โยบ 11

โศฟาร์ 1 โศฟาร์ชาวนาอามาห์จึงตอบว่า 2 “จะปล่อยให้พูดไปอย่างนี้โดยไม่มีคำตอบหรือ? คนที่พูดแบบนี้จะให้ถือว่าเป็นฝ่ายถูกหรือ? 3 คำพูดเรื่อยเปื่อยของท่านจะทำให้คนนิ่งอยู่ได้หรือ? คำเสียดสีของท่านจะไม่ให้ใครปรามหรือ? 4 ท่านทูลพระเจ้าว่า ‘ความเชื่อของข้าพระองค์ไร้ที่ติ และข้าพระองค์บริสุทธิ์ในสายพระเนตรของพระองค์’ 5 ข้าปรารถนาให้พระเจ้าตรัสยิ่งนัก ให้พระองค์เอื้อนโอษฐ์โต้ตอบท่าน 6 และทรงสำแดงความลี้ลับแห่งสติปัญญาแก่ท่าน เพราะสติปัญญาแท้นั้นมีสองด้าน พึงรู้เถิดว่าพระเจ้าทรงลืมบาปบางอย่างของท่านเสียด้วยซ้ำ 7 “ท่านหยั่งความล้ำลึกของพระเจ้าได้หรือ? ท่านสามารถคะเนขอบเขตขององค์ทรงฤทธิ์ได้หรือ? 8 สิ่งเหล่านี้สูงกว่าฟ้าสวรรค์ ท่านจะทำอะไรได้? และลึกล้ำกว่าแดนมรณา ท่านจะรู้อะไรได้? 9 หากจะวัดก็ยาวกว่าแผ่นดิน และกว้างกว่าท้องทะเล 10 “หากพระองค์เสด็จมาจับท่านขังคุก และเข้ามาพิพากษา ใครเล่าจะยับยั้งพระองค์ได้? 11 พระองค์ย่อมทราบว่าใครโกหกหลอกลวง เมื่อทรงเห็นความชั่วร้ายจะไม่ทรงพิจารณาหรือ? 12 ลาป่าไม่สามารถออกลูกเป็นคนได้ฉันใด คนไม่รู้จักคิดก็ไม่อาจฉลาดได้ฉันนั้น 13 “ถึงกระนั้นหากท่านมอบใจแด่พระเจ้า และชูมือขึ้นอธิษฐานต่อพระองค์ 14 หากท่านยอมทิ้งบาปที่อยู่ในมือของท่าน และไม่ยอมให้ความชั่วเข้ามาในที่พำนักของท่าน 15 เมื่อนั้นท่านก็จะเงยหน้าขึ้นได้โดยไม่ต้องอับอาย จะยืนหยัดมั่นคงได้โดยไม่ต้องกลัว 16 ท่านย่อมจะลืมความทุกข์ลำบากได้แน่นอน แม้นึกได้ก็ดุจสายน้ำที่ไหลผ่านพ้นไป 17 แล้วชีวิตท่านจะเจิดจ้ายิ่งกว่ายามเที่ยงวัน […]

โยบ 12

โยบ 1 โยบตอบว่า 2 “เออ ข้ารู้แล้วล่ะว่าท่านรอบรู้ สติปัญญาจะตายไปกับท่าน! 3 แต่ข้าก็มีความคิดจิตใจเหมือนท่าน ข้าไม่ด้อยไปกว่าท่าน ใครบ้างไม่รู้ในสิ่งที่ท่านพูดมาทั้งหมด? 4 “ข้าได้กลายเป็นที่เย้ยหยันในหมู่เพื่อนฝูง แม้ข้าร้องทูลพระเจ้าและพระองค์ทรงตอบ ข้าเป็นขี้ปากให้เขาถากถาง ทั้งๆ ที่ข้าชอบธรรมและไร้ตำหนิ! 5 คนที่อยู่สุขสบายก็ดูถูกความอับโชค ว่าเป็นชะตากรรมของคนที่กำลังล้ม 6 โจรก็อยู่อย่างสงบสุข คนที่ยั่วยุพระเจ้าก็มั่นคงปลอดภัย คือคนที่ยึดพระของตัวไว้ในมือ 7 “แต่ถามสัตว์ทั้งหลายดูสิ มันจะสอนท่าน ถามนกในอากาศดู มันจะบอกให้ฟัง 8 หรือพูดกับแผ่นดิน แล้วมันจะสอนท่าน หรือให้ปลาในทะเลแจ้งท่าน 9 ที่ยกมาทั้งหมดนี้ สิ่งไหนบ้างที่ไม่รู้ว่า พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำสิ่งนี้? 10 ทุกชีวิตอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ รวมถึงลมหายใจของมวลมนุษยชาติ 11 หูลิ้มลองถ้อยคำ ดั่งลิ้นลิ้มรสอาหารไม่ใช่หรือ? 12 สติปัญญาพบได้ในหมู่คนอาวุโสไม่ใช่หรือ? และชีวิตที่ยืนยาวนำความเข้าใจมาให้ไม่ใช่หรือ? 13 “แต่สติปัญญาและอำนาจเป็นของพระเจ้า คำปรึกษาและความเข้าใจก็เป็นของพระองค์ 14 สิ่งที่พระองค์ทรงทลายลงแล้ว ไม่มีใครสร้างขึ้นมาใหม่ได้อีก และมนุษย์คนใดที่ถูกพระองค์กักขังไว้ ไม่มีใครปลดปล่อยได้ 15 […]

