1 นิมิตเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็มซึ่งอิสยาห์บุตรอาโมศเห็นในช่วงรัชกาลของอุสซียาห์ โยธาม อาหัส และเฮเซคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์ เป็นดังนี้ ชนชาติจอมกบฏ 2 ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงฟัง! แผ่นดินโลกเอ๋ย! จงฟังเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราเลี้ยงลูกๆ มาจนเติบใหญ่ แต่พวกเขากลับกบฏต่อเรา 3 วัวยังรู้จักนาย ลารู้จักเจ้าของรางหญ้า แต่อิสราเอลไม่รู้จัก ประชากรของเราไม่เข้าใจ” 4 โอ ชนชาติบาปหนา ประชากรผู้แบกความผิดไว้อย่างมากมายหนักหนา เผ่าพันธุ์ผู้กระทำชั่ว ลูกหลานของความเสื่อมทราม! พวกเขาได้ละทิ้งองค์พระผู้เป็นเจ้า หมิ่นประมาทองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล และหันหลังให้พระองค์ 5 ทำไมต้องให้โบยอยู่ร่ำไป? ทำไมจึงกบฏซ้ำแล้วซ้ำเล่า? ศีรษะของเจ้าก็ร้าวระบม หัวใจก็ร้าวราน 6 ตั้งแต่ศีรษะจดเท้า ไม่มีส่วนใดปกติ ล้วนมีแต่แผลถลอก แผลขึ้นแนว และรอยแผลอักเสบ ไม่ได้ล้างแผล ทายา หรือพันแผลไว้เลย 7 ดินแดนของเจ้าก็ร้างเปล่า เมืองต่างๆ ถูกเผาผลาญ ท้องทุ่งเหี้ยนเตียนด้วยน้ำมือของคนต่างชาติ เริศร้างต่อหน้าต่อตาเจ้า เหมือนเมื่อถูกคนแปลกหน้าล้มล้าง 8 ธิดาแห่งศิโยนถูกทิ้งร้าง เหมือนเพิงในสวนองุ่น […]
Category Archives: อิสยาห์
อิสยาห์ 2
ภูเขาขององค์พระผู้เป็นเจ้า 1 นี่คือสิ่งที่อิสยาห์บุตรอาโมศเห็นเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็ม 2 ในบั้นปลาย ภูเขาที่พระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าตั้งอยู่ จะได้รับการสถาปนาให้เป็นเอกในหมู่ภูเขาทั้งหลาย จะได้รับการเชิดชูเหนือบรรดาเนินเขา และมวลประชาชาติจะหลั่งไหลไปที่นั่น 3 ชนชาติต่างๆ จะมาและกล่าวว่า “มาเถิด ให้เราขึ้นไปบนภูเขาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ไปยังพระนิเวศของพระเจ้าของยาโคบ พระองค์จะทรงสอนพระมรรคาของพระองค์แก่เรา เพื่อเราจะดำเนินในวิถีทางของพระองค์” บทบัญญัติจะออกมาจากศิโยน พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะออกมาจากเยรูซาเล็ม 4 พระองค์จะทรงตัดสินความระหว่างประชาชาติทั้งหลาย และยุติกรณีพิพาทให้ชนชาติทั้งหลาย พวกเขาจะตีดาบให้เป็นผาลไถนา และตีหอกให้เป็นขอลิด ประชาชาติจะเลิกรบราฆ่าฟันกัน ทั้งจะไม่มีการฝึกรบอีกต่อไป 5 มาเถิดวงศ์วานของยาโคบเอ๋ย ให้เราเดินในแสงสว่างขององค์พระผู้เป็นเจ้ากันเถิด วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า 6 พระองค์ได้ทรงทอดทิ้งพงศ์พันธุ์ยาโคบ ซึ่งเป็นประชากรของพระองค์ พวกเขาเล่นไสยศาสตร์จากตะวันออก มีหมอดู คนทรงเหมือนชาวฟีลิสเตีย และสนิทสนมกับผู้ที่ไม่นับถือพระเจ้า 