1 ถ้อยคำของอาโมส คนเลี้ยงแกะคนหนึ่งในเทโคอา สิ่งที่อาโมสได้เห็นเกี่ยวกับอิสราเอลสองปีก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหว เมื่อครั้งอุสซียาห์เป็นกษัตริย์ยูดาห์ และเยโรโบอัมบุตรเยโฮอาชเป็นกษัตริย์อิสราเอล 2 อาโมสกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปล่งพระสุรเสียงกึกก้องจากศิโยน ทรงเปล่งพระสุรเสียงจากเยรูซาเล็ม แล้วทุ่งหญ้าของคนเลี้ยงแกะก็เหี่ยวเฉา และยอดเขาคารเมลก็เหี่ยวแห้งไป” คำพิพากษาบรรดาเพื่อนบ้านของอิสราเอล 3 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เนื่องจากดามัสกัสทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าสามสี่ครั้ง เราจึงไม่หายโกรธ เพราะมันนวดกิเลอาดด้วยเลื่อน ซึ่งมีฟันเป็นเหล็ก 4 เราจะส่งไฟมายังบ้านของฮาซาเอล ซึ่งจะเผาผลาญป้อมต่างๆ ของเบนฮาดัด 5 เราจะทลายประตูเมืองดามัสกัส เราจะทำลายล้างกษัตริย์ซึ่งอยู่ในหุบเขาอาเวน และทำลายผู้ถือคทาในเบธเอเดน ชาวอารัมจะถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่เมืองคีร์” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น 6 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เนื่องจากกาซาทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าสามสี่ครั้ง เราจึงไม่หายโกรธ เพราะเขากวาดต้อนคนทั้งชุมชนไปเป็นเชลย และขายให้แก่เอโดม 7 เราจะส่งไฟมายังกำแพงเมืองกาซา ซึ่งจะเผาผลาญป้อมต่างๆ ของมัน 8 เราจะทำลายกษัตริย์แห่งอัชโดด และทำลายผู้ถือคทาในอัชเคโลน เราจะตวัดมือฟาดเอโครน จวบจนชาวฟีลิสเตียคนสุดท้ายตายไป” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนั้น 9 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เนื่องจากไทระทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าสามสี่ครั้ง เราจึงไม่หายโกรธ เพราะเขาขายเชลยทั้งชุมชนให้แก่เอโดม ไม่คำนึงถึงสัญญาไมตรีฉันพี่น้อง 10 เราจะส่งไฟมายังกำแพงเมืองไทระ ซึ่งจะเผาผลาญป้อมต่างๆ ของมัน” […]
Category Archives: อาโมส
อาโมส 2
1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เนื่องจากโมอับทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าสามสี่ครั้ง เราจึงไม่หายโกรธ เพราะเขาเผากระดูกกษัตริย์เอโดม ราวกับจะให้เป็นปูน 2 เราจะส่งไฟมายังโมอับ ซึ่งจะเผาผลาญป้อมต่างๆ ของเคริโอท โมอับจะล่มจมท่ามกลางความโกลาหลวุ่นวาย ท่ามกลางเสียงโห่ร้องออกศึกและเสียงแตรดังสนั่น 3 เราจะทำลายผู้ปกครอง และฆ่าบรรดาข้าราชบริพารไปพร้อมกับเขาด้วย” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น 4 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เนื่องจากยูดาห์ทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าสามสี่ครั้ง เราจึงไม่หายโกรธ เพราะเขาละทิ้งบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า และไม่ได้ประพฤติตามกฎหมายของพระองค์ เพราะพระเท็จเทียมทั้งหลายได้ชักนำพวกเขาให้หลงเตลิดไป บรรดาพระซึ่งบรรพบุรุษของเขาหลงตามไป 5 เราจะส่งไฟมายังยูดาห์ ซึ่งจะเผาผลาญป้อมต่างๆ ของเยรูซาเล็ม” คำพิพากษาอิสราเอล 6 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เนื่องจากอิสราเอลทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าสามสี่ครั้ง เราจึงไม่หายโกรธ เขาขายผู้ชอบธรรมแลกกับเงิน และขายคนขัดสนแลกกับรองเท้าคู่เดียว 7 เขาเหยียบย่ำศีรษะของผู้ยากไร้ เหมือนเดินย่ำฝุ่น และไม่ยอมให้ความยุติธรรมแก่ผู้ถูกกดขี่ พ่อลูกเข้าหาผู้หญิงคนเดียวกัน เป็นเหตุให้นามอันศักดิ์สิทธิ์ของเราถูกลบหลู่ดูหมิ่น 8 เขาเอนตัวลงนอนข้างแท่นบูชาทุกแท่น สวมเสื้อผ้าที่ยึดมาเป็นของประกัน และเขาดื่มเหล้าองุ่นซึ่งยึดมาเป็นค่าปรับ ในวิหารพระของเขา 9 “เราได้ทำลายชาวอาโมไรต์ต่อหน้าเขา ทั้งๆ ที่อาโมไรต์สูงตระหง่านเหมือนสนซีดาร์ และแข็งแกร่งเหมือนต้นโอ๊ก เราทำลายผลซึ่งอยู่ข้างบน และรากเหง้าซึ่งอยู่ข้างล่าง 10 เราพาเจ้าออกมาจากอียิปต์ […]
อาโมส 3
เรียกพยานมากล่าวโทษอิสราเอล 1 ประชากรอิสราเอลเอ๋ย จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ต่อว่าพวกเจ้า ต่อว่าครอบครัวทั้งหมดที่เรานำออกมาจากอียิปต์ ความว่า 2 “เจ้าเท่านั้นที่เราได้เลือกสรรไว้ จากเผ่าพันธุ์ทั้งปวงในโลก ฉะนั้นเราจะลงโทษเจ้า เนื่องด้วยบาปทั้งสิ้นของเจ้า” 3 สองคนจะเดินไปด้วยกันได้หรือ? หากทั้งคู่ไม่ได้ตกลงกันไว้ก่อน 4 เมื่อสิงโตล่าเหยื่อไม่ได้ มันจะคำรามลั่นป่าหรือ? เมื่อมันจับสัตว์อะไรไม่ได้ มันจะร้องครวญครางอยู่ในถ้ำหรือ? 5 เมื่อไม่ได้วางเหยื่อล่อไว้ นกจะตกลงในกับดักซึ่งวางอยู่ที่พื้นดินได้หรือ? หากไม่มีอะไรไปติด กับดักจะลั่นขึ้นได้หรือ? 6 เมื่อเสียงแตรดังขึ้นในเมือง ผู้คนจะไม่ตกใจหรือ? เมื่อเกิดภัยพิบัติในเมืองใด องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเป็นผู้บันดาลหรือ? 7 แน่ทีเดียว พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตจะไม่ทรงกระทำสิ่งใด โดยไม่เปิดเผยแผนการของพระองค์ ให้บรรดาผู้เผยพระวจนะซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ได้รู้ 8 เมื่อสิงโตคำราม ใครบ้างจะไม่กลัว? เมื่อพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสแล้ว ใครเล่าจะไม่เผยพระวจนะ? 9 จงป่าวร้องแก่ป้อมแห่งอัชโดด และแก่ป้อมแห่งอียิปต์ว่า “จงมาชุมนุมกันบนภูเขาของสะมาเรีย มาดูความโกลาหลวุ่นวายในเมืองนั้น และดูการกดขี่ข่มเหงท่ามกลางประชากรของเมืองนั้น” 10 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “บรรดาผู้สะสมของริบของปล้นไว้ในป้อมต่างๆ ไม่รู้จักทำสิ่งที่ถูกต้อง” 11 ฉะนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสว่า “ศัตรูจะมาล้างผลาญแผ่นดินนั้น เขาจะทลายที่มั่น และปล้นป้อมปราการต่างๆ […]