โยบ 13

1 “ดวงตาของข้าได้เห็นทั้งหมดนี้ หูของข้าได้ยินและเข้าใจแล้ว 2 ข้ารู้พอๆ กับท่านนั่นแหละ ไม่ได้ด้อยไปกว่าท่านเลย 3 แต่ข้าอยากทูลตรงๆ ต่อองค์ทรงฤทธิ์ อยากสู้คดีกับพระเจ้า 4 ส่วนพวกท่านเอาความเท็จมาป้ายสีข้า ล้วนแล้วแต่เป็นหมอที่ไม่ได้ความ! 5 โปรดเงียบเสียเถิด! ท่านนิ่งเสียก็ยังจะนับว่าฉลาด 6 บัดนี้โปรดฟังคำแย้งของข้า ฟังคำอ้อนวอนจากปากข้าบ้าง 7 ท่านจะพูดชั่วๆ อ้างว่าพูดแทนพระเจ้าหรือ? ท่านจะพูดล่อหลอกเพื่อพระองค์หรือ? 8 ท่านจะแสดงความลำเอียงเข้าข้างพระองค์หรือ? จะสู้ความแทนพระเจ้าหรือ? 9 หากพระองค์ตรวจสอบท่าน ผลจะออกมาดีหรือเปล่า? ท่านจะตบตาพระเจ้าเหมือนตบตามนุษย์ได้หรือ? 10 พระองค์จะทรงตำหนิท่านแน่นอน หากท่านแสดงความลำเอียงอย่างลับๆ 11 ท่านไม่กลัวพระเดชานุภาพของพระองค์หรือ? ไม่ยำเกรงพระองค์เลยหรือ? 12 ภาษิตของท่านมีค่าเพียงขี้เถ้า คำแก้ต่างของท่านก็เปราะบางอย่างหม้อดิน 13 “เงียบเสียเถอะ ปล่อยให้ข้าพูดไป ถ้าอะไรจะเกิดกับข้าก็ให้มันเกิด 14 เหตุใดข้าจึงยอมเอาตัวเสี่ยงตาย และกำชีวิตของตัวเองไว้ในมือ? 15 แม้ว่าพระองค์ประหารข้า ข้าก็ยังจะหวังในพระองค์ แน่ทีเดียว ข้ายังคงขอสู้คดีต่อหน้าพระองค์ 16 แน่นอน สิ่งนี้จะกลับกลายเป็นการช่วยกอบกู้ข้าด้วยซ้ำ […]

