คำพยากรณ์กล่าวโทษบาบิโลน 1 พระดำรัสเกี่ยวกับบาบิโลนมีดังนี้ว่า ผู้รุกรานมาจากถิ่นกันดาร จากดินแดนน่าสะพรึงกลัว เหมือนพายุพัดกระหน่ำดินแดนภาคใต้ 2 ข้าพเจ้าได้เห็นนิมิตอันน่ากลัว คือ ผู้ทรยศก่อการกบฏ โจรเข้าฉกชิง เอลามบุกโจมตี มีเดียเข้าล้อมเมือง เราจะยุติเสียงครวญครางทั้งปวงที่มันทำให้เกิดขึ้น 3 ถึงตอนนี้ กายของข้าพเจ้าบิดเร่าด้วยความเจ็บปวด ความรวดร้าวจู่โจมข้าพเจ้าเหมือนความเจ็บปวดของผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก ข้าพเจ้าโซซัดโซเซเพราะสิ่งที่ได้ยิน งงงันเพราะสิ่งที่ได้เห็น 4 หัวใจของข้าพเจ้าเต้นระทึก ตกใจกลัวจนตัวสั่น ยามสนธยาที่ข้าพเจ้าใฝ่หากลับกลายเป็นความสยดสยอง 5 พวกเขาตั้งโต๊ะ ยกพรมมาปู เขากินและดื่ม! นักรบทั้งหลาย ลุกขึ้นเถิด เอาน้ำมันทาโล่! 6 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงวางยามไว้คอยดูแล และให้เขารายงานสิ่งที่เห็น 7 เมื่อเขาเห็นรถรบ ฝูงม้า คนขี่ลา หรือคนขี่อูฐเคลื่อนเข้ามา ให้เขาตื่นตัว และเพ่งดู” 8 แล้วยามร้องบอกว่า “นายครับ ผมยืนเฝ้ายามที่หอคอยนี้ วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า 9 ดูเถิด มีคนหนึ่งนั่งรถรบมา และมีม้ามาเป็นฝูง เขาตอบกลับมาว่า ‘บาบิโลนล่มแล้ว! เทวรูปทั้งหมดของบาบิโลน […]
Category Archives: อิสยาห์
อิสยาห์ 22
คำพยากรณ์กล่าวโทษเกี่ยวกับเยรูซาเล็ม 1 พระดำรัสเกี่ยวกับหุบเขาแห่งนิมิตมีดังนี้ว่า เกิดอะไรขึ้นนี่ ทุกคนถึงได้วิ่งขึ้นบนหลังคา 2 โอ เมืองอันเต็มไปด้วยความอึกทึกครึกโครม นครแห่งการจลาจลและความสำมะเลเทเมา ผู้ตายไม่ได้ถูกฆ่าด้วยคมดาบ ทั้งไม่ได้ตายในสงคราม 3 พวกผู้นำของเจ้าหนีไปกันหมด พวกเขายอมจำนนโดยไม่ได้หยิบธนูขึ้นต่อสู้ ทุกคนที่ถูกจับได้ต้องกลายเป็นนักโทษ เป็นคนที่พ่ายหนีตั้งแต่ศัตรูยังอยู่แต่ไกล 4 ข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า “ปล่อยข้าพเจ้า ร้องไห้อยู่คนเดียวเถอะ อย่าพยายามปลอบข้าพเจ้าเลย ปล่อยให้ข้าพเจ้าหลั่งน้ำตาเพราะหายนะของพี่น้องร่วมชาติ” 5 องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์กำหนดวันหนึ่งไว้ เป็นวันชุลมุนวุ่นวาย ยุ่งเหยิง สยดสยอง ในหุบเขาแห่งนิมิต วันแห่งการทลายกำแพง และการป่าวร้องแก่ภูเขาทั้งหลาย 6 เอลามหยิบแล่งธนู มีพลรถรบและม้า คีร์ถือโล่มา 7 หุบเขาที่ดีที่สุดของท่านเต็มไปด้วยรถรบ และพลม้าประจำอยู่ที่ประตูเมือง 8 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำจัดเครื่องป้องกันของยูดาห์ออกไป ในวันนั้นท่านมองหาอาวุธ ในตำหนักพนาเลบานอน 9 ท่านเห็นแนวป้องกันของเมืองดาวิด มีช่องโหว่หลายแห่ง ท่านเก็บน้ำ ไว้ที่สระล่าง 10 ท่านนับอาคารบ้านเรือนในเยรูซาเล็ม และรื้อเรือนมาเสริมกำแพง 11 ท่านสร้างที่กักเก็บน้ำไว้ระหว่างกำแพงทั้งสอง เพื่อรับน้ำของบ่อเดิม แต่ท่านไม่ได้มุ่งมองพระองค์ผู้ทรงทำสิ่งนี้ ไม่ใส่ใจพระองค์ผู้ทรงดำริสิ่งนี้ไว้เมื่อนานมาแล้ว 12 […]