อาโมส 4
อิสราเอลไม่ได้หันกลับมาหาพระเจ้า 1 ฟังเถิด บรรดาแม่วัวแห่งบาชานบนภูเขาสะมาเรีย คือพวกผู้หญิงที่กดขี่คนยากไร้และเหยียบย่ำคนขัดสน คนที่พูดกับสามีว่า “ช่วยเอาเครื่องดื่มมาให้หน่อย!” 2 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงปฏิญาณโดยความบริสุทธิ์ของพระองค์ว่า “เวลานั้นจะมาถึงอย่างแน่นอน เมื่อเจ้าจะถูกลากไปด้วยขอเกี่ยว พวกสุดท้ายจะถูกลากไปด้วยเบ็ด 3 เจ้าแต่ละคนจะตรงออกไป ผ่านรอยแตกของกำแพง และเจ้าจะถูกเหวี่ยงออกไปยังฮารโมน” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 4 “จงไปยังเบธเอลและทำบาป จงไปยังกิลกาลและทำบาปยิ่งขึ้นไปอีก เอาเครื่องบูชาไปถวายทุกเช้า เอาสิบลดไปถวายทุกสามปี 5 เอาขนมปังใส่เชื้อมาเผาถวายเป็นเครื่องบูชาขอบพระคุณ และโอ้อวดเครื่องบูชาตามความสมัครใจ โอ้อวดเข้าไปเถิด อิสราเอลเอ๋ย ในเมื่อเจ้ารักที่จะทำเช่นนั้น” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น 6 “เราให้เจ้าท้องกิ่วไส้แห้งในทุกๆ นคร ไม่มีอาหารกินในทุกๆ เมือง ถึงกระนั้นเจ้าก็ไม่ยอมกลับมาหาเรา” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 7 “เรางดให้ฝนแก่เจ้าด้วย สามเดือนก่อนถึงฤดูเก็บเกี่ยว เราให้ฝนตกในเมืองหนึ่ง แต่ไม่ให้ฝนตกในอีกเมืองหนึ่ง นาหนึ่งมีฝน อีกนาไม่มีและข้าวจะเหี่ยวเฉาไป 8 ผู้คนโซซัดโซเซจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อหาน้ำ แต่ก็ได้ไม่พอดื่ม ถึงกระนั้นเจ้าก็ไม่ยอมกลับมาหาเรา” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 9 “หลายครั้งที่เราโจมตีไร่นาและสวนองุ่นของเจ้า ให้พืชผลถูกทำลายและขึ้นรา มีตั๊กแตนกัดกินต้นมะเดื่อและต้นมะกอกของเจ้า ถึงกระนั้นเจ้าก็ไม่ยอมกลับมาหาเรา” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 10 […]
อาโมส 5
คร่ำครวญและเรียกให้กลับใจ 1 พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย จงฟังเถิด เราคร่ำครวญถึงเจ้าดังนี้ 2 “อิสราเอลพรหมจารีล้มลงเสียแล้ว จะไม่ลุกขึ้นมาอีกเลย ต้องถูกทอดทิ้งในดินแดนของเธอเอง และไม่มีใครช่วยพยุงขึ้นมาเลย” 3 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “เมืองซึ่งส่งชายฉกรรจ์พันคนออกไปรบเพื่ออิสราเอล จะเหลือกลับมาเพียงร้อยคน ที่ส่งออกไปร้อยคน จะเหลือกลับมาเพียงสิบคนเท่านั้น” 4 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่พงศ์พันธุ์อิสราเอลว่า “จงแสวงหาเรา และเจ้าจะมีชีวิตอยู่ 5 อย่าแสวงหาเบธเอล อย่าไปที่กิลกาล อย่าเดินทางไปยังเบเออร์เชบา เพราะกิลกาลจะต้องตกเป็นเชลยอย่างแน่นอน และเบธเอลจะราบเป็นหน้ากลอง” 6 จงแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าและเจ้าจะมีชีวิตอยู่ มิฉะนั้นแล้วพระองค์จะทรงกวาดพงศ์พันธุ์โยเซฟไป เหมือนไฟที่เผาผลาญ และเบธเอลจะหาใครช่วยดับไฟไม่ได้เลย 7 เจ้าผู้แปรเปลี่ยนความยุติธรรมเป็นความขมขื่น ผู้เหวี่ยงความชอบธรรมลงกับพื้น 8 (พระองค์ผู้ทรงสร้างดาวลูกไก่และดาวไถ ผู้ทรงผันแปรความมืดให้กลายเป็นรุ่งอรุณ และกลางวันให้กลายเป็นกลางคืนมืดมิด ผู้ทรงเรียกน้ำทะเลมา และเทน้ำรดผิวโลก ทรงพระนามว่าพระยาห์เวห์ 9 ผู้ทรงกระหน่ำหายนะลงเหนือที่มั่น และให้เมืองป้อมปราการพังพินาศ) 10 เจ้าเกลียดคนที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในศาล และดูหมิ่นคนที่กล่าวความจริง 11 เจ้าเหยียบย่ำคนยากไร้ และรีดไถเอาเมล็ดข้าวจากเขา ฉะนั้นถึงแม้เจ้าจะสร้างตึกศิลา เจ้าก็จะไม่ได้อยู่อาศัย ถึงแม้เจ้าปลูกสวนองุ่นงอกงาม เจ้าก็จะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นนั้น 12 […]
อาโมส 6
วิบัติแก่ผู้ที่ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน 1 วิบัติแก่เจ้าผู้ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่ในศิโยน และแก่เจ้าผู้รู้สึกปลอดภัยบนภูเขาสะมาเรีย เจ้าผู้มีชื่อเสียงโด่งดังของชาติชั้นนำ ผู้ซึ่งประชากรอิสราเอลมาหา! 2 จงไปพิเคราะห์ดูคาลเนห์ แล้วไปยังฮามัทเมืองใหญ่ และลงไปยังเมืองกัทในฟีลิสเตีย อาณาจักรเหล่านั้นดีกว่าอาณาจักรทั้งสองของเจ้าหรือ? ดินแดนของเขาใหญ่กว่าของเจ้าหรือ? 3 เจ้าเลื่อนวันเลวร้ายออกไป แต่กลับนำยุคอันน่าสยดสยองเข้ามาใกล้ 4 เจ้านอนบนเตียงประดับงาช้าง และเหยียดกายบนตั่ง เจ้ากินลูกแกะชั้นดี และลูกวัวอ้วนพี 5 เจ้าเล่นพิณอย่างเบิกบานใจเหมือนดาวิด และแต่งเพลงใหม่ๆ สำหรับเครื่องดนตรี 6 เจ้าดื่มเหล้าองุ่นเต็มชาม และใช้เครื่องชโลมกายชั้นดี แต่เจ้าไม่ทุกข์โศกในความย่อยยับของโยเซฟ 7 ฉะนั้นเจ้าจะอยู่ในกลุ่มพวกแรกที่ตกเป็นเชลย การเลี้ยงฉลองและการเอกเขนกของเจ้าจะจบสิ้นลง องค์พระผู้เป็นเจ้า 8 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงปฏิญาณโดยอ้างพระองค์เอง พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “เราชิงชังความหยิ่งผยองของยาโคบ และเกลียดป้อมต่างๆ ของเขา เราจะปล่อยเมืองนี้ และปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในนั้น” 9 หากมีชายสิบคนเหลืออยู่ในบ้านหลังหนึ่ง พวกเขาก็จะตายด้วย 10 และหากมีญาติคนหนึ่งที่จะเผาศพ จะมาแบกศพออกไปนอกบ้าน และถามผู้ที่ยังซ่อนตัวอยู่ที่นั่นว่า “มีใครอยู่กับเจ้าอีกไหม?” และเขาตอบว่า “ไม่มี” แล้วเขาก็จะพูดว่า “เงียบๆ! อย่าให้เราเอ่ยพระนามของพระยาห์เวห์” 11 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงบัญชาไว้แล้ว […]
อาโมส 7
