บาบิโลนคือดาบแห่งการพิพากษาของพระเจ้า 1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าความว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงหันหน้าไปยังเยรูซาเล็ม และกล่าวตำหนิสถานนมัสการ จงพยากรณ์แก่ดินแดนอิสราเอล 3 และกล่าวแก่ดินแดนนั้นว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า เราเป็นศัตรูกับเจ้า เราจะชักดาบออกจากฝัก และเอาชีวิตทั้งคนชอบธรรมและคนอธรรมไปจากเจ้า 4 เพราะเราจะไม่ไว้ชีวิตทั้งคนชอบธรรมและคนอธรรม เราจะชักดาบออกจากฝักฟาดฟันทุกคนจากเหนือจดใต้ 5 แล้วคนทั้งปวงจะรู้ว่าเราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้ชักดาบของเราออกจากฝักและจะไม่เก็บมันเข้าฝักอีก’ 6 “ฉะนั้นบุตรมนุษย์เอ๋ย! จงคร่ำครวญต่อหน้าพวกเขาด้วยหัวใจที่แตกสลายและด้วยความทุกข์ระทมขมขื่น 7 และเมื่อพวกเขาถามว่า ‘เจ้าครวญครางทำไม?’ จงกล่าวว่า ‘เพราะข่าวที่มาถึงทำให้หัวใจทุกดวงฝ่อลง ทุกมือก็อ่อนเปลี้ย วิญญาณทุกดวงหมดแรง ทุกเข่าอ่อนปวกเปียกเหมือนน้ำ’ สิ่งนั้นกำลังจะมาถึงแล้ว! จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น” 8 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 9 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงพยากรณ์ว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า “ ‘ดาบเล่มหนึ่ง ดาบเล่มหนึ่ง ลับไว้คมกริบและเปล่งประกายแวววับ 10 ลับไว้เพื่อเข่นฆ่า คมกริบเปล่งประกายดั่งสายฟ้า! “ ‘ยังจะให้พวกเราชื่นชมยินดีในไม้คทาแห่งยูดาห์ลูกของเราหรือ? ดาบนั้นรังเกียจไม้เช่นนั้นทุกอัน 11 “ ‘ดาบถูกลับไว้คมกริบ กุมไว้มั่นกระชับมือ ลับให้ขึ้นเงาไว้แล้ว เตรียมพร้อมอยู่ในมือเพชฌฆาต 12 บุตรมนุษย์เอ๋ย จงร้องไห้คร่ำครวญเถิด […]
Category Archives: เอเสเคียล
เอเสเคียล 22
บาปของเยรูซาเล็ม 1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจะพิพากษากรุงนี้ไหม? เจ้าจะพิพากษานครแห่งการนองเลือดนี้หรือไม่? ฉะนั้นจงประณามพฤติกรรมอันน่าชิงชังของมัน 3 และกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า กรุงที่นำหายนะมาสู่ตนเองโดยทำให้มีการหลั่งเลือดและปล่อยตัวแปดเปื้อนมลทินโดยการสร้างรูปเคารพ 4 เจ้ามีความผิดเพราะทำให้หลั่งเลือด และเจ้าแปดเปื้อนมลทินเพราะรูปเคารพที่ตนสร้างขึ้น เจ้านำจุดจบและอวสานมาถึงตัวเอง ฉะนั้นเราจะทำให้เจ้าตกเป็นเป้าของการดูหมิ่นของชาติต่างๆ และเป็นที่เย้ยหยันของนานาประเทศ 5 ทั้งบรรดาผู้อยู่ใกล้และผู้อยู่ไกลจะเยาะเย้ยเจ้า โอ กรุงที่เสียชื่อและเต็มไปด้วยความโกลาหล 6 “ ‘ดูเถิด เจ้านายแต่ละองค์ของอิสราเอลใช้อำนาจบาตรใหญ่ทำให้เกิดการนองเลือด 7 ในกรุงนี้ผู้คนดูหมิ่นเหยียดหยามพ่อแม่ของตน ในกรุงนี้พวกเขากดขี่ข่มเหงคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่าย 8 เจ้าดูหมิ่นสิ่งบริสุทธิ์ของเราและทำให้สะบาโตของเรามัวหมอง 