1 “ต่อไปนี้เป็นบทบัญญัติที่เจ้าจะต้องตราไว้ต่อหน้าพวกเขา คือ ทาสฮีบรู 2 “หากเจ้าซื้อทาสฮีบรูมาคนหนึ่ง เขาจะรับใช้เจ้าเป็นเวลาหกปี แต่ในปีที่เจ็ดเขาจะเป็นไทโดยไม่ต้องเสียค่าไถ่ใดๆ 3 ถ้าเขามาคนเดียวก็เป็นไทไปคนเดียว แต่หากเขามีภรรยามาด้วย ภรรยาของเขาจะเป็นไทพร้อมกับเขา 4 หากว่านายหาภรรยาให้ แล้วเขามีบุตรชายหรือบุตรสาว ทั้งภรรยาและบุตรจะยังคงเป็นของนาย ส่วนตัวเขาจะเป็นอิสระแต่ผู้เดียว 5 “แต่ถ้าทาสคนนั้นประกาศว่า ‘ข้าพเจ้ารักนายและลูกเมียของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่อยากเป็นไท’ 6 นายต้องพาเขามาหาตุลาการและนำเขาไปที่ประตูหรือวงกบประตู แล้วใช้เหล็กหมาดเจาะหูเขา จากนั้นเขาจะเป็นทาสไปตลอดชีวิต 7 “ผู้ใดขายบุตรสาวของตนไปเป็นทาส นางจะไม่ได้รับการปลดปล่อยเหมือนทาสชาย 8 หากนางไม่เป็นที่ถูกใจนายที่เลือกซื้อนางไปสำหรับตัวเขาเองเขาจะต้องยินยอมให้ไถ่ตัวนาง เขาไม่มีสิทธิ์ขายนางให้คนต่างด้าวเพราะเขาได้ผิดสัญญาต่อนาง 9 หากเขาเลือกซื้อนางไว้สำหรับบุตรชายของตน เขาต้องให้สิทธิ์ของบุตรสาวแก่นาง 10 หากเขาได้ภรรยามาอีกคน เขาต้องไม่ลดอาหาร เครื่องนุ่งห่มหรือสิทธิ์ในฐานะภรรยาแก่นาง 11 หากเขาไม่ให้ทั้งสามสิ่งนี้ นางก็จะเป็นไทโดยไม่ต้องเสียค่าไถ่ใดๆ การทำร้ายร่างกาย 12 “ผู้ใดทำร้ายร่างกายคนอื่นถึงแก่ความตายจะต้องมีโทษถึงตายแน่นอน 13 หากเขาทำไปโดยไม่เจตนาแต่พระเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดขึ้น เราจะกำหนดสถานที่แห่งหนึ่งให้เขาหนีไปลี้ภัย 14 แต่หากผู้ใดวางแผนฆ่าคนโดยเจตนา จงนำตัวผู้นั้นออกไปจากแท่นบูชาของเราและประหารเขา 15 “ผู้ใดทำร้ายบิดามารดาของตนจะต้องมีโทษถึงตาย 16 “ผู้ใดลักพาตัวผู้อื่นไปขายเป็นทาสหรือยังกักตัวไว้กับตนขณะที่ถูกจับได้จะต้องมีโทษถึงตาย 17 […]
Category Archives: อพยพ
อพยพ 22
การคุ้มครองทรัพย์สิน 1 “หากผู้ใดขโมยวัวหรือแกะมา แล้วฆ่าหรือขายไป เขาจะต้องชดใช้วัวห้าตัวสำหรับวัวหนึ่งตัว และแกะสี่ตัวสำหรับแกะหนึ่งตัว 2 “หากขโมยถูกจับได้และถูกฆ่าตายขณะลอบเข้าไปในบ้าน คนที่ฆ่าเขาไม่มีความผิด 3 แต่หากเกิดขึ้นในเวลากลางวัน คนที่ฆ่าเขามีความผิด “ขโมยต้องชดใช้ค่าเสียหายเต็มจำนวน แต่หากเขาไม่มีอะไรจะชดใช้ เขาจะต้องถูกขายเป็นทาสเพื่อชดใช้สิ่งที่เขาขโมยไป 4 “หากพบสัตว์ที่ขโมยไปมีชีวิตอยู่ในครอบครองของเขาไม่ว่าวัว ลา หรือแกะ เขาจะต้องจ่ายคืนเป็นสองเท่า 5 “ถ้าผู้ใดปล่อยฝูงสัตว์ของตนไปกินหญ้าในท้องทุ่งหรือในสวนองุ่น