สดุดี 71

1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ลี้ภัยในพระองค์ ขออย่าให้ข้าพระองค์อับอายเลย 2 ขอทรงช่วยและปลดปล่อยข้าพระองค์ในความชอบธรรมของพระองค์ ขอทรงเอียงพระกรรณสดับฟังและช่วยกู้ข้าพระองค์ 3 ขอทรงเป็นศิลาให้ข้าพระองค์เข้าลี้ภัย ซึ่งข้าพระองค์สามารถเข้าพักพิงได้เสมอ ขอทรงบัญชาให้ช่วยกู้ข้าพระองค์ เพราะพระองค์ทรงเป็นศิลาและเป็นป้อมปราการของข้าพระองค์ 4 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากมือของคนชั่ว พ้นจากเงื้อมมือของเหล่าคนโหดร้ายทารุณ 5 ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต เพราะพระองค์ทรงเป็นความหวังของข้าพระองค์ เป็นความมั่นใจของข้าพระองค์มาตั้งแต่เยาว์วัย 6 ข้าพระองค์พึ่งพาพระองค์มาตั้งแต่เกิด พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์มารดา ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ตลอดไป 7 ผู้คนมากมายประหลาดใจเกี่ยวกับข้าพระองค์ แต่พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยอันแข็งแกร่งของข้าพระองค์ 8 ริมฝีปากของข้าพระองค์เต็มล้นด้วยคำสรรเสริญพระองค์ ประกาศพระบารมีตลอดทั้งวัน 9 ขออย่าทรงละทิ้งข้าพระองค์เมื่อข้าพระองค์แก่เฒ่า ขออย่าทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เมื่อข้าพระองค์สิ้นแรง 10 เพราะศัตรูของข้าพระองค์พูดให้ร้ายข้าพระองค์ ผู้ที่คอยจะเอาชีวิตของข้าพระองค์คบคิดกัน 11 เขากล่าวว่า “พระเจ้าทรงละทิ้งเขาแล้ว ให้เราไล่ล่าและจับกุมเขา เพราะไม่มีใครช่วยกู้เขาหรอก” 12 ข้าแต่พระเจ้า ขออย่าทรงห่างไกลข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงรีบรุดมาช่วยข้าพระองค์ 13 ขอให้ผู้ปรักปรำข้าพระองค์พินาศไปด้วยความอับอาย ขอให้ผู้มุ่งร้ายข้าพระองค์มีแต่ความอัปยศอดสู 14 แต่ส่วนข้าพระองค์จะยังมีความหวังอยู่เสมอ ข้าพระองค์จะถวายสรรเสริญแด่พระองค์มากยิ่งๆ ขึ้น 15 ปากของข้าพระองค์จะกล่าวถึงความชอบธรรมของพระองค์ จะเล่าถึงความรอดของพระองค์ทั้งวัน […]