9 ในกรุงนี้มีคนพูดให้ร้าย มุ่งทำให้โลหิตตก ในกรุงนี้มีคนที่กินเลี้ยงในสถานบูชาบนภูเขาและทำสิ่งที่ชั่วช้าลามก 10 ในกรุงนี้มีผู้ล่วงประเวณีกับภรรยาของบิดา ในกรุงนี้มีคนหลับนอนกับผู้หญิงขณะที่นางมีประจำเดือนอันเป็นเวลาที่เป็นมลทินตามระเบียบพิธี 11 ในกรุงนี้มีคนที่ทำเรื่องต่ำช้าสามานย์กับภรรยาของเพื่อนบ้าน ในกรุงนี้บางคนทำให้ลูกสะใภ้เป็นมลทินน่าละอาย บางคนล่วงเกินพี่สาวน้องสาวร่วมบิดา 12 ในกรุงนี้มีคนที่รับสินบนเพื่อทำให้โลหิตตก มีเจ้าหนี้หน้าเลือดเรียกดอกเบี้ยอย่างขูดรีดขู่กรรโชกเอากำไรเพื่อนบ้าน และพวกเจ้าหลงลืมเรา พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น 13 “ ‘เราจะทุบกำปั้นลงเหนือกำไรที่เจ้าได้มาอย่างไม่ยุติธรรม และเหนือเลือดที่เจ้าทำให้หลั่งนองในหมู่พวกเจ้า 14 ในวันที่เราจัดการกับเจ้า เจ้าจะฝืนทนต่อไปได้หรือ? มือทั้งสองของเจ้าจะยังเข้มแข็งอยู่หรือ? […]
เอเสเคียล 23
พี่น้องสองสาวผู้ล่วงประเวณี 1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย มีพี่น้องสองสาวร่วมมารดา 3 ทั้งคู่กลายเป็นโสเภณีอยู่ในอียิปต์ ทำตัวแพศยาตั้งแต่สาวรุ่น หน้าอกของนางทั้งสองถูกเคล้าคลึง และอกพรหมจารีของนางถูกกอดรัดในดินแดนนั้น 4 พี่สาวชื่อโอโฮลาห์ น้องสาวคือโอโฮลีบาห์ ทั้งสองเป็นกรรมสิทธิ์ของเรา และให้กำเนิดบุตรชายบุตรสาวหลายคน โอโฮลาห์คือสะมาเรีย ส่วนโอโฮลีบาห์คือเยรูซาเล็ม 5 “โอโฮลาห์เริ่มขายตัวตั้งแต่นางยังเป็นของเรา นางกระสันหาชู้รักของนาง คือเหล่านักรบอัสซีเรีย 6 ซึ่งล้วนเป็นหนุ่มหล่อเหลา แต่งกายชุดสีน้ำเงิน มีทั้งผู้ว่าการ แม่ทัพ และทหารม้า 7 นางทอดกายเยี่ยงโสเภณีแก่บรรดาผู้ทรงอำนาจของอัสซีเรีย และปล่อยตัวเป็นมลทินด้วยรูปเคารพทั้งปวงของทุกคนที่นางกระสันหา 8 นางไม่ได้ละทิ้งการแพศยาที่นางเริ่มขึ้นในอียิปต์ เมื่อนางยังเป็นสาวรุ่นมีคนหลับนอนกับนาง กอดจูบอกพรหมจารีของนางและระบายราคะตัณหาแก่นาง 9 “ฉะนั้นเราจึงมอบนางแก่ชาวอัสซีเรีย ชู้รักซึ่งนางกระสันหา 10 เขาเหล่านั้นได้ปอกลอกนางจนล่อนจ้อนและฆ่านางด้วยดาบ จับลูกๆ ของนางไป นางถูกลงทัณฑ์และกลายเป็นคำเปรียบเปรยในหมู่ผู้หญิง 11 “โอโฮลีบาห์น้องสาวของนางเห็นเช่นนี้แล้ว กลับทำตัวเลวทรามยิ่งกว่าพี่สาวเสียอีก ในเรื่องราคะตัณหาและการขายตัว 12 นางก็เช่นเดียวกันไปกระสันหาชาวอัสซีเรีย ทั้งผู้ว่าการ แม่ทัพ นักรบในเครื่องแบบ ทหารม้าผู้โอ่อ่า ล้วนเป็นหนุ่มหล่อเหลา 13 […]
เอเสเคียล 24
