พระเจ้าทรงเมินคำทูลขอของเศเดคียาห์ 1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งมาถึงเยเรมีย์เมื่อกษัตริย์เศเดคียาห์ส่งปาชเฮอร์บุตรมัลคิยาห์และปุโรหิตเศฟันยาห์บุตรมาอาเสอาห์มาพบเยเรมีย์และกล่าวว่า 2 “ช่วยทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าให้เราด้วย เพราะกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนยกทัพมาโจมตีเรา บางทีองค์พระผู้เป็นเจ้าอาจจะทำการอัศจรรย์เพื่อพวกเราเหมือนในอดีต เนบูคัดเนสซาร์จะได้ถอนทัพกลับไป” 3 แต่เยเรมีย์ตอบพวกเขาว่า “ไปทูลเศเดคียาห์เถิดว่า 4 ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เราจะหันอาวุธทั้งปวงในมือของเจ้าซึ่งเจ้าใช้ต่อกรกับกษัตริย์บาบิโลนและกับชาวบาบิโลนที่กำลังล้อมเมืองเจ้าอยู่นั้นให้หวนกลับมาเล่นงานเจ้า และเราจะรวบรวมพวกเขาเข้ามาในกรุงนี้ 5 เราเองจะสู้รบกับเจ้าด้วยมือที่เงื้ออยู่ และด้วยแขนอันทรงพลัง เนื่องจากความโกรธ ความเกรี้ยวกราด และโทสะอันใหญ่หลวง 6 เราจะเล่นงานทุกชีวิตในกรุงนี้ ทั้งคนและสัตว์จะตายด้วยภัยพิบัติร้ายแรง 7 หลังจากนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่าเราจะมอบกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ ข้าราชการและชาวกรุงนี้ที่รอดจากโรคระบาด สงคราม และการกันดารอาหารไว้ในมือกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนและในมือศัตรูซึ่งหมายเอาชีวิตของพวกเขา เนบูคัดเนสซาร์จะเข่นฆ่าเขาด้วยดาบ ไม่ยอมเมตตาเอ็นดูหรือสงสารเลย’ 8 “อีกทั้งจงบอกเหล่าประชากรว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราให้เจ้าเลือกเอาระหว่างความเป็นกับความตาย 9 ผู้ที่อยู่ในกรุงนี้จะตายเพราะสงคราม การกันดารอาหาร และโรคระบาด แต่ใครก็ตามที่ออกไปยอมแพ้แก่ชาวบาบิโลนซึ่งมาล้อมเมืองอยู่ก็จะรอดชีวิต 10 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า เราตั้งใจจะทำร้ายกรุงนี้ ไม่ใช่ทำดี กรุงนี้จะตกอยู่ในกำมือของกษัตริย์บาบิโลน เขาจะเผามันวอดวาย’ 11 “นอกจากนี้จงกล่าวแก่ราชวงศ์ยูดาห์ว่า ‘จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า 12 วงศ์วานของดาวิดเอ๋ยองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า “ ‘ทุกเช้าจงอำนวยความยุติธรรม จงช่วยเหลือผู้ที่ถูกปล้น จากมือของผู้กดขี่ข่มเหง […]
Category Archives: เยเรมีย์
เยเรมีย์ 22
การพิพากษาเหล่ากษัตริย์ผู้ชั่วร้าย 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงไปที่วังของกษัตริย์ยูดาห์และประกาศว่า 2 ‘จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด กษัตริย์ยูดาห์ผู้นั่งบนบัลลังก์ของดาวิด ตลอดจนข้าราชการและประชาชนของเจ้าที่ผ่านเข้าออกประตูเหล่านี้ 3 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า จงทำสิ่งที่ถูกต้องและเที่ยงธรรม ช่วยเหลือผู้ที่ถูกปล้นชิงให้พ้นจากเงื้อมมือของผู้ที่ข่มเหงรังแก อย่าทารุณหรือรังแกคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ หรือหญิงม่าย และอย่าทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องหลั่งเลือดที่นี่ 4 เพราะหากเจ้าใส่ใจปฏิบัติตามคำบัญชาเหล่านี้ กษัตริย์ที่นั่งบนบัลลังก์ของดาวิดจะได้นั่งรถม้าศึกหรือขี่ม้าผ่านเข้าออกประตูวังนี้ พร้อมด้วยข้าราชการและราษฎรทั้งหลาย 5 แต่หากเจ้าทั้งปวงไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า เราขอสาบานในนามของเราเองว่า พระราชวังแห่งนี้จะกลายเป็นซากปรักหักพัง’ ” 6 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเกี่ยวกับวังของกษัตริย์ยูดาห์ว่า “แม้เจ้าจะเป็นเหมือนกิเลอาดสำหรับเรา เหมือนยอดเขาแห่งเลบานอน เราก็จะทำให้เจ้าเหมือนถิ่นกันดาร เหมือนเมืองซึ่งไม่มีใครอยู่อาศัย 7 เราจะส่งผู้ทำลายมาเล่นงานเจ้า แต่ละคนถืออาวุธของตนมา เขาจะรื้อคานสนซีดาร์ชั้นดีของเจ้าออก และโยนเข้ากองไฟ 8 “ผู้คนจากหลายชาติจะเดินผ่านซากปรักหักพังของกรุงนี้และถามกันว่า ‘ทำไมหนอองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงทำกับกรุงใหญ่ถึงเพียงนี้’ 9 คำตอบที่จะได้ก็คือ ‘เพราะเหล่าประชากรละทิ้งพันธสัญญาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาไปปรนนิบัตินมัสการพระอื่นๆ’ ” 10 อย่าร่ำไห้ให้แก่กษัตริย์ที่ตายหรือคร่ำครวญถึงความสูญเสียของเขาเลย แต่จงร้องไห้อย่างขมขื่นให้แก่บรรดาคนที่ตกเป็นเชลย เพราะเขาจะไม่ได้กลับมา เห็นบ้านเกิดเมืองนอนอีกแล้ว 11 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสถึงชัลลูมบุตรของโยสิยาห์ ผู้ครองราชย์ในยูดาห์ต่อจากโยสิยาห์ราชบิดาแต่ต้องไปจากสถานที่แห่งนี้ว่า “เขาจะไม่ได้กลับมาอีก 12 เขาจะตายในที่ซึ่งถูกจับไปเป็นเชลย เขาจะไม่ได้กลับมาเห็นดินแดนนี้อีก” 13 “วิบัติแก่เขาซึ่งสร้างวังของตนจากความอธรรม […]
เยเรมีย์ 23
กิ่งอันชอบธรรม 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “วิบัติแก่บรรดาคนเลี้ยงแกะซึ่งผลาญทำลายและทำให้ลูกแกะในท้องทุ่งของเรากระจัดกระจายไป!” 2 ฉะนั้นพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลจึงตรัสกับบรรดาคนเลี้ยงแกะซึ่งดูแลพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้าว่า “เนื่องจากเจ้าทำให้ฝูงแกะของเรากระจัดกระจายไป เจ้าขับไล่ไสส่งและไม่ได้ดูแลเอาใจใส่พวกเขา ฉะนั้นเราจะลงโทษพวกเจ้าเพราะความชั่วที่เจ้าได้ทำ”องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 3 “เราเองจะรวบรวมฝูงแกะที่เหลือออกจากประเทศต่างๆ ที่เราขับไล่พวกเขาไป และจะนำพวกเขากลับมายังท้องทุ่งเดิม ที่ซึ่งพวกเขาจะมีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง 4 เราจะตั้งคนเลี้ยงแกะซึ่งรับผิดชอบดูแลเขา เขาจะไม่ต้องหวาดกลัวอกสั่นขวัญแขวนอีกต่อไป และจะไม่มีคนใดขาดหายไป”องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 5 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “วันนั้นจะมาถึง เมื่อเราจะสถาปนากิ่งอันชอบธรรมให้แก่ดาวิด ผู้นั้นเป็นกษัตริย์ซึ่งจะปกครองอย่างชาญฉลาด และทำสิ่งที่ถูกต้องเที่ยงธรรมในแผ่นดิน 6 ในยุคสมัยของเขา ยูดาห์จะได้รับการช่วยกู้ และอิสราเอลจะอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย เขาผู้นั้นจะได้รับการขนานนามว่า ‘พระยาห์เวห์ผู้ทรงเป็นความชอบธรรมของเรา’” 7 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “ฉะนั้นเมื่อเวลานั้นมาถึง ประชากรจะไม่พูดอีกต่อไปว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงนำชนอิสราเอลออกมาจากอียิปต์นั้นทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด’ 8 แต่จะพูดว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงนำวงศ์วานอิสราเอลออกมาจากดินแดนทางเหนือและจากทุกประเทศที่พระองค์ทรงเนรเทศเขาไปนั้นทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด’ และพวกเขาจะอาศัยอยู่ในดินแดนของตนเอง” ผู้เผยพระวจนะเท็จ 9 พระวจนะของพระเจ้าเกี่ยวกับบรรดาผู้เผยพระวจนะความว่า ดวงใจข้าพเจ้าแหลกสลายอยู่ภายใน กระดูกทุกซี่สั่นสะท้าน ข้าพเจ้าเหมือนคนเมา เหมือนคนที่ถูกครอบงำด้วยฤทธิ์เมรัย เนื่องด้วยองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระวจนะอันบริสุทธิ์ของพระองค์ 10 แผ่นดินเต็มไปด้วยคนล่วงประเวณี เพราะคำสาปแช่งผืนแผ่นดินก็แตกระแหง ทุ่งหญ้าในถิ่นกันดารก็เหี่ยวเฉาไป เหล่าผู้เผยพระวจนะทำชั่ว และใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม 11 […]
เยเรมีย์ 24
บทเรียนจากมะเดื่อสองกระจาด 1 หลังจากที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนได้คุมตัวเยโฮยาคีนโอรสกษัตริย์เยโฮยาคิมแห่งยูดาห์ และกวาดต้อนบรรดาข้าราชการ ช่างฝีมือ และช่างเหล็กไปเป็นเชลยที่บาบิโลนองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นมะเดื่อสองกระจาดวางอยู่ที่หน้าพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า 2 กระจาดหนึ่งมีมะเดื่อที่ดีมากเหมือนมะเดื่อสุกต้นฤดู ส่วนอีกกระจาดหนึ่งมีมะเดื่อที่เน่ามาก เน่าจนกินไม่ได้ 3 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสถามข้าพเจ้าว่า “เยเรมีย์ เจ้าเห็นอะไรบ้าง?” ข้าพเจ้ากราบทูลว่า “มะเดื่อพระเจ้าข้า ที่ดีก็ดีมาก ที่เน่าก็เน่าจนกินไม่ได้” 4 แล้วพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 5 “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘เราถือว่าเชลยจากยูดาห์ซึ่งเราส่งไปยังดินแดนของชาวบาบิโลนนั้นเป็นเหมือนมะเดื่อที่ดี 6 เราจะจับตาดูเขาเพื่อประโยชน์สุขของเขา และนำเขากลับมายังดินแดนแห่งนี้อีก เราจะสร้างพวกเขาขึ้นและไม่รื้อลง เราจะปลูกเขาไว้และไม่ถอนทิ้ง 7 เราจะให้จิตใจแก่เขาที่จะรู้จักว่าเราคือพระยาห์เวห์ เขาจะเป็นประชากรของเราและเราจะเป็นพระเจ้าของเขา เพราะเขาจะหันกลับมาหาเราอย่างสุดใจ’ 8 “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘แต่เหมือนมะเดื่อเน่า ซึ่งเน่าจนกินไม่ได้ เราจะจัดการเช่นนั้นกับกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ ข้าราชการของเขา และผู้ที่เหลือรอดจากเยรูซาเล็ม ไม่ว่าจะยังอยู่ในแผ่นดินนี้ หรืออาศัยอยู่ที่อียิปต์ 9 เราจะทำให้พวกเขาเป็นที่ขยะแขยงน่ารังเกียจแก่มวลอาณาจักรในโลกนี้ เป็นคำตำหนิติเตียน คำเปรียบเปรย เป็นคำเยาะเย้ย และคำสาปแช่ง ไม่ว่าเราจะเนรเทศเขาไปที่ใด 10 เราจะส่งสงคราม การกันดารอาหาร และโรคระบาดไปเล่นงานพวกเขา จนกระทั่งเขาถูกทำลายล้างจากดินแดนซึ่งเราได้ยกให้แก่เขาและบรรพบุรุษของเขา’ ” —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/JER/24-7fd972b697e2666572eef4869b01a3c0.mp3?version_id=179—
เยเรมีย์ 25
เจ็ดสิบปีแห่งการตกเป็นเชลย 1 พระดำรัสของพระเจ้าเกี่ยวกับประชากรทั้งปวงของยูดาห์มาถึงเยเรมีย์ในปีที่สี่แห่งรัชกาลเยโฮยาคิมโอรสกษัตริย์โยสิยาห์แห่งยูดาห์ ซึ่งเป็นปีแรกที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนขึ้นครองราชย์ 2 ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์จึงกล่าวแก่ชาวยูดาห์ทั้งปวงและชาวเยรูซาเล็มว่า 3 ตลอด 23 ปีตั้งแต่ปีที่สิบสามแห่งรัชกาลโยสิยาห์โอรสของกษัตริย์อาโมนแห่งยูดาห์จนถึงวันนี้ ได้มีพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าเรื่อยๆ และข้าพเจ้าก็ถ่ายทอดให้พวกท่านฟังครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ท่านก็ไม่ยอมฟัง 4 และถึงแม้องค์พระผู้เป็นเจ้าส่งบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์มาหาพวกท่านครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกท่านก็ไม่ยอมฟัง ไม่ยอมใส่ใจ 5 พวกเขากล่าวว่า “พวกเจ้าแต่ละคน จงหันกลับจากวิถีและความประพฤติชั่วร้ายเถิด แล้วเจ้าจะอยู่ในดินแดนซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้ายกให้เจ้าและบรรพบุรุษของเจ้าตลอดไปได้ 6 อย่าไปติดตาม ปรนนิบัติ นมัสการพระอื่นๆ อย่ายั่วให้เราโกรธด้วยสิ่งที่มือของเจ้าเองสร้างขึ้น แล้วเราก็จะไม่ทำอันตรายเจ้า” 7 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “แต่เจ้าก็ไม่ยอมฟังเรา และยั่วให้เราโกรธโดยสิ่งที่มือของเจ้าสร้างขึ้น เจ้ารนหาทุกข์ภัยมาใส่ตัว” 8 ฉะนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “เนื่องจากเจ้าไม่ฟังถ้อยคำของเรา” 9 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “เราก็จะเรียกชนชาติทั้งปวงจากทางเหนือ และกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนผู้รับใช้ของเรามาชุมนุมกัน เราจะนำพวกเขามาต่อสู้ดินแดนและชาวถิ่นนี้ ตลอดจนชนชาติต่างๆ ที่รายรอบอยู่ ทั้งหมดนี้ เราจะทำลายล้างพวกเจ้าให้หมดสิ้น ทำให้เจ้าเป็นเป้าของความสยดสยองและการดูหมิ่นและเป็นความหายนะตลอดกาล 10 เราจะกำจัดเสียงสรวลเสเฮฮา เสียงเจ้าบ่าวเจ้าสาว เสียงโม่แป้ง และแสงตะเกียงไปจากเจ้า 11 ดินแดนทั้งหมดนี้จะกลายเป็นซากทิ้งร้างว่างเปล่า และชนชาติเหล่านี้จะรับใช้กษัตริย์บาบิโลนเป็นเวลาเจ็ดสิบปี” 12 […]
เยเรมีย์ 26
เยเรมีย์ถูกขู่ฆ่า 1 มีพระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์ในต้นรัชกาลเยโฮยาคิมโอรสของกษัตริย์โยสิยาห์แห่งยูดาห์ 2 “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า จงยืนอยู่ที่ลานพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าและประกาศแก่ชาวเมืองต่างๆ ของยูดาห์ซึ่งมานมัสการที่พระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าจงแจ้งทุกสิ่งตามที่เราสั่ง อย่าเว้นแม้แต่คำเดียว 3 บางทีพวกเขาอาจจะรับฟังและหันจากทางชั่วของตน แล้วเราจะอดใจไว้ไม่นำภัยพิบัติมายังเขาตามที่เราคิดเพราะความชั่วที่พวกเขาได้ทำ 4 จงบอกพวกเขาว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า หากเจ้าไม่ฟังคำของเราและปฏิบัติตามบทบัญญัติของเราซึ่งเราตั้งไว้ต่อหน้าเจ้า 5 และหากเจ้าไม่ยอมฟังคำผู้รับใช้ของเราคือเหล่าผู้เผยพระวจนะซึ่งเราได้ส่งมาเตือนเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า (แม้ว่าเจ้าไม่ฟัง) 6 เมื่อนั้นเราจะทำลายพระนิเวศแห่งนี้เหมือนที่เราได้ทำลายพลับพลาแห่งชิโลห์และเราจะทำให้เยรูซาเล็มเป็นที่สาปแช่งในหมู่ประชาชาติทั่วโลก’ ” 7 บรรดาปุโรหิต ผู้เผยพระวจนะและประชาชนทั้งปวงได้ยินเยเรมีย์กล่าวถ้อยคำเหล่านี้ในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า 8 ทันทีที่เยเรมีย์ได้กล่าวทุกสิ่งแก่ประชาชนเสร็จสิ้นตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสสั่งไว้ บรรดาปุโรหิต ผู้เผยพระวจนะ และประชาชนทั้งปวงก็กรูเข้าไปจับเขาและร้องว่า “แกต้องตาย! 9 ทำไมมาพยากรณ์ในพระนามพระยาห์เวห์ว่าพระนิเวศแห่งนี้จะเป็นเหมือนชิโลห์และกรุงนี้จะต้องถูกทิ้งร้าง?” แล้วประชาชนทั้งหมดก็กรูเข้าล้อมตัวเยเรมีย์ในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า 10 เมื่อบรรดาขุนนางของยูดาห์ได้ยินเรื่องนี้ ก็ออกจากพระราชวังมาที่พระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้ามานั่งประจำที่อยู่ที่ประตูใหม่ของพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า 11 แล้วบรรดาปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะก็แจ้งเหล่าขุนนางและประชาชนทั้งปวงว่า “ชายผู้นี้สมควรรับโทษถึงตายเพราะเขาพยากรณ์ให้ร้ายกรุงนี้ ท่านก็ได้ยินกับหูของท่านเองแล้ว!” 12 เยเรมีย์จึงกล่าวแก่บรรดาขุนนางและประชาชนทั้งปวงว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้ข้าพเจ้ามาพยากรณ์แก่พระนิเวศนี้และกรุงนี้ตามที่ท่านได้ยินมาทั้งหมด 13 บัดนี้พวกท่านจงแก้ไขแนวทางและความประพฤติของท่าน จงเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงอดพระทัยไว้ ไม่นำภัยพิบัติซึ่งได้ทรงประกาศไว้มาเหนือพวกท่าน 14 ส่วนข้าพเจ้าอยู่ในกำมือของท่านแล้ว เชิญทำแก่ข้าพเจ้าตามที่ท่านเห็นดีเห็นชอบเถิด 15 แต่ที่แน่ๆ คือหากพวกท่านฆ่าข้าพเจ้า ก็ได้ฆ่าผู้บริสุทธิ์คนหนึ่งและความผิดนี้จะตกอยู่แก่ท่าน แก่กรุงนี้และแก่ชาวกรุงนี้ […]
เยเรมีย์ 27
ยูดาห์จะปรนนิบัติเนบูคัดเนสซาร์ 1 ในต้นรัชกาลเศเดคียาห์โอรสกษัตริย์โยสิยาห์แห่งยูดาห์ มีพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์ความว่า 2 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงทำแอกจากไม้พร้อมสายรัดแล้วคล้องคอเจ้าไว้ 3 และฝากข้อความไปถึงกษัตริย์เอโดม โมอับ อัมโมน ไทระ และไซดอนผ่านทางบรรดาทูตซึ่งมาเฝ้ากษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ที่เยรูซาเล็ม 4 ให้ไปทูลเจ้านายของตนว่า ‘พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า “จงไปบอกนายของเจ้าว่า 5 เราได้สร้างโลก มนุษย์ และสัตว์ต่างๆ ในโลกนี้ โดยฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่และมือที่เงื้ออยู่ และเรายกสิ่งเหล่านี้แก่ใครก็ได้ที่เราพอใจ 6 บัดนี้เราจะมอบแผ่นดินทั้งปวงของพวกเจ้าให้แก่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนผู้รับใช้ของเรา แม้แต่สัตว์ป่าเราก็จะทำให้ยอมสยบต่อเขา 7 ประชาชาติทั้งปวงจะรับใช้เขาและลูกหลานของเขาจนกว่าจะหมดเวลาของเขา จากนั้นประชาชาติต่างๆ และเหล่ากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่จะพิชิตบาบิโลน 8 “ ‘ “แต่หากชนชาติใดหรืออาณาจักรใดไม่ยอมปรนนิบัติรับใช้กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน หรือไม่ยอมอยู่ใต้แอกของเขา เราจะลงโทษชนชาตินั้นด้วยสงคราม การกันดารอาหาร และโรคระบาด จนกว่าเราจะทำลายชาตินั้นให้สิ้นไปด้วยมือเนบูคัดเนสซาร์องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 9 เพราะฉะนั้นอย่าไปฟังผู้พยากรณ์ หมอดู ผู้ทำนายฝัน คนทรง และหมอผีของพวกเจ้า ผู้ที่บอกว่า ‘เจ้าจะไม่ต้องเป็นข้ารับใช้กษัตริย์บาบิโลน’ 10 พวกเขาพยากรณ์เท็จให้เจ้าฟัง ซึ่งมีแต่จะทำให้เจ้าพลัดพรากจากดินแดนของเจ้า เราจะเนรเทศเจ้าไปและเจ้าจะพินาศ 11 แต่ถ้าชาติใดยอมค้อมคออยู่ใต้แอกของกษัตริย์บาบิโลนและปรนนิบัติรับใช้เขา เราจะอนุญาตให้ชาตินั้นคงอยู่ในดินแดนของตน ทำไร่ไถนาอาศัยอยู่ต่อไปองค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น” ’ ” 12 […]
เยเรมีย์ 28
ฮานันยาห์ผู้พยากรณ์เท็จ 1 ในเดือนที่ห้าปีเดียวกันนั้น ซึ่งเป็นปีที่สี่ของรัชกาลกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ ผู้พยากรณ์ฮานันยาห์บุตรอัสซูร์ซึ่งมาจากกิเบโอน กล่าวกับข้าพเจ้าในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าต่อหน้าบรรดาปุโรหิตและประชากรทั้งปวงว่า 2 “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘เราจะหักแอกของกษัตริย์บาบิโลน 3 เราจะนำภาชนะต่างๆ ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนริบจากพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าไปไว้ที่บาบิโลนนั้นกลับคืนมาที่นี่ภายในสองปี 4 และเราจะนำเยโฮยาคีนโอรสของกษัตริย์เยโฮยาคิมแห่งยูดาห์ กับบรรดาเชลยจากยูดาห์ซึ่งไปยังบาบิโลนนั้นกลับมาที่นี่อีก เพราะเราจะทำลายแอกของกษัตริย์บาบิโลน’องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น” 5 แล้วผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์กล่าวกับฮานันยาห์ต่อหน้าปุโรหิตและประชากรทั้งปวงซึ่งยืนอยู่ในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า 6 เขากล่าวว่า “อาเมน! ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำเช่นนั้นเถิด! ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดให้เป็นไปตามคำพยากรณ์ของท่าน ที่พระองค์จะทรงนำภาชนะประจำพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและเชลยทั้งปวงจากบาบิโลนคืนสู่แผ่นดินนี้ 7 แต่ขอจงฟังสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องกล่าวให้ท่านและประชาชนทั้งปวงได้ยินคือ 8 ตั้งแต่กาลก่อนบรรดาผู้เผยพระวจนะก่อนหน้าท่านและข้าพเจ้าได้พยากรณ์ถึงสงคราม ภัยพิบัติ และโรคระบาด ซึ่งจะเกิดขึ้นในหลายประเทศและอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย 9 แต่ผู้เผยพระวจนะซึ่งพยากรณ์ถึงสันติภาพนั้นจะได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้มาจริงๆ ก็ต่อเมื่อคำพยากรณ์ของเขาเป็นจริง” 10 แล้วผู้เผยพระวจนะฮานันยาห์ จึงปลดแอกจากคอของผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์แล้วหักทิ้งเสีย 11 แล้วกล่าวต่อหน้าประชาชนทั้งปวงว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘ในทำนองเดียวกัน เราจะทำลายแอกของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนออกจากคอของบรรดาประชาชาติภายในสองปี’ ” ถึงตอนนี้ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ก็เดินจากไป 12 ไม่นานหลังจากที่ผู้เผยพระวจนะฮานันยาห์ได้ทำลายแอกจากคอของผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็มาถึงเยเรมีย์ว่า 13 “จงไปบอกฮานันยาห์ว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า เจ้าหักแอกไม้ออก แต่เจ้าจะได้แอกเหล็กแทน 14 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า […]
เยเรมีย์ 29
จดหมายถึงเหล่าเชลย 1 ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งจากเยรูซาเล็มถึงบรรดาผู้อาวุโส ปุโรหิต ผู้เผยพระวจนะ และประชากรทั้งปวงซึ่งถูกกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์กวาดต้อนจากเยรูซาเล็มไปเป็นเชลยที่บาบิโลน 2 (หลังจากที่กษัตริย์เยโฮยาคีนราชมารดา และข้าราชสำนัก บรรดาผู้นำยูดาห์และเยรูซาเล็ม ช่างเหล็กและช่างฝีมือทั้งหลายถูกกวาดต้อนจากกรุงเยรูซาเล็มไปเป็นเชลย) 3 เขาส่งจดหมายฉบับนี้ไปกับเอลาสาห์บุตรชาฟาน และเกมาริยาห์บุตรฮิลคียาห์ ซึ่งกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ให้ไปเข้าเฝ้ากษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ในบาบิโลน จดหมายนั้นมีใจความว่า 4 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสแก่คนทั้งปวงผู้ถูกกวาดต้อนจากเยรูซาเล็มไปเป็นเชลยที่บาบิโลนว่า 5 “จงสร้างบ้านและตั้งรกราก จงเพาะปลูกและกินพืชผลที่ได้ 6 จงแต่งงาน มีลูกชายลูกสาว และหาคู่ครองให้พวกเขา จะได้มีหลานเหลน จงเพิ่มจำนวนพลเมืองขึ้น ไม่ใช่ลดลง 7 ทั้งจงบากบั่นเพื่อสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองของนครซึ่งเราให้เจ้าไปตกเป็นเชลยนั้น จงอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อนครนั้น เพราะหากมันเจริญ เจ้าก็เจริญด้วย” 8 ถูกแล้ว พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า “อย่ายอมให้บรรดาผู้พยากรณ์และหมอดูในหมู่พวกเจ้าหลอกลวงเจ้า อย่าฟังความฝันที่พวกเจ้าอยากให้พวกเขาฝัน 9 พวกเขากำลังพยากรณ์เท็จในนามของเราให้เจ้าฟัง เราไม่ได้ใช้พวกเขาไป”องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 10 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เมื่อเป็นเชลยในบาบิโลนจนครบเจ็ดสิบปีแล้ว เราจะมาเยือนเจ้าและทำตามสัญญาแห่งพระคุณที่จะนำเจ้ากลับคืนมาที่นี่” 11 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “เพราะเรารู้แผนการที่เรามีไว้สำหรับเจ้า เป็นแผนการเพื่อทำให้เจ้ารุ่งเรืองไม่ใช่เพื่อทำร้ายเจ้า เป็นแผนการเพื่อให้ความหวังและอนาคตแก่เจ้า 12 แล้วเจ้าจะร้องเรียกเรา และมาอธิษฐานต่อเรา และเราจะฟังเจ้า […]
เยเรมีย์ 30
อิสราเอลคืนสู่สภาพดี 1 มีพระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์ความว่า 2 “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘จงบันทึกทุกสิ่งที่เราได้พูดกับเจ้าไว้’ 3 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ‘เพราะใกล้จะถึงเวลาแล้วที่เราจะนำอิสราเอลและยูดาห์ ประชากรของเรากลับมาจากการเป็นเชลยและนำพวกเขากลับสู่ดินแดนที่เรายกให้บรรพบุรุษของพวกเขาครอบครอง’องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น” 4 องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสเกี่ยวกับอิสราเอลและยูดาห์ไว้ว่า 5 “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ ‘เราได้ยินเสียงร้องด้วยความกลัว เป็นความอกสั่นขวัญแขวน ไม่ใช่สันติสุข 6 จงถามและดูเถิดว่า ผู้ชายคลอดลูกได้หรือ? ถ้าเช่นนั้นทำไมเราเห็นชายฉกรรจ์ทุกคน เอามือกุมท้องไว้เหมือนผู้หญิงกำลังคลอด? ทำไมทุกคนหน้าซีด? 7 วันนั้นจะน่ากลัวสักเพียงใด! ไม่มีวันใดเหมือน เป็นยามทุกข์ลำเค็ญสำหรับยาโคบ แต่เขาจะได้รับการช่วยให้รอดพ้น’ 8 “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า ‘ในวันนั้นเราจะปลดแอกจากคอของเขา และหักเครื่องพันธนาการของเขาทิ้ง เขาจะไม่ตกเป็นทาสของคนต่างชาติอีกต่อไป 9 แต่พวกเขาจะรับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของตน และรับใช้ดาวิดกษัตริย์ของเขา ผู้ซึ่งเราจะเชิดชูขึ้นเพื่อพวกเขา 10 “ ‘ฉะนั้นอย่ากลัวเลย ยาโคบผู้รับใช้ของเราเอ๋ย อย่าท้อแท้หดหู่ไปเลย อิสราเอลเอ๋ย’ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น ‘เราจะช่วยเจ้าจากแดนไกลอย่างแน่นอน จะช่วยลูกหลานของเจ้าจากแดนเชลย ยาโคบจะกลับมีความสงบสุขและมั่นคงปลอดภัยอีกครั้ง และจะไม่มีใครทำให้เขาหวาดกลัว 11 เพราะเราอยู่กับเจ้าและเราจะช่วยเจ้า’ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ ‘ถึงแม้ว่าเราจะทำลายล้างมวลประชาชาติ ที่เราทำให้พวกเจ้ากระจัดกระจายไปนั้นจนหมดสิ้น แต่เราจะไม่ทำลายล้างเจ้าให้สิ้นไป เราจะตีสั่งสอนเจ้า แต่ก็ด้วยความยุติธรรมเท่านั้น […]