7 ดินแดนของเขามีเงินและทองเต็มไปหมด มีทรัพย์สมบัตินับไม่ถ้วน ดินแดนของเขามีม้าเต็มไปหมด มีรถม้าศึกนับไม่ถ้วน 8 ดินแดนของเขามีรูปเคารพเต็มไปหมด เขาหมอบกราบสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้น สิ่งที่ทำขึ้นด้วยน้ำมือของตน 9 ดังนั้นมนุษย์จะถูกทำให้ตกต่ำลง มนุษยชาติถูกทำให้ต่ำต้อย อย่าอภัยให้เขาเลย 10 จงคลานเข้าไปในซอกหิน และมุดลงไปในดิน ให้พ้นจากความน่าสะพรึงกลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้า และจากความรุ่งโรจน์แห่งพระบารมีของพระองค์ […]
อิสยาห์ 3
การพิพากษาเหนือเยรูซาเล็มและยูดาห์ 1 ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ กำลังจะตัดแหล่งน้ำ แหล่งเสบียง ตัดขุมกำลังของเยรูซาเล็มและยูดาห์ 2 จะตัดวีรบุรุษและนักรบ ตุลาการและผู้เผยพระวจนะ ผู้ทำนายและผู้อาวุโส 3 นายทหารและขุนนาง ที่ปรึกษา ช่างฝีมือ และผู้วิเศษ 4 เราจะตั้งเด็กๆ เป็นเจ้านาย ให้เด็กอมมือเป็นผู้ปกครองพวกเขา 5 ประชาชนจะข่มเหงกันเอง คนจะต่อสู้กัน เพื่อนบ้านต่อสู้เพื่อนบ้าน เยาวชนจะลุกฮือขึ้นสู้ผู้อาวุโส คนถ่อยจะต่อสู้ผู้ทรงเกียรติ 6 คนหนึ่งจะจับตัวพี่น้องของเขา ที่บ้านบิดาของตนและกล่าวว่า “ท่านมีเสื้อคลุม ขอท่านมาเป็นผู้นำของเรา มาดูแลกองปรักหักพังนี้!” 7 แต่ในวันนั้นคนนั้นจะร้องว่า “ข้าพเจ้าช่วยอะไรไม่ได้ ในบ้านของข้าพเจ้าไม่มีอาหารหรือเสื้อผ้า อย่าให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำประชาชนเลย” 8 เยรูซาเล็มโซซัดโซเซ ยูดาห์ล้มลง วาจาและความประพฤติของเขาต่อต้านองค์พระผู้เป็นเจ้า ลบหลู่ดูหมิ่นต่อพระพักตร์อันทรงเกียรติสิริของพระองค์ 9 สีหน้าของเขาฟ้องตัวเอง พวกเขาอวดบาปของตนเหมือนโสโดม ไม่ยับยั้งปิดบัง วิบัติแก่เขา! เขานำภัยพิบัติมาสู่ตนเอง 10 จงบอกคนชอบธรรมว่าเขาจะอยู่เย็นเป็นสุข เพราะเขาจะได้ชื่นชมกับผลจากการกระทำของตน 11 วิบัติแก่คนชั่วร้าย! หายนะตกแก่เขา! […]
อิสยาห์ 4
1 ในวันนั้นหญิงเจ็ดคนจะยื้อยุดชายคนเดียว และกล่าวว่า “เราจะหาอาหารกินเอง และจัดหาเสื้อผ้าสำหรับตัวเราเอง ขอเพียงแต่ให้เราใช้นามสกุลของท่าน ช่วยลบล้างความอัปยศให้เราด้วยเถิด!” กิ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้า 2 ในวันนั้นกิ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะงดงามและเปี่ยมด้วยราศี ผลแห่งดินแดนนั้นจะเป็นเกียรติสิริและความภาคภูมิใจของชาวอิสราเอลที่เหลือ 3 เขาจะเรียกบรรดาคนที่เหลืออยู่ในศิโยน คืออยู่ในเยรูซาเล็มว่า วิสุทธิชน คือทุกคนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนพลเมืองเยรูซาเล็ม 4 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงชำระล้างมลทินของพวกผู้หญิงศิโยน