หม้อหุงต้ม 1 ในวันที่สิบเดือนที่สิบของปีที่เก้า พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงบันทึกวันนี้ไว้เพราะกษัตริย์บาบิโลนได้ล้อมกรุงเยรูซาเล็มวันนี้ 3 จงกล่าวคำอุปมาแก่พงศ์พันธุ์ที่ชอบกบฏนี้ว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ ‘จงตั้งหม้อขึ้น แล้วเทน้ำใส่ 4 ใส่ชิ้นเนื้อลงไป ชิ้นเนื้อดีๆ ทั้งหมดคือเนื้อสะโพกและเนื้อสันขาหน้า จงเลือกเอากระดูกชิ้นที่ดีที่สุดใส่ให้เต็มหม้อ 5 คัดแกะตัวเยี่ยมสุดจากฝูงมา สุมฟืนใต้หม้อเพื่อต้มกระดูก ต้มให้เดือด และเคี่ยวกระดูกในหม้อนั้น 6 “ ‘เพราะพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ ‘วิบัติแก่กรุงซึ่งนองเลือด วิบัติแก่หม้อซึ่งบัดนี้ตะกรันเขรอะ ไม่หลุดกะเทาะออกมา! จงเอาเนื้อออกมาทีละชิ้นๆ โดยไม่ต้องจับฉลากว่าจะเอาชิ้นไหนก่อน 7 “ ‘เพราะกรุงนี้ทำให้โลหิตหลั่งนองไปทั่ว นางเทลงบนหินโล่งเตียน ไม่ได้เทลงบนพื้น เพื่อให้ฝุ่นกลบไว้ 8 เพื่อกระตุ้นโทสะและการแก้แค้น เราจึงทิ้งโลหิตของนางบนหินโล่งเตียน เพื่อโลหิตนั้นจะไม่ถูกกลบ 9 “ ‘ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ ‘วิบัติแก่กรุงซึ่งนองเลือด! เราก็จะสุมฟืนเป็นกองสูงเช่นกัน 10 ฉะนั้นจงสุมฟืนเข้าไป และจุดไฟ ใส่เครื่องเทศต่างๆลงไป ต้มเนื้อจนสุกดี และเคี่ยวจนกระดูกไหม้ 11 แล้ววางหม้อเปล่าบนถ่าน จนมันร้อนและทองแดงสุกปลั่ง ตะกอนต่างๆ จะได้หลอมละลาย และตะกรันหนาเขรอะไหม้ไปหมด 12 […]
เอเสเคียล 25
คำพยากรณ์กล่าวโทษอัมโมน 1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงประจันหน้ากับชาวอัมโมน และพยากรณ์กล่าวโทษพวกเขา 3 จงกล่าวกับพวกเขาว่า ‘จงฟังพระดำรัสของพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เนื่องจากเจ้าสมน้ำหน้าสถานนมัสการของเราที่ถูกย่ำยี และสมน้ำหน้าดินแดนอิสราเอลที่ถูกทำให้เริศร้าง และสมน้ำหน้าชาวยูดาห์เมื่อเขาตกเป็นเชลย 4 ฉะนั้นเราจะมอบเจ้าให้เป็นกรรมสิทธิ์ของชาวตะวันออก พวกเขาจะตั้งค่ายและตั้งเต็นท์ในหมู่พวกเจ้า พวกเขาจะกินพืชผลและดื่มนมของเจ้า 5 เราจะทำให้รับบาห์กลายเป็นทุ่งหญ้าสำหรับอูฐ และอัมโมนเป็นที่พักสำหรับฝูงแกะ แล้วเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ 6 เพราะพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เนื่องจากเจ้าปรบมือกระทืบเท้า และกระหยิ่มยิ้มย่องด้วยใจคิดร้ายต่อดินแดนอิสราเอล 7 ฉะนั้นเราจะลงมือทำโทษเจ้า และมอบเจ้าให้ชนชาติต่างๆ ปล้นชิง เราจะทำให้เจ้าสิ้นชาติและไม่มีประเทศของเจ้าอีก เราจะทำลายล้างเจ้า แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์’ ” คำพยากรณ์กล่าวโทษโมอับ 8 “พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสว่า ‘เนื่องจากโมอับและเสอีร์กล่าวว่า “ดูเถิด พงศ์พันธุ์ยูดาห์ก็กลายเป็นเหมือนชนชาติอื่นๆ ทั้งปวง” 9 ฉะนั้น เราจะเปิดฐานกำลังของโมอับ เริ่มตั้งแต่เมืองชายแดนต่างๆ ได้แก่ เบธเยชิโมท บาอัลเมโอน และคีริยาธาอิม ซึ่งเป็นศักดิ์ศรีของดินแดนนั้น 10 เราจะมอบโมอับพร้อมทั้งชาวอัมโมนให้เป็นกรรมสิทธิ์ของชาวตะวันออก เพื่อชนชาติทั้งหลายจะไม่นึกถึงอัมโมนอีก 11 และเราจะลงโทษโมอับ พวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์’ ” […]
เอเสเคียล 26