อิสยาห์ 23
คำพยากรณ์กล่าวโทษไทระ 1 พระดำรัสเกี่ยวกับเมืองไทระมีดังนี้ว่า จงร่ำไห้เถิด เหล่านาวาแห่งทารชิช! เพราะไทระล่มจมแล้ว ไม่เหลือบ้านเรือนและท่าเรืออีก มีข่าวจากดินแดนไซปรัส มาถึงพวกเขา 2 จงนิ่งเถิด ชาวเกาะ และพวกพ่อค้าแห่งไซดอน ผู้มั่งคั่งจากเรือเดินทะเล 3 เมล็ดข้าวจากชิโหร์ เดินทางข้ามมหาสมุทรมา ผลผลิตแห่งแม่น้ำไนล์เป็นรายได้ของไทระ ซึ่งกลายเป็นตลาดของประชาชาติ 4 จงอับอายเถิด ไซดอนเอ๋ย และเจ้าผู้เป็นที่มั่นแห่งท้องทะเล เพราะทะเลกล่าวว่า “เราไม่เคยเจ็บท้องและไม่เคยคลอด อีกทั้งไม่เคยเลี้ยงดูลูกชายลูกสาว” 5 เมื่ออียิปต์ได้ยินข่าวจากไทระ พวกเขาจะทุกข์โศกยิ่งนัก 6 จงข้ามไปทารชิชเถิด ชาวเกาะเอ๋ย จงร่ำไห้ 7 นี่หรือนครแห่งความสนุกสนานบันเทิง? นครเก่าแก่ ซึ่งเท้าพามันไป ตั้งรกรากยังแดนไกล 8 ใครหนอวางแผนเล่นงานไทระ ผู้ซึ่งให้มงกุฎ ผู้ซึ่งพ่อค้าได้เป็นเจ้านาย ผู้ซึ่งนายวาณิชเลื่องชื่อในโลก? 9 คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์นั่นเอง ทรงดำริไว้ที่จะทำให้ความภาคภูมิแห่งศักดิ์ศรีทั้งปวงตกต่ำลง และทำให้บรรดาผู้ที่มีชื่อเสียงของโลกเจียมเนื้อเจียมตัว 10 จงพรวนที่ดินของเจ้าเหมือนอย่างที่ดินริมแม่น้ำไนล์ ธิดาแห่งทารชิชเอ๋ย เพราะเจ้าไม่มีท่าเรืออีกแล้ว 11 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์ออกเหนือท้องทะเล ทรงเขย่าอาณาจักรทั้งหลาย พระองค์ทรงมีประกาศิต […]
อิสยาห์ 24
องค์พระผู้เป็นเจ้า 1 ดูเถิดองค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังจะทรงทิ้งโลกให้ร้าง และทำให้มันย่อยยับ พระองค์จะทรงทำลายพื้นผิวของโลก ทำให้ผู้อยู่อาศัยกระจัดกระจายไป 2 ทุกคนจะเหมือนกันหมด ไม่ว่าประชาชนหรือปุโรหิต ไม่ว่านายหรือบ่าว ไม่ว่านายหญิงหรือสาวใช้ ไม่ว่าผู้ซื้อหรือผู้ขาย ไม่ว่าเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ ไม่ว่าผู้ยืมหรือผู้ให้ยืม 3 โลกจะว่างเปล่า และยับเยินอย่างสิ้นเชิง องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสถ้อยคำเหล่านี้ 4 โลกก็เหือดแห้งและโรยรา พิภพก็ซบเซาและเหี่ยวเฉา ผู้สูงศักดิ์ของโลกก็อ่อนระโหย 5 โลกนี้สกปรกโสมมเพราะผู้คนที่อยู่ในโลก พวกเขาไม่เชื่อฟังบทบัญญัติ ละเมิดกฎเกณฑ์ และฝ่าฝืนพันธสัญญานิรันดร์ 6 ฉะนั้นคำสาปแช่งจึงล้างผลาญโลก ชาวพิภพต้องรับโทษความผิดของตน ฉะนั้นผู้อาศัยอยู่ในโลกจึงถูกเผาผลาญ และรอดชีวิตอยู่ไม่กี่คน 7 เหล้าองุ่นใหม่ก็เหือดแห้ง และเถาองุ่นก็เหี่ยวเฉา บรรดาผู้ให้ความบันเทิงได้แต่โอดครวญ 8 เสียงสนุกสนานร่าเริงของรำมะนาเงียบไป