จะทรงชำระคราบโลหิตจากเยรูซาเล็มโดยวิญญาณแห่งไฟและการพิพากษา 5 จากนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงสร้างกลุ่มเมฆควันในยามกลางวัน และเปลวไฟลุกโชติช่วงในยามกลางคืนเหนือภูเขาศิโยนและเหนือบรรดาผู้ที่ชุมนุมกันอยู่ที่นั่น เหนือสิ่งทั้งหมดเหล่านั้นคือพระเกียรติสิริของพระเจ้าจะเป็นเพดานฟ้า 6 เป็นร่มเงากำบังความร้อนระอุในยามกลางวันและเป็นที่ปกป้องและที่พักพิงจากพายุและฝน —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/4-731b02a354561ffc46a00b8bff45fb7e.mp3?version_id=179—
อิสยาห์ 5
บทเพลงสวนองุ่น 1 ข้าพเจ้าจะขับร้องบทเพลงแด่ผู้ที่เป็นที่รักของ ข้าพเจ้า เกี่ยวกับสวนองุ่นของเขา ที่รักของข้าพเจ้ามีสวนองุ่นแปลงหนึ่งบนไหล่ เขาอันอุดมสมบูรณ์ 2 เขาไถที่และกำจัดกรวดหิน และปลูกองุ่นพันธุ์เยี่ยม เขาสร้างหอยาม และสกัดบ่อย่ำองุ่นไว้ด้วย จากนั้นเขารอเก็บผลองุ่นชั้นดี แต่กลับได้องุ่นเปรี้ยว 3 “โอ ชาวเยรูซาเล็มและชาวยูดาห์ จงตัดสินความระหว่างเรากับสวนองุ่นของเรา 4 เราจะทำอะไรได้อีก เพื่อสวนองุ่นของเรา? เราหวังผลองุ่นที่ดี แต่ทำไมกลับได้แต่องุ่นเปรี้ยว? 5 เราจะบอกให้ว่าเราจะทำอะไรกับสวนองุ่นนั้น เราจะรื้อรั้วลงและปล่อยให้สวนนั้นถูกทำลาย เราจะทลายกำแพงลง และมันจะถูกเหยียบย่ำ 6 เราจะทิ้งให้เริศร้าง ไม่ลิดกิ่งหรือพรวนดินให้ ปล่อยให้หนามขึ้นรกไปหมด เราจะสั่งเมฆไม่ให้ส่งฝน มารดมันอีกต่อไป” 7 สวนองุ่นของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์คือวงศ์วานอิสราเอล ชนยูดาห์คือสวนที่ทรงปีติยินดี พระองค์ทรงหวังให้พวกเขาออกผลเป็นความยุติธรรม แต่กลับเห็นการนองเลือด ทรงคาดหวังความชอบธรรม แต่กลับได้ยินเสียงโหยไห้ร้องทุกข์ วิบัติและโทษทัณฑ์ 8 วิบัติแก่เจ้าผู้ซื้อที่ดิน จนผู้อื่นไม่มีที่อาศัย บ้านของเจ้าสร้างบนที่ดินผืนใหญ่ จนเจ้าสามารถอยู่ตามลำพังในดินแดนนั้น 9 ข้าพเจ้าได้ยินพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “บ้านใหญ่ๆ จะเริศร้างอย่างแน่นอน คฤหาสน์งดงามก็จะไร้ผู้อยู่อาศัย 10 สวนองุ่นสิบๆ แอกจะผลิตเหล้าองุ่นได้เพียงบัทเดียว […]
อิสยาห์ 6
พระเจ้าทรงมอบหมายหน้าที่ให้อิสยาห์ 1 ในปีที่กษัตริย์อุสซียาห์สิ้นพระชนม์ ข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าประทับบนบัลลังก์อันสูงส่งและเป็นที่เทิดทูน ชายฉลองพระองค์ปกคลุมทั่วพระวิหาร 2 เหนือพระองค์มีเสราฟิม แต่ละตนมีหกปีก สองปีกปกหน้า สองปีกปกเท้าและอีกสองปีกบินไปมา 3 ต่างร้องขานรับต่อๆ กันว่า “บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ทั่วโลกเต็มไปด้วยพระเกียรติสิริของพระองค์” 4 เสียงทูตสวรรค์เหล่านี้ทำให้เสาประตูและธรณีประตูสั่นสะเทือน