดของท่านหรือ? 6 ท่านได้เรียกร้องของค้ำประกันจากพี่น้องโดยไม่มีเหตุผล ท่านทำให้ผู้คนหมดเนื้อหมดตัว 7 ท่านไม่ได้ให้น้ำแก่ผู้อิดโรย และไม่แบ่งปันอาหารแก่ผู้หิวโหย 8 แม้ว่าท่านจะมีอิทธิพล เป็นเจ้าของที่ดิน มีคนนับหน้าถือตาและอาศัยในที่แห่งนั้น 9 ท่านขับไล่ไสส่งแม่ม่ายออกไปมือเปล่า และริดรอนกำลังของลูกกำพร้าพ่อ 10 ด้วยเหตุนี้กับดักหลุมพรางจึงอยู่รายรอบท่าน หายนะฉับพลันทำให้ท่านขวัญหนีดีฝ่อ 11 ความมืดมนจึงทำให้ท่านมองไม่เห็น และกระแสน้ำท่วมมิดท่าน 12 “พระเจ้าไม่ได้ประทับที่เบื้องสูงแห่งฟ้าสวรรค์หรือ? ดูเถิดว่าหมู่ดาวเบื้องบนอยู่สูงเพียงใด? 13 ถึงกระนั้นท่านก็กล่าวว่า ‘พระเจ้ารู้อะไร? พระองค์จะสามารถพิพากษาผ่านความมืดทึบนี้ได้หรือ? 14 เพราะเมฆหนาทึบบังพระองค์ไว้ เมื่อพระองค์เสด็จไปมาเหนือฟ้ากว้าง พระองค์จึงไม่ทรงเห็นเรา’ 15 ท่านจะเดินบนทางสายเก่า ที่คนชั่วได้เดินย่ำมานั้นหรือ? 16 พวกเขาถูกคร่าไปก่อนกำหนด รากฐานของเขาถูกน้ำท่วมกวาดล้างไป 17 เขาพูดกับพระเจ้าว่า […]
โยบ 23
โยบ 1 แล้วโยบจึงตอบว่า 2 “คำร้องทุกข์ของข้าวันนี้ยังคงเป็นคำที่ขมขื่น พระหัตถ์ของพระองค์ก็หนักหน่วงทั้งๆ ที่ข้าร้องครวญคราง 3 ถ้าเพียงแต่ข้ารู้ว่าจะหาพระเจ้าได้ที่ไหน ถ้าเพียงแต่ข้าสามารถไปถึงที่ประทับของพระองค์! 4 ข้าจะทูลแถลงคดีของข้าต่อหน้าพระองค์ และขอโต้แย้งอย่างเต็มที่ 5 แล้วข้าจะรู้ว่าพระองค์จะทรงตอบข้าว่าอย่างไร และข้าจะใคร่ครวญสิ่งที่พระองค์ตรัส 6 พระองค์จะทรงใช้อำนาจอันยิ่งใหญ่ต่อต้านข้าหรือ? หามิได้ พระองค์จะไม่ทรงตั้งข้อหาข้า 7 ที่นั่นคนชอบธรรมสามารถชี้แจงเหตุผลต่อพระองค์ได้ และข้าจะได้รับการปลดปล่อยโดยองค์ตุลาการของข้าให้พ้นมลทินตลอดไป 8 “แต่ถึงข้าไปทางตะวันออก พระองค์ก็ไม่อยู่ที่นั่น ถ้าข้าไปทางตะวันตก ก็ไม่พบพระองค์ 9 เมื่อพระองค์ทรงกระทำพระราชกิจอยู่ทางทิศเหนือ ข้าไม่เห็นพระองค์ เมื่อพระองค์หันมาทางใต้ ข้าหาพระองค์ไม่พบ 10 แต่พระองค์ทรงทราบทางที่ข้าไป เมื่อพระองค์ทรงทดสอบข้าแล้ว ข้าจะเป็นดั่งทองคำ 11 ข้าดำเนินตามรอยพระบาทของพระองค์อย่างใกล้ชิด ข้าอยู่ในทางของพระองค์โดยไม่หันเห 12 ข้าไม่ได้พรากจากพระบัญชาของพระองค์ ข้าเห็นว่าพระวจนะจากพระโอษฐ์ของพระองค์ล้ำค่ายิ่งกว่าอาหารประจำวัน 13 “แต่พระองค์ก็ยังทรงยืนกรานเด็ดเดี่ยว และใครเล่าจะต่อต้านพระองค์ได้? พระองค์ทรงกระทำทุกสิ่งตามชอบพระทัย 14 พระองค์ทรงกระทำแก่ข้าตามที่ทรงมีประกาศิตไว้ และพระองค์ยังมีแผนการอื่นๆ เก็บไว้อีกมากมาย 15 ด้วยเหตุนี้ข้าจึงครั่นคร้ามต่อหน้าพระองค์ เมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ข้าก็ยำเกรงพระองค์ […]