และมันหลงเข้าไปกินหญ้าในที่ของคนอื่น เขาจะต้องชดใช้ด้วยพืชผลส่วนที่ดีที่สุดจากท้องทุ่งหรือจากสวนองุ่นของตน 6 “หากที่นาเกิดไฟไหม้ลามไปยังพุ่มหนามจนถึงที่ของคนอื่น จนฟ่อนข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้วหรือต้นข้าวที่ยังไม่เกี่ยวเสียหายหมด ผู้ที่เป็นต้นเพลิงจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย 7 “หากผู้ใดนำเงินหรือสิ่งของฝากไว้ให้เพื่อนบ้านของเขาดูแล แล้วเงินหรือของนั้นถูกขโมยไปจากบ้านของเพื่อนบ้าน เมื่อจับตัวขโมยมาได้ ขโมยนั้นจะต้องชดใช้เป็นสองเท่า 8 แต่หากจับขโมยไม่ได้ ให้นำตัวผู้รับฝากของมีค่านั้นมาพบตุลาการเพื่อรับการพิจารณาว่าใช่ตัวเขาเองหรือไม่ที่ขโมยสมบัติของเพื่อนบ้าน 9 ทุกครั้งที่มีการครอบครองทรัพย์สินโดยไม่ถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นวัว ลา แกะ เสื้อผ้า หรือสิ่งอื่นๆ ที่สูญหายซึ่งบางคนอ้างว่า ‘นี่คือของของฉัน’ ให้ทั้งสองนำกรณีพิพาทไปพบตุลาการเพื่อรับคำชี้ขาด ผู้ที่ตุลาการตัดสินว่าผิดจะต้องจ่ายเป็นสองเท่าให้แก่เพื่อนบ้าน 10 “หากผู้ใดฝากวัว ลา แกะ หรือสัตว์อื่นๆ ไว้ให้เพื่อนบ้านดูแล แล้วมันตายไปหรือบาดเจ็บหรือหายไปและไม่มีใครเห็น 11 […]
อพยพ 23
บทบัญญัติของความยุติธรรมและความเมตตา 1 “อย่าเล่าลือเรื่องที่ไม่เป็นความจริง อย่าร่วมมือกับคนชั่วร้ายโดยการเป็นพยานเท็จ 2 “อย่าทำชั่วคล้อยตามคนหมู่มาก เมื่อเจ้าเป็นพยานในคดีความอย่าบิดเบือนความยุติธรรมโดยเข้าข้างคนหมู่มาก 3 และอย่าลำเอียงเข้าข้างคนจนในคดีของเขา 4 “หากเจ้าบังเอิญพบวัวหรือลาของศัตรูหลงมา จงนำมันไปคืนเจ้าของ 5 หากเจ้าเห็นลาของคนที่เกลียดชังเจ้าล้มลงเพราะบรรทุกของหนัก อย่าเมินเฉย จงเข้าไปช่วยเหลือ 6 “จงให้ความยุติธรรมแก่คนยากจนในคดีของเขา 7 อย่ามีส่วนตั้งข้อกล่าวหาเท็จ และอย่าปล่อยให้ผู้บริสุทธิ์หรือคนซื่อตรงต้องถูกประหาร เพราะเราจะไม่ปล่อยให้คนผิดลอยนวล 8 “อย่ารับสินบน เพราะสินบนทำให้ตามืดบอดจากความจริง และบิดเบือนคำพูดของคนชอบธรรม 9 “อย่าข่มเหงคนต่างด้าว ตัวเจ้าเองรับรู้รสชาติการเป็นคนต่างด้าวมาแล้วเพราะเจ้าเคยเป็นคนต่างด้าวในอียิปต์ บทบัญญัติเกี่ยวกับสะบาโต 10 “จงหว่านและเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ของเจ้าตลอดหกปี 11 แต่ในปีที่เจ็ดจงพักที่ดิน ไม่ต้องปลูกไม่ต้องหว่าน และให้คนยากจนมาเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ที่งอกขึ้นมา ส่วนที่เหลือปล่อยไว้ให้เป็นอาหารของสัตว์ป่า