สุภาษิต 21

1 พระทัยของกษัตริย์อยู่ในพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเหมือนธารน้ำไหล ซึ่งพระเจ้าทรงนำไปสู่คนทั้งปวงที่พระองค์พอพระทัย 2 ทางทั้งสิ้นของมนุษย์ก็ดูถูกต้องในสายตาของเขา แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประเมินจิตใจ 3 การทำสิ่งที่ถูกต้องและยุติธรรม เป็นที่ปรารถนาขององค์พระผู้เป็นเจ้ายิ่งกว่าเครื่องบูชา 4 ตาเย่อหยิ่งและใจผยองคือทุ่งนาที่ไม่ได้หว่านไถของคนชั่ว ทั้งสองสิ่งนี้ล้วนเป็นบาป 5 แผนงานของคนขยันนำมาซึ่งผลกำไร เช่นเดียวกับที่ความรีบร้อนนำมาซึ่งความขัดสน 6 ทรัพย์สินที่ได้มาจากลิ้นโป้ปด คือหมอกควันที่จางหาย และกับดักมรณะ 7 ความอำมหิตของคนชั่วจะลากพวกเขาไปสู่หายนะ เพราะเขาไม่ยอมทำสิ่งที่ถูกต้อง 8 วิถีทางของผู้ทำผิดนั้นคดเคี้ยว ส่วนความประพฤติของผู้บริสุทธิ์นั้นเที่ยงตรง 9 อยู่ที่มุมดาดฟ้า ดีกว่าอยู่ร่วมชายคากับภรรยาที่ชอบหาเรื่อง 10 คนชั่วปรารถนาชั่ว เพื่อนบ้านไม่เคยได้รับความเมตตาจากเขา 11 เมื่อคนชอบเยาะเย้ยถูกลงโทษ คนอ่อนต่อโลกก็เกิดปัญญา เมื่อฟังคนฉลาด เขาก็ได้ความรู้ 12 องค์ผู้ทรงธรรมจับตาดูบ้านของคนชั่ว และฉุดคนชั่วลงสู่หายนะ 13 คนที่ปิดหูจากเสียงร่ำร้องของคนจน ก็จะร่ำร้องและไม่ได้รับคำตอบเช่นกัน 14 ของกำนัลที่แอบให้ก็ช่วยบรรเทาความโกรธ สินบนซึ่งซุกอยู่ในกระเป๋าก็ช่วยลดหย่อนผ่อนโทษร้ายแรง 15 การผดุงความยุติธรรมทำให้ผู้ชอบธรรมชื่นชมยินดี แต่ทำให้ผู้ทำชั่วขวัญหนีดีฝ่อ 16 คนที่เตลิดไปจากทางแห่งความเข้าใจ จะจบลงในหมู่คนตาย 17 ผู้ที่รักความสนุกสนานจะยากจน ผู้ที่รักเหล้าองุ่นและน้ำมันมะกอกจะไม่มีวันร่ำรวย 18 […]