เสียงบันเทิงยุติลง เสียงพิณไพเราะก็เงียบไป 9 ไม่มีการจิบเหล้าเคล้าเสียงเพลงอีกแล้ว สุราก็ขมแก่ผู้ดื่ม 10 นครอันล่มจมก็เริศร้าง ทางเข้าบ้านทุกหลังถูกปิดไม่ให้ใครเข้า 11 ตามท้องถนน ผู้คนร้องหาเหล้าองุ่น ความยินดีกลายเป็นความหม่นหมอง ความรื่นเริงบันเทิงใจถูกกำจัดไปจากโลก 12 นครนั้นตกอยู่ในสภาพปรักหักพัง ประตูเมืองถูกทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย 13 […]
อิสยาห์ 25
สรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า 1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะยกย่องเทิดทูนพระองค์และสรรเสริญพระนามของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงทำการมหัศจรรย์ ตามที่ทรงดำริไว้นานมาแล้ว ด้วยความซื่อสัตย์อันบริบูรณ์ 2 พระองค์ทรงทำให้นครนั้นกลายเป็นซากปรักหักพัง เมืองป้อมปราการพังพินาศ ที่มั่นของชนต่างชาติล่มจมแล้ว ไม่อาจสร้างขึ้นมาใหม่ได้เลย 3 ดังนั้นชนชาติที่เข้มแข็งจะเทิดพระเกียรติพระองค์ ประชาชาติที่อำมหิตจะยำเกรงพระองค์ 4 พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของผู้ยากไร้ เป็นที่พักพิงสำหรับคนขัดสนซึ่งอยู่ในความทุกข์ เป็นป้อมกำบังจากพายุ เป็นร่มเงาหลบความร้อน เพราะลมหายใจเข้าออกของคนอำมหิต เหมือนพายุที่พัดกระหน่ำกำแพง 5 และเหมือนความร้อนระอุของถิ่นกันดาร พระองค์ทรงสยบการขู่คำรามของคนต่างชาติ เหมือนเงาเมฆบรรเทาความร้อนระอุ แล้วบทเพลงของคนอำมหิตก็เงียบลง 6 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะจัดเตรียมงานเลี้ยงใหญ่บนภูเขาแห่งนี้ สำหรับชนชาติทั้งปวง งานเลี้ยงซึ่งมีเหล้าองุ่น และเนื้อชั้นเยี่ยม 7 บนภูเขาแห่งนี้พระองค์จะทรงขจัดผ้าคลุมหน้า ซึ่งห่อหุ้มชนชาติทั้งปวง และขจัดม่านซึ่งคลุมมวลประชาชาติ 8 พระองค์จะทรงกลืนความตายไปชั่วนิรันดร์ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงซับหยาดน้ำตาจากทุกใบหน้า และจะทรงขจัดความอัปยศอดสูของประชากรของพระองค์ ออกไปจากแผ่นดินโลก องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น 9 ในวันนั้นพวกเขาจะกล่าวว่า “แน่นอน นี่คือพระเจ้าของเรา เราวางใจพระองค์ และพระองค์ทรงช่วยเรา นี่คือองค์พระผู้เป็นเจ้าเราวางใจในพระองค์ ให้เรามาชื่นชมยินดีและเปรมปรีดิ์ในความรอดที่พระองค์ประทานเถิด” 10 พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะวางลงบนภูเขาแห่งนี้ ส่วนโมอับจะถูกเหยียบย่ำ เหมือนฟางถูกเหยียบลงในหลุมมูลสัตว์ 11 […]
อิสยาห์ 26
