1 ในเดือนที่เจ็ด อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์บุตรของเอลิชามา ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งและเคยเป็นขุนนางมาก่อน กับคนอีกสิบคนมาพบเกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมที่มิสปาห์ ขณะที่กำลังรับประทานอาหารด้วยกัน 2 อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์และคนทั้งสิบที่อยู่กับเขาก็ลุกขึ้นชักดาบออกมาฆ่าเกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมบุตรชาฟานซึ่งกษัตริย์บาบิโลนแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการ 3 อิชมาเอลยังได้ฆ่าชาวยิวทั้งปวงที่อยู่กับเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์ และทหารบาบิโลนซึ่งอยู่ที่นั่นด้วย 4 วันรุ่งขึ้นหลังจากที่เกดาลิยาห์ถูกฆ่าและยังไม่มีใครทราบเรื่อง 5 ก็มีชายแปดสิบคนจากเชเคม ชิโลห์ และสะมาเรีย โกนหนวดเครา ฉีกเสื้อผ้า และกรีดเนื้อตัวเอง นำธัญบูชาและเครื่องหอมมายังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า 6 อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ออกจากเมืองมิสปาห์ไปพบพวกเขา เดินพลางร้องไห้พลางและเมื่อเขาพบคนเหล่านั้นก็กล่าวว่า “เชิญมาพบเกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมเถิด” 7 เมื่อคนเหล่านั้นเข้ามาในเมืองแล้วอิชมาเอลกับพวกก็ฆ่าพวกเขาและโยนศพลงในที่ขังน้ำ 8 แต่มีสิบคนในพวกนั้นกล่าวกับอิชมาเอลว่า “อย่าฆ่าเราเลย เรามีข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ น้ำมัน และน้ำผึ้งซ่อนไว้ในทุ่งนา” อิชมาเอลจึงปล่อยเขาไป ไม่ฆ่าทิ้งเหมือนคนอื่นๆ 9 ที่ขังน้ำซึ่งอิชมาเอลโยนศพคนที่เขาสังหารพร้อมกับเกดาลิยาห์นั้น เป็นที่ซึ่งกษัตริย์อาสาสร้างขึ้นเป็นปราการส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันการโจมตีของกษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอล อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ได้โยนศพลงไปจนเต็มที่ขังน้ำนั้น 10 บรรดาธิดาของกษัตริย์พร้อมทั้งประชาชนอื่นๆ ซึ่งเนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ได้ให้อยู่ภายใต้การปกครองของเกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมที่เมืองมิสปาห์ ถูกอิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์จับเป็นเชลย คุมตัวมุ่งหน้าจะไปยังดินแดนของชาวอัมโมน 11 เมื่อโยฮานันบุตรคาเรอาห์และแม่ทัพนายกองทั้งปวงที่อยู่ด้วยได้ยินข่าวอิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ก่อการร้าย 12 ก็นำกำลังคนทั้งหมดไปสู้รบกับอิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ พวกเขาตามมาทันอิชมาเอลที่สระน้ำใหญ่ในกิเบโอน 13 เมื่อประชาชนทั้งปวงที่อิชมาเอลพามาเห็นโยฮานันบุตรคาเรอาห์และแม่ทัพนายกองที่อยู่กับเขา พวกเขาก็ยินดี 14 คนทั้งปวงที่อิชมาเอลจับเป็นเชลยที่มิสปาห์ได้หันไปหาโยฮานันบุตรคาเรอาห์ […]
Category Archives: เยเรมีย์
เยเรมีย์ 42
1 แล้วบรรดาแม่ทัพนายกองรวมทั้งโยฮานันบุตรคาเรอาห์ เยซันยาห์บุตรโฮชายาห์ และประชากรทั้งปวงไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อยพากันมาหาผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ 2 และกล่าวกับเขาว่า “โปรดฟังคำอ้อนวอนของเราและอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเพื่อชนที่เหลืออยู่ทั้งหมดนี้ เพราะท่านก็เห็นแล้วว่า แม้แต่ก่อนเรามีกันมากมาย บัดนี้ก็เหลือเพียงหยิบมือเดียว 3 โปรดอธิษฐานขอให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านบอกเราด้วยว่าควรไปที่ไหนและควรทำอะไร” 4 ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ตอบว่า “ข้าพเจ้าได้ยินแล้ว ข้าพเจ้าจะอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านตามที่ท่านขอร้องอย่างแน่นอน ข้าพเจ้าจะบอกท่านทุกอย่างตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส จะไม่ปิดบังสิ่งใดจากพวกท่านเลย” 5 แล้วพวกเขากล่าวกับเยเรมีย์ว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพยานที่ซื่อตรงเที่ยงแท้ลงโทษเราเถิด หากเราไม่ยอมประพฤติตามทุกสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงใช้ท่านมาบอกเรา 6 ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เราก็จะเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราผู้ซึ่งเราขอให้ท่านไปเข้าเฝ้าเพื่อจะเป็นประโยชน์สุขแก่เราเพราะเราจะเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา” 7 สิบวันหลังจากนั้น มีพระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์ 8 ดังนั้นเขาจึงเรียกโยฮานันบุตรคาเรอาห์ บรรดาแม่ทัพนายกอง และประชาชนทั้งปวงไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อยมาชุมนุมกัน 9 แล้วเขากล่าวแก่คนทั้งหลายว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลซึ่งพวกท่านใช้ให้ข้าพเจ้าไปทูลอ้อนวอนนั้นตรัสว่า 10 ‘หากพวกเจ้าคงอยู่ในดินแดนนี้ เราจะสร้างเจ้าขึ้นไม่ใช่รื้อลง จะปลูกเจ้าไว้ ไม่ใช่ถอนราก เพราะเราเศร้าใจกับภัยพิบัติซึ่งเราบันดาลให้เกิดแก่เจ้า 11 อย่ากลัวกษัตริย์บาบิโลนที่พวกเจ้ากลัวอยู่ในขณะนี้ อย่ากลัวเขาเลยองค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ อย่ากลัวเขาเลยเพราะเราอยู่กับเจ้า เราจะช่วยเจ้าและกอบกู้เจ้าจากมือของเขา 12 เราจะสำแดงความเมตตาแก่เจ้า เพื่อเขาจะเอ็นดูสงสารเจ้าและให้เจ้ากลับคืนสู่ดินแดนของเจ้า’ 13 “แต่หากพวกท่านกล่าวว่า ‘เราจะไม่ยอมอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้’ ซึ่งเป็นการไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน 14 และถ้าท่านกล่าวว่า […]
เยเรมีย์ 43
1 เมื่อเยเรมีย์แจ้งให้ประชากรทราบเนื้อความทั้งหมดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาทรงใช้ให้มากล่าวกับคนเหล่านั้นแล้ว 2 อาซาริยาห์บุตรโฮชายาห์และโยฮานันบุตรคาเรอาห์กับคนที่หยิ่งยโสทั้งปวงก็กล่าวกับเยเรมีย์ว่า “เจ้ากำลังโกหก พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราไม่ได้ทรงใช้เจ้ามากล่าวว่า ‘ห้ามพวกเจ้าไปตั้งรกรากที่อียิปต์’ 3 แต่บารุคบุตรเนริยาห์ต่างหากที่ยุเจ้าให้มาเล่นงานพวกเรา เพื่อมอบเราให้ชาวบาบิโลนพวกเขาจะได้ฆ่าเราหรือไม่ก็จับเราไปเป็นเชลยที่บาบิโลน” 4 ดังนั้นโยฮานันบุตรคาเรอาห์ บรรดาแม่ทัพนายกอง และประชากรทั้งปวง จึงไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ยังให้อยู่ในดินแดนยูดาห์ 5 แต่โยฮานันบุตรคาเรอาห์ แม่ทัพนายกองทั้งปวงได้นำชนหยิบมือที่เหลืออยู่ทั้งหมดของยูดาห์ไปยังอียิปต์ คนหยิบมือเหล่านี้เป็นพวกที่กระจัดกระจายไปตามชาติต่างๆ และกลับมาอาศัยในดินแดนยูดาห์ 6 ในกลุ่มนั้นมีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ราชธิดาของกษัตริย์และหมู่คนที่เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์เหลือไว้ให้อยู่กับเกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมบุตรชาฟาน รวมทั้งผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์และบารุคบุตรเนริยาห์ด้วย 7 พวกเขาขัดขืนคำสั่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าและมาถึงทาห์ปานเหสในดินแดนอียิปต์ 8 ที่ทาห์ปานเหสมีพระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์ว่า 9 “ต่อหน้าชาวยิวทั้งปวง จงเอาหินก้อนใหญ่ๆ มาฝังไว้ในดินใต้ทางเดินที่ปูด้วยอิฐตรงทางเข้าวังของฟาโรห์ในทาห์ปานเหส 10 แล้วจงแจ้งพวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เราจะส่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนผู้รับใช้ของเรามา เราจะตั้งบัลลังก์ของเขาเหนือก้อนหินเหล่านี้ ซึ่งเราได้ฝังไว้ที่นี่ เขาจะแผ่บารมีเหนือที่แห่งนี้ 11 เขาจะมาโจมตีแผ่นดินอียิปต์ นำความตายมาสู่ผู้ที่ถูกกำหนดให้ตาย ผู้ที่ถูกกำหนดให้เป็นเชลยก็จะตกเป็นเชลย ผู้ที่ถูกกำหนดให้ตายด้วยดาบก็จะตายด้วยดาบ 12 เขาจะจุดไฟเผาวิหารต่างๆ ของเทพเจ้าอียิปต์ ริบเทวรูปทั้งหลายไป เขาจะสวมอียิปต์เป็นอาภรณ์เหมือนคนเลี้ยงแกะสวมเสื้อคลุม แล้วจากอียิปต์ไปโดยสวัสดิภาพ 13 และเขาจะโค่นรื้อเสาศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในวิหารของสุริยเทพและเผาบรรดาวิหารของทวยเทพแห่งอียิปต์’” […]
เยเรมีย์ 44
ภัยพิบัติเนื่องจากการกราบไหว้รูปเคารพ 1 พระดำรัสซึ่งมีมาถึงเยเรมีย์เกี่ยวกับชาวยิวทั้งปวงที่อาศัยอยู่ในอียิปต์ล่าง ที่มิกดล ทาห์ปานเหส เมมฟิสและอียิปต์ตอนบนความว่า 2 “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เจ้าได้เห็นภัยพิบัติใหญ่หลวงซึ่งเราได้นำมายังเยรูซาเล็มและหัวเมืองทั้งปวงของยูดาห์แล้ว ทุกวันนี้ต้องตกอยู่ในสภาพถูกทิ้งร้างและปรักหักพัง 3 เพราะความชั่วที่พวกเขาได้ทำ เขายั่วให้เราโกรธโดยเผาเครื่องหอมและนมัสการพระอื่นๆ ซึ่งเขาก็ดี เจ้าก็ดี หรือบรรพบุรุษของเจ้าทั้งหลายก็ดีล้วนไม่เคยรู้จักมาก่อน 4 เราส่งผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของเรามาเตือนเขาครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ‘อย่าทำสิ่งที่น่าชิงชังที่เราเกลียดนี้!’ 5 แต่เขาก็ไม่ฟังหรือใส่ใจ ไม่ยอมหันกลับจากความชั่วร้าย หรือหยุดเผาเครื่องหอมให้พระต่างๆ 6 ฉะนั้นเราจึงเทโทสะเกรี้ยวกราดของเราให้มันโหมกระหน่ำลงมาเหนือหัวเมืองต่างๆ ของยูดาห์ และถนนหนทางในเยรูซาเล็ม และทำให้เมืองเหล่านี้กลายเป็นซากปรักหักพัง ถูกทิ้งร้างเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้” 7 “บัดนี้พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เหตุใดพวกเจ้าจึงนำหายนะมาสู่ตนเองโดยพรากผู้คนทั้งหญิงและชาย ลูกเล็กเด็กแดงมาจากยูดาห์ ทำให้พวกเจ้าไม่เหลือสักหยิบมือเดียว? 8 เหตุใดจึงยั่วเราให้โกรธด้วยรูปเคารพที่เจ้าสร้างขึ้น โดยการเผาเครื่องหอมแก่พระอื่นๆ ในแผ่นดินอียิปต์ซึ่งเจ้าได้มาอาศัยอยู่? เจ้าจะทำลายตัวเองและทำตัวให้ตกเป็นเป้าของคำสาปแช่งและเป็นคำเปรียบเปรยในหมู่ประชาชาติทั้งหลายในโลก 9 เจ้าลืมความชั่วซึ่งเหล่าบรรพบุรุษและบรรดากษัตริย์กับราชินีแห่งยูดาห์ได้ทำแล้วหรือ? ตลอดจนความชั่วของเจ้าเองกับภรรยาในดินแดนยูดาห์และตามถนนหนทางในเยรูซาเล็ม 10 จวบจนทุกวันนี้พวกเจ้าไม่ได้ถ่อมกายถ่อมใจ หรือยำเกรง หรือปฏิบัติตามบทบัญญัติและคำบัญชาซึ่งเราตั้งไว้ต่อหน้าเจ้ากับบรรพบุรุษของเจ้า 11 “ฉะนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่าเราตั้งใจจะนำภัยพิบัติมาเหนือเจ้าและทำลายล้างยูดาห์ให้หมดสิ้น 12 เราจะลงโทษชนหยิบมือที่เหลือของยูดาห์ซึ่งตั้งใจจะมาตั้งรกรากในอียิปต์นี้ พวกเขาจะพินาศสิ้นในแผ่นดินอียิปต์เพราะสงครามหรือการกันดารอาหาร ตั้งแต่ผู้ต่ำต้อยที่สุดจนถึงผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดจะตายเพราะสงครามหรือการกันดารอาหาร […]
เยเรมีย์ 45
พระเจ้าทรงสัญญากับบารุค 1 ในปีที่สี่แห่งรัชกาลเยโฮยาคิมโอรสกษัตริย์โยสิยาห์แห่งยูดาห์ หลังจากที่บารุคบุตรเนริยาห์ได้บันทึกพระดำรัสลงในม้วนหนังสือตามคำบอกของเยเรมีย์แล้ว ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์กล่าวกับบารุคบุตรเนริยาห์ว่า 2 “บารุคเอ๋ย พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสกับท่านว่า 3 เจ้าพูดว่า ‘วิบัติแก่ข้าพเจ้า! ข้าพเจ้าเจ็บปวดอยู่แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้ายังทรงเพิ่มความทุกข์โศกให้ข้าพเจ้าอีก ข้าพเจ้าอ่อนระโหยไปเพราะการครวญครางและไม่ได้พักผ่อน’ ” 4 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงบอกบารุคว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่าเราจะทลายสิ่งที่เราสร้างและถอนรากสิ่งที่เราปลูกทั่วดินแดนนี้ 5 เช่นนี้แล้วเจ้าควรเสาะหาสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อตัวเองหรือ? อย่าเลย เพราะเราจะนำภัยพิบัติมายังประชากรทั้งปวง แต่ไม่ว่าเจ้าจะไปไหน เราจะให้เจ้ารอดชีวิตองค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น’ ” —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/JER/45-804c1e954b4ddeddd59a0c2d6c246a0a.mp3?version_id=179—
เยเรมีย์ 46
พระดำรัสเกี่ยวกับอียิปต์ 1 องค์พระผู้เป็นเจ้ามีพระดำรัสมาถึงผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์เกี่ยวกับชนชาติต่างๆ ดังนี้ 2 พระดำรัสเกี่ยวกับอียิปต์ ว่าด้วยกองทัพของฟาโรห์เนโคกษัตริย์แห่งอียิปต์ ซึ่งถูกกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนพิชิตที่คารเคมิชริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรติส ในปีที่สี่ของรัชกาลเยโฮยาคิมโอรสกษัตริย์โยสิยาห์แห่งยูดาห์ความว่า 3 “จงเตรียมโล่ทั้งเล็กและใหญ่ของเจ้า แล้วรุดหน้าออกไปประจัญบาน! 4 ผูกอานม้าเถิด และขี่ควบไป! จงเข้าประจำที่ พร้อมกับสวมหมวกเกราะ! จงขัดหอก จงสวมเสื้อเกราะ! 5 เราเห็นอะไร? พวกเขาตกใจกลัว พวกเขาถอยทัพ นักรบของพวกเขาพ่ายแพ้ เขารีบหนี ไม่หันกลับ มีความสยดสยองอยู่รอบด้าน” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 6 “คนฝีเท้าไวก็หนีไม่พ้น คนเข้มแข็งก็หนีไม่รอด ในทิศเหนือริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรติส พวกเขาสะดุดและล้มลง 7 “นี่ใครกันหนอซึ่งพุ่งขึ้นมาเหมือนลำน้ำไนล์ เหมือนแม่น้ำที่เชี่ยวกราก? 8 อียิปต์พุ่งขึ้นเหมือนลำน้ำไนล์ เหมือนแม่น้ำที่เชี่ยวกราก อียิปต์คุยโอ่ว่า ‘ข้าจะพุ่งขึ้นปกคลุมโลก ข้าจะทำลายนครต่างๆ และประชากรของนครเหล่านั้น’ 9 ม้าทั้งหลายเอ๋ย จงบุกเข้าไปเถิด! พลรถรบเอ๋ย จงเร่งขับรถรบอย่างเร็วรี่! นักรบเอ๋ย จงรุดหน้าเข้าไป ทั้งชาวคูชและชาวพูตซึ่งถือโล่ ชาวลิเดียซึ่งโก่งธนู 10 แต่วันนั้นเป็นวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ […]
เยเรมีย์ 47
พระดำรัสเกี่ยวกับฟีลิสเตีย 1 พระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งมีมาถึงผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์เกี่ยวกับชาวฟีลิสเตีย ก่อนที่ฟาโรห์จะบุกเมืองกาซา ความว่า 2 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงดูน้ำเอ่อล้นขึ้นในภาคเหนือ มันจะกลายเป็นกระแสน้ำเชี่ยว หลากท่วมดินแดนและทุกสิ่งทุกอย่าง เมืองต่างๆ และผู้คนที่อาศัยอยู่ ประชาชนจะหวีดร้อง คนทั้งปวงที่อาศัยอยู่ในดินแดนนั้นจะร่ำไห้ 3 เมื่อได้ยินเสียงควบม้า เสียงรถม้าศึกของข้าศึก และเสียงดังสนั่นของล้อรถ ผู้เป็นพ่อจะไม่หันมาช่วยลูกๆ ของตน มือของเขาอ่อนเปลี้ยไปหมด 4 เพราะถึงเวลาแล้ว ที่จะทำลายล้างฟีลิสเตียทั้งหมด และกำจัดผู้รอดชีวิตทั้งปวง ซึ่งจะมาช่วยเมืองไทระกับไซดอน องค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังจะทำลายล้างชาวฟีลิสเตีย ชนหยิบมือที่เหลือจากชายฝั่งทะเลคัฟโทร์ 5 กาซาจะโกนศีรษะไว้ทุกข์ อัชเคโลนจะนิ่งเงียบ ชนหยิบมือที่เหลือแห่งที่ราบ เจ้าจะเชือดเนื้อเถือหนังตัวเองอีกนานเท่าไร? 6 “เจ้าร้องว่า ‘ดาบขององค์พระผู้เป็นเจ้าเอ๋ย เมื่อไรหนอเจ้าจึงจะหยุดพัก? โปรดกลับเข้าไปในฝักเถิด นิ่งพักสงบเถิด’ 7 แต่ดาบนั้นจะสงบนิ่งได้อย่างไร ในเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชามัน ในเมื่อพระองค์ทรงสั่งมัน ให้มันฟาดฟันอัชเคโลนและชายฝั่งทะเล?” —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/JER/47-3093a466729abbde4cef3a687aedf4a2.mp3?version_id=179—
เยเรมีย์ 48
พระดำรัสเกี่ยวกับโมอับ 1 พระดำรัสของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลเกี่ยวกับโมอับความว่า “วิบัติแก่เนโบ เพราะมันจะถูกทำลาย คีริยาธาอิมจะอัปยศอดสูและถูกยึด ป้อมที่มั่นจะอัปยศอดสูและพังทลาย 2 โมอับจะไม่เป็นที่ยกย่องอีกแล้ว ในเฮชโบนผู้คนจะวางแผนโค่นล้มโมอับว่า ‘มาเถิด ให้เราทำให้ชนชาตินี้สิ้นไป’ มัดเมนเอ๋ย เจ้าเองก็จะถูกทำให้เงียบงันเช่นกัน ดาบจะตามล่าเจ้า 3 ฟังเสียงร้องจากโฮโรนาอิมสิ เสียงห้ำหั่น และเสียงเข้าทำลายล้างขนานใหญ่ 4 โมอับจะแหลกลาญ บรรดาลูกน้อยของเธอร้องเสียงดัง 5 พวกเขาขึ้นไปตามทางสู่ลูฮิท ร้องไห้อย่างขมขื่นขณะเดินไป ตามเส้นทางสู่โฮโรนาอิม ได้ยินเสียงร้องโหยหวนเพราะถูกทำลาย 6 หนีเร็ว! จงหนีเอาชีวิตรอดเถิด จงเป็นเหมือนพุ่มไม้ในถิ่นกันดารเถิด 7 เพราะเจ้าวางใจในทรัพย์สมบัติและความสามารถของตนเอง เจ้าจึงจะตกเป็นเชลยด้วย และพระเคโมชจะถูกเนรเทศไปต่างแดน พร้อมกับบรรดาปุโรหิตและเหล่าขุนนางของตน 8 ผู้ทำลายจะมาต่อสู้ทุกเมือง และไม่มีสักเมืองเดียวรอดไปได้ หุบเขาและที่ราบสูงจะถูกทำลาย เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้แล้ว 9 จงเอาเกลือใส่โมอับเถิด เพราะมันจะร้างเปล่า หัวเมืองต่างๆ จะถูกทิ้งร้าง ไม่มีคนอยู่อาศัย 10 “คำสาปแช่งตกอยู่แก่ผู้เฉื่อยช้าในการทำงานที่องค์พระผู้เป็นเจ้ามอบหมายให้! คำสาปแช่งมีแก่ผู้เก็บดาบไว้ ไม่ยอมทำให้เลือดชโลมดิน! 11 “โมอับอยู่สงบมาตั้งแต่เยาว์วัย เหมือนเหล้าองุ่นที่ทิ้งไว้ทั้งตะกอน […]
เยเรมีย์ 49
พระดำรัสเกี่ยวกับอัมโมน 1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับชาวอัมโมนความว่า “อิสราเอลไม่มีบุตรชายหรือ? นางไม่มีทายาทหรือ? ก็แล้วเหตุใดพระโมเลคจึงเข้ายึดครองกาด? เหตุใดชนชาติของเขาจึงเข้ามาอาศัยในเมืองต่างๆ ของกาด? 2 แต่วันเวลานั้นจะมาถึง” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “เมื่อเราจะโห่ร้องออกศึก สู้กับรับบาห์ของชาวอัมโมน มันจะกลายเป็นซากปรักหักพัง และหมู่บ้านต่างๆ โดยรอบจะถูกเผา แล้วอิสราเอลจะขับไล่ ชนชาติที่ได้ขับไล่ตนออกมา” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น 3 “เฮชโบนเอ๋ย จงร่ำไห้เถิด เพราะอัยถูกทำลายแล้ว! ชาวรับบาห์เอ๋ย ร้องออกมาเถิด จงสวมเสื้อผ้ากระสอบและร่ำไห้เถิด และวิ่งพล่านไปมาภายในกำแพง เพราะพระโมเลคจะถูกเนรเทศ ไปพร้อมกับบรรดาปุโรหิตและเหล่าขุนนางของตน 4 เหตุใดเจ้าจึงโอ้อวดถึงบรรดาหุบเขาของเจ้า โอ้อวดว่าบรรดาหุบเขาของเจ้าอุดมสมบูรณ์นัก? ธิดาผู้ไม่ซื่อสัตย์เอ๋ย เจ้าไว้วางใจในทรัพย์สมบัติของเจ้าและคุยโอ่ว่า ‘ใครจะมาโจมตีเราได้?’ 5 เราจะนำความสยดสยอง จากประเทศเพื่อนบ้านทั้งปวงมายังเจ้า” องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “พวกเจ้าทุกคนจะถูกขับไล่ออกไป และจะไม่มีใครรวบรวมบรรดาผู้ลี้ภัยได้ 6 “แต่ภายหลังเราจะให้ชาวอัมโมนกลับสู่สภาพดี” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น พระดำรัสเกี่ยวกับเอโดม 7 พระดำรัสของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ เกี่ยวกับเอโดมความว่า “ในเทมานไม่มีสติปัญญาอีกแล้วหรือ? คำปรึกษาหารือสูญสิ้นไปจากคนชาญฉลาดแล้วหรือ? สติปัญญาของเขาเน่าเปื่อยไปหมดแล้วหรือ? 8 ชาวเดดานเอ๋ย จงหันหนีไปซ่อนตัวอยู่ในถ้ำลึก เพราะเราจะนำหายนะมาสู่เอซาว […]
เยเรมีย์ 50
พระดำรัสเกี่ยวกับบาบิโลน 1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์เกี่ยวกับบาบิโลนและดินแดนของชาวบาบิโลนความว่า 2 “จงป่าวร้องและประกาศในหมู่ประชาชาติ จงชูธงขึ้นประกาศออกไป อย่าปิดบังเลย แต่จงกล่าวว่า ‘บาบิโลนจะถูกยึด เบลจะอับอายขายหน้า มาร์ดุคจะหวาดหวั่นขวัญผวา เทวรูปของบาบิโลนจะอัปยศอดสู และอกสั่นขวัญแขวน’ 3 ชนชาติหนึ่งจากทางเหนือจะมาโจมตีบาบิโลน ทำให้ดินแดนนั้นถูกทิ้งร้าง ไม่มีใครอาศัยอยู่ ทั้งคนและสัตว์จะหนีเตลิดไปหมด” 4 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “ในเวลานั้น ชนอิสราเอลและยูดาห์ จะร่วมกันแสวงหาพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเขาด้วยน้ำตานองหน้า 5 พวกเขาจะถามทาง และมุ่งหน้ามายังศิโยน พวกเขาจะเข้ามาผูกพันกับองค์พระผู้เป็นเจ้า โดยพันธสัญญานิรันดร์ ซึ่งจะไม่ถูกลืมเลือน 6 “ประชากรของเราเป็นแกะหลงทาง คนเลี้ยงของพวกเขาได้พาพวกเขาให้หลงเตลิดไป และเป็นเหตุให้พวกเขาร่อนเร่อยู่บนภูเขา พวกเขาซัดเซพเนจรไปเหนือภูเขาและเนินเขา และลืมถิ่นที่พำนักของตน 7 ผู้ใดพบพวกเขาก็ขย้ำกิน ศัตรูของพวกเขากล่าวว่า ‘เราไม่ผิด เพราะพวกเขาทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นทุ่งหญ้าที่แท้จริงของพวกเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นความหวังของบรรพบุรุษของพวกเขา’ 8 “จงหนีจากบาบิโลน จงออกจากดินแดนของชาวบาบิโลนเถิด และจงเป็นเหมือนแพะนำฝูง 9 เพราะเราจะเร่งเร้ากองทัพพันธมิตรของชนชาติใหญ่ๆ จากทางเหนือ มาสู้รบกับบาบิโลน พวกเขาจะเข้าประจำที่ต่อสู้กับมัน บาบิโลนจะถูกยึดโดยคนจากทางเหนือ ลูกศรของพวกเขาเหมือนนักรบชำนาญศึก ออกรบคราใดไม่เคยกลับไปมือเปล่า 10 […]