มีควันปกคลุมทั่วพระวิหาร 5 ข้าพเจ้าจึงร้องว่า “วิบัติแก่ข้าพเจ้า! ข้าพเจ้าพินาศแล้ว! เพราะข้าพเจ้าเป็นคนที่ริมฝีปากไม่สะอาด และใช้ชีวิตในหมู่ชนชาติที่มีริมฝีปากไม่สะอาด และตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์กษัตริย์คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์” 6 แล้วเสราฟิมตนหนึ่งบินมาหาข้าพเจ้า มีถ่านลุกโชนซึ่งใช้คีมคีบมาจากแท่นบูชาอยู่ในมือ 7 ทูตสวรรค์นั้นใช้ถ่านแตะริมฝีปากข้าพเจ้า และกล่าวว่า “ดูเถิด ถ่านนี้แตะริมฝีปากของเจ้าแล้ว ความผิดของเจ้าถูกลบไป และบาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว” 8 แล้วข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราจะส่งผู้ใดไป? และใครจะไปเพื่อเรา?” ข้าพเจ้ากราบทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่ ขอทรงส่งข้าพระองค์ไปเถิด!” 9 พระองค์ตรัสว่า “จงไปบอกชนชาตินี้ว่า “‘จงฟังแล้วฟังเล่าแต่จะไม่มีวันเข้าใจ ดูแล้วดูเล่าแต่จะไม่มีวันเห็น’ 10 จงทำให้จิตใจของชนชาตินี้ดื้อด้านไป ทำให้หูของพวกเขาตึง และปิดตาของพวกเขาเสีย มิฉะนั้นแล้วพวกเขาจะได้เห็นกับตา […]
อิสยาห์ 7
หมายสำคัญของอิมมานูเอล 1 ในรัชกาลกษัตริย์อาหัสแห่งยูดาห์ โอรสของโยธามซึ่งเป็นโอรสของอุสซียาห์ กษัตริย์เรซีนแห่งอารัม และกษัตริย์เปคาห์แห่งอิสราเอล โอรสของเรมาลิยาห์ กรีธาทัพมาโจมตีเยรูซาเล็ม แต่ยึดเมืองไม่ได้ 2 เมื่อข่าวมาถึงราชวงศ์ของดาวิดว่า “อารัมร่วมเป็นพันธมิตรกับเอฟราอิม” ทั้งจิตใจของอาหัสและราษฎรก็หวาดหวั่นเหมือนต้นไม้ในป่าสั่นสะท้านกลางพายุ 3 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับอิสยาห์ว่า “เจ้ากับเชอารยาชูบบุตรของเจ้า จงออกไปพบอาหัสที่ปลายท่อน้ำของอ่างเก็บน้ำด้านบน ในทางที่จะไปลานซักฟอก 4 จงกล่าวกับเขาว่า ‘ให้ระวัง นิ่งสงบ อย่ากลัวเลย อย่าเสียขวัญเพราะดุ้นฟืนที่กำลังจะมอดทั้งสองนี้ คือความเกรี้ยวกราดของกษัตริย์เรซีนแห่งอารัมและของบุตรเรมาลิยาห์ 5 อารัม เอฟราอิม และบุตรของเรมาลิยาห์คบคิดกันทำลายล้างเจ้า และพูดกันว่า 6 “ให้เราบุกยูดาห์ ยึดดินแดนมาแบ่งกัน และตั้งบุตรของทาเบเอลขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองที่นี่” 7 แต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสว่า “‘จะไม่เป็นไปเช่นนั้น จะไม่เกิดขึ้น 8 เพราะหัวของอารัมคือดามัสกัส และหัวของดามัสกัสคือเรซีนเท่านั้น เอฟราอิมก็เช่นกัน ภายในหกสิบห้าปี จะถูกบดขยี้ไม่เหลือเป็นชนชาติ 9 หัวของเอฟราอิมคือสะมาเรีย และหัวของสะมาเรียก็เป็นแค่บุตรของเรมาลิยาห์ หากเจ้าไม่ตั้งมั่นในความเชื่อ เจ้าก็ไม่อาจยืนอยู่ได้เลย’ ” 10 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับอาหัสอีกครั้งว่า 11 “จงขอหมายสำคัญจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ไม่ว่าจะในที่ลึกที่สุดหรือในที่สูงที่สุดก็ได้” 12 […]