บทเพลงสรรเสริญ 1 ในวันนั้นทั่วแดนยูดาห์จะร้องเพลงบทนี้ว่า เรามีเมืองแข็งแกร่งเมืองหนึ่ง พระเจ้าทรงทำให้ความรอด เป็นกำแพงและเชิงเทินของมัน 2 เปิดประตูเถิด เพื่อชนชาติที่ชอบธรรม ซึ่งรักษาความเชื่อไว้จะได้เข้ามา 3 จิตใจที่แน่วแน่นั้น พระองค์จะทรงปกป้องไว้ในสันติภาพอันสมบูรณ์ เพราะเขาไว้วางใจในพระองค์ 4 จงวางใจองค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดไป เพราะพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระศิลานิรันดร์ 5 พระองค์ทรงทำให้คนที่อยู่สูงตกต่ำลง ทรงดึงนครที่ยโสโอหังลงมา พระองค์ทรงปราบมันให้ราบคาบ และทรงเหวี่ยงมันลงมาคลุกฝุ่น 6 เท้าของผู้ยากไร้ และผู้ถูกข่มเหง ก็เหยียบย่ำมัน 7 หนทางของคนชอบธรรมราบเรียบ ข้าแต่องค์ผู้เที่ยงธรรม พระองค์ทรงทำให้วิถีของคนชอบธรรมราบรื่น 8 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ทั้งหลายรอคอยพระองค์ โดยดำเนินอยู่ในทางแห่งบทบัญญัติของพระองค์ พระนามและกิตติศัพท์ของพระองค์ เป็นความปรารถนาในใจของข้าพระองค์ทั้งหลาย 9 ยามค่ำคืนจิตวิญญาณของข้าพระองค์โหยหาพระองค์ ยามเช้าจิตวิญญาณของข้าพระองค์ใฝ่หาพระองค์ เมื่อคำพิพากษาของพระองค์มายังโลก ชาวโลกจึงได้เรียนรู้ความชอบธรรม 10 แม้ทรงแสดงพระคุณแก่คนชั่วร้าย พวกเขาก็ไม่ได้เรียนรู้ความชอบธรรม แม้ในดินแดนแห่งความเที่ยงธรรม พวกเขาก็ยังคงทำชั่วต่อไป และไม่คำนึงถึงพระบารมีขององค์พระผู้เป็นเจ้า 11 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงเงื้อพระหัตถ์ของพระองค์ขึ้นสูง แต่พวกเขาไม่เห็น ขอทรงให้พวกเขาเห็นพระทัยอันกระตือรือร้นที่ทรงมีต่อประชากรของพระองค์ แล้วเขาจะได้ละอายอดสู ขอให้ไฟที่ทรงสงวนไว้สำหรับเหล่าศัตรูเผาผลาญพวกเขา 12 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดประทานสันติสุขแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย สิ่งสารพัดที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำสำเร็จ […]
อิสยาห์ 27
การกอบกู้อิสราเอล 1 ในวันนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงใช้พระแสงดาบ อันยิ่งใหญ่และทรงอานุภาพลงโทษเลวีอาธาน เจ้าพญานาคที่เลื้อยปราดอย่างรวดเร็ว เจ้างูใหญ่ที่ขดตัวอยู่ พระองค์จะทรงสังหารเจ้าสัตว์ร้ายมหึมาแห่งท้องทะเล 2 ในวันนั้น “จงร้องเพลงเกี่ยวกับสวนองุ่นที่มีผลดกดังนี้ว่า 3 เราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าดูแลสวนนั้น เรารดน้ำให้ตลอดเวลา เฝ้าดูทั้งวันทั้งคืน ไม่ยอมให้ใครมาทำอันตราย 4 เราไม่โกรธ แต่ถ้ามีหนามใหญ่น้อยออกมาให้เห็น! เราจะไปรบรากับมัน และเผามันทิ้ง 5 หรือไม่ก็ให้มันมาพักพิงเรา ให้มาเจรจาสันติภาพกับเรา ให้มาเจรจาสันติภาพกับเรา” 6 ในภายภาคหน้ายาโคบจะหยั่งราก อิสราเอลจะผลิตาและผลิดอกบาน และออกผลทั่วโลก 7 พระองค์ทรงลงโทษอิสราเอล เหมือนที่ทรงลงโทษศัตรูของเขาหรือ? อิสราเอลถูกฆ่า เหมือนคนที่ฆ่าอิสราเอลถูกฆ่าหรือ? 8 พระองค์ทรงลงโทษอิสราเอลด้วยสงครามและการเนรเทศ ทรงขับไล่เขาออกไปด้วยความเกรี้ยวกราด เหมือนวันที่ลมตะวันออกพัด 9 โดยการนี้ ความผิดของยาโคบจะได้รับการลบล้างไป และนี่จะเป็นการกำจัดบาปของเขาอย่างสิ้นเชิง พระองค์ทรงทำให้หินแท่นบูชา เป็นเหมือนหินชอล์กที่ถูกบดละเอียด ไม่มีเสาเจ้าแม่อาเชราห์หรือแท่นเครื่องหอม เหลืออยู่อีกเลย 10 เมืองป้อมปราการก็ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว ถูกทิ้งร้างว่างเปล่าเหมือนถิ่นกันดาร วัวกินหญ้าอยู่ที่นั่น มันเอนตัวลง เคี้ยวกิ่งไม้จนโล่งเตียน 11 เมื่อง่ามไม้แห้ง มันก็หัก […]
อิสยาห์ 28
วิบัติแก่เอฟราอิม 1 วิบัติแก่มงกุฎดอกไม้แห่งเกียรติยศของเหล่าคนขี้เมาแห่งเอฟราอิม วิบัติแก่ดอกไม้อันร่วงโรย แก่ความงามอันเชิดหน้าชูตาของเอฟราอิม ซึ่งประดับอยู่บนหัวของหุบเขาอันอุดมสมบูรณ์ วิบัติแก่นครแห่งนั้น เกียรติยศของพวกเขาตกต่ำลงเพราะเหล้าองุ่น! 2 ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีผู้หนึ่งซึ่งมีอำนาจและเข้มแข็ง เหมือนพายุลูกเห็บและพายุล้างผลาญ เหมือนฝนกระหน่ำ เหมือนน้ำทะลักท่วม พระองค์จะทรงเหวี่ยงพวกเขาลงกับพื้นอย่างแรง 3 มงกุฎดอกไม้แห่งเกียรติยศของเหล่าคนขี้เมาแห่งเอฟราอิมนั้น จะถูกเหยียบย่ำใต้ฝ่าเท้า 4 ดอกไม้อันร่วงโรย ความงามอันเชิดหน้าชูตาของเอฟราอิม ซึ่งประดับอยู่บนหัวของหุบเขาอันอุดมสมบูรณ์ จะเป็นเหมือนมะเดื่อสุกก่อนหน้าฤดูเก็บเกี่ยว เมื่อใครเห็นเข้าก็คว้า และกลืนกินเข้าไป 5 ในวันนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ จะเป็นมงกุฎอันทรงสง่าราศี เป็นมงกุฎดอกไม้ที่งดงาม สำหรับชนหยิบมือที่เหลืออยู่ของพระองค์ 6 พระองค์จะทรงเป็นวิญญาณแห่งความยุติธรรม แก่ผู้ให้คำตัดสิน ทรงเป็นขุมพลัง แก่ผู้พลิกผันสงครามที่ประตูเมือง 7 คนเหล่านี้ซึ่งโซซัดโซเซเพราะเหล้าองุ่น และหมุนเคว้งเพราะเมรัย คือปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะ ซึ่งโซซัดโซเซเพราะเหล้า มึนเมาเพราะเมรัย ตุปัดตุเป๋เมื่อเห็นนิมิต ล้มคะมำเมื่อให้คำตัดสิน 8 โต๊ะทุกตัวเต็มไปด้วยอาเจียน ไม่มีจุดไหนที่ไม่โสโครก 9 “ใครกันหนอที่เขาพยายามสอน? เขากำลังอธิบายเนื้อความของเขาให้ใครฟังกันนี่? ให้เด็กอมมือที่เพิ่งหย่านมหรือ? ให้ทารกที่เพิ่งพ้นอกแม่หรือ? 10 เพราะมันเป็นอย่างนี้คือ ทำนี่ ทำนั่น […]
อิสยาห์ 29
วิบัติแก่เมืองดาวิด 1 วิบัติแก่เจ้า อารีเอลเอ๋ย อารีเอล นครซึ่งดาวิดตั้งขึ้น! ปีแล้วปีเล่า ให้วัฏจักรแห่งเทศกาลของเจ้าวนเวียนไป 2 ถึงกระนั้นเราจะล้อมเมืองอารีเอล เมืองนั้นจะทุกข์โศกและคร่ำครวญ จะเป็นเหมือนเตาไฟแท่นบูชาสำหรับเรา 3 เราจะตั้งค่ายโอบล้อมสู้กับเจ้า เราจะสร้างหอรบล้อมรอบเจ้า และก่อเชิงเทินขึ้นสู้กับเจ้า 4 เมื่อตกต่ำลงแล้ว เจ้าจะพูดขึ้นจากพื้นดิน คำพูดของเจ้าจะดังแผ่วขึ้นมาจากธุลี