ตั๊กแตน ไฟ และสายดิ่ง 1 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าดังนี้คือ พระองค์กำลังเตรียมฝูงตั๊กแตนจำนวนมหาศาลให้มาหลังจากเก็บเกี่ยวพืชผลส่วนของกษัตริย์แล้ว ขณะที่ผลผลิตรุ่นที่สองกำลังออกมา 2 เมื่อตั๊กแตนเหล่านั้นกินพืชจนแผ่นดินโล่งเตียน ข้าพเจ้าก็ร้องทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตขอทรงอภัยเถิด! ยาโคบจะอยู่รอดได้อย่างไร? ในเมื่อเขาเล็กกระจ้อยร่อยเพียงนี้!” 3 ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงอดพระทัยไว้ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้น” 4 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าดังนี้คือ พระองค์ทรงเตรียมลงทัณฑ์ด้วยไฟ มันเผาผลาญห้วงสมุทรและไหม้แผ่นดิน 5 แล้วข้าพเจ้าจึงร้องทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตขอทรงโปรดยับยั้งไว้เถิด! ยาโคบจะอยู่รอดได้อย่างไร? ในเมื่อเขาเล็กกระจ้อยร่อยเพียงนี้!” 6 ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงอดพระทัยไว้ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสว่า “เหตุการณ์นี้ก็จะไม่เกิดขึ้นเช่นกัน” 7 พระองค์ทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าดังนี้คือ องค์พระผู้เป็นเจ้าประทับยืนอยู่ข้างกำแพงที่สร้างขึ้นโดยใช้สายดิ่งวัด และมีสายดิ่งอยู่ในพระหัตถ์ 8 และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสถามข้าพเจ้าว่า “อาโมส เจ้าเห็นอะไร?” ข้าพเจ้าทูลว่า “สายดิ่งพระเจ้าข้า” แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด เรากำลังจะวางสายดิ่งในหมู่ประชากรอิสราเอลของเรา เราจะไม่ละเว้นพวกเขาอีกต่อไป 9 “บรรดาสถานบูชาบนที่สูงของอิสอัคจะถูกทำลายล้าง และสถานนมัสการต่างๆ ของอิสราเอลจะถูกทำลาย เราจะลุกขึ้นต่อสู้พงศ์พันธุ์ของเยโรโบอัมด้วยดาบของเรา” อาโมสกับอามาซิยาห์ 10 แล้วอามาซิยาห์ปุโรหิตแห่งเบธเอลได้แจ้งข่าวต่อกษัตริย์เยโรโบอัมแห่งอิสราเอลว่า “อาโมสกำลังคบคิดวางแผนร้ายต่อพระองค์ที่ใจกลางอิสราเอลนี้เอง ถ้อยคำของเขาบ่อนทำลายชาติ 11 […]
อาโมส 8
กระจาดผลไม้สุก 1 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงสำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นผลไม้สุกกระจาดหนึ่ง 2 พระองค์ตรัสถามว่า “อาโมส เจ้าเห็นอะไร?” ข้าพเจ้าทูลว่า “ผลไม้สุกงอมกระจาดหนึ่งพระเจ้าข้า” แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “วันเวลาสุกงอมแล้วสำหรับอิสราเอลประชากรของเรา เราจะไม่ละเว้นพวกเขาอีกต่อไป” 3 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า “ในวันนั้นบทเพลงต่างๆ ในพระวิหารจะเปลี่ยนเป็นเสียงร่ำไห้ซากศพจะเกลื่อนกลาดอยู่ทุกแห่ง! และมีแต่ความเงียบสงัด!” 4 ฟังเถิดเจ้าผู้เหยียบย่ำคนขัดสน และกำจัดคนยากไร้ในดินแดน 5 เจ้ากล่าวว่า “เมื่อใดหนอจะหมดวันขึ้นหนึ่งค่ำ เราจะได้ขายข้าวเสียที เมื่อใดหนอจะหมดวันสะบาโต