โยบ 24
1 “ทำไมหนอองค์ทรงฤทธิ์จึงไม่ทรงกำหนดเวลาไว้เพื่อการพิพากษา? ทำไมบรรดาผู้ที่รู้จักพระองค์ต้องชะเง้อหาวันเวลาเช่นนั้นโดยเปล่าประโยชน์? 2 มีคนโยกย้ายหลักเขต พวกเขาขโมยฝูงสัตว์มาเลี้ยง 3 พวกเขาริบเอาลาของลูกกำพร้าพ่อ และยึดวัวของแม่ม่ายเป็นของค้ำประกัน 4 พวกเขาผลักไสคนขัดสนออกไปให้พ้นทาง และบีบบังคับคนยากไร้ให้ต้องหลบๆ ซ่อนๆ 5 ดั่งลาป่าในถิ่นกันดาร คนยากไร้ต้องตรากตรำ กระเสือกกระสนหาอาหารจากถิ่นกันดารเพื่อเลี้ยงลูก 6 เขาเก็บหญ้าแห้งตามท้องทุ่ง และเก็บของเหลือในสวนองุ่นของคนชั่ว 7 ยามค่ำคืนต้องนอนหนาวเหน็บไม่มีผ้าจะพันกาย ไม่มีผ้าห่มกันหนาว 8 กายของเขาเปียกโชกเพราะสายฝนแห่งภูเขา และเขาเกาะหินแน่นเพราะไม่มีที่กำบัง 9 ลูกกำพร้าพ่อถูกคร่าจากอกแม่ ทารกของคนยากไร้ถูกจับไปเพราะเป็นหนี้ 10 พวกเขาจึงต้องระหกระเหินไปด้วยกายเปลือยเปล่า ต้องแบกฟ่อนข้าวทั้งๆ ที่หิวโซ 11 เขาคั้นน้ำมันมะกอกในดงมะกอก และย่ำน้ำองุ่นทั้งๆ ที่กำลังทุกข์ทรมานด้วยความกระหาย 12 เสียงครวญครางของคนใกล้ตายดังมาจากตัวเมือง วิญญาณของผู้บาดเจ็บร้องวิงวอนขอความช่วยเหลือ แต่พระเจ้าไม่เห็นเอาผิดกับใคร 13 “มีผู้กบฏต่อความสว่าง ผู้ไม่รู้จัก และไม่ยอมดำเนินในทางของความสว่างนั้น 14 เมื่อสิ้นแสงตะวันแล้ว ฆาตกรก็ลุกขึ้น สังหารคนยากไร้และคนขัดสน ยามค่ำคืนเขาลอบออกไปเหมือนขโมย 15 ตาของคนล่วงประเวณีจ้องรอคอยเวลาพลบค่ำ เขาคิดว่า ‘ไม่มีใครเห็นเรา’ และคลุมหน้าเพื่อพรางตาคน […]
โยบ 25
บิลดัด 1 แล้วบิลดัดชาวชูอาห์ตอบว่า 2 “อำนาจครอบครองและความน่าเกรงขามเป็นของพระเจ้า พระองค์ทรงสถาปนาความเป็นระเบียบไว้ในฟ้าสวรรค์เบื้องสูง 3 กองพลโยธาของพระองค์สามารถนับได้หรือ? ผู้ใดเล่าที่แสงสว่างของพระองค์ส่องไปไม่ถึง? 4 มนุษย์จะชอบธรรมต่อหน้าพระเจ้าได้อย่างไร? ผู้ถือกำเนิดจากสตรีจะบริสุทธิ์ได้อย่างไร? 5 หากแม้แสงจันทร์ยังไม่กระจ่าง และดวงดาวยังไม่บริสุทธิ์ในสายพระเนตรของพระองค์ 6 มนุษย์ซึ่งเป็นเพียงตัวดักแด้ บุตรของมนุษย์ซึ่งเป็นเพียงตัวหนอน จะยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด!” —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOB/25-e7ff35a831a647757e0a5a4ce616bb17.mp3?version_id=179—
โยบ 26