กฎข้อนี้ใช้กับสวนองุ่นและสวนมะกอกของเจ้าด้วย 12 “จงทำงานเพียงหกวัน แต่อย่าทำงานในวันที่เจ็ด เพื่อให้วัวและลาของเจ้าได้พัก ทั้งทาสที่เกิดในครัวเรือนของเจ้าและคนต่างด้าวจะได้สดชื่นขึ้น 13 “จงตั้งใจทำตามทุกสิ่งที่เราได้บอกแก่เจ้าแล้ว และอย่าเอ่ยอ้างชื่อพระอื่นใด อย่าให้ได้ยินชื่อพระเหล่านั้นจากปากของเจ้าเลย เทศกาลประจำปีสามเทศกาล 14 “เจ้าจงฉลองเทศกาลสำหรับเราปีละสามครั้ง 15 “จงฉลองเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อ จงกินขนมปังไม่ใส่เชื้อตลอดเจ็ดวันตามที่เราได้สั่งพวกเจ้าไว้แล้ว จงทำอย่างนี้ตามเวลาที่กำหนดไว้ในเดือนอาบีบ เพราะในเดือนนั้นเจ้าได้ออกจากอียิปต์ […]
อพยพ 24
การยืนยันพันธสัญญา 1 แล้วพระองค์ตรัสกับโมเสสว่า “จงขึ้นมาเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าพร้อมกับอาโรน นาดับ อาบีฮู และผู้อาวุโสทั้งเจ็ดสิบคนของอิสราเอล พวกเจ้าทุกคนจะนมัสการอยู่ห่างๆ 2 แต่โมเสสคนเดียวเท่านั้นจะขึ้นมาเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างใกล้ชิด ส่วนคนอื่นๆ อย่าเข้ามาใกล้ ห้ามประชาชนทั่วไปขึ้นมาด้วย” 3 โมเสสจึงแจ้งให้เหล่าประชากรทราบถึงบทบัญญัติและพระดำรัสทั้งสิ้นขององค์พระผู้เป็นเจ้าเขาทั้งปวงก็ตอบรับเป็นเสียงเดียวกันว่า “เราจะปฏิบัติตามทุกสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้” 4 โมเสสจึงบันทึกทุกสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นโมเสสก่อแท่นบูชาที่เชิงเขาและตั้งเสาหินสิบสองต้นเป็นตัวแทนสิบสองเผ่าของอิสราเอล 5 แล้วเขาสั่งให้ชายหนุ่มชาวอิสราเอลถวายเครื่องเผาบูชาและถวายวัวหนุ่มจำนวนหนึ่งเป็นเครื่องสันติบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า 6 โมเสสแบ่งเลือดจากสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชามาครึ่งหนึ่งใส่ลงในอ่าง อีกครึ่งหนึ่งเขาพรมลงบนแท่นบูชา 7 แล้วโมเสสอ่านหนังสือพันธสัญญานั้นให้ประชาชนฟัง พวกเขาก็ตอบว่า “เราจะปฏิบัติตามทุกสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้ เราจะเชื่อฟัง” 8 โมเสสจึงนำเลือดในอ่างพรมประชาชนและกล่าวว่า “นี่คือเลือดแห่งพันธสัญญาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำไว้กับท่านทั้งหลายตามพระดำรัสทั้งสิ้นนี้” 9 จากนั้นโมเสส อาโรน นาดับ อาบีฮู และผู้อาวุโสทั้งเจ็ดสิบคนของอิสราเอลขึ้นไปบนภูเขา 10 และเห็นพระเจ้าแห่งอิสราเอล