โยบ 14

1 “คนที่เกิดจากสตรีล้วนอายุสั้น และชีวิตก็เต็มไปด้วยความทุกข์ร้อน 2 เขาเบ่งบานเหมือนดอกไม้แล้วก็เหี่ยวเฉาไป เป็นดั่งเงาที่หายวับไปไม่คงอยู่ 3 พระองค์ทรงจับตามองบุคคลเยี่ยงนี้หรือ? และจะทรงนำเขามาพิพากษาหรือ? 4 ใครเล่าสามารถเอาความบริสุทธิ์ออกจากสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์? ไม่มีสักคน! 5 วันเวลาของมนุษย์ถูกกำหนดไว้แล้ว พระองค์ทรงกำหนดปีเดือนของเขา พระองค์ทรงวางขอบเขตซึ่งเขาไม่อาจล่วงล้ำไปได้ 6 ฉะนั้นขอทรงหันไปจากเขา ปล่อยเขาไว้ตามลำพัง จนกว่าเวลาของเขาจะหมดลงเหมือนคนที่ถูกจ้างมา 7 “อย่างน้อยที่สุดยังมีความหวังสำหรับต้นไม้ ถึงมันถูกโค่นก็ยังจะแตกหน่อขึ้นมาอีก และงอกกิ่งใหม่ขึ้นมาแทน 8 รากของมันอาจจะแก่คร่ำคร่าอยู่ในดิน และตอก็ผุพัง 9 แต่เมื่อมันได้กลิ่นอายของน้ำ มันก็สามารถแตกหน่อขึ้นมาใหม่เหมือนต้นอ่อน 10 แต่มนุษย์ตายไปและสิ้นแรง เขาหายใจเฮือกสุดท้ายแล้วก็ไม่เหลืออะไร 11 น้ำในทะเลสาบแห้งไป และแม่น้ำแห้งเหือดไปฉันใด 12 คนเราก็นอนลงและไม่ได้ลุกขึ้นมาอีกฉันนั้น ถึงฟ้าดินสิ้นสลาย มนุษย์ก็จะไม่ฟื้นขึ้นมา หรือถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีก 13 “ถ้าเพียงแต่พระองค์จะซ่อนข้าพระองค์ไว้ในหลุมศพ และพรางข้าพระองค์ไว้จนกว่าพระพิโรธของพระองค์จะผ่านไป! ถ้าเพียงแต่พระองค์จะทรงกำหนดเวลาไว้ให้ข้าพระองค์ และทรงระลึกถึงข้าพระองค์อีก! 14 เมื่อคนเราตายไป เขาจะมีชีวิตอีกหรือ? ข้าพระองค์สู้เหนื่อยยากมาตลอดวันคืน ข้าพระองค์จะรอคอยการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่จะมาถึง 15 พระองค์จะตรัสเรียก และข้าพระองค์จะขานรับ พระองค์จะทรงคิดถึงพระหัตถกิจของพระองค์ […]

โยบ 15

เอลีฟัส 1 เอลีฟัสชาวเทมานโต้ตอบว่า 2 “ควรหรือที่คนฉลาดจะตอบอย่างไร้ความคิด หรืออัดลมตะวันออกที่ร้อนระอุไว้เต็มท้อง? 3 ควรหรือที่เขาจะโต้แย้งด้วยถ้อยคำที่ไร้ประโยชน์ ด้วยวาจาที่ไร้แก่นสาร? 4 ท่านได้บ่อนทำลายความยำเกรงพระเจ้า และหยุดยั้งการยอมจำนนต่อพระองค์ 5 บาปของท่านยุให้ปากท่านพูด ท่านรับเอาลิ้นของคนเจ้าเล่ห์ 6 ปากของท่านกล่าวโทษท่านเอง ไม่ใช่ปากของข้า ริมฝีปากของท่านปรักปรำท่านเอง 7 “ท่านเป็นมนุษย์คนแรกที่เกิดมาหรือ? ท่านเกิดก่อนที่ภูเขาถูกสร้างขึ้นหรือ? 8 ท่านนั่งฟังอยู่ในสภาของพระเจ้าหรือ? ท่านผูกขาดสติปัญญาไว้คนเดียวหรือ? 9 อะไรบ้างที่ท่านรู้แล้วเราไม่รู้? อะไรบ้างที่ท่านเข้าใจโดยที่เราไม่เข้าใจ? 10 บรรดาผู้อาวุโสก็อยู่ฝ่ายเรา คนเหล่านั้นแก่ยิ่งกว่าบิดาของท่านเสียอีก 11 คำปลอบโยนจากพระเจ้าไม่เพียงพอสำหรับท่านหรือ? ถ้อยคำอ่อนหวานไม่เพียงพอหรือ? 12 เหตุใดจิตใจของท่านพาท่านเตลิดไปเช่นนี้? ทำไมตาของท่านจึงลุกเป็นไฟ? 13 ท่านถึงได้เกรี้ยวกราดต่อพระเจ้า และให้ถ้อยคำอย่างนี้พรั่งพรูออกมาจากปากของท่าน 14 “มนุษย์เป็นอะไรเล่าที่จะบริสุทธิ์ได้? ผู้ถือกำเนิดจากสตรีเป็นใครเล่าที่จะชอบธรรมได้? 15 หากพระเจ้ายังไม่ทรงวางพระทัยในบรรดาทูตสวรรค์ของพระองค์ ถ้าแม้แต่ฟ้าสวรรค์ก็ยังไม่บริสุทธิ์ในสายพระเนตรของพระองค์ 16 แล้วมนุษย์ผู้ชั่วช้าและเสื่อมทราม ผู้เสพความชั่วร้ายเหมือนดื่มน้ำจะยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด! 17 “ฟังนะ แล้วข้าจะสาธยายให้ท่านฟัง ถึงประสบการณ์ที่เห็นมา 18 ซึ่งปราชญ์ได้แจ้งไว้ […]