โยบ 1 โยบจึงตอบว่า 2 “ท่านช่วยคนหมดแรงได้มากเสียจริง! ช่วยพยุงแขนที่อ่อนล้าได้เยี่ยมจริงนะ! 3 คำแนะนำที่ท่านให้แก่คนไม่มีปัญญานั้นช่างยอดเยี่ยม! ท่านได้แสดงความเข้าใจที่ลึกซึ้งเสียนี่กระไร! 4 ใครหนอช่วยให้ท่านพูดออกมาอย่างนี้ได้? วิญญาณดวงใดหนอที่พูดออกมาผ่านปากของท่าน? 5 “บรรดาผู้ตายต้องทุกข์ทรมาน ทั้งบรรดาคนที่อยู่ใต้น้ำและทุกชีวิตในนั้น 6 แดนมรณาเปลือยเปล่าต่อหน้าพระเจ้า แดนพินาศไร้สิ่งปกปิด 7 พระเจ้าทรงคลี่ท้องฟ้าด้านเหนือบนความว่างเปล่า และทรงแขวนโลกไว้เหนือที่เวิ้งว้าง 8 พระองค์ทรงห่อหุ้มน้ำไว้ในเมฆของพระองค์ และเมฆก็ไม่ได้แตกกระจายเพราะน้ำหนักของมัน 9 พระองค์ทรงคลี่เมฆ ทรงบดบังจันทร์เพ็ญ 10 พระองค์ทรงกำหนดเส้นขอบฟ้าที่ทะเล เป็นพรมแดนระหว่างความสว่างกับความมืด 11 เสาของฟ้าสวรรค์สั่นคลอน เมื่อพระองค์ทรงกำราบ 12 และโดยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ทะเลก็สงบราบคาบ โดยพระปรีชาญาณ ทรงหั่นราหับออกเป็นชิ้นๆ 13 ฟ้าสวรรค์งดงามโดยลมปราณของพระเจ้า พระหัตถ์ของพระองค์ทรงแทงพญางูที่กำลังเลื้อยไป 14 เหล่านี้เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยที่พระองค์ทรงกระทำ เป็นแค่เสียงกระซิบแผ่วๆ ที่เราได้ยินเกี่ยวกับพระองค์เท่านั้น! แล้วใครเล่าจะสามารถเข้าใจความเกรียงไกรแห่งฤทธิ์อำนาจของพระองค์ได้?” —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOB/26-f00dbd45f248a6d164eac5e61de872a6.mp3?version_id=179—
โยบ 27
1 โยบกล่าวต่อไปว่า 2 “ตราบใดที่พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ พระองค์ทรงปฏิเสธที่จะให้ความยุติธรรมแก่ข้า องค์ทรงฤทธิ์ผู้ทำให้ข้าลิ้มรสความขมขื่นในวิญญาณ 3 ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ตราบใดที่ข้ายังมีลมปราณจากพระเจ้า 4 ตราบนั้นริมฝีปากของข้าจะไม่กล่าวคำชั่ว และลิ้นของข้าจะไม่กล่าวคำหลอกลวง 5 ข้าจะไม่มีวันยอมรับว่าพวกท่านเป็นฝ่ายถูก จนตายข้าก็ขอยืนยันว่าข้าซื่อสัตย์สุจริต 6 ข้าจะยึดมั่นในความชอบธรรมของข้าและไม่มีวันปล่อยวาง มโนธรรมของข้าจะไม่ตำหนิข้าตราบชั่วชีวิต 7 “ขอให้ศัตรูของข้าเป็นเหมือนคนชั่ว ขอให้ปฏิปักษ์ของข้าเป็นเหมือนคนอยุติธรรม! 8 เพราะคนอธรรมจะมีความหวังอะไรเมื่อเขาถูกตัดขาด เมื่อพระเจ้าทรงคร่าชีวิตเขาไป? 9 เมื่อความทุกข์ลำบากมาถึงเขา พระเจ้าทรงฟังเสียงร่ำร้องของเขาหรือ? 10 เขาจะปีติยินดีในองค์ทรงฤทธิ์หรือ? เขาจะร้องทูลพระเจ้าตลอดเวลาหรือ? 11 “ข้าจะสอนท่านถึงเรื่องฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า จะไม่ปิดบังวิถีทางขององค์ทรงฤทธิ์ 12 ท่านเองก็รู้เห็นทั้งหมดนี้แล้ว ทำไมจึงยังพูดเหลวไหลอย่างนี้อีก? 13 “นี่คือชะตากรรมที่พระเจ้าทรงกำหนดให้แก่คนชั่วร้าย และเป็นมรดกที่คนอำมหิตได้รับจากองค์ทรงฤทธิ์ 14 ถึงแม้ลูกหลานของเขาจะมากมาย แต่ก็จะตกเป็นเหยื่อของคมดาบ และวงศ์วานของเขาจะไม่มีวันได้กินอิ่ม 15 ผู้ที่รอดชีวิตอยู่ก็จะถูกนำไปสู่หลุมศพด้วยโรคระบาด ภรรยาม่ายของพวกเขาก็ไม่คร่ำครวญถึงพวกเขา 16 ถึงแม้เขาสะสมเงินไว้มากมายดั่งฝุ่นธุลี และมีเสื้อผ้าเป็นกองๆ เหมือนกองดินเหนียว 17 ผู้ชอบธรรมจะนำสิ่งที่เขาสะสมไว้มาสวมใส่ และคนไร้ผิดจะเอาเงินของเขามาแบ่งปันกัน 18 บ้านที่เขาสร้างขึ้นเหมือนรังของดักแด้ […]
โยบ 28
1 “มีเหมืองเงิน และแหล่งถลุงทองคำ 2 แร่เหล็กได้มาจากพื้นดิน และทองแดงถลุงมาจากสินแร่ 3 มนุษย์ไล่ความมืดออกไป ค้นหาแหล่งแร่ที่ลึกลับที่สุด ในความมืดทึบ 4 เขาขุดปล่องในที่ห่างไกลจากถิ่นที่ผู้คนอาศัย ในที่ซึ่งเท้าของมนุษย์ไม่ได้เหยียบย่างเข้าไป เขาไต่เชือกและแกว่งตัวไปมาในที่ห่างไกลจากผู้คน 5 แผ่นดินโลกเป็นแหล่งอาหาร แต่เบื้องล่างหลอมตัวราวกับถูกไฟเผา 6 แก้วไพฑูรย์มาจากหินของมัน และที่นั่นก็มีผงทองคำ 7 ไม่มีนกล่าเหยื่อตัวใดรู้เส้นทางที่ซ่อนอยู่นั้น ไม่มีตาของเหยี่ยวตัวใดสังเกตเห็น 8 สัตว์ป่าที่สง่างามไม่ย่างกรายไปที่นั่น ไม่มีราชสีห์ตัวใดผ่านไปที่นั่น 9 มือมนุษย์ทำลายหินที่แข็งแกร่ง และทลายภูเขาลงถึงราก 10 เขาขุดอุโมงค์ทะลุหินผา และตาของเขามองเห็นของมีค่าในนั้น 11 เขาเสาะหาต้นน้ำลำธาร และนำสิ่งที่ซ่อนเร้นมาสู่ความสว่าง 12 “แต่จะพบสติปัญญาได้จากที่ไหน? ความเข้าใจอยู่ที่ไหน? 13 มนุษย์ไม่เข้าใจถึงคุณค่าของสติปัญญา หาไม่พบในดินแดนของผู้มีชีวิต 14 ห้วงลึกกล่าวว่า ‘มันไม่ได้อยู่ในนี้’ ทะเลกล่าวว่า ‘มันไม่ได้อยู่ที่นี่’ 15 เราไม่สามารถซื้อปัญญาด้วยทองเนื้อดีที่สุด หรือตีราคาเป็นเงิน 16 หรือแลกซื้อด้วยทองคำแห่งเมืองโอฟีร์ หรือด้วยโกเมนล้ำค่าหรือไพฑูรย์ 17 ไม่ว่าทองคำหรือแก้วมณีก็ไม่อาจเทียบปัญญาได้ อีกทั้งเพชรพลอยหรือเครื่องทองก็ไม่อาจแลกได้ […]
โยบ 29