เสียงของเจ้าเหมือนเสียงผีดังขึ้นมาจากพื้นโลก เสียงพูดของเจ้าจะกระซิบกระซาบขึ้นมาจากฝุ่นธุลี 5 แต่ศัตรูมากมายของเจ้าจะกลายเป็นเหมือนฝุ่นละเอียด กลุ่มคนอำมหิตจะเป็นเหมือนแกลบปลิวฟุ้งไปกับลม ในทันทีทันใด ในพริบตาเดียว 6 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะเสด็จมา ด้วยฟ้าคำรน แผ่นดินไหว และเสียงกัมปนาท เสด็จมาด้วยลมกล้า พายุหมุน และเปลวไฟเผาผลาญ 7 แล้วประชาชาติทั้งปวงที่รวมตัวกันมาสู้อารีเอล มาโจมตีอารีเอลกับป้อมของมันและล้อมมันไว้ จะเป็นเหมือนฝัน เหมือนนิมิตยามค่ำคืน 8 เหมือนคนหิวโหยฝันว่าได้กิน แต่เมื่อตื่นขึ้นก็ยังหิวอยู่ เหมือนคนกระหายน้ำฝันว่าได้ดื่ม แต่พอตื่นก็ยังหมดแรง คอแห้งผากและยังไม่สิ้นความกระหาย ประชาชาติทั้งปวงที่รวมตัวกันมาต่อสู้ภูเขาศิโยน ก็จะเป็นเช่นนี้ 9 จงงงงันและประหลาดใจ ทำเป็นตาบอดมองอะไรไม่เห็น จงเมามายแต่ไม่ใช่เพราะเหล้า โซซัดโซเซแต่ไม่ใช่เพราะเมรัย 10 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำการหลับใหลมาเหนือเจ้า […]
อิสยาห์ 30
วิบัติแก่ชนชาติที่ดื้อรั้น 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “วิบัติแก่ลูกหลานที่ดื้อรั้น แก่ผู้ซึ่งทำตามแผนการที่ไม่ได้มาจากเรา ทำสัญญาไมตรีโดยไม่ได้อาศัยวิญญาณของเรา ทำบาปซ้อนบาป 2 ผู้ลงไปยังอียิปต์ โดยไม่ปรึกษาเรา ผู้มุ่งขอการอารักขาจากฟาโรห์ ขอลี้ภัยใต้ร่มเงาของอียิปต์ 3 แต่การอารักขาของฟาโรห์จะกลับเป็นความอัปยศอดสูแก่เจ้า ร่มเงาของอียิปต์จะทำให้เจ้าอับอายขายหน้า 4 ถึงแม้พวกเขาจะมีกองทหารอยู่ในโศอัน และบรรดาทูตของเขาได้ไปถึงฮาเนส 5 ทุกคนก็จะต้องอับอายขายหน้า เพราะชนชาติซึ่งไม่มีประโยชน์แก่พวกเขา ผู้ไม่ให้ความช่วยเหลือหรือประโยชน์อันใด ให้แต่ความอับอายและความอัปยศอดสู” 6 พระดำรัสเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ แห่งเนเกบมีดังนี้ คณะทูตขนทรัพย์สมบัติมาบนหลังลาและบนโหนกอูฐ เดินทางผ่านดินแดนอันยากลำบากและทุกข์ลำเค็ญ แดนแห่งราชสีห์และนางสิงห์ แดนแห่งงูกะปะและงูแมวเซา เพื่อไปยังชนชาติที่ช่วยเหลืออะไรไม่ได้ 7 ไปยังอียิปต์ ซึ่งความช่วยเหลือของเขาเปล่าประโยชน์อย่างแท้จริง เราจึงเรียกอียิปต์ว่า “ราหับผู้ไร้พิษสง” 8 บัดนี้จงไปเขียนไว้บนแผ่นจารึกสำหรับพวกเขา เขียนลงบนหนังสือม้วน เพื่อวันข้างหน้า จะได้เป็นพยานหลักฐานที่ยืนยงตลอดไป 9 คนเหล่านี้เป็นประชากรผู้ทรยศ เป็นลูกหลานที่ชอบหลอกลวง ลูกหลานซึ่งไม่เต็มใจรับฟังคำสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า 10 พวกเขาบอกผู้ทำนายว่า “อย่าเห็นนิมิตต่างๆ อีกต่อไป!” และบอกผู้เผยพระวจนะว่า “อย่าแจ้งนิมิตถึงสิ่งที่ถูกต้องอีกเลย! ขอให้บอกแต่เรื่องที่น่าฟัง เผยพระวจนะเป็นภาพฝันมายาต่างๆ เถิด 11 […]