พื้นใต้พระบาทเป็นแนวเจิดจรัสราวกับแก้วไพฑูรย์สุกปลั่งแจ่มจ้าเหมือนท้องฟ้า 11 ถึงแม้ผู้นำเหล่านี้ของอิสราเอลเห็นพระเจ้า พระองค์ก็ไม่ได้ทรงทำลายพวกเขา และเขาทั้งหมดกินดื่มร่วมกัน 12 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงขึ้นมาหาเราบนภูเขา รออยู่ที่นี่ แล้วเราจะมอบบทบัญญัติและพระบัญชาซึ่งเราจารึกบนแผ่นศิลาให้เจ้าเพื่อไว้สั่งสอนประชากร” 13 ดังนั้นโมเสสและโยชูวาผู้ช่วยของเขาจึงขึ้นไปบนภูเขาของพระเจ้า 14 โมเสสกล่าวกับผู้อาวุโสเหล่านั้นว่า “ขอให้ท่านรออยู่ที่นี่จนกว่าพวกเราจะกลับมา […]
อพยพ 25
เครื่องถวายสำหรับพลับพลา 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 2 “จงสั่งชนอิสราเอลให้นำสิ่งของมาถวายเรา เจ้าจงรับของที่ทุกคนนำมาถวายเราด้วยความสมัครใจ 3 เจ้าจงรับของถวายที่เขานำมามอบให้ได้แก่ ทองคำ เงิน และทองสัมฤทธิ์ 4 ด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง และสีแดง ผ้าลินินเนื้อดี ขนแพะ 5 หนังแกะตัวผู้ย้อมสีแดง หนังพะยูน ไม้กระถินเทศ 6 น้ำมันมะกอกสำหรับจุดประทีป เครื่องเทศสำหรับปรุงน้ำมันเพื่อใช้เจิมและสำหรับเครื่องหอม 7 โกเมนและอัญมณีอื่นๆ สำหรับฝังในเอโฟดและทับทรวง 8 “แล้วให้ประชากรอิสราเอลสร้างสถานนมัสการให้เรา และเราจะอยู่ท่ามกลางพวกเขา 9 จงสร้างพลับพลาและทำอุปกรณ์ตกแต่งทุกอย่างตามรูปแบบที่เราจะสำแดงแก่เจ้า” หีบพันธสัญญา 10 “จงให้พวกเขาทำหีบด้วยไม้กระถินเทศขนาดยาว 2.5 ศอกกว้างและสูงเท่ากัน 1.5 ศอก 11 หุ้มด้วยทองคำบริสุทธิ์ทั้งด้านในและด้านนอก และใช้ทองคำทำเป็นคิ้วทับโดยรอบ 12 จงหล่อห่วงทองคำสี่ห่วงติดไว้ที่มุมทั้งสี่ของขอบหีบ โดยมีสองห่วงอยู่ทางด้านหนึ่งและอีกสองห่วงอยู่อีกด้านหนึ่ง 13 จากนั้นจงทำคานหามสองอันจากไม้กระถินเทศหุ้มด้วยทองคำ 14 สอดคานลอดห่วงทั้งสองด้านของหีบไว้สำหรับหาม 15 อย่าชักคานนี้ออกจากห่วงเลย ให้คงไว้เช่นนั้นตลอดไป 16 แล้วนำแผ่นศิลาจารึกพันธสัญญาซึ่งเราจะให้แก่เจ้าใส่ไว้ในหีบนั้น 17 […]
อพยพ 26
พลับพลา 1 “จงทำพลับพลาด้วยม่านผ้าลินินเนื้อดีสิบผืน ให้ช่างฝีมือผู้ชำนาญคนหนึ่งปักลวดลายด้วยด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดงเป็นภาพเหล่าเครูบไว้บนม่านเหล่านั้น 2 ม่านทุกผืนมีขนาดเดียวกันคือกว้าง 4 ศอก ยาว 28 ศอก 3 ต่อม่านเป็นสองแถบ แถบละห้าผืน 4 จงใช้ผ้าสีน้ำเงินทำหูที่ขอบของผ้าม่านทั้งสองแถบ 5 แถบละห้าสิบหูตรงกัน 6 แล้วทำตะขอทองคำห้าสิบอันเกี่ยวหูของแถบม่านทั้งสองเข้าด้วยกันเพื่อให้เป็นพลับพลาเดียวกัน 