คำพยากรณ์กล่าวโทษไทระ 1 ในวันที่หนึ่งของเดือนนั้นในปีที่สิบเอ็ด พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าความว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย เนื่องจากไทระกล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า ‘อะฮ้า! ประตูสู่ชนชาติต่างๆ ทลายลงแล้ว มันเปิดกว้างให้ข้า มันพังทลาย ส่วนข้าจะรุ่งเรือง’ 3 ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ไทระเอ๋ย เราเป็นศัตรูกับเจ้า และเราจะนำชนชาติต่างๆ มาสู้กับเจ้าเหมือนทะเลซัดคลื่นกระทบฝั่ง 4 ชนชาติเหล่านั้นจะทลายกำแพงเมืองของไทระและพังหอคอยต่างๆ แล้วเราจะปัดเศษอิฐเศษหินของมันออกไป ทำให้มันเป็นหินโล่งเตียน 5 มันจะกลายเป็นที่ตากแหตากอวนกลางทะเล เราลั่นวาจาไว้แล้ว พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น มันจะกลายเป็นสถานที่ที่ให้ชนชาติต่างๆ ปล้นชิง 6 และถิ่นฐานอาคารต่างๆ บนแผ่นดินใหญ่จะถูกทำลายด้วยคมดาบ เมื่อนั้นพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ 7 “เพราะพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เราจะนำกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน จอมราชันจากทางเหนือมาสู้กับไทระ พร้อมด้วยม้า รถม้าศึก พลม้า และกองทัพใหญ่ 8 เขาจะทำลายล้างถิ่นฐานอาคารต่างๆ ของเจ้าบนแผ่นดินใหญ่ด้วยคมดาบ เขาจะตั้งเครื่องล้อมเมืองต่อสู้กับเจ้า สร้างเชิงเทินต่อกับกำแพงทั้งหลายของเจ้า และตั้งปราการขึ้นเพื่อสู้กับเจ้า 9 เขาจะออกคำสั่งให้กระทุ้งกำแพงของเจ้า และทลายหอรบต่างๆ ของเจ้าด้วยอาวุธของเขา 10 ม้าของเขามีมากมายจนฝุ่นตลบทั่วเมือง กำแพงเมืองสั่นสะเทือนเพราะเสียงของม้าศึก ขบวนเกวียน […]
เอเสเคียล 27
บทคร่ำครวญแด่ไทระ 1 พระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงคร่ำครวญเกี่ยวกับเมืองไทระ 3 จงกล่าวแก่ไทระซึ่งตั้งอยู่ที่ทางออกสู่ทะเล นครวาณิชแห่งชนชาติทั้งหลายตามแผ่นดินชายฝั่งว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ ‘ไทระเอ๋ย เจ้ากล่าวว่า “เรางามพร้อม” 4 เจ้าขยายอาณาจักรออกไปในท้องทะเล เหล่าผู้สร้างเจ้าทำให้เจ้างามสมบูรณ์แบบ 5 เจ้าเปรียบเหมือนเรือใหญ่ลำหนึ่ง ไม้กระดานทั้งสิ้นของเจ้าได้จากต้นสนแห่งเสนีร์ เขานำไม้สนซีดาร์มาจากเลบานอน เพื่อทำเป็นเสากระโดงให้เจ้า 6 พวกเขาทำกรรเชียงของเจ้า จากไม้โอ๊กแห่งบาชาน ทำดาดฟ้าเรือของเจ้า ด้วยไม้สนไซเปรสจากชายฝั่งทะเลไซปรัสแล้วฝังด้วยงาช้าง 7 ใบเรือของเจ้าทำด้วยผ้าลินินปักจากอียิปต์ และใช้เป็นธงของเจ้าด้วย กันสาดของเจ้าเป็นผ้าสีน้ำเงินและสีม่วง จากชายฝั่งแห่งเอลีชาห์ 8 ชาวไซดอนและชาวอารวัดเป็นฝีพายให้เจ้า ไทระเอ๋ย ผู้เชี่ยวชาญการเดินเรือมาเป็นลูกเรือให้เจ้า 9 ช่างผู้ชำนาญจากเมืองเกบาลอยู่ประจำเรือ มาเป็นช่างประจำคอยดูแลรักษาเรือของเจ้า เรือเดินทะเลทั้งสิ้นพร้อมลูกเรือ มาค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับเจ้า 10 “ ‘ชาวเปอร์เซีย ชาวลิเดียและชาวพูต เป็นทหารในกองทัพของเจ้า เขาแขวนโล่และหมวกเกราะที่กำแพงของเจ้า ทำให้เจ้าดูงามสง่า 11 ชาวอารวัดและชาวเฮเลค ประจำการที่กำแพงของเจ้าทุกด้าน ชาวกัมมาด อยู่ในหอรบของเจ้า พวกเขาแขวนโล่ไว้รอบกำแพงของเจ้า ทำให้เจ้าสง่างามสมบูรณ์แบบ 12 “ ‘ชาวทารชิชไปมาค้าขายกับเจ้า […]
เอเสเคียล 28
คำพยากรณ์กล่าวโทษกษัตริย์ไทระ 1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงกล่าวแก่ผู้ปกครองเมืองไทระว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ ‘ด้วยความหยิ่งผยองในจิตใจ เจ้ากล่าวว่า “ข้าคือเทพเจ้า ข้านั่งเหนือบัลลังก์ของเทพเจ้า ที่ใจกลางห้วงสมุทร” แต่เจ้าเป็นเพียงมนุษย์ ไม่ใช่เทพเจ้า แม้เจ้าจะคิดว่าตนเองเฉลียวฉลาดเสมอเทพเจ้า 3 เจ้าฉลาดกว่าดาเนียลหรือ? ไม่มีความลับใดซ่อนเร้นจากเจ้าหรือ? 4 โดยสติปัญญาและความเข้าใจ เจ้าหาทรัพย์สมบัติมาให้ตนเอง และสะสมเงินทอง ไว้ในคลังของเจ้า 5 โดยความช่ำชองในการค้าขาย เจ้าทำให้ทรัพย์สมบัติของตนทวีขึ้น และเนื่องจากความมั่งคั่งของเจ้า จิตใจของเจ้าก็หยิ่งผยองขึ้น 6 “ ‘ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ ‘เนื่องจากเจ้าคิดว่าตัวเองฉลาด มีสติปัญญาเสมอเทพเจ้า 7 เรากำลังจะนำคนต่างชาติมาสู้รบกับเจ้า เป็นประชาชาติที่อำมหิตที่สุด พวกเขาจะชักดาบห้ำหั่นความงามและสติปัญญาของเจ้า และทำลายความโอ่อ่าตระการตาของเจ้า 8 คนเหล่านั้นจะผลักเจ้าลงสู่เหวลึก และเจ้าจะถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ที่ใจกลางห้วงสมุทร 9 ถึงตอนนั้นเจ้าจะพูดไหมว่า “ข้าคือเทพเจ้า” ต่อหน้าบรรดาผู้สังหารเจ้า? เจ้าจะเป็นเพียงมนุษย์ไม่ใช่เทพเจ้า ในเงื้อมมือของผู้ที่ปลิดชีวิตเจ้า 10 เจ้าจะตายอย่างคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัต โดยน้ำมือของชาวต่างชาติ เราได้ลั่นวาจาไว้ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น’ ” 11 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 12 […]
เอเสเคียล 29
คำพยากรณ์กล่าวโทษอียิปต์ 1 ในวันที่สิบสองเดือนที่สิบปีที่สิบ พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงหันหน้าไปทางฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ และพยากรณ์กล่าวโทษเขาและอียิปต์ทั้งปวงว่า 3 ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ ‘ฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ เราเป็นศัตรูกับเจ้า เจ้าผู้เป็นสัตว์ร้ายมหึมาซึ่งกบดานอยู่ในสายน้ำของเจ้า เจ้ากล่าวว่า “แม่น้ำไนล์เป็นของข้า ข้าสร้างมันขึ้นมาเพื่อตัวข้าเอง” 4 แต่เราจะเอาเบ็ดเกี่ยวขากรรไกรของเจ้า และทำให้ปลาในลำน้ำของเจ้าติดกับเกล็ดของเจ้า เราจะดึงเจ้าขึ้นจากสายน้ำ พร้อมกับปลาทั้งปวงซึ่งติดอยู่ที่เกล็ดของเจ้า 5 เราจะทิ้งเจ้าไว้ในถิ่นกันดาร ทั้งตัวเจ้าและปลาทั้งปวงจากลำน้ำของเจ้า เจ้าจะตกอยู่กลางทุ่ง ไม่มีใครหอบหรือเก็บเจ้าขึ้นมา เราจะยกเจ้าให้เป็นอาหาร ของสัตว์บกและนกในอากาศ 6 เมื่อนั้นทุกคนที่อยู่ในอียิปต์จะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ “ ‘เจ้าเป็นไม้อ้อสำหรับพงศ์พันธุ์อิสราเอล 7 เมื่อเขาฉวยเจ้าไว้ในมือ เจ้าก็ปริแตกและบาดไหล่ของเขา เมื่อเขาพิงเจ้า เจ้าก็หักและทำให้หลังของเขาเคล็ด 8 “ ‘ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เราจะนำดาบมาห้ำหั่นเจ้า และฆ่าผู้คนและสัตว์ของเจ้า 9 อียิปต์จะกลายเป็นแดนร้าง เมื่อนั้นพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ “ ‘เนื่องจากเจ้ากล่าวว่า “แม่น้ำไนล์เป็นของข้า ข้าสร้างมันขึ้นมา” 10 ฉะนั้นเราจึงเป็นศัตรูกับเจ้าและกับสายน้ำต่างๆ ของเจ้า เราจะทำให้ดินแดนอียิปต์กลายเป็นซากปรักหักพังและถูกทิ้งร้างตั้งแต่มิกดลจนถึงอัสวานไปจดพรมแดนของคูช 11 จะไม่มีรอยเท้าทั้งของคนและของสัตว์เหยียบผ่าน จะไม่มีใครอาศัยที่นั่นตลอดสี่สิบปี 12 เราจะทำให้อียิปต์เริศร้างท่ามกลางดินแดนต่างๆ […]
เอเสเคียล 30
บทคร่ำครวญแด่อียิปต์ 1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงกล่าวพยากรณ์ว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ ‘จงร่ำไห้และกล่าวว่า “อนิจจา วันนั้นเอ๋ย!” 3 เพราะว่าวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว วันขององค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามา เป็นวันแห่งเมฆครึ้ม เป็นเวลาแห่งความพินาศของบรรดาประชาชาติ 4 ดาบเล่มหนึ่งจะมาฟาดฟันอียิปต์ และความทุกข์ทรมานจะมากระหน่ำคูช เมื่อผู้ที่ถูกสังหารล้มตายในอียิปต์ ทรัพย์สมบัติของอียิปต์จะถูกริบไป และฐานรากของมันก็พังครืน 5 คูช พูต ลิเดีย อาระเบียทั้งหมด ลิเบียและประชาชนของดินแดนแห่งพันธสัญญาจะล้มตายด้วยดาบพร้อมอียิปต์ 6 “ ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า “ ‘บรรดาพันธมิตรของอียิปต์จะล้มตาย และพลังอันภาคภูมิของมันจะสูญสลาย จากมิกดลถึงอัสวาน ผู้คนในอียิปต์จะล้มตายด้วยดาบ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น 7 พวกเขาจะโดดเดี่ยว อยู่ในแดนร้าง นครต่างๆ ของพวกเขาจะพินาศ อยู่ท่ามกลางนครที่ปรักหักพัง 8 แล้วพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ เมื่อเราจุดไฟเผาอียิปต์ และผู้ที่ช่วยเหลืออียิปต์ทุกคนจะถูกบดขยี้ 9 “ ‘ในวันนั้นผู้สื่อสารจะลงเรือจากเราไป เพื่อเขย่าขวัญคูชซึ่งอยู่อย่างทองไม่รู้ร้อน ความทุกข์ลำเค็ญจะเกาะกินใจของพวกเขาในวันหายนะของอียิปต์ เพราะวันนั้นจะมาถึงอย่างแน่นอน 10 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ ‘เราจะนำกองกำลังทั้งหลายของอียิปต์มาถึงจุดจบ โดยน้ำมือของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน 11 เขากับกองทัพซึ่งเป็นผู้อำมหิตที่สุดในหมู่ประชาชาติ […]