สุภาษิต 22

1 ชื่อเสียงดีน่าปรารถนายิ่งกว่าทรัพย์สมบัติมหาศาล เป็นที่ยกย่องก็ดีกว่าได้เงินหรือทอง 2 คนรวยคนจนก็เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างพวกเขาทั้งหมด 3 คนมีวิจารณญาณเห็นภัยอันตรายและหลบเข้าที่กำบัง ส่วนคนโง่เดินลุยต่อไปและต้องทุกข์ทนกับผลที่ตามมา 4 ความถ่อมสุภาพคือการยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า รางวัลของมันคือ ความมั่งคั่ง เกียรติ และชีวิต 5 เส้นทางของคนชั่วมีกับดักและตาข่าย ส่วนผู้ที่ปกป้องชีวิตของตนก็หลีกห่างจากทางนั้น 6 จงอบรมเด็กในทางที่เขาควรจะไป และเมื่อเขาโตขึ้น เขาจะไม่หันเหไปจากทางนั้น 7 คนรวยปกครองคนจน ลูกหนี้ก็เป็นทาสของเจ้าหนี้ 8 ผู้หว่านความอยุติธรรมก็เก็บเกี่ยวความทุกข์ร้อน อำนาจอันน่าสะพรึงกลัวของเขาจะถูกทำลายลง 9 ความสุขมีแก่คนใจกว้าง เพราะเขาแบ่งปันอาหารแก่ผู้ยากไร้ 10 จงขับไล่คนชอบเยาะเย้ยออกไป การต่อสู้ชิงดีจะได้จบสิ้น การสบประมาทและการทะเลาะวิวาทจะได้ยุติ 11 ผู้ที่รักจิตใจอันบริสุทธิ์และมีวาจาอ่อนโยน จะได้เป็นมิตรกับกษัตริย์ 12 พระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปกป้องความรู้ แต่ทรงลบล้างถ้อยคำของคนไม่ซื่อสัตย์ 13 คนเกียจคร้านพูดว่า “มีสิงโตอยู่ข้างนอก!” “ฉันจะถูกมันฆ่ากลางถนน!” 14 ปากของหญิงแพศยาเหมือนหลุมลึก ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสาปแช่งจะตกลงไปในนั้น 15 ความเขลาฝังแน่นอยู่ในใจของเด็ก แต่ไม้เรียวที่ตีสั่งสอนจะช่วยไล่มันออกไป 16 ผู้ที่ขูดรีดคนยากจนเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งให้ตนเอง และผู้ที่ให้ของกำนัลแก่คนร่ำรวย ทั้งสองจะมาถึงความขัดสน […]

สุภาษิต 23

คำสอนที่ 1 เมื่อเจ้ารับประทานอาหารร่วมกับเจ้าบ้านผ่านเมือง จงระมัดระวังสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเจ้าให้ดี 2 หากเจ้าตะกละเห็นแก่กิน ก็จงเอามีดจ่อคอหอยตนเองไว้ 3 อย่าปรารถนาสิ่งโอชะของเขา เพราะอาหารนั้นเป็นสิ่งลวงตา คำสอนที่ 4 อย่าตรากตรำจนอ่อนล้าเพียงเพื่อหวังร่ำรวย อย่าวางใจในความเฉลียวฉลาดของเจ้า 5 แค่พริบตาเดียวทรัพย์สมบัติก็จะลับหายไป เพราะมันจะติดปีกบิน หนีไปในท้องฟ้าเหมือนนกอินทรี คำสอนที่ 6 อย่ากินอาหารของคนตระหนี่ถี่เหนียว อย่าปรารถนาสิ่งโอชะของเขา 7 เพราะเขาเป็นคนชนิดที่คอยคิดคำนวณอยู่ในใจ ปากก็พูดว่า “เชิญกินดื่มเถิด” แต่ใจไม่ได้อยู่กับเจ้าเลย 8 เจ้าจะต้องสำรอกสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่กินเข้าไป และต้องสิ้นเปลืองคำขอบคุณ คำสอนที่ 9 อย่าเปลืองลมปากกับคนโง่ เพราะเขาจะเหยียดหยามคำแนะนำที่ฉลาดของเจ้า คำสอนที่ 10 อย่าโยกย้ายหลักเขตเก่าแก่ หรือรุกล้ำที่ดินของลูกกำพร้าพ่อ 11 เพราะองค์ผู้ปกป้องของเขาทรงเข้มแข็ง พระองค์จะทรงว่าความให้เขา คำสอนที่ 12 จงเปิดใจรับคำสั่งสอน และเงี่ยหูฟังถ้อยคำแห่งความรู้ คำสอนที่ 13 อย่าละเลยการตีสั่งสอนลูก หากเจ้าตีสอนลูกด้วยไม้เรียว เขาจะไม่ตาย 14 เจ้าต้องตีสอนเขาด้วยไม้เรียว แล้วจะช่วยเขาให้พ้นจากความตาย […]

สุภาษิต 24

คำสอนที่ 1 อย่าอิจฉาคนชั่ว อย่าปรารถนาจะเป็นเพื่อนเขา 2 เพราะใจของเขาคิดวางแผนทารุณ และเอ่ยปากถึงการก่อความเดือดร้อน คำสอนที่ 3 บ้านนั้นสร้างขึ้นโดยสติปัญญา และสถาปนาขึ้นด้วยความเข้าใจ 4 โดยความรู้ ห้องต่างๆ ก็เต็มไปด้วย ทรัพย์สมบัติล้ำค่าที่งดงามและหายาก คำสอนที่ 5 คนฉลาดทรงอำนาจยิ่งนัก และผู้มีความรู้ก็มีกำลัง 6 แน่นอน เจ้าต้องการคำแนะนำเมื่อทำสงคราม มีที่ปรึกษามากย่อมได้รับชัยชนะ คำสอนที่ 7 สติปัญญาอยู่สูงเกินเอื้อมสำหรับคนโง่ เขาไม่ควรเปิดปากพูดในที่ประชุมที่ประตูเมือง คำสอนที่ 8 ผู้ที่คิดการชั่ว จะถูกเรียกว่าคนเจ้าอุบาย 9 อุบายของความโง่เขลาเป็นบาป และผู้คนชิงชังนักเยาะเย้ย คำสอนที่ 10 หากเจ้าท้อแท้ในยามทุกข์ร้อน ก็แสดงว่ากำลังของเจ้าน้อยนัก! 11 จงช่วยผู้ที่ถูกนำไปสู่ความตาย และช่วยรั้งผู้ที่โซซัดโซเซไม่ให้ถูกเข่นฆ่า 12 หากเจ้าว่า “เราไม่รู้เรื่องนี้เลย” พระองค์ผู้ทรงชั่งใจของเจ้าจะไม่เห็นหรือ? พระองค์ผู้ทรงดูแลชีวิตของเจ้าอยู่จะไม่รู้หรือ? พระองค์จะไม่ทรงตอบแทนแก่แต่ละคนตามการกระทำของเขาหรือ? คำสอนที่ 13 ลูกเอ๋ย จงกินน้ำผึ้งเพราะเป็นสิ่งดี น้ำผึ้งที่หยดจากรวงนั้นหวานชื่นใจ 14 จงรู้เถิดว่าสติปัญญาก็หวานเหมือนน้ำผึ้งสำหรับชีวิตเจ้า […]

สุภาษิต 25

สุภาษิตเพิ่มเติมของโซโลมอน 1 ต่อไปนี้เป็นสุภาษิตของโซโลมอน ซึ่งคนของกษัตริย์เฮเซคียาห์แห่งยูดาห์คัดลอกและรวบรวมไว้ 2 พระเจ้าทรงได้รับเกียรติจากการที่ทรงปิดบังสิ่งต่างๆ และเหล่ากษัตริย์ได้รับเกียรติจากการพินิจพิเคราะห์สิ่งต่างๆ 3 ฟ้าสูงแผ่นดินลึกฉันใด พระทัยของเหล่ากษัตริย์ก็สุดจะพินิจพิเคราะห์ฉันนั้น 4 เมื่อไล่ขี้แร่ออกจากเงิน ช่างเงินก็จะสร้างสรรค์ภาชนะได้ 5 เช่นเดียวกัน เมื่อไล่คนชั่วให้พ้นจากกษัตริย์แล้ว ราชบัลลังก์ก็จะยั่งยืนโดยความชอบธรรม 6 อย่ายกยอตนเองต่อหน้ากษัตริย์ หรืออวดอ้างตนเป็นคนสำคัญ 7 จงรอให้กษัตริย์เชื้อเชิญว่า “มาที่นี่เถิด” ดีกว่าพระองค์ทำให้เจ้าอับอายต่อหน้าขุนนาง สิ่งที่เจ้าได้เห็นกับตา 8 อย่ารีบร้อนนำไปฟ้องร้องที่ศาล เพราะในบั้นปลายเจ้าจะทำอย่างไร หากเพื่อนบ้านของเจ้าทำให้เจ้าอับอายขายหน้า? 9 หากเจ้ามีเรื่องฟ้องร้องกับเพื่อนบ้าน อย่าใส่ร้ายเขาให้คนอื่นไม่ไว้ใจ 10 เกรงว่าผู้ที่ได้ยินจะฉีกหน้าเจ้า และเจ้าต้องเสียชื่อเสียงไม่จบสิ้น 11 คำพูดที่เหมาะกับกาลเทศะ ก็เหมือนแอปเปิ้ลทองคำล้อมเงิน 12 คำตักเตือนของตุลาการผู้ชาญฉลาดสำหรับหูที่รับฟัง ก็เหมือนต่างหูทองหรือเครื่องประดับทองเนื้อดี 13 ผู้สื่อสารที่ไว้ใจได้ ก็เหมือนน้ำเย็นจากหิมะในฤดูเก็บเกี่ยว ทำให้นายที่ส่งเขาไปชื่นใจ 14 ผู้ที่อวดเรื่องของกำนัลซึ่งตนไม่ได้ให้ ก็เหมือนเมฆและลมที่ไม่ให้ฝน 15 จงอดทน แล้วจะชนะใจเจ้านายได้ ลิ้นที่อ่อนโยนสามารถบดขยี้กระดูกได้ 16 เมื่อพบน้ำผึ้ง จงกินแต่พอประมาณ […]

สุภาษิต 26

1 เกียรติยศไม่คู่ควรกับคนโง่ ก็เหมือนหิมะในฤดูร้อนหรือฝนในฤดูเก็บเกี่ยว 2 คำแช่งด่าที่ไร้เหตุก็ไม่ส่งผล ก็เหมือนนกกระจอกหรือนกนางแอ่นบินร่อนไปมาไร้จุดหมาย 3 แส้สำหรับม้า บังเหียนสำหรับลา และไม้เรียวสำหรับหลังของคนโง่! 4 อย่าตอบคนโง่ด้วยความโง่ของเขา มิฉะนั้นเจ้าเองจะเป็นเหมือนเขา 5 จงตอบคนโง่ด้วยความโง่ของเขา มิฉะนั้นเขาจะคิดว่าตนเองฉลาด 6 วางใจคนโง่ให้เป็นทูตส่งสาร ก็เหมือนตัดเท้าออกหรือดื่มยาพิษ 7 ภาษิตในปากของคนโง่ ก็เหมือนขาพิการที่ใช้การไม่ได้ 8 การให้เกียรติคนโง่ ก็เหมือนผูกหินติดกับสลิง 9 ภาษิตในปากของคนโง่ ก็เหมือนพุ่มหนามในมือของคนขี้เมา 10 ผู้ที่จ้างคนโง่หรือใครก็ได้ที่ผ่านไปมา ก็เหมือนนักธนูที่ยิงกราดไปมา 11 สุนัขหวนกลับไปหาสิ่งที่มันสำรอกออกมาฉันใด คนโง่ก็กลับไปทำสิ่งโง่เขลาซ้ำซากฉันนั้น 12 เจ้าเห็นพวกคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดไหม ยังมีความหวังในคนโง่มากกว่าพวกเขาเสียอีก 13 คนเกียจคร้านพูดว่า “มีสิงโตอยู่ที่ถนน มีสิงห์ร้ายเดินไปมาตามท้องถนน!” 14 ประตูเปิดปิดไปมาที่บานพับฉันใด คนเกียจคร้านก็พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงฉันนั้น 15 คนเกียจคร้านแช่มือคาอยู่ในชาม ขี้เกียจเกินกว่าจะหยิบอาหารใส่ปากตนเอง 16 คนเกียจคร้านคิดว่าตัวเองฉลาด กว่าคนเจ็ดคนที่ตอบอย่างมีเหตุมีผล 17 การแส่เข้าไปกลางวงวิวาทที่ไม่ใช่ธุระของตน เปรียบเหมือนคนที่กระชากหูสุนัขจรจัด 18 เหมือนคนบ้าที่กราดยิงลูกศรเพลิง […]

สุภาษิต 27

1 อย่าโอ้อวดเรื่องของวันพรุ่งนี้ เพราะเจ้าไม่รู้ว่าในวันหนึ่งจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง 2 อย่ายกย่องตัวเองด้วยปากของเจ้าเอง ให้คนอื่นเป็นผู้ยกย่อง ไม่ใช่ด้วยริมฝีปากของเจ้าเอง 3 หินก็หนัก ทรายก็หนัก แต่การยั่วโมโหของคนโง่หนักยิ่งกว่าทั้งสองอย่างนั้น 4 ความโกรธนั้นโหดร้าย และโทสะนั้นท่วมท้น แต่ใครเล่าจะทนเผชิญความอิจฉาริษยาได้? 5 ตักเตือนอย่างเปิดเผย ยังดีกว่าซ่อนคำเตือนไว้ด้วยความรัก 6 บาดแผลที่เพื่อนทำก็ยังน่าเชื่อถือ แต่จูบของศัตรูก็พร่ำเพรื่อไม่จริงใจ 7 คนที่อิ่มแล้วเหยียบย่ำน้ำผึ้งจากรวง ส่วนผู้ที่หิวโหย ทุกสิ่งที่ขมก็มีรสหวาน 8 คนที่เตลิดหนีออกจากบ้าน ก็เหมือนนกเตลิดหนีออกจากรัง 9 น้ำอบน้ำหอมทำให้ชื่นใจ คำแนะนำจากใจของเพื่อนทำให้ชื่นจิต 10 อย่าละทิ้งมิตรสหายของเจ้าหรือของครอบครัวเจ้า และอย่าไปบ้านพี่น้องเมื่อเจ้าทุกข์ยากลำบาก เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ก็ดีกว่าพี่น้องที่อยู่ไกล 11 ลูกเอ๋ย จงฉลาดและทำให้เราปลาบปลื้มใจ เราจะได้ตอบคนที่สบประมาทเรา 12 คนมีวิจารณญาณเห็นภัยอันตรายและหลบเข้าที่กำบัง ส่วนคนโง่เดินลุยต่อไปและต้องทุกข์ทนกับผลที่ตามมา 13 จงยึดเสื้อผ้าของผู้ที่ค้ำประกันให้แก่คนแปลกหน้า ยึดไว้เป็นมัดจำ เมื่อเขาประกันให้หญิงเสเพล 14 ผู้ที่มาแผดเสียงอวยพรเพื่อนบ้านแต่เช้ามืด เขาจะถือว่าเป็นคำสาปแช่ง 15 ภรรยาที่ชอบหาเรื่อง ก็เหมือนหลังคารั่วภายใต้พายุฝน 16 ห้ามนางก็เหมือนห้ามลม หรือเอามือคว้าน้ำมัน […]

สุภาษิต 28

1 คนชั่วเตลิดหนีแม้ไม่มีใครไล่ตาม แต่คนชอบธรรมอาจหาญดั่งราชสีห์ 2 เมื่อประเทศชาติเกิดกบฏก็มีเจ้าขุนมูลนายหลายคน แต่ผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจจะรักษาความสงบเรียบร้อยไว้ 3 ผู้ครอบครองที่กดขี่คนยากจน ก็เหมือนฝนตกหนักที่ทำลายพืชผล 4 ผู้ละทิ้งบทบัญญัติก็เชิดชูคนชั่ว แต่ผู้ที่รักษาบทบัญญัติก็ต่อต้านคนชั่ว 5 คนชั่วไม่เข้าใจสิ่งที่ถูกต้อง แต่ผู้ที่แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าเข้าใจถ่องแท้ 6 เป็นคนยากจนแต่ดำเนินชีวิตอย่างซื่อสัตย์สุจริต ดีกว่าเป็นคนรวยแต่อยู่บนทางคดโกง 7 ลูกที่มีความรู้ความเข้าใจก็ปฏิบัติตามคำสั่งสอน แต่ผู้ที่คบกับคนตะกละก็ทำให้พ่ออับอายขายหน้า 8 ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นเพราะดอกเบี้ยจากคนจน จะตกมาอยู่ในมือของผู้ที่เมตตาคนจน 9 คนที่ปิดหูไม่ยอมฟังคำสั่งสอน แม้แต่คำอธิษฐานของเขาก็น่าชิงชัง 10 ผู้ที่พาคนเที่ยงธรรมไปในทางชั่ว จะตกลงในกับดักของตัวเอง แต่ผู้ที่ไร้ตำหนิจะได้รับสิ่งดีเป็นมรดก 11 คนรวยมักคิดว่าตนฉลาด แต่คนจนที่มีความรู้ความเข้าใจก็จะมองเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง 12 เมื่อคนชอบธรรมมีชัย ผู้คนมากมายพากันออกมารื่นเริงยินดี แต่เมื่อคนชั่วเรืองอำนาจ ต้องออกไปเสาะหาผู้คน 13 ผู้ที่ปกปิดบาปของตนจะไม่เจริญ แต่ผู้ที่สารภาพผิดและละทิ้งบาปจะพบความเมตตากรุณา 14 ความสุขมีแก่ผู้ที่ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ แต่ผู้ที่ทำใจแข็งกระด้างจะตกที่นั่งลำบาก 15 คนชั่วซึ่งปกครองคนยากจน ก็เหมือนสิงห์ที่คำรามหรือหมีที่รี่เข้าใส่ 16 ผู้ปกครองที่ขาดสำนึกที่ดีก็รังแกประชาชน แต่ผู้ที่ชิงชังผลประโยชน์ที่ได้มาโดยทุจริตจะมีชีวิตยืนยาว 17 ผู้ที่ทุกข์ทรมานเพราะความผิดจากการฆ่าคนอื่น จะต้องหลบหนีไปจนตาย อย่าให้ผู้ใดช่วยเขาเลย […]

สุภาษิต 29

1 ผู้ที่ถูกตักเตือนบ่อยๆ แต่ยังทำคอแข็งไม่ฟัง จะแหลกสลายเกินเยียวยาในชั่วพริบตา 2 เมื่อคนชอบธรรมเจริญ ผู้คนก็ชื่นชมยินดี เมื่อคนชั่วขึ้นปกครอง ผู้คนก็โอดครวญ 3 ชายที่รักสติปัญญาทำให้พ่อสุขใจ แต่คนที่คบหาสมาคมกับหญิงโสเภณีก็จะหมดเนื้อหมดตัว 4 กษัตริย์สร้างความมั่นคงให้ชาติด้วยความยุติธรรม แต่กษัตริย์ที่รับสินบนก็ทำลายชาติ 5 ผู้ที่ประจบสอพลอเพื่อนบ้านของตน ก็กางข่ายไว้ดักเท้าของตน 6 คนเลวติดกับเพราะบาปของตน แต่คนชอบธรรมโห่ร้องยินดี 7 คนชอบธรรมใส่ใจในความยุติธรรมเพื่อผู้ยากไร้ แต่คนชั่วไม่แยแส 8 คนชอบเยาะเย้ยทำให้บ้านเมืองโกลาหล แต่คนฉลาดทำให้ความโกลาหลสงบลง 9 หากคนฉลาดต้องเผชิญหน้ากับคนโง่ในศาล คนโง่ก็จะโกรธจนตัวสั่น หัวเราะเย้ยหยัน และไม่มีความสงบสุข 10 คนกระหายเลือดเกลียดชังคนสุจริต และหาทางกำจัดผู้ที่เที่ยงธรรม 11 คนโง่เขลาระบายความโกรธเต็มที่ แต่คนฉลาดจะสงบนิ่งได้ในที่สุด 12 ถ้าผู้ครอบครองฟังความเท็จ ข้าราชการทุกคนของเขาจะกลายเป็นคนชั่วไปด้วย 13 ผู้ยากไร้และผู้กดขี่ข่มเหงก็เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานตาที่แลเห็นให้พวกเขาทั้งคู่ 14 หากกษัตริย์ให้ความเที่ยงธรรมแก่ผู้ยากไร้ ราชบัลลังก์ก็จะยืนยงเสมอ 15 ไม้เรียวและการลงโทษจะให้ปัญญา แต่เด็กที่ถูกปล่อยปละละเลยจะทำให้แม่อับอายขายหน้า 16 เมื่อคนชั่วเจริญ บาปก็ทวีขึ้น แต่คนชอบธรรมจะเห็นความล่มจมของเหล่าคนชั่ว 17 […]

สุภาษิต 30

คำสอนของอากูร์ 1 นี่คือคำสอนของอากูร์บุตรยาเคห์ เป็นถ้อยคำที่ได้รับการดลใจ เขากล่าวกับอิธีเอลว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์อ่อนล้า แต่ข้าพระองค์มีชัยได้ 2 ข้าพเจ้าโง่เขลาเกินกว่าจะเป็นมนุษย์ ที่จริง ข้าพเจ้าไม่มีความเข้าใจอย่างมนุษย์ทั่วไป 3 ข้าพเจ้าไม่ได้เรียนรู้สติปัญญา และไม่รู้จักองค์บริสุทธิ์ 4 ใครเล่าได้ขึ้นสู่สวรรค์และลงมา? ใครเล่าได้กำกระแสลมไว้ในอุ้งมือ? ใครเล่าได้ห่อหุ้มห้วงน้ำไว้ในเสื้อคลุม? ใครเล่าได้สถาปนาทั่วทุกมุมโลก? ผู้นั้นมีนามว่าอะไร? และบุตรของผู้นั้นมีนามว่าอะไร? แน่นอน เจ้ารู้! 5 “พระดำรัสทุกคำของพระเจ้าไม่มีข้อผิดพลาด พระองค์ทรงเป็นโล่สำหรับบรรดาผู้ที่ลี้ภัยในพระองค์ 6 อย่าเพิ่มเติมพระวจนะของพระองค์ มิฉะนั้นพระองค์จะทรงตำหนิเจ้า และเจ้าจะถูกจับได้ว่าโกหก 7 “ข้าพระองค์ทูลขอสองสิ่งจากพระองค์ ขออย่าทรงปฏิเสธก่อนที่ข้าพระองค์จะตายไป 8 คือขอให้สิ่งเท็จเทียมและคำโกหกห่างไกลจากข้าพระองค์ ขออย่าให้ข้าพระองค์ยากจนหรือร่ำรวย แต่ขอโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ 9 มิฉะนั้นข้าพระองค์อาจอิ่มหนำสำราญแล้วปฏิเสธพระเจ้า และพูดว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นใครกัน?’ หรือข้าพระองค์อาจยากจนแล้วลักขโมย ก็ลบหลู่พระนามพระเจ้าของข้าพระองค์ 10 “อย่ากล่าวร้ายคนรับใช้ให้นายเขาฟัง เกรงว่าผู้นั้นจะแช่งด่าเจ้า และเจ้าต้องชดใช้ 11 “มีบางคนแช่งด่าพ่อ และไม่อวยพรแม่ของตน 12 บางคนคิดว่าตัวเองบริสุทธิ์ ทั้งที่ยังไม่ได้รับการชำระมลทิน 13 […]