1 โยบกล่าวต่อไปว่า 2 “ข้าใฝ่หาปีเดือนที่ผ่านไปยิ่งนัก คิดถึงเมื่อครั้งที่พระเจ้าทรงดูแลข้า 3 ยามที่ดวงประทีปของพระองค์ส่องเหนือศีรษะของข้า ความสว่างของพระองค์นำให้ข้าเดินฝ่าความมืดได้! 4 คิดถึงวัยฉกรรจ์ เมื่อมิตรภาพแน่นแฟ้นของพระเจ้าเป็นพรแก่บ้านของข้า 5 เมื่อองค์ทรงฤทธิ์ยังสถิตกับข้า และลูกๆ ของข้าห้อมล้อมข้า 6 เมื่อกิจการของข้าเจริญรุ่งเรือง แม้แต่หินผายังหลั่งน้ำมันมะกอกให้ 7 “เมื่อข้าไปที่ประตูเมือง และนั่งประจำตำแหน่งที่ลานชุมชน 8 พวกหนุ่มๆ เห็นข้าก็หลีกทางให้ และผู้สูงอายุก็ลุกขึ้นยืนต้อนรับข้า 9 คนระดับผู้นำสงบนิ่ง และเอามือปิดปากไว้ 10 เจ้านายสงบเสียง ลิ้นแตะเพดานปาก 11 ทุกคนที่ฟังข้าก็ชมข้า ทุกคนที่เห็นข้าก็ยกย่องข้า 12 เพราะข้าช่วยเหลือผู้ยากไร้ซึ่งร้องขอความช่วยเหลือ และช่วยลูกกำพร้าพ่อซึ่งไม่มีใครช่วย 13 คนใกล้ตายให้พรข้า ข้าทำให้หัวใจของหญิงม่ายร้องเพลง 14 ข้าสวมความชอบธรรมเป็นอาภรณ์ ความยุติธรรมเป็นเสื้อคลุมและผ้าโพกศีรษะของข้า 15 ข้าเป็นดวงตาให้คนตาบอด เป็นเท้าให้คนง่อย 16 ข้าเป็นบิดาให้คนยากไร้ และเป็นธุระในคดีของคนแปลกหน้า 17 ข้าหักเขี้ยวเล็บของคนชั่ว และช่วยเหยื่อออกมาจากปากของพวกเขา 18 “ข้าคิดว่า ‘ข้าจะตายในบ้านของข้า […]
โยบ 30
1 “แต่เดี๋ยวนี้ผู้ที่อ่อนอาวุโสกว่าข้า เย้ยหยันข้า ซึ่งบิดาของเขาเหล่านั้นข้ายังรังเกียจ ไม่ให้มาอยู่กับสุนัขเลี้ยงแกะของข้า 2 มืออันเปี่ยมพลังของพวกเขามีประโยชน์อันใดสำหรับข้า ในเมื่อกำลังวังชาเสื่อมถอยจากพวกเขาแล้ว 3 พวกเขาผอมโซเพราะหิวโหยและขาดอาหาร ซัดเซพเนจรไปในถิ่นกันดารยามค่ำคืน 4 พวกเขาเก็บผักตามพุ่มไม้ และเก็บรากไม้เป็นอาหาร 5 พวกเขาถูกขับไล่ไสส่งจากเพื่อนพ้อง ผู้คนตะโกนไล่หลังราวกับว่าเขาเป็นขโมย 6 พวกเขาถูกบังคับให้อาศัยอยู่ในพื้นลำธารซึ่งแห้งขอด ตามโพรงหรือตามซอกหิน 7 พวกเขาส่งเสียงร้องอยู่กลางพุ่มไม้ และซุกตัวกันใต้พุ่มหนาม 8 พวกเขาเป็นคนถ่อยด้อยสกุล ถูกขับไล่จากแผ่นดิน 9 “และบัดนี้ลูกๆ ของพวกเขาร้องเพลงเย้ยข้า ข้าตกเป็นขี้ปากของพวกเขา 10 พวกเขารังเกียจข้าและไม่ยอมเข้ามาใกล้ข้า พวกเขาถ่มน้ำลายรดหน้าข้าอย่างไม่ลังเล 11 ในเมื่อพระเจ้าทรงปลดธนูของข้าและทำให้ข้าทุกข์ยาก พวกเขาไม่มีความยับยั้งชั่งใจต่อหน้าข้า 12 ข้าถูกพวกเขาจู่โจมเข้ามาด้านขวามือ พวกเขาวางกับดักหลุมพรางไว้ และโอบล้อมเข้ามาต่อสู้กับข้า 13 พวกเขาปิดกั้นทางหนีของข้า และทำลายล้างข้า พวกเขากล่าวว่า ‘ไม่มีใครช่วยเขาได้เลย’ 14 พวกเขาตรงรี่เข้ามาหาตามรอยแยก ทะลักเข้ามาท่ามกลางซากปรักหักพัง 15 ความอกสั่นขวัญแขวนจู่โจมข้า ศักดิ์ศรีของข้าสูญสิ้นเหมือนถูกลมพัดไป สวัสดิภาพของข้าลอยลับไปดั่งเมฆ 16 “บัดนี้ชีวิตของข้าตกต่ำไป วันคืนอันทุกข์ทรมานยึดข้าไว้ […]