สดุดี 41

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของดาวิด) 1 ความสุขมีแก่ผู้ที่ใส่ใจคนอ่อนแอ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยกู้เขาในยามเดือดร้อน 2 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงปกปักรักษาและสงวนชีวิตของเขา พระองค์จะทรงอวยพรเขาในแผ่นดิน และจะไม่ทรงปล่อยให้ศัตรูทำกับเขาตามใจชอบ 3 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงประคับประคองเขาในยามเจ็บป่วย และจะทรงช่วยให้เขาหายเป็นปกติ 4 ข้าพระองค์ทูลว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงเมตตาข้าพระองค์ โปรดรักษาข้าพระองค์ให้หาย เพราะข้าพระองค์ได้ทำบาปต่อพระองค์” 5 ศัตรูของข้าพระองค์พูดