จงรักและเชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้า 1 จงรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายและปฏิบัติตามข้อกำหนด กฎหมาย บทบัญญัติ และพระบัญชาของพระองค์เสมอ 2 ในวันนี้จงจำไว้เถิดว่าลูกหลานของท่านไม่ใช่ผู้ที่เคยเห็นหรือมีประสบการณ์การตีสั่งสอนของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ทั้งพระบารมี พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์และพระกรที่เหยียดออกของพระองค์ 3 หมายสำคัญและสิ่งต่างๆ ซึ่งทรงกระทำในใจกลางอียิปต์ต่อฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์และทั้งประเทศของเขา 4 สิ่งที่พระองค์ทรงกระทำต่อกองทัพ ม้า และรถม้าศึกของอียิปต์ อย่างที่ทรงบันดาลให้น้ำในทะเลแดงท่วมพวกเขาขณะกำลังรุกไล่ท่าน และที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำให้ชาวอียิปต์สิ้นเขี้ยวเล็บตราบจนทุกวันนี้ 5 พวกลูกหลานไม่ได้เห็นสิ่งที่พระเจ้าทรงทำเพื่อท่านในถิ่นกันดารจวบจนเดินทางมาถึงที่นี่ 6 และสิ่งที่ทรงทำแก่ดาธานกับอาบีรัมบุตรของเอลีอับเผ่ารูเบน เมื่อธรณีแยกกลางอิสราเอลทั้งปวงและกลืนพวกเขาลงไปพร้อมทั้งครอบครัว เต็นท์ ตลอดจนทุกชีวิตที่เป็นของพวกเขา 7 แต่ท่านทั้งหลายได้เห็นการอัศจรรย์อันยิ่งใหญ่ทั้งปวงที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงทำด้วยตาของท่านเอง 8 ฉะนั้นท่านทั้งหลายจงปฏิบัติตามพระบัญชาทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าแจ้งท่านในวันนี้ เพื่อท่านจะเข้มแข็งและเข้าไปยึดดินแดนซึ่งพวกท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปยึดครอง 9 และเพื่อท่านจะมีชีวิตยืนนานในดินแดนซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่านว่าจะประทานแก่พวกเขากับวงศ์วาน เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง 10 ดินแดนที่ท่านกำลังจะเข้าไปยึดครองนี้ไม่เหมือนอียิปต์ที่ท่านจากมา ซึ่งท่านหว่านเมล็ดแล้วต้องวิดน้ำเข้าแปลงเหมือนสวนผัก 11 แต่ดินแดนที่ท่านจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปยึดครองนี้เป็นดินแดนแห่งภูเขาและหุบเขาซึ่งได้ดื่มด่ำสายฝนจากฟ้าสวรรค์ 12 เป็นดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงทำนุบำรุงและพระเนตรของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอยู่เหนือที่นั่นตลอดทั้งปี 13 ฉะนั้นหากท่านเชื่อฟังพระบัญชาซึ่งข้าพเจ้าแจ้งท่านในวันนี้อย่างซื่อสัตย์ คือจงรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและปรนนิบัติพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจ 14 แล้วพระองค์จะทรงให้ฝนตกตามฤดูกาลบนแผ่นดินของท่าน ทั้งฝนฤดูใบไม้ร่วงและฝนฤดูใบไม้ผลิซึ่งจะให้ผลผลิต เมล็ดข้าว เหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมัน 15 พระองค์จะให้หญ้าในท้องทุ่งสำหรับฝูงสัตว์ของท่านและท่านจะรับประทานอย่างอิ่มหนำ 16 จงระวังอย่าให้จิตใจของท่านถูกล่อลวงไปกราบไหว้บูชาพระอื่นๆ 17 […]
Category Archives: เฉลยธรรมบัญญัติ
เฉลยธรรมบัญญัติ 12
มีสถานนมัสการแห่งเดียว 1 ต่อไปนี้คือกฎหมายและบทบัญญัติซึ่งท่านจะต้องใส่ใจปฏิบัติตามในดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านประทานแก่ท่าน ตราบเท่าที่ท่านอาศัยอยู่ในดินแดนนั้น 2 จงทำลายสถานบูชาทั้งปวงที่ชนชาติต่างๆ กราบไหว้อยู่นั้นให้สิ้นซาก ชนชาติเหล่านี้เป็นชนชาติซึ่งท่านกำลังจะเข้าไปยึดครองดินแดนของเขา ไม่ว่าบนยอดเขา เนินเขา หรือใต้ต้นไม้ใหญ่ 3 จงทุบแท่นบูชา ทุบทำลายหินศักดิ์สิทธิ์ เผาเสาเจ้าแม่อาเชราห์ ทำลายรูปเคารพของเขา และกำจัดให้สิ้นชื่อไปจากที่นั่น 4 อย่านมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านตามแบบอย่างของพวกเขา 5 แต่จงแสวงหาที่ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือกสรรจากเผ่าทั้งหลาย เพื่อสถาปนาพระนามของพระองค์ไว้ให้เป็นที่ประทับ ท่านต้องไปที่นั่น 6 จงนำเครื่องเผาบูชาและของถวายต่างๆ สิบลด ของถวายพิเศษ เครื่องถวายตามคำปฏิญาณ เครื่องบูชาตามความสมัครใจ และลูกหัวปีจากฝูงแพะแกะและฝูงวัวของท่านไปที่นั่น 7 ท่านกับครอบครัวจะเลี้ยงฉลองกันต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านที่นั่น และจะชื่นชมยินดีในทุกสิ่งที่ท่านทำ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงอวยพรท่าน 8 ท่านอย่าทำตามใจชอบอย่างที่ท่านทำอยู่ที่นี่ในขณะนี้ 9 เนื่องจากท่านยังไม่ได้เข้าสู่ที่พักและดินแดนกรรมสิทธิ์ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะประทานแก่ท่าน 10 แต่ท่านจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปตั้งถิ่นฐานในดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานเป็นมรดก และพระองค์จะให้ท่านพักสงบจากศัตรูรอบด้าน เพื่อท่านจะมีชีวิตอย่างปลอดภัย 11 เมื่อนั้นท่านจงนำทุกสิ่งที่ข้าพเจ้ากำชับไว้ คือเครื่องเผาบูชาและของถวายต่างๆ สิบลดและของถวายพิเศษ และทรัพย์สินที่ดีทั้งหลายที่ท่านได้ปฏิญาณไว้แด่องค์พระผู้เป็นเจ้ามายังสถานที่ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงเลือกให้เป็นที่ประทับเพื่อพระนามของพระองค์ 12 จงชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านที่นั่น ทั้งท่าน บุตรชายบุตรสาว คนใช้ชายหญิงของท่าน และคนเผ่าเลวีในเมืองของท่านซึ่งไม่มีกรรมสิทธิ์ส่วนแบ่งของตนเอง 13 จงระวัง […]
เฉลยธรรมบัญญัติ 13
อย่านมัสการพระอื่น 1 หากมีผู้เผยพระวจนะหรือผู้ที่ทำนายอนาคตโดยอ้างความฝันอยู่ในหมู่พวกท่าน และประกาศกับพวกท่านว่าจะเกิดหมายสำคัญหรือปาฏิหาริย์ 2 และหากหมายสำคัญหรือปาฏิหาริย์ที่เขาบอกไว้เป็นจริงขึ้นมา และเขากล่าวว่า “ให้เราไปติดตามพระอื่นๆ เถิด” (บรรดาพระที่ท่านไม่รู้จัก) “ให้เราไปกราบไหว้พระเหล่านั้นเถิด” 3 อย่าไปฟังคำของผู้เผยพระวจนะหรือผู้ฝันเห็นเหตุการณ์คนนั้นเลย พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงทดสอบดูว่าท่านรักพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจหรือไม่ 4 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านคือผู้ที่ท่านต้องติดตามและยำเกรง จงปฏิบัติตามพระบัญชาและเชื่อฟังพระองค์ จงปรนนิบัติและยึดมั่นในพระองค์ 5 ผู้เผยพระวจนะและผู้ฝันเห็นเหตุการณ์นั้นจะต้องถูกประหาร เพราะเขาสั่งสอนให้กบฏต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านผู้ได้ทรงนำท่านออกจากอียิปต์และทรงไถ่ท่านจากแดนทาส ผู้นั้นพยายามชักจูงท่านให้หันเหจากทางที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงสั่งให้ท่านเดินตาม ท่านต้องขจัดความชั่วออกไปจากหมู่พวกท่าน 6 หากพี่น้องของท่านเอง หรือบุตรชายบุตรสาว หรือภรรยาที่รัก หรือเพื่อนสนิท แอบชักจูงท่านโดยกล่าวว่า “ให้เราไปนมัสการพระอื่นๆ เถิด” (พระซึ่งท่านหรือบรรพบุรุษไม่เคยรู้จักมาก่อน 7 พระของชนชาติต่างๆ รอบตัวท่าน ไม่ว่าใกล้หรือไกลจากสุดปลายแผ่นดินข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง) 8 อย่าคล้อยตามหรือรับฟัง อย่าสงสารเขา ไม่ต้องไว้ชีวิตหรือปกป้องเขาเลย 9 จงประหารเขา ตัวท่านเองจงลงมือประหารเขาเป็นคนแรก แล้วให้ประชาชนทั้งปวงลงมือด้วย 10 จงเอาหินขว้างเขาให้ตาย เพราะเขาพยายามชักจูงท่านให้หันเหจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านผู้ทรงนำท่านออกจากอียิปต์ จากแดนทาส 11 แล้วอิสราเอลทั้งปวงจะได้ยินเรื่องราวและจะได้เข็ดขยาด และไม่มีใครในพวกท่านทำสิ่งชั่วร้ายแบบนั้นอีก 12 หากท่านได้ยินคนกล่าวถึงเมืองใดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานให้ท่านเป็นที่พักอาศัย 13 ว่ามีกลุ่มคนชั่วชักจูงชาวเมืองให้หลงผิดไปโดยกล่าวว่า […]
เฉลยธรรมบัญญัติ 14
อาหารที่ไม่เป็นมลทิน และอาหารที่เป็นมลทิน 1 ท่านทั้งหลายเป็นบุตรของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ฉะนั้นเมื่อท่านไว้ทุกข์ให้ผู้ตาย อย่าเชือดเนื้อเถือหนังตัวเองหรือโกนหัว 2 ท่านเป็นประชาชาติบริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกสรรท่านจากประชาชาติทั้งหลายบนพื้นโลกให้เป็นกรรมสิทธิ์ล้ำค่าของพระองค์ 3 อย่ารับประทานสิ่งใดๆ ซึ่งน่าขยะแขยง 4 สัตว์ต่อไปนี้ท่านรับประทานได้ คือ วัว แกะ แพะ 5 กวาง ละมั่ง เก้ง แพะป่า สมัน โครำขาว และแกะภูเขา 6 ท่านรับประทานสัตว์ที่มีกีบแยกและเคี้ยวเอื้องได้ 7 แต่อย่ารับประทานสัตว์ใดที่ไม่มีคุณสมบัติครบทั้งสองข้อนี้ ฉะนั้นอย่ารับประทานอูฐ กระต่าย กระจงผา ซึ่งเคี้ยวเอื้องแต่กีบไม่แยก สัตว์เหล่านี้เป็นมลทินตามระเบียบพิธีสำหรับท่าน 8 อย่ารับประทานหมู ซึ่งแม้กีบแยกแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง และอย่าแตะต้องซากของสัตว์เหล่านี้ 9 ท่านรับประทานสัตว์น้ำทั้งปวงที่มีครีบและเกล็ดได้ 10 ท่านอย่ารับประทานสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ที่ไม่มีครีบและเกล็ดเพราะถือว่าเป็นมลทินสำหรับท่าน 11 ท่านรับประทานสัตว์ปีกทั้งหลายที่ไม่เป็นมลทินได้ 12 แต่นกเหล่านี้ท่านอย่ารับประทานคือ นกอินทรี แร้งหนวดแพะ แร้งดำ 13 เหยี่ยวแดง เหยี่ยวดำ เหยี่ยวปีกแหลมพันธุ์ต่างๆ 14 […]
เฉลยธรรมบัญญัติ 15
ปีแห่งการยกหนี้สิน 1 ทุกปลายปีที่เจ็ดท่านต้องยกหนี้สิน 2 โดยทำดังนี้คือ เจ้าหนี้ทุกรายจะยกหนี้ให้พี่น้องร่วมชาติอิสราเอล ไม่เรียกร้องให้ใช้หนี้ เพราะเป็นวาระที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศให้ยกเลิกพันธะหนี้สิน 3 ท่านอาจทวงหนี้จากคนต่างด้าวได้ แต่จงยกหนี้ให้พี่น้องร่วมชาติ 4 อย่างไรก็ตามจะไม่มีคนยากจนในหมู่พวกท่าน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรท่านอย่างเหลือล้นในดินแดนซึ่งพระองค์ประทานให้ท่านครอบครองเป็นกรรมสิทธิ์ 5 ถ้าเพียงแต่ท่านเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอย่างครบถ้วน และใส่ใจปฏิบัติตามคำบัญชาทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าแจ้งท่านในวันนี้ 6 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรท่านตามที่ทรงสัญญาไว้ ท่านจะให้หลายชนชาติยืมแต่ไม่เคยต้องยืมจากใคร ท่านจะปกครองหลายชนชาติแต่จะไม่มีใครได้ปกครองท่าน 7 หากมีคนยากจนท่ามกลางพี่น้องในเมืองใดของดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะประทานแก่ท่าน อย่านิ่งดูดายหรือไม่ยอมเห็นใจช่วยเหลือเขา 8 จงใจกว้างเอื้อเฟื้อให้เขายืมตามที่เขาจำเป็น 9 จงระวัง อย่ามีความคิดชั่วร้ายว่า “ปีที่เจ็ดซึ่งเป็นปีแห่งการยกหนี้สินใกล้จะมาถึงแล้ว” ก็เลยไร้น้ำใจไม่ยอมให้อะไรแก่พี่น้องผู้ยากไร้ เขาอาจร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้วจะถือเป็นความผิดบาปของท่าน 10 ท่านจงให้เขายืมด้วยใจกว้างขวางและอย่ามีใจคิดเสียดาย เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรท่านในกิจการงานทุกอย่างและทุกสิ่งที่ท่านทำ 11 จะมีคนจนในแผ่นดินเสมอ ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงกำชับให้ท่านเอื้อเฟื้อแก่พี่น้อง คนยากไร้ ผู้ขัดสนในดินแดนของท่าน ปลดปล่อยทาส 12 หากพี่น้องชาวฮีบรูไม่ว่าชายหรือหญิง ขายตัวเป็นทาสและรับใช้ท่านมาครบหกปี ท่านต้องปล่อยเขาเป็นไทในปีที่เจ็ด 13 และอย่าปล่อยเขาไปมือเปล่า 14 จงมีน้ำใจให้ของจากฝูงสัตว์ ลานนวดข้าว และบ่อย่ำองุ่นแก่เขาด้วย จงแบ่งปันให้เขาตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงอวยพรท่าน 15 จงระลึกว่าท่านเคยเป็นทาสอยู่ในอียิปต์ และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงไถ่ท่าน […]
เฉลยธรรมบัญญัติ 16
เทศกาลปัสกา 1 จงฉลองเทศกาลปัสกาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในเดือนอาบีบ เพราะในเดือนนั้นพระองค์ทรงนำท่านออกจากอียิปต์ในยามค่ำคืน 2 จงเลือกเครื่องบูชาปัสกาจากฝูงแพะแกะและฝูงวัวของท่าน ถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเลือกเป็นที่สถาปนาพระนามของพระองค์ 3 จงรับประทานเครื่องบูชานี้พร้อมกับขนมปังไม่ใส่เชื้อ จงรับประทานขนมปังไม่ใส่เชื้อตลอดเจ็ดวันนี้ ซึ่งเป็นขนมปังแห่งความทุกข์ เพราะท่านออกมาจากอียิปต์อย่างเร่งรีบ เพื่อท่านจะได้ระลึกถึงตอนที่ท่านออกมาจากอียิปต์ตลอดชีวิตของท่าน 4 ตลอดเจ็ดวันอย่าให้มีเชื้อยีสต์ในอาณาเขตของท่านเลย และอย่าให้เนื้อที่ท่านถวายในเย็นวันแรกเหลือค้างถึงรุ่งเช้า 5 อย่าถวายเครื่องบูชาปัสกาในเมืองใดๆ ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทาน 6 ท่านจะต้องถวายในสถานที่ซึ่งพระเจ้าทรงเลือกเป็นที่สถาปนาพระนามของพระองค์เท่านั้น จงถวายปัสกาในเวลาเย็นเมื่อดวงอาทิตย์ลับไป ในวันครบรอบปีแห่งการเดินทางออกจากอียิปต์ 7 จงย่างและรับประทานเครื่องบูชาในสถานที่ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือก แล้วกลับไปยังเต็นท์ในเช้าวันรุ่งขึ้น 8 และจงรับประทานขนมปังไม่ใส่เชื้อตลอดหกวันหลังจากนั้น ในวันที่เจ็ดให้ประชากรมาชุมนุมกันต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และอย่าทำงาน เทศกาลแห่งสัปดาห์ 9 เจ็ดสัปดาห์หลังจากที่ท่านเริ่มลงมือเกี่ยวข้าว 10 จงฉลองเทศกาลแห่งสัปดาห์ถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านโดยถวายเครื่องบูชาตามความสมัครใจ ตามสัดส่วนของพระพรที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ประทานแก่ท่าน 11 และท่าน บุตรชายบุตรสาว ทาสชายหญิง คนเลวีในเมืองของท่าน คนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่ายซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกท่าน จงชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในสถานที่ซึ่งพระองค์จะทรงเลือกเป็นที่สถาปนาพระนามของพระองค์ 12 อย่าลืมว่าท่านเคยเป็นทาสในอียิปต์ ฉะนั้นจงใส่ใจปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เหล่านี้ เทศกาลอยู่เพิง 13 หลังจากเก็บรวบรวมผลิตผลจากลานนวดข้าวและบ่อย่ำองุ่นแล้ว จงฉลองเทศกาลอยู่เพิงตลอดเจ็ดวัน 14 ท่าน บุตรชายบุตรสาว […]
เฉลยธรรมบัญญัติ 17
1 อย่าถวายแกะหรือวัวที่มีตำหนิหรือพิการแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับพระองค์ 2 หากชายหรือหญิงคนใดที่อยู่ท่ามกลางท่านในเมืองใดเมืองหนึ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ท่าน ทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านโดยการละเมิดพันธสัญญาของพระองค์ 3 ไปนมัสการกราบไหว้พระอื่นๆ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หรือดวงดาว ซึ่งข้าพเจ้าได้สั่งห้ามไว้ 4 และมีผู้มาร้องเรียนต่อท่าน ท่านต้องไต่สวนอย่างรอบคอบ หากเป็นจริงและมีข้อพิสูจน์ว่ามีสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนี้เกิดขึ้นในอิสราเอล 5 ก็จงนำชายหรือหญิงที่ทำชั่วนั้นออกไปที่ประตูเมือง แล้วเอาหินขว้างให้ตาย 6 แต่อย่าประหารใครเมื่อมีพยานเพียงปากเดียว จะต้องมีพยานอย่างน้อยสองหรือสามปาก 7 พยานต้องลงมือขว้างก่อน จากนั้นประชาชนจะร่วมขว้างด้วย ท่านต้องขจัดความชั่วร้ายออกไปจากหมู่พวกท่าน ศาลยุติธรรม 8 หากมีคดีความใดยุ่งยากเกินกว่าท่านจะตัดสิน ไม่ว่าเป็นคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา คดีฟ้องร้อง หรือคดีทำร้ายร่างกาย จงนำคดีเหล่านั้นไปยังสถานที่ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือก 9 ไปแจ้งต่อปุโรหิตซึ่งเป็นคนเลวี และแจ้งตุลาการซึ่งประจำการอยู่ในขณะนั้น คนเหล่านี้จะเป็นผู้ไต่สวนและตัดสิน 10 ท่านจะต้องปฏิบัติตามคำตัดสินของเขาที่แจ้งท่านในที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเลือก จงใส่ใจปฏิบัติตามทุกสิ่งที่พวกเขาสั่งท่าน 11 จงปฏิบัติตามบทบัญญัติที่พวกเขาสั่งสอนและทำตามคำตัดสินของเขา อย่าหันเหจากสิ่งที่เขาแจ้งท่านไปทางขวาหรือทางซ้าย 12 ผู้ใดดูหมิ่นตุลาการหรือปุโรหิตซึ่งปรนนิบัติพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านที่นั่นจะต้องถูกประหาร ท่านจะต้องขจัดความชั่วออกจากอิสราเอล 13 ประชาชนทั้งปวงจะได้ยินเรื่องราวแล้วเกรงกลัวและจะไม่กล้าหมิ่นประมาทอีก กษัตริย์ 14 เมื่อท่านได้เข้าไปครอบครองและตั้งถิ่นฐานในดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านแล้ว และกล่าวว่า “ให้พวกเราตั้งกษัตริย์ปกครองเราเหมือนชนชาติทั้งปวงรอบๆ เรา” 15 […]
เฉลยธรรมบัญญัติ 18
ส่วนแบ่งของปุโรหิตและคนเลวี 1 ปุโรหิตชาวเลวีรวมทั้งคนในเผ่าเลวีทั้งหมดจะไม่ได้รับส่วนแบ่งหรือมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับอิสราเอล พวกเขาจะยังชีพด้วยเครื่องบูชาซึ่งเผาด้วยไฟถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะนั่นเป็นส่วนกรรมสิทธิ์ของพวกเขา 2 พวกเขาจะไม่ครอบครองทรัพย์สมบัติใดในหมู่พี่น้อง เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาตามที่ทรงสัญญาไว้กับพวกเขา 3 เมื่อประชาชนถวายวัวผู้หรือแกะเป็นเครื่องบูชา บรรดาปุโรหิตจะได้โคนขาหน้า เนื้อแก้ม และเนื้อท้องเป็นส่วนแบ่ง 4 จงมอบผลิตผลรุ่นแรก คือเมล็ดข้าว เหล้าองุ่นใหม่ น้ำมัน และขนแกะที่ตัดครั้งแรกให้แก่พวกเขา 5 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงเลือกสรรพวกเขาและวงศ์วานของพวกเขาจากทุกเผ่าให้มาปฏิบัติหน้าที่รับใช้ในพระนามของพระยาห์เวห์เสมอไป 6 หากชนเลวีคนใดปรารถนาจะย้ายถิ่นฐานจากเมืองใดในอิสราเอลมายังสถานที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเลือก เขาก็ทำได้ 7 และให้เขาปฏิบัติหน้าที่ในพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาได้เช่นเดียวกับญาติพี่น้องเลวีทั้งปวงซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 8 เขามีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งจากเครื่องบูชาและของถวายอย่างเท่าเทียมกัน แม้จะได้รับเงินจากการขายทรัพย์สินของครอบครัวแล้วก็ตาม การกระทำอันน่ารังเกียจ 9 เมื่อท่านเข้าสู่ดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทาน อย่าเลียนแบบการกระทำอันน่าชิงชังของชนชาติทั้งหลายที่นั่น 10 อย่าให้ผู้ใดในพวกท่านยกบุตรชายบุตรสาวเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟเป็นหมอดูหรือนักคาถาอาคม แปลความหมายลางบอกเหตุต่างๆ เป็นพ่อมดแม่มด 11 หรือทำเวทมนตร์ หรือเป็นคนทรง หรือเป็นหมอผี หรือไปปรึกษาคนที่ตายแล้ว 12 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรังเกียจคนที่ทำสิ่งเหล่านี้ และที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงขับไล่ชนชาติเหล่านั้นออกไปต่อหน้าท่านก็เพราะธรรมเนียมปฏิบัติอันน่าชิงชังเหล่านี้ 13 ท่านจะต้องไม่มีที่ติต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ผู้เผยพระวจนะ 14 ชนชาติต่างๆ ซึ่งท่านจะขับไล่ออกไปจากดินแดนนั้นฟังคำของนักคาถาอาคมและหมอดู แต่ส่วนท่านพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านไม่ทรงอนุญาตให้ท่านทำเช่นนั้น 15 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงตั้งผู้เผยพระวจนะเหมือนข้าพเจ้าขึ้นมาคนหนึ่งสำหรับท่าน จากท่ามกลางพี่น้องของท่านเอง ท่านต้องรับฟังเขา […]
เฉลยธรรมบัญญัติ 19
เมืองลี้ภัย 1 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงทำลายชนชาติต่างๆ ในดินแดนซึ่งพระองค์กำลังจะประทานแก่ท่าน เมื่อท่านขับไล่พวกเขาออกไปและตั้งถิ่นฐานในบ้านเมืองของเขาแล้ว 2 จงเลือกเมืองสามแห่งในดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังประทานแก่ท่าน 3 จงสร้างทางไปยังเมืองเหล่านี้และแบ่งดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานเป็นกรรมสิทธิ์นั้นออกเป็นสามส่วนเพื่อผู้ที่ฆ่าคนจะหนีไปลี้ภัยที่นั่น 4 ต่อไปนี้คือกฎเกี่ยวกับผู้ที่ทำให้คนตายแล้วหนีไปเมืองลี้ภัยเพื่อเอาชีวิตรอด คือผู้ที่ทำให้คนตายโดยไม่เจตนา ไม่ได้วางแผนการร้ายมาก่อน 5 ยกตัวอย่างเช่นชายคนหนึ่งเข้าไปตัดไม้ในป่ากับเพื่อนบ้าน ขณะที่เหวี่ยงขวาน หัวขวานกระเด็นออกมาถูกเพื่อนบ้านถึงแก่ความตาย เขาสามารถหนีไปยังเมืองลี้ภัยแห่งใดแห่งหนึ่งในสามเมืองนี้และได้รับการคุ้มครอง 6 ถ้ามีเพียงเมืองเดียวอาจจะไกลเกินไป ทำให้ญาติของผู้ตายตามล้างแค้นเขาได้ทัน เขาจะถูกฆ่าทั้งๆ ที่ไม่น่าจะต้องตาย ในเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอุบัติเหตุ 7 ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงสั่งให้ท่านตั้งเมืองสามแห่งนี้ขึ้น 8 หากพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงขยายอาณาเขตของท่านตามที่ทรงสัญญาด้วยคำปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่าน และประทานดินแดนทั้งหมดที่ทรงสัญญาไว้ 9 เนื่องจากท่านเชื่อฟังบทบัญญัติทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าแจ้งท่านในวันนี้ คือรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและดำเนินในทางของพระองค์เสมอ เมื่อนั้นจงกำหนดเมืองลี้ภัยขึ้นอีกสามแห่ง 10 จงทำอย่างนี้เพื่อเลือดของผู้บริสุทธิ์จะไม่ต้องหลั่งลงบนดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานให้ท่านเป็นกรรมสิทธิ์ และเพื่อท่านจะไม่มีความผิดฐานทำให้เลือดตกยางออก 11 แต่หากผู้ใดเกลียดชังเพื่อนบ้าน และซุ่มดักคอยเล่นงาน และฆ่าเขา แล้วหนีเข้าไปในเมืองลี้ภัยไม่ว่าแห่งใด 12 บรรดาผู้อาวุโสประจำเมืองของเขาจะส่งคนมาจับกุมตัวเขาและนำเขากลับมามอบให้แก่ผู้แก้แค้นแทนผู้ตายเพื่อประหาร 13 อย่าสงสารเขาเลย จงขจัดความผิดจากการหลั่งโลหิตของผู้ที่ไม่มีความผิดออกไปจากอิสราเอล เพื่อท่านจะอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข 14 อย่าโยกย้ายหลักเขตของเพื่อนบ้านซึ่งบรรพบุรุษปักไว้ในดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานเป็นกรรมสิทธิ์ พยาน 15 อย่าตัดสินคดีผู้ใดเมื่อมีพยานเพียงปากเดียว แต่ละคดีจะต้องมีพยานยืนยันสองสามปาก 16 ถ้าผู้ใดเป็นพยานมุ่งร้ายกล่าวโทษอีกผู้หนึ่งว่าประกอบอาชญากรรม […]
เฉลยธรรมบัญญัติ 20
การออกศึก 1 เมื่อท่านออกรบและเห็นศัตรูมีม้า รถม้าศึก และกองทัพยิ่งใหญ่เหนือกว่าท่าน อย่ากลัวพวกเขาเลย เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านผู้นำท่านออกมาจากอียิปต์นั้นจะสถิตกับท่าน 2 ก่อนจะออกรบ ปุโรหิตจะเดินมาข้างหน้าและกล่าวแก่กองทัพว่า 3 “อิสราเอลเอ๋ย จงฟังเถิด วันนี้ท่านกำลังจะไปรบกับศัตรู ไม่ต้องขวัญหนีดีฝ่อหรือหวาดกลัว อย่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงหรือตื่นตระหนกตกใจ 4 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเสด็จไปกับท่าน พระองค์ทรงต่อสู้กับศัตรูเพื่อท่านและจะประทานชัยชนะแก่ท่าน” 5 แล้วแม่ทัพนายกองจะกล่าวแก่กองทัพว่า “มีใครบ้างที่เพิ่งสร้างบ้านใหม่ แต่ยังไม่ได้ทำพิธีถวาย? ถ้ามีจงกลับไปบ้าน เพราะท่านอาจจะตายในสงคราม แล้วคนอื่นจะมาทำพิธีถวายแทน 6 มีใครบ้างเพิ่งปลูกสวนองุ่น แต่ยังไม่ได้กินผลเลย? ถ้ามีจงกลับบ้าน ท่านอาจจะตายในสงครามแล้ว คนอื่นมากินแทน 7 มีใครบ้างที่เพิ่งหมั้นและยังไม่ได้แต่งงาน? ถ้ามีจงกลับบ้านแต่งงานเสียเถิด มิฉะนั้นท่านอาจจะตายในสงครามและคนอื่นมาแต่งงานกับคู่หมั้นของท่านแทน” 8 แล้วแม่ทัพนายกองกล่าวเสริมว่า “มีใครใจเสาะหรือหวาดหวั่นบ้าง? ถ้ามีจงกลับบ้านไปก่อนที่จะทำให้คนอื่นเสียขวัญไปด้วย” 9 เมื่อแม่ทัพนายกองกล่าวจบแล้ว ก็จะประกาศรายชื่อผู้นำทัพ 10 เมื่อท่านประชิดเมืองใด ก่อนอื่นจงยื่นข้อเสนอให้เขายอมเจรจา 11 หากเมืองนั้นยอมรับข้อเสนอและเปิดประตูเมืองให้ ชาวเมืองทั้งหมดจะถูกเกณฑ์แรงงานเป็นคนรับใช้ของท่าน 12 หากเขาไม่ยอมเจรจาอย่างสันติและต่อสู้กับท่าน ท่านจงล้อมเมืองนั้น 13 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านมอบเมืองนั้นไว้ในมือของท่าน จงลงดาบฆ่าชายทุกคนในเมืองนั้น […]