7 “ให้ทำม่านขนแพะสิบเอ็ดผืนสำหรับทำเป็นเต็นท์เพื่อคลุมพลับพลาไว้ 8 ม่านทุกผืนมีขนาดเดียวกัน คือ กว้าง 4 ศอก ยาว 30 ศอก 9 ต่อม่านเป็นสองแถบ แถบหนึ่งใช้ห้าผืน อีกแถบหนึ่งใช้หกผืน ให้พับผืนที่หกทบไว้ด้านหน้าเต็นท์ 10 จงทำหูห้าสิบหูติดที่ขอบของแถบผ้าม่านทั้งสองแถบ 11 แล้วใช้ตะขอทองสัมฤทธิ์เกี่ยวหูเต็นท์ให้เข้าเป็นเต็นท์เดียวกัน 12 ส่วนความยาวที่เหลือ ครึ่งหนึ่งของผ้าเต็นท์ให้ห้อยไว้ทางด้านหลังของพลับพลา 13 ผ้าเต็นท์นี้จะมีความยาวยื่นออกมาข้างละ 1 ศอกเพื่อคลุมพลับพลาไว้ 14 จงคลุมเต็นท์ด้วยหนังแกะตัวผู้ย้อมสีแดงและใช้หนังพะยูนคลุมทับไว้อีกชั้นหนึ่ง 15 “จงตั้งฝาผนังพลับพลาซึ่งทำจากไม้กระถินเทศ 16 ไม้ฝาแต่ละแผ่นกว้าง […]
อพยพ 27
แท่นบูชา 1 “จงใช้ไม้กระถินเทศทำแท่นบูชา รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดกว้างยาวด้านละ 5 ศอก สูง 3 ศอก 2 ทำเชิงงอนที่มุมทั้งสี่ของแท่นเป็นเนื้อเดียวกับตัวแท่น และใช้ทองสัมฤทธิ์หุ้มรอบแท่น 3 จงทำภาชนะทุกชิ้นของแท่นบูชาด้วยทองสัมฤทธิ์คือ หม้อใส่เถ้า ทัพพี อ่างประพรม ขอเกี่ยวเนื้อ และถาดรองไฟ 4 จงทำตะแกรงทองสัมฤทธิ์มีห่วงโลหะติดไว้ทั้งสี่มุม 5 วางตะแกรงนี้ที่ด้านในของแท่น ใต้ขอบบนอยู่ระดับกลางแท่น 6 จงทำคานจากไม้กระถินเทศหุ้มด้วยทองสัมฤทธิ์สำหรับการเคลื่อนย้ายแท่นบูชา 7 เวลาจะหามให้เอาคานสอดในห่วง ไม้คานอยู่ข้างแท่นข้างละอัน 8 จงทำแท่นนี้ด้วยไม้กระดาน ให้ภายในกลวงตามแบบที่เราแจ้งแก่เจ้าบนภูเขา ลานพลับพลา 9 “จงทำลานพลับพลา มีผ้าลินินเนื้อดีเป็นม่านปิดทางด้านทิศใต้ ม่านคลี่ออกกว้าง 100 ศอก 10 มีเสายี่สิบต้นปักบนฐานรองรับยี่สิบฐานทำด้วยทองสัมฤทธิ์ และมีตะขอเงินกับราวเงินสำหรับแขวนม่านติดอยู่กับเสา 11 ทางด้านทิศเหนือก็เช่นกันคือ ม่านกว้าง 100 ศอก มีเสายี่สิบต้น พร้อมฐานรองรับทำจากทองสัมฤทธิ์ยี่สิบฐาน และมีตะขอเงินและราวเงินสำหรับแขวนม่านติดอยู่กับเสา 12 “ด้านทิศตะวันตกของลานมีม่านกว้าง 50 ศอกและมีเสาสิบต้นปักบนฐานทั้งสิบ 13 […]
อพยพ 28
เครื่องแต่งกายปุโรหิต 1 “จงสถาปนาอาโรนพี่ชายของเจ้าและบรรดาบุตรชายของเขาคือ นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ และอิธามาร์ ให้ทำหน้าที่ปุโรหิตรับใช้เรา 2 จงทำเครื่องแต่งกายบริสุทธิ์สำหรับอาโรนให้งดงามและสมเกียรติ 3 จงกำชับช่างผู้ชำนาญทุกคนซึ่งเราให้สติปัญญาในเชิงช่างแก่เขา ให้ทำเครื่องแต่งกายสำหรับอาโรน สำหรับการชำระเขาให้บริสุทธิ์และแยกเขาไว้เพื่อเขาจะปฏิบัติหน้าที่ปุโรหิตรับใช้เรา 4 เครื่องแต่งกายที่ให้ทำได้แก่ ทับทรวง เอโฟด เสื้อคลุม เสื้อตัวในที่ทอขึ้น ผ้าโพกศีรษะ และสายคาดเอว และจงทำเครื่องแต่งกายบริสุทธิ์พิเศษสำหรับอาโรนพี่ชายของเจ้าและบรรดาบุตรชายของเขาด้วย เพื่อเขาจะได้รับใช้เราในฐานะปุโรหิต 5 โดยให้ช่างใช้ทองคำ ด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดง และผ้าลินินเนื้อดี เอโฟด 6 “จงให้ช่างฝีมือผู้ชำนาญทำเอโฟดโดยใช้ทองคำ ด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดง และผ้าลินินเนื้อดี 7 ประกอบด้วยชิ้นหน้าและชิ้นหลัง มีแถบสองชิ้นที่บ่าโยงมุมสำหรับผูกเข้าด้วยกัน 8 ทำสายคาดเอวอย่างประณีตด้วยทองคำ ด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดง และผ้าลินินเนื้อดีทอเข้าเป็นชิ้นเดียวกับเอโฟด 9 “จงเอาโกเมนสองชิ้นจารึกชื่อบุตรชายทั้งหลายของอิสราเอล 10 จารึกชิ้นละหกชื่อตามลำดับการกำเนิดของพวกเขา 11 จงจารึกชื่อบุตรชายทั้งหลายของอิสราเอลลงบนโกเมนทั้งสองชิ้นนั้นด้วยวิธีเดียวกันกับที่ช่างเจียระไนสลักตรา แล้วฝังโกเมนสองชิ้นนั้นบนเรือนทอง 12 จงร้อยโกเมนทั้งสองชิ้นนี้เข้ากับแถบบ่าเอโฟด […]
อพยพ 29
พิธีชำระปุโรหิต 1 “เจ้าจงทำดังนี้เพื่อชำระอาโรนและบรรดาบุตรชายและแยกพวกเขาไว้เพื่อพวกเขาจะได้รับใช้เราในฐานะปุโรหิตคือ จงนำวัวหนุ่มหนึ่งตัวและแกะผู้ซึ่งไม่มีตำหนิมาสองตัว 2 พร้อมทั้งขนมปังไม่ใส่เชื้อและขนมปังไม่ใส่เชื้อคลุกน้ำมัน และขนมปังไม่ใส่เชื้อแผ่นบางทาน้ำมัน ขนมปังเหล่านี้ล้วนทำจากแป้งสาลีอย่างดี 3 วางขนมปังไว้ในกระจาดและนำมาถวายที่ทางเข้าพลับพลาพร้อมด้วยวัวหนุ่มและแกะผู้ทั้งสองตัว 4 จงใช้น้ำชำระตัวอาโรนและบรรดาบุตรชายที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ 5 แล้วสวมเครื่องแต่งกายให้อาโรน ทั้งเสื้อตัวใน เสื้อคลุม เอโฟด ทับทรวง และสายคาดเอว 6 โพกผ้าโพกศีรษะซึ่งมีแผ่นทองคำติดอยู่นั้นให้อาโรน 7 แล้วเอาน้ำมันสำหรับเจิมรินลงบนศีรษะของเขา 8 จากนั้นสวมเสื้อตัวในให้บุตรชายของอาโรน 9 พร้อมทั้งคาดสายคาดเอวและโพกผ้าโพกศีรษะให้อาโรนและบรรดาบุตรของเขา เขาเหล่านั้นจะเป็นปุโรหิตตามข้อปฏิบัติถาวร นี่เป็นพิธีสถาปนาอาโรนและบรรดาบุตรชาย 10 “จากนั้นจงนำวัวหนุ่มมาที่หน้าเต็นท์นัดพบ อาโรนและบรรดาบุตรชายของเขาจะเอามือวางบนหัวของมัน 11 เจ้าจงฆ่ามันต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ 12 เอานิ้วจุ่มเลือดวัวทาที่เชิงงอนของแท่นบูชาและรินส่วนที่เหลือตรงเชิงแท่นบูชา 