โยบ 16

โยบ 1 แล้วโยบตอบว่า 2 “ข้าได้ยินเรื่องแบบนี้มามากแล้ว พวกท่านล้วนเป็นนักปลอบโยนที่แย่จริงๆ! 3 ถ้อยคำเยิ่นเย้อของท่านไม่มีจบสิ้นเลยหรือ? อะไรหนอทำให้ท่านโต้แย้งอยู่เรื่อยไป? 4 ข้าก็พูดเหมือนท่านได้ ถ้าท่านตกอยู่ในสภาพเดียวกับข้า ข้าก็สามารถยกคำหวานหูมาต่อว่าท่าน แล้วก็ส่ายหน้าเย้ยท่าน 5 แต่ปากข้าจะพูดให้กำลังใจท่าน ปลอบประโลมให้ท่านคลายทุกข์ 6 “แต่แม้ข้าจะพูดไป ความเจ็บปวดของข้าก็ไม่ได้บรรเทาลง และแม้ข้าจะนิ่งเสีย มันก็ไม่ได้หายไป 7 ข้าแต่พระเจ้า แน่ทีเดียว พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์อ่อนระโหย ทรงทำให้ครอบครัวของข้าพระองค์ป่นปี้ 8 ที่ทรงผูกมัดข้าพระองค์ก็กลายเป็นข้อยืนยันอย่างหนึ่ง ร่างกายซูบผอมของข้าพระองค์ได้ลุกขึ้นและเป็นพยานปรักปรำข้าพระองค์ 9 พระเจ้าทรงจู่โจมข้า ทรงฉีกเนื้อข้าด้วยความโกรธกริ้ว และทรงแยกเขี้ยวใส่ข้า ศัตรูจ้องข้าตาลุกวาว 10 ผู้คนอ้าปากเยาะเย้ยข้า พวกเขาตบแก้มข้าด้วยความดูแคลน และรวมหัวกันเล่นงานข้า 11 พระเจ้าทรงมอบข้าไว้กับคนอธรรม ทรงเหวี่ยงข้าไว้ในอุ้งมือของคนชั่ว 12 ข้าอยู่มาอย่างสงบตราบจนพระองค์ทรงฉีกข้า ทรงจับคอข้าและฟาดจนแหลกลาญ ทรงแขวนข้าไว้เป็นเป้าของพระองค์ 13 นักธนูของพระองค์รุมล้อมข้า พระองค์ทรงทะลวงไตข้าอย่างไม่ปรานี น้ำดีของข้าเรี่ยราดอยู่ที่พื้น 14 พระองค์ทรงระเบิดเข้าใส่ข้าครั้งแล้วครั้งเล่า พระองค์ทรงรี่เข้าใส่ข้าเหมือนนักรบ 15 “ข้าเย็บผ้ากระสอบติดผิวหนังของข้า […]