เราจะได้ขายข้าวสาลีเสียที?” เจ้าโกงด้วยการทำให้ตาชั่งหย่อน โก่งราคา และโกงตาชั่ง 6 เจ้าซื้อคนยากไร้ด้วยเงิน แลกคนขัดสนด้วยรองเท้าคู่เดียว และขายข้าวสาลีปนข้าวเลว 7 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปฏิญาณโดยอ้างองค์ศักดิ์สิริแห่งยาโคบว่า “เราจะไม่มีวันลืมสิ่งที่เขาทำแม้แต่อย่างเดียว 8 “ด้วยเหตุนี้แผ่นดินจะไม่สั่นสะท้าน และผู้คนในนั้นจะไม่ไว้ทุกข์หรือ? ทั่วทั้งแผ่นดินจะเอ่อท้นขึ้นเหมือนแม่น้ำไนล์ ถูกกวนให้เกิดความปั่นป่วน แล้วก็จมลงเหมือนแม่น้ำอียิปต์” 9 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า “ในวันนั้น เราจะทำให้ดวงอาทิตย์ตกตอนเที่ยงวัน และโลกมืดมิดทั้งๆ ที่ยังกลางวันแสกๆ 10 เราจะเปลี่ยนเทศกาลทางศาสนาของเจ้าให้เป็นการไว้ทุกข์ และการร้องเพลงทั้งปวงของเจ้าให้เป็นการร่ำไห้ เราจะทำให้พวกเจ้าทุกคนสวมเสื้อผ้ากระสอบ และโกนผม เราจะทำให้ช่วงเวลานั้นเป็นเหมือนช่วงไว้ทุกข์ให้ลูกโทน และให้วาระสุดท้ายเป็นดั่งวันอันขมขื่น” […]
อาโมส 9
อิสราเอลจะถูกทำลาย 1 ข้าพเจ้าเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าประทับยืนอยู่ข้างแท่นบูชา และพระองค์ตรัสว่า “จงฟาดยอดเสา เพื่อให้ธรณีประตูสั่นสะเทือน ให้พังทับประชาชนทั้งปวง ผู้ที่เหลือรอดเราจะประหารด้วยดาบ จะไม่มีใครหนีรอดไปได้สักคนเดียว จะไม่มีใครหนีไปได้เลย 2 แม้พวกเขาจะขุดลึกลงไปถึงก้นหลุมฝังศพ มือของเราก็จะควานลงไปดึงขึ้นมา แม้พวกเขาปีนขึ้นถึงฟ้าสวรรค์ เราก็จะนำพวกเขาลงมา 3 แม้พวกเขาซ่อนตัวบนยอดเขาคารเมล เราก็จะตามล่าจับพวกเขาลงมาจากที่นั่น แม้พวกเขาหนีไปซ่อนที่ก้นทะเล เราก็จะสั่งงูพิษให้กัดพวกเขา 4 แม้พวกเขาถูกศัตรูกวาดต้อนไปเป็นเชลย เราก็จะสั่งให้ดาบประหารพวกเขาที่นั่น เราจะจับตาดูพวกเขาอย่างมุ่งร้าย ไม่ใช่ด้วยหวังดี” 5 องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ผู้ทรงแตะโลกแล้ว มันก็หลอมละลาย และชาวโลกทั้งปวงก็ไว้ทุกข์ ทั่วทั้งดินแดนเอ่อท้นขึ้นเหมือนแม่น้ำไนล์ แล้วก็จมลงเหมือนแม่น้ำอียิปต์ 6 พระองค์ผู้ทรงสร้างที่ประทับอันสูงส่งไว้ในฟ้าสวรรค์ และวางฐานรากของมันไว้ที่แผ่นดินโลก ผู้ทรงเรียกน้ำทะเลขึ้นมา และเทมันรดผิวโลก ทรงพระนามว่าพระยาห์เวห์ 7 “อิสราเอลเอ๋ย สำหรับเราแล้ว เจ้าก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากชาวคูชไม่ใช่หรือ?” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “เราไม่ได้นำอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ นำชาวฟีลิสเตียออกจากคัฟโทร์ และนำชาวอารัมออกจากคีร์หรอกหรือ?” 8 “แน่นอน พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ทรงจับตาดูอาณาจักรอันบาปหนา เราจะทำลายมัน จากพื้นโลก ถึงกระนั้นเราจะไม่ทำลายพงศ์พันธุ์ยาโคบ ลงอย่างสิ้นเชิง” […]