อิสยาห์ 8
อัสซีเรียเป็นเครื่องมือขององค์พระผู้เป็นเจ้า 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงเอาหนังสือม้วนแผ่นใหญ่มาและใช้ปากกาเขียนลงไปว่า ‘มาเฮอร์ชาลาลหัชบัส’ 2 และเราจะเรียกปุโรหิตอุรียาห์กับเศคาริยาห์บุตรเยเบเรคิยาห์ให้เป็นพยานที่เชื่อถือได้ของเรา” 3 แล้วข้าพเจ้าก็เข้าหาผู้เผยพระวจนะหญิง นางจึงตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงตั้งชื่อเขาว่ามาเฮอร์ชาลาลหัชบัส 4 ก่อนที่เด็กคนนั้นจะรู้จักเรียก ‘พ่อ’ หรือ ‘แม่’ กษัตริย์อัสซีเรียจะริบทรัพย์สมบัติของดามัสกัสและสะมาเรียไป” 5 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าอีกว่า 6 “เนื่องจากชนชาตินี้ได้ปฏิเสธ น้ำแห่งชิโลอาห์ซึ่งไหลเอื่อยๆ ไปชื่นชมเรซีน และบุตรของเรมาลิยาห์ 7 ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะใช้กระแสน้ำอันหลากเชี่ยวของยูเฟรติส มาท่วมมิดพวกเขา คือกษัตริย์อัสซีเรียกับกองทัพมหึมา กระแสน้ำนั้นจะท่วมมิดทุกช่องทาง และล้นทุกตลิ่ง 8 และกวาดเข้ามาในยูดาห์ ไหลวนเหนือดินแดนนั้น ไหลหลากท่วมถึงคอ โอ อิมมานูเอลเอ๋ย! ท่วมมิดยูดาห์จนสุดเขตแดน” 9 ประชาชาติทั้งหลายเอ๋ย โห่ร้องออกศึกไปเถิด และจงถูกบดขยี้! ดินแดนไกลโพ้นทั้งปวง จงฟัง เตรียมทำศึกเถิด และจงถูกบดขยี้! เตรียมทำศึกเถิด และจงถูกบดขยี้! 10 วางแผนกลยุทธ์ไปเถิด แต่มันจะกลับตาลปัตร ดำเนินตามแผนเถิด แต่จะไปไม่รอด เพราะพระเจ้าทรงอยู่กับเรา จงยำเกรงพระเจ้า 11 […]
อิสยาห์ 9
เด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา 1 อย่างไรก็ตามผู้ทุกข์ลำเค็ญจะไม่เศร้าหมองอีกต่อไป ในอดีตพระเจ้าทรงทำให้ดินแดนเศบูลุนและนัฟทาลีต่ำลง แต่ในอนาคตพระองค์จะทรงเชิดชูกาลิลีที่ชาวต่างชาติอาศัยอยู่ ซึ่งรวมทั้งเมืองริมทะเลเลียบแม่น้ำจอร์แดน 2 ประชากรผู้เดินอยู่ในความมืด ได้เห็นแสงสว่างอันยิ่งใหญ่ บรรดาผู้อาศัยในดินแดนแห่งเงาของความตาย แสงสว่างเริ่มสาดต้องพวกเขาแล้ว 3 พระเจ้าทรงขยายชนชาตินั้น และเพิ่มพูนความปีติยินดีของพวกเขา พวกเขาชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์ เหมือนคนเริงรื่นชื่นบานยามเก็บเกี่ยว หรือยามแบ่งสมบัติที่ริบได้จากเชลย 4 เหมือนอย่างวันแห่งชัยชนะเหนือมีเดียน พระองค์จะทรงทำลาย แอกที่เป็นภาระของประชากรของพระองค์ คานที่พวกเขาต้องแบกหาม และไม้ตะบองของผู้ที่กดขี่ข่มเหงเขา 5 รองเท้าทุกคู่ของนักรบซึ่งใช้ในสงคราม และเสื้อผ้าทั้งหมดของพวกเขาที่โชกเลือด จะถูกเผาไฟ และใช้เป็นเชื้อเพลิง 6 ด้วยว่ามีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งที่ประทานแก่เรา