สดุดี 72

(บทประพันธ์ของโซโลมอน) 1 ข้าแต่พระเจ้า ขอประทานความยุติธรรมของพระองค์แก่กษัตริย์องค์นั้น และความชอบธรรมของพระองค์แก่ราชโอรส 2 กษัตริย์จะพิพากษาประชากรของพระองค์ด้วยความชอบธรรม ให้ความยุติธรรมแก่ผู้ทุกข์ลำเค็ญ 3 ขอให้ภูเขานำความมั่งคั่งมาสู่ประชาชน เนินเขาให้ผลผลิตแห่งความชอบธรรม 4 ขอให้ท่านปกป้องผู้ทุกข์ลำเค็ญในหมู่ประชาชน และช่วยกู้ลูกหลานของผู้ยากไร้ ขอให้ท่านบดขยี้คนที่ข่มเหงรังแกเขา 5 ขอให้ท่านยืนยงดั่งดวงอาทิตย์ ดั่งดวงจันทร์อยู่คู่ฟ้า คือตลอดทุกชั่วอายุคน 6 ขอให้ท่านเป็นเหมือนฝนที่ตกลงมารดทุ่งหญ้าโล่งเตียน เหมือนสายฝนที่รดผืนแผ่นดิน 7 ผู้ชอบธรรมจะเจริญรุ่งเรืองในรัชกาลของท่าน มีความผาสุกรุ่งเรืองไปจนกว่าดวงจันทร์จะดับสูญ 8 ขอให้ท่านครอบครองจากทะเลฟากหนึ่งจดทะเลอีกฟากหนึ่ง จากแม่น้ำนั้นจนสุดโลก 9 ขอให้ชนเผ่าต่างๆ ในถิ่นกันดารหมอบกราบท่าน ศัตรูของท่านจะสยบลงคลุกฝุ่น 10 ขอให้บรรดากษัตริย์แห่งทารชิชและแห่งหมู่เกาะทั้งหลาย นำเครื่องบรรณาการมาถวายท่าน เหล่ากษัตริย์จากเชบาและเสบา จะนำของกำนัลมาถวาย 11 ขอให้เหล่ากษัตริย์มาน้อมคำนับท่าน ประชาชาติทั้งปวงจะมาปรนนิบัติท่าน 12 เพราะท่านจะช่วยกู้คนยากไร้ผู้ร้องทุกข์ ช่วยเหลือผู้ทุกข์ลำเค็ญซึ่งไม่มีใครช่วย 13 ท่านมีใจสงสารผู้ที่อ่อนแอและขัดสน และช่วยชีวิตผู้ยากไร้ลำเค็ญ 14 ท่านจะช่วยเขาให้พ้นจากการกดขี่ข่มเหง และจากความทารุณโหดร้าย เพราะโลหิตของเขามีค่าในสายตาของท่าน 15 ขอให้ท่านอายุยืนนาน! ขอให้มีผู้นำทองคำจากเชบามาถวายท่าน ขอให้มีผู้อธิษฐานเผื่อท่านตลอดไป และอวยพรแก่ท่านตลอดวันเวลา […]

สดุดี 73

(บทสดุดีของอาสาฟ) 1 แน่ทีเดียว พระเจ้าทรงดีต่ออิสราเอล ต่อบรรดาผู้มีใจบริสุทธิ์ 2 แต่สำหรับข้าพเจ้า เท้าของข้าพเจ้าเกือบจะลื่นพลาด ข้าพเจ้าจวนเจียนจะเสียหลัก 3 เพราะข้าพเจ้าอิจฉาคนหยิ่งผยอง เมื่อข้าพเจ้าเห็นความเจริญรุ่งเรืองของคนชั่ว 4 พวกเขาไม่ต้องดิ้นรนต่อสู้ ร่างกายของเขาแข็งแรงและสุขภาพดี 5 เขาไม่ต้องแบกรับภาระเหมือนคนอื่นๆ เขาไม่ต้องเป็นทุกข์ด้วยโรคภัยไข้เจ็บ 6 ฉะนั้นเขาจึงคล้องความเย่อหยิ่งเป็นสร้อยคอ เขาสวมความรุนแรงเป็นอาภรณ์คลุมกาย 7 ความชั่วช้าออกมาจากใจที่ตายด้านของเขา ความคิดชั่วในจิตใจของเขาไร้ขีดจำกัด 8 เขาเย้ยหยัน พูดอย่างมุ่งร้าย และข่มขู่คุกคามอย่างโอหัง 9 ริมฝีปากของเขาอ้างสิทธิ์เหนือฟ้าสวรรค์ ลิ้นของเขาอวดอ้างกรรมสิทธิ์เหนือแผ่นดินโลก 10 ฉะนั้นคนของเขาจึงหันไปหาพวกเขา และดื่มห้วงน้ำหมดไปอย่างมากมาย 11 พวกเขาพูดว่า “พระเจ้าจะรู้ได้อย่างไร? องค์ผู้สูงสุดจะรู้หรือ?” 12 คนชั่วเป็นเช่นนี้แหละ สุขสบายอยู่ร่ำไป พวกเขาร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ 13 แน่ทีเดียว ข้าพเจ้ารักษาใจให้บริสุทธิ์ และชำระมือให้ปราศจากมลทินโดยเปล่าประโยชน์ 14 ข้าพเจ้าถูกรุมเล่นงานวันยังค่ำ และถูกลงโทษอยู่ทุกเช้า 15 หากข้าพเจ้าได้กล่าวว่า “เราจะพูดเช่นนั้น” ข้าพเจ้าก็คงจะได้ทรยศต่อลูกๆ ของพระองค์ 16 […]