13 แล้วจงเอาไขมันซึ่งหุ้มเครื่องใน พังผืดที่หุ้มตับ ไตทั้งสองลูกกับไขมันที่หุ้มไตเผาบนแท่นบูชา 14 แต่จงเอาเนื้อของมันทั้งหนังและไส้ออกไปเผานอกบริเวณค่ายพัก นี่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป 15 “จากนั้นอาโรนและบุตรชายจะวางมือบนหัวแกะผู้ตัวหนึ่ง 16 จงฆ่าแกะตัวนั้น รองเลือดของมันมาพรมรอบแท่นบูชา 17 จงชำแหละแกะผู้ตัวนั้นแล้วล้างเครื่องในและขาให้สะอาด วางรวมกับหัวและส่วนอื่นๆ 18 จากนั้นจงเผาแกะผู้ตัวนั้นทั้งหมดบนแท่นบูชาเป็นเครื่องเผาบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นกลิ่นหอมที่พอพระทัย เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า 19 […]
อพยพ 30
แท่นเผาเครื่องหอม 1 “จงใช้ไม้กระถินเทศทำแท่นบูชาสำหรับเผาเครื่องหอม 2 เป็นแท่นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดกว้างและยาว 1 ศอก สูง 2 ศอกมีเชิงงอนแกะสลักจากตัวแท่นเป็นเนื้อเดียวกัน 3 ใช้ทองคำบริสุทธิ์หุ้มด้านบน ด้านข้างทุกด้าน และเชิงงอน และทำคิ้วทองคำคาดรอบแท่น 4 ใต้คิ้วทั้งสองด้านทำห่วงทองคำข้างละสองอัน สำหรับสอดคานหามเวลาเคลื่อนย้ายแท่น 5 จงทำคานหามจากไม้กระถินเทศหุ้มทองคำ 6 จงตั้งแท่นนี้ไว้นอกม่านหน้าหีบพันธสัญญา คืออยู่หน้าพระที่นั่งกรุณาซึ่งอยู่เหนือหีบพันธสัญญา เราจะพบกับเจ้าที่นั่น 7 “ทุกเช้าเมื่ออาโรนมาดูแลความเรียบร้อยของตะเกียง เขาต้องเผาเครื่องหอมบนแท่น 8 และทุกเย็นเมื่อมาจุดประทีป เขาต้องเผาเครื่องหอมต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าอีกครั้งหนึ่ง จงปฏิบัติเช่นนี้สืบไปทุกชั่วอายุ 9 เครื่องหอมอื่นๆ เครื่องเผาบูชา เครื่องธัญบูชา อย่านำมาเผาบนแท่นนี้เลย และอย่าเทเครื่องดื่มบูชาบนแท่นนี้ 10 อาโรนจะทำพิธีลบมลทินชำระแท่นปีละครั้งโดยต้องใช้เลือดของเครื่องบูชาไถ่บาปทาเชิงงอน จงปฏิบัติตามกฎข้อนี้ทุกๆ ปีสืบไปทุกชั่วอายุ เพราะแท่นนี้เป็นแท่นบริสุทธิ์ที่สุดแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า” เงินค่าไถ่ชีวิต 11 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 12 “เมื่อเจ้าทำสำมะโนประชากรชนอิสราเอลเพื่อนับจำนวนพวกเขา ให้ทุกคนที่เข้าชื่อแล้วนำค่าไถ่ชีวิตมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อไม่ให้เกิดภัยพิบัติขึ้นในหมู่พวกเขา 13 ค่าไถ่ชีวิตดังกล่าวคือเงินหนักครึ่งเชเขลตามเชเขลของสถานนมัสการ ซึ่ง 1 เชเขลหนัก 20 เกราห์ […]