และการปกครองจะอยู่บนบ่าของเขา และเขาจะได้รับการขนานนามว่า “ที่ปรึกษามหัศจรรย์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช” 7 การปกครองอย่างสันติของบุคคลนั้น จะรุ่งเรืองขึ้นไม่สิ้นสุด พระองค์จะทรงครอบครองเหนือบัลลังก์ และอาณาจักรของดาวิด ทรงสถาปนาและผดุงอาณาจักรนั้นไว้ ด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม ตั้งแต่เวลานั้นตราบนิรันดร์ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ทรงกระตือรือร้น ที่จะกระทำการนี้ให้สำเร็จ องค์พระผู้เป็นเจ้า 8 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีพระดำรัสเป็นคำพิพากษาเกี่ยวกับอิสราเอล พงศ์พันธุ์ของยาโคบว่า 9 ประชากรทั้งปวงจะรู้ถึงคำพิพากษา คือเอฟราอิมและชาวสะมาเรียทั้งหลาย ซึ่งกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง และด้วยใจอหังการว่า […]
อิสยาห์ 10
1 วิบัติแก่บรรดาผู้ออกบทบัญญัติอันไม่เป็นธรรม วิบัติแก่ผู้ที่ออกกฎหมายกดขี่ข่มเหง 2 เพื่อริดรอนสิทธิของผู้ยากไร้ และไม่ให้ความยุติธรรมแก่ประชากรผู้ถูกข่มเหงของเรา ทำให้หญิงม่ายตกเป็นเหยื่อของพวกเขา และลูกกำพร้าพ่อถูกปล้น 3 พวกเจ้าจะทำอย่างไรในวันลงทัณฑ์ เมื่อภัยพิบัติมาจากแดนไกล? เจ้าจะหนีไปพึ่งใคร? เจ้าจะเอาทรัพย์สมบัติไปเก็บไว้ที่ไหน? 4 จะไม่มีอะไรเหลือ นอกจากต้องไปคุดคู้อยู่ในหมู่เชลย หรือไม่ก็ล้มลงในหมู่คนที่ถูกฆ่าตาย ถึงขนาดนี้แล้วพระพิโรธของพระเจ้าก็ยังไม่หันเห พระองค์ยังคงเงื้อพระหัตถ์ค้างอยู่ พระเจ้าพิพากษาอัสซีเรีย 5 “วิบัติแก่ชาวอัสซีเรีย ผู้เป็นไม้เรียวแห่งความโกรธของเรา ผู้ถือกระบองแห่งความกริ้วของเรา! 6 เราส่งอัสซีเรียไปปราบชนชาติอธรรม ไปเล่นงานชนชาติที่ยั่วโทสะเรา ให้ไปปล้นและริบทรัพย์สิน และเหยียบย่ำเขาดั่งย่ำโคลนในถนน 7 แต่เขาไม่ได้ตั้งใจเช่นนั้น ไม่ได้คิดตามนั้น เป้าหมายของเขาคือล้างผลาญ ทำลายชนชาติต่างๆ ให้ดับสูญ 8 เขากล่าวว่า ‘แม่ทัพของเราล้วนแต่เป็นกษัตริย์ไม่ใช่หรือ? 9 คาลโนไม่ได้เหมือนคารเคมิชหรอกหรือ? ฮามัทก็เหมือนอารปัดไม่ใช่หรือ? และสะมาเรียก็เหมือนดามัสกัสไม่ใช่หรือ? 10 เช่นเดียวกับที่เรายึดบรรดาอาณาจักรที่เต็มไปด้วยรูปเคารพ อาณาจักรซึ่งมีรูปเคารพมากกว่าของเยรูซาเล็มและสะมาเรีย 11 เราจะไม่จัดการกับเยรูซาเล็มและรูปเคารพต่างๆ เหมือนที่เราทำกับสะมาเรียและรูปเคารพของพวกเขาหรือ?’” 12 เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงจัดการกับภูเขาศิโยนและเยรูซาเล็มเรียบร้อยแล้ว พระองค์จะตรัสว่า “เราจะลงโทษกษัตริย์อัสซีเรียเพราะใจที่เย่อหยิ่งอหังการและท่าทีที่ยโสโอหังของเขา 13 เพราะเขาโอ้อวดว่า “ ‘เราทำการนี้ด้วยกำลังแห่งน้ำมือของเรา […]