สดุดี 74

(มัสคิล ของอาสาฟ) 1 ข้าแต่พระเจ้า เหตุใดจึงทรงทอดทิ้งข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นนิตย์? เหตุใดพระพิโรธของพระองค์จึงคุกรุ่นขึ้นต่อแกะในทุ่งหญ้าของพระองค์? 2 ขอทรงระลึกถึงเหล่าประชากรที่ทรงซื้อมาตั้งแต่ครั้งเก่าก่อน เผ่าพันธุ์ที่ทรงไถ่ไว้เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ ภูเขาศิโยนที่ประทับของพระองค์ 3 ขอทรงหันย่างพระบาทมายังซากปรักหักพังตลอดกาลเหล่านี้ ความย่อยยับทั้งหลายที่ศัตรูนำมาสู่สถานนมัสการ 4 บรรดาคู่อริของพระองค์โห่ร้องในพระนิเวศของพระองค์ พวกเขาตั้งธงรบของตนขึ้นเป็นหมายสำคัญ 5 พวกเขาทำตัวเหมือนคนตัดไม้ เงื้อขวานโค่นป่า 6 พวกเขาจามไม้ที่แกะสลักทั้งสิ้น พังลงด้วยขวานด้ามใหญ่น้อย 7 พวกเขาเผาสถานนมัสการของพระองค์วอดวาย พวกเขาย่ำยีที่สถาปนาพระนามของพระองค์ 8 พวกเขาคิดในใจว่า “เราจะขยี้ให้แหลกลาญ!” พวกเขาเผาผลาญที่นมัสการพระเจ้าทุกแห่งในแผ่นดิน 9 เราไม่ได้รับหมายสำคัญใดๆ เลย ไม่มีผู้เผยพระวจนะเหลืออยู่สักคนเดียว ไม่มีสักคนในพวกเรารู้ว่า จะเป็นเช่นนี้ไปนานสักเท่าใด 10 ข้าแต่พระเจ้า ศัตรูจะเย้ยหยันพระองค์ไปนานเท่าใด? ข้าศึกจะจาบจ้วงพระนามของพระองค์ตลอดไปหรือ? 11 เหตุใดจึงทรงยั้งพระหัตถ์ขวาของพระองค์ไว้? ขอทรงยื่นพระหัตถ์ขวาของพระองค์ออกมา และทำลายพวกเขา! 12 ข้าแต่พระเจ้า แต่พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ของข้าพระองค์มาตั้งแต่เก่าก่อน พระองค์ทรงนำความรอดมายังแผ่นดินโลก 13 พระองค์นี่แหละคือผู้ที่แยกทะเลด้วยฤทธานุภาพของพระองค์ พระองค์ทรงทำให้หัวของสัตว์ร้ายแห่งห้วงทะเลแหลกลาญ 14 พระองค์นี่แหละคือผู้ที่ขยี้หัวทั้งหลายของเลวีอาธาน และโยนให้เป็นอาหารของสัตว์ทั้งหลายในถิ่นกันดาร 15 พระองค์นี่แหละคือผู้ที่เปิดบ่อน้ำพุและลำธาร […]

สดุดี 75

(ถึงหัวหน้านักร้อง ทำนอง “อย่าทำลาย” บทสดุดีของอาสาฟ บทเพลง) 1 ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ทั้งหลายขอบพระคุณพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายขอบพระคุณเพราะพระนามของพระองค์อยู่ใกล้ ผู้คนเล่าขานถึงพระราชกิจอันอัศจรรย์ของพระองค์ 2 พระองค์ตรัสว่า “เราเลือกเวลาที่กำหนดไว้ เรานี่แหละเป็นผู้พิพากษาอย่างเที่ยงธรรม 3 เมื่อโลกสั่นสะเทือนและชาวโลกทั้งสิ้นสะทกสะท้าน เรานี่แหละเป็นผู้ที่ยึดเสาหลักของโลกไว้ให้ตั้งมั่นคง เสลาห์ 4 เราพูดกับคนหยิ่งผยองว่า ‘อย่าโอ้อวดอีกต่อไป’ และพูดกับคนชั่วว่า ‘อย่าลำพอง 5 อย่าลำพองต่อฟ้าสวรรค์ อย่าเชิดหน้าชูคอพูดจายโส’ ” 6 ไม่มีใครที่มาจากทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตก หรือมาจากถิ่นกันดารจะเชิดชูผู้หนึ่งผู้ใดได้ 7 แต่พระเจ้าต่างหากที่ทรงเป็นผู้ตัดสิน ทรงให้คนหนึ่งลง และทรงยกอีกคนหนึ่งขึ้น 8 ในพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้ามีถ้วยเหล้าองุ่นฟองฟูเต็มถ้วยผสมเครื่องเทศ พระองค์ทรงเทออก และคนชั่วทั้งโลกดื่มจนหมดไม่เว้นตะกอนก้นถ้วย 9 สำหรับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะประกาศเรื่องนี้เป็นนิตย์ ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าของยาโคบ 10 “เราจะโค่นอำนาจของคนชั่วทั้งปวง แต่จะเชิดชูอำนาจของคนชอบธรรม” —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/75-c7da2213224ce5877819607b2ead081a.mp3?version_id=179—

สดุดี 76

(ถึงหัวหน้านักร้อง บรรเลงเครื่องสาย บทสดุดีของอาสาฟ บทเพลง) 1 ในยูดาห์ พระเจ้าทรงเป็นที่รู้จัก ในอิสราเอลพระนามของพระองค์ยิ่งใหญ่ 2 ที่ประทับของพระองค์อยู่ในซาเลม ที่สถิตของพระองค์อยู่ในศิโยน 3 ที่นั่น พระองค์ทรงทำลายลูกศร โล่ ดาบ อาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหลาย เสลาห์ 4 พระองค์ทรงงามรุ่งโรจน์ด้วยความสว่าง ทรงมีพระบารมียิ่งกว่าภูเขาทั้งหลายที่อุดมด้วยสัตว์ป่า 5 บรรดาชายผู้เก่งกล้านอนสิ้นท่าเพราะถูกปล้น พวกเขาแน่นิ่ง หลับไม่ตื่นอีกเลย ไม่มีนักรบสักคน ที่สามารถยกมือขึ้นได้ 6 ข้าแต่พระเจ้าของยาโคบ เมื่อพระองค์ทรงกำราบ ทั้งม้าและรถม้าศึกก็ไม่ไหวติง 7 พระองค์แต่ผู้เดียวเป็นที่พึงยำเกรง เมื่อพระองค์ทรงพระพิโรธ ใครจะสามารถยืนอยู่ต่อหน้าพระองค์ได้? 8 พระองค์ทรงประกาศคำพิพากษาจากฟ้าสวรรค์ แผ่นดินโลกก็สะทกสะท้านและนิ่งเงียบ 9 ข้าแต่พระเจ้า เมื่อพระองค์ทรงลุกขึ้นพิพากษา เพื่อช่วยบรรดาผู้ทุกข์ลำเค็ญของดินแดน เสลาห์ 10 แน่ทีเดียว พระพิโรธของพระองค์ต่อมนุษย์นำการสรรเสริญมาสู่พระองค์ และผู้ที่อยู่รอดจากพระพิโรธของพระองค์จะถูกยับยั้ง 11 จงถวายปฏิญาณต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และทำให้สำเร็จตามที่ได้ปฏิญาณไว้นั้น ให้ดินแดนเพื่อนบ้านทั้งปวง นำเครื่องบรรณาการมาถวายแด่พระองค์ ผู้ทรงเป็นที่ยำเกรง 12 พระองค์ทรงทำให้เจ้านายถ่อมใจ […]

สดุดี 77

(ถึงหัวหน้านักร้อง ถึงเยดูธูน บทสดุดีของอาสาฟ) 1 ข้าพเจ้าร้องทูลขอให้พระเจ้าทรงช่วย ข้าพเจ้าร้องทูลให้พระเจ้าทรงสดับฟัง 2 ยามทุกข์ยาก ข้าพเจ้าแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า ยามค่ำคืนข้าพเจ้าชูมือวิงวอนไม่อ่อนล้า จิตวิญญาณของข้าพเจ้าไม่ยอมรับการปลอบประโลม 3 ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ระลึกถึงพระองค์ และร้องคร่ำครวญ ข้าพระองค์ครุ่นคิดและจิตวิญญาณของข้าพระองค์อ่อนระโหยไป เสลาห์ 4 พระองค์ทรงทำให้ตาของข้าพระองค์ไม่อาจปิดลงได้ ข้าพระองค์ทนทุกข์จนพูดไม่ออก 5 ข้าพระองค์คิดถึงวันคืนที่ผ่านมา ปีเดือนซึ่งล่วงเลยมานานแล้ว 6 ข้าพระองค์นึกถึงบทเพลงที่ร้องในยามค่ำคืน จิตใจของข้าพระองค์ครุ่นคิดและจิตวิญญาณก็เสาะหา 7 “องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทอดทิ้งตลอดไปหรือ? พระองค์จะไม่ทรงโปรดปรานอีกเลยหรือ? 8 ความรักมั่นคงของพระองค์สูญสิ้นไปเป็นนิตย์แล้วหรือ? พระสัญญาของพระองค์ล้มเลิกไปตลอดกาลหรือ? 9 พระเจ้าทรงลืมที่จะเมตตากรุณาแล้วหรือ? พระองค์ทรงระงับความสงสารเพราะพิโรธแล้วหรือ?” เสลาห์ 10 แล้วข้าพเจ้าก็คิดว่า “ข้าพเจ้าจะร้องอุทธรณ์ในเรื่องนี้ คือเรื่องปีเดือนที่องค์ผู้สูงสุดทรงสำแดงฤทธานุภาพแห่งพระหัตถ์ขวาของพระองค์” 11 ข้าพเจ้าจะระลึกถึงพระราชกิจทั้งปวงขององค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะระลึกถึงการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ในครั้งเก่าก่อน 12 ข้าพเจ้าจะใคร่ครวญถึงพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์ และตรึกตรองพระราชกิจอันเกรียงไกรทั้งปวงของพระองค์ 13 ข้าแต่พระเจ้า พระมรรคาของพระองค์บริสุทธิ์ พระใดเล่ายิ่งใหญ่เสมอเหมือนพระเจ้าของเรา? 14 พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงกระทำการอัศจรรย์ ทรงสำแดงเดชานุภาพท่ามกลางชนชาติต่างๆ 15 […]

สดุดี 78

(มัสคิล ของอาสาฟ) 1 ประชากรของข้าพเจ้าเอ๋ย จงฟังคำสอนของข้าพเจ้าเถิด จงรับฟังวาจาจากปากของข้าพเจ้า 2 ข้าพเจ้าจะเอื้อนเอ่ยคำอุปมา ข้าพเจ้าจะเผยสิ่งที่ซ่อนเร้นไว้ตั้งแต่โบราณกาล 3 สิ่งที่เราได้ยินและได้ทราบ สิ่งที่บรรพบุรุษของเราบอกต่อๆ กันมา 4 เราจะไม่ปิดบังไว้จากลูกหลานของพวกเขา จะบอกแก่คนรุ่นต่อมา ถึงบรรดาพระราชกิจอันสมควรแก่การสรรเสริญขององค์พระผู้เป็นเจ้า ถึงฤทธานุภาพของพระองค์และการอัศจรรย์ต่างๆ ที่พระองค์ได้ทรงกระทำ 5 พระองค์ทรงวางกฎเกณฑ์สำหรับยาโคบ และตั้งบทบัญญัติในอิสราเอล ซึ่งทรงบัญชาบรรพบุรุษของเรา ให้สอนลูกหลานของพวกเขา 6 เพื่อชนรุ่นหลังจะได้รู้ แม้แต่ลูกหลานที่จะเกิดมา และถึงคราวที่พวกเขาจะต้องบอกลูกหลานของตนต่อไป 7 เพื่อพวกเขาจะได้วางใจในพระเจ้า และไม่ลืมสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ และจะปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์ 8 พวกเขาจะได้ไม่ต้องเป็นเหมือนบรรพบุรุษ ซึ่งดื้อดึงและชอบกบฏ จิตใจไม่จงรักภักดีต่อพระเจ้า จิตวิญญาณไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ 9 แม้ชนเผ่าเอฟราอิมมีธนูเป็นอาวุธครบครัน ก็ยังหันหลังวิ่งหนีไปในยามสงคราม 10 เพราะเขาไม่รักษาพันธสัญญาของพระเจ้า ไม่ยอมดำเนินชีวิตตามบทบัญญัติของพระองค์ 11 เขาลืมสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ ลืมการอัศจรรย์ต่างๆ ที่ได้ทรงสำแดงแก่เขา 12 พระองค์ทรงทำการอัศจรรย์ต่อหน้าต่อตาบรรพบุรุษของเขา ในดินแดนอียิปต์ ในเขตแดนโศอัน 13 พระองค์ทรงแยกทะเลและนำพวกเขาเดินข้ามไป พระองค์ทรงทำให้น้ำตั้งขึ้นเป็นกำแพง 14 […]

สดุดี 79

(บทสดุดีของอาสาฟ) 1 ข้าแต่พระเจ้า ชนชาติทั้งหลายได้รุกรานกรรมสิทธิ์ของพระองค์ พวกเขาทำให้พระวิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เป็นมลทิน พวกเขาทำให้เยรูซาเล็มกลายเป็นซากปรักหักพัง 2 พวกเขาปล่อยให้ศพผู้รับใช้ของพระองค์ เป็นอาหารของฝูงนกในอากาศ ให้เนื้อประชากรของพระองค์ตกเป็นอาหารของสัตว์ร้ายในแผ่นดิน 3 พวกเขาทำให้เลือดหลั่งรินทั่วเยรูซาเล็ม ดั่งน้ำนอง ไม่มีใครสักคนที่จะจัดการฝังศพ 4 ข้าพระองค์ทั้งหลายตกเป็นคำเปรียบเปรยของเพื่อนบ้าน เป็นที่ดูหมิ่นและเยาะเย้ยของชนชาติโดยรอบ 5 อีกนานเพียงใด ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า? พระองค์จะทรงพระพิโรธไปตลอดกาลหรือ? อีกนานเพียงใดที่ความหึงหวงของพระองค์จะเผาผลาญดั่งไฟ? 6 ขอทรงเทพระพิโรธลงเหนือชนชาติทั้งหลาย ที่ไม่ยอมรับพระองค์ ลงเหนืออาณาจักรต่างๆ ที่ไม่ยอมร้องทูลโดยออกพระนามของพระองค์ 7 เพราะพวกเขาได้กลืนกินยาโคบ และทำลายล้างภูมิลำเนาของเขา 8 ขออย่าทรงให้โทษบาปของบรรพบุรุษมาตกกับข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอพระเมตตามาถึงข้าพระองค์ทั้งหลายโดยเร็ว เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายตกต่ำที่สุด 9 ข้าแต่พระเจ้าองค์พระผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายเถิด เพื่อเห็นแก่เกียรติสิริแห่งพระนามของพระองค์ โปรดช่วยกู้และอภัยบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์ 10 เหตุใดจะให้ชนชาติต่างๆ พูดได้ว่า “พระเจ้าของพวกเขาอยู่ที่ไหน?” ต่อหน้าต่อตาของเรา ขอให้ชนชาติทั้งหลายรับรู้โดยทั่วกันว่า พระเจ้าทรงแก้แค้นแทนโลหิตที่หลั่งรินของผู้รับใช้ของพระองค์ 11 ขอให้เสียงครวญครางของเหล่านักโทษมาถึงต่อหน้าพระองค์ โดยอานุภาพแห่งพระกรของพระองค์ ขอทรงไว้ชีวิตผู้ถูกสั่งประหาร 12 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงแก้แค้นบรรดาคนที่อยู่ล้อมรอบข้าพระองค์ ซึ่งกำลังลบหลู่พระองค์ให้รับโทษหนักถึงเจ็ดเท่า […]

สดุดี 80

(ถึงหัวหน้านักร้อง ทำนอง “ลิลลี่แห่งพันธสัญญา” บทสดุดีของอาสาฟ) 1 ข้าแต่พระผู้เลี้ยงของอิสราเอล ขอทรงสดับฟัง พระองค์ผู้ทรงนำโยเซฟอย่างนำฝูงแกะ พระองค์ผู้ทรงประทับเหนือเครูบ ขอทรงสำแดงพระเกียรติสิริของพระองค์ 2 ต่อหน้าเอฟราอิม เบนยามิน และมนัสเสห์ ขอทรงสำแดงพระเดชานุภาพ มาช่วยข้าพระองค์ทั้งหลาย 3 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายคืนสู่สภาพดี ขอพระพักตร์ของพระองค์ทอแสงเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้รับการช่วยให้รอด 4 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระพิโรธของพระองค์จะคุกรุ่น ต่อคำอธิษฐานของเหล่าประชากรของพระองค์ไปอีกนานเท่าใด? 5 พระองค์ทรงให้พวกเขากินน้ำตาต่างอาหาร ทรงให้พวกเขาดื่มน้ำตาเต็มอิ่ม 6 พระองค์ทรงกระทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นที่ดูหมิ่นของบรรดาเพื่อนบ้าน และเหล่าศัตรูเย้ยหยันเรา 7 ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ ขอทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายคืนสู่สภาพดี ขอพระพักตร์ของพระองค์ทอแสงเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้รับการช่วยให้รอด 8 พระองค์ทรงนำเถาองุ่นออกมาจากอียิปต์ ทรงขับไล่ชนชาติต่างๆ ออกไปและปลูกเถาองุ่นนั้นไว้ 9 พระองค์ทรงหักร้างถางพงและพรวนดิน แล้วเถาองุ่นก็หยั่งรากงอกคลุมทั่วดินแดน 10 แผ่ร่มเงาปกคลุมภูเขาต่างๆ ชูกิ่งก้านคลุมสนซีดาร์อันสูงใหญ่ 11 แผ่สาขาไปจดทะเล ชูแขนงไปถึงแม่น้ำ 12 เหตุใดพระองค์จึงทรงพังกำแพงลง? ทุกคนที่ผ่านไปมาก็เด็ดผลองุ่นไป 13 หมูป่ารุมทึ้งเถาองุ่น และสรรพสัตว์แห่งท้องทุ่งก็รุมกิน […]