โยบ 17

1 จิตวิญญาณของข้าแหลกสลาย วันคืนของข้าหดสั้นลง หลุมฝังศพรอข้าอยู่ 2 แน่ทีเดียว กลุ่มนักเยาะเย้ยรุมล้อมข้า ตาของข้าต้องมองดูความเกลียดชังของพวกเขา 3 “ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ข้าพระองค์มีสิ่งค้ำประกันตามที่ทรงเรียกร้อง ใครเล่าจะค้ำประกันให้ข้าพระองค์? 4 พระองค์ทรงปิดความคิดจิตใจของพวกเขาไว้จากความเข้าใจ ฉะนั้นจะไม่ทรงปล่อยให้พวกเขามีชัยชนะ 5 หากคนใดปรักปรำเพื่อนเพราะเห็นแก่สินบน ลูกหลานของเขาจะตามืดมัวไป 6 “พระเจ้าทรงกระทำให้ข้าตกเป็นขี้ปากของทุกคน พวกเขาถ่มน้ำลายใส่หน้าข้า 7 ตาของข้ามืดมัวเพราะความทุกข์โศก และทุกส่วนในร่างกายของข้าเป็นเพียงเงา 8 คนชอบธรรมใจหายเมื่อเห็นข้า ผู้บริสุทธิ์ถูกปลุกขึ้นให้ต่อต้านคนอธรรม 9 แต่คนชอบธรรมจะยึดมั่นอยู่ในวิถีของตน ผู้ที่มือสะอาดจะเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ 10 “ส่วนพวกท่านทุกคน มาสิ ลองดูอีก! ข้าจะไม่พบสักคนที่มีปัญญาในพวกท่านเลย 11 วันคืนของข้าผ่านพ้นไป แผนการต่างๆ ของข้าป่นปี้หมด ความปรารถนาในใจข้าย่อยยับไป 12 พวกเขาเปลี่ยนกลางคืนเป็นกลางวัน และในความมืด พวกเขากล่าวว่า ‘ความสว่างมาใกล้แล้ว’ 13 หากแดนผู้ตายเป็นที่พักพิงเดียวที่ข้าหวัง หากข้าต้องกางที่นอนอยู่ในความมืดมิด 14 หากข้าเรียกความเน่าเปื่อยว่า ‘พ่อ’ และเรียกหนอนว่า ‘แม่’ หรือ ‘พี่สาว’ […]

โยบ 18

บิลดัด 1 แล้วบิลดัดชาวชูอาห์ตอบว่า 2 “เมื่อใดท่านจะเลิกพูดแบบนี้? มีเหตุผลหน่อย แล้วเราจึงมาพูดกันได้ 3 ทำไมเห็นเราเป็นวัวเป็นควาย โง่เขลาในสายตาของท่าน? 4 ท่านผู้ทำร้ายตัวเองด้วยความเกรี้ยวกราด จะต้องให้โลกเริศร้างเพื่อท่านหรือ? และต้องให้หินผาเคลื่อนออกไปจากที่ของมันหรือ? 5 “ตะเกียงของคนชั่วร้ายย่อมถูกดับ เปลวไฟของเขาไม่ลุกโชน 6 ดวงสว่างในเต็นท์ของเขามืดไป และตะเกียงข้างตัวของเขาก็ดับไป 7 ย่างก้าวที่มาดมั่นของเขาจะอ่อนล้า แผนการของเขาย้อนกลับไปเล่นงานตัวเขาเอง 8 เขาเดินดุ่มเข้าไปในตาข่าย และหลงเข้าไปติดกับ 9 กับดักจะงับส้นเท้าของเขา บ่วงแร้วจะรัดเขาไว้แน่น 10 มีบ่วงแร้วซ่อนไว้ดักเขาบนพื้นดิน มีกับดักอยู่บนเส้นทางของเขา 11 ความหวาดหวั่นจู่โจมเขาทุกด้าน คอยเล่นงานทุกย่างก้าว 12 ความพินาศจ้องจะเขมือบเขา ภัยพิบัติเตรียมพร้อมที่จะตะครุบเมื่อเขาล้ม 13 มันกัดกร่อนผิวหนังของเขา ความตายเริ่มกัดกินแขนขาของเขา 14 เขาถูกลากออกมาจากเต็นท์ที่มั่นคงปลอดภัย และถูกนำลงมายังองค์กษัตริย์แห่งความหวาดหวั่นพรั่นพรึง 15 ไฟอยู่ในเต็นท์ของเขา กำมะถันติดไฟเกลื่อนกลาดอยู่เหนือที่พำนักของเขา 16 รากของเขาเหี่ยวเฉา และกิ่งก้านของเขาก็แห้งไป 17 อนุสรณ์ของเขาพินาศไปจากโลก สิ้นชื่อไปจากแผ่นดิน 18 เขาถูกขับไล่จากความสว่างไปสู่ความมืดมน […]

โยบ 19

โยบ 1 แล้วโยบจึงโต้ตอบว่า 2 “ท่านจะทรมานข้าไปนานแค่ไหน? จะใช้คำพูดเชือดเฉือนข้าไปนานเท่าใด? 3 สิบครั้งแล้วนะที่ท่านตำหนิติเตียนข้า ที่ท่านโจมตีข้าโดยไม่อาย 4 หากข้าหลงผิดไปจริงๆ ความผิดพลาดก็เป็นเรื่องของข้าคนเดียว 5 หากท่านจะยกตนข่มข้า และใช้ความตกต่ำของข้าปรักปรำข้า 6 ก็จงรู้เถิดว่าพระเจ้าทรงทำผิดต่อข้า และเหวี่ยงแหของพระองค์คลุมข้าไว้ 7 “ถึงแม้ข้าร้องว่า ‘ทรงทำผิดต่อข้า!’ แต่ก็ไม่มีคำตอบ แม้ข้าร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ได้รับความยุติธรรม 8 พระเจ้าทรงปิดกั้นหนทางของข้า ข้าจึงผ่านไปไม่ได้ พระองค์ทรงคลุมทางของข้าไว้ในความมืด 9 พระเจ้าทรงริบศักดิ์ศรีของข้าไป ทรงถอดมงกุฎจากศีรษะของข้า 10 พระองค์ทรงทำลายข้าทุกด้านจนย่อยยับ ทรงขุดรากถอนโคนความหวังของข้าไปเหมือนถอนต้นไม้ 11 พระพิโรธของพระองค์เผาผลาญข้า ทรงถือว่าข้าเป็นศัตรูของพระองค์ 12 กองกำลังของพระองค์ดาหน้าเข้ามา สร้างเชิงเทินเข้าประชิดข้า และตั้งค่ายล้อมเต็นท์ของข้า 13 “พระองค์ทรงให้พี่น้องห่างเหินข้า คนสนิทชิดเชื้อก็กลายเป็นคนแปลกหน้า 14 ญาติของข้าจากไป เพื่อนฝูงก็ลืมข้า 15 แขกเหรื่อและคนรับใช้ถือว่าข้าเป็นคนแปลกหน้า และมองว่าข้าเป็นคนต่างด้าว 16 ข้าเรียกคนใช้ของข้า แต่เขาไม่ตอบ แม้ข้าจะอ้อนวอนเขา 17 […]

โยบ 20

โศฟาร์ 1 แล้วโศฟาร์ชาวนาอามาห์ตอบว่า 2 “ความคิดว้าวุ่นของข้าทำให้ข้าไม่สบายใจอย่างยิ่ง มันเร่งเร้าให้ข้าตอบท่าน 3 ข้าได้ฟังคำติเตียนซึ่งสบประมาทข้า และความเข้าใจดลใจให้ข้าตอบ 4 “ท่านย่อมรู้ว่าเป็นมาอย่างไรตั้งแต่เก่าก่อน เมื่อมนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาในโลก 5 คือความเบิกบานใจของคนชั่วร้ายนั้นสั้น ความชื่นชมยินดีของคนอธรรมนั้นคงอยู่ชั่วครู่เดียว 6 แม้ความอหังการของเขาจะขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และหัวของเขาสูงจรดเมฆ 7 เขาก็จะพินาศไปนิรันดร์เหมือนอุจจาระของเขาเอง ผู้ที่เคยเห็นเขาจะฉงนว่า ‘เขาไปไหนแล้ว?’ 8 เขาลับหายไปเหมือนความฝัน ไม่มีใครพบเห็นอีก ถูกขจัดไปเหมือนนิมิตในยามค่ำคืน 9 ตาที่เคยเห็นเขาจะไม่เห็นเขาอีก ถิ่นของเขาจะไม่พานพบเขาอีกเลย 10 ลูกหลานของเขาจะต้องชดใช้ให้คนยากจน มือของเขาเองต้องคืนทรัพย์สินของตน 11 พลังแห่งวัยฉกรรจ์ซึ่งเต็มล้นในกระดูกของเขา จะนอนลงกับเขาในฝุ่นธุลี 12 “แม้ความชั่วร้ายจะหวานละมุนอยู่ในปาก และเขาอมมันไว้ใต้ลิ้น 13 แม้เขาจะไม่อยากให้มันหมดไป และขออมไว้ในปาก 14 แต่อาหารของเขาจะกลับบูดเปรี้ยวในท้อง กลายเป็นเหมือนพิษงูร้ายในตัวเขา 15 เขาจะคายทรัพย์สมบัติที่เขากลืนลงไป พระเจ้าจะให้ท้องของเขาสำรอกมันออกมา 16 เขาจะดูดพิษงูเห่า และตายด้วยเขี้ยวงู 17 เขาจะไม่ได้ลิ้มรสน้ำผึ้งและน้ำนม ซึ่งหลั่งไหลเหมือนแม่น้ำลำธาร 18 เขาต้องคืนสิ่งที่ตนตรากตรำทำมาทั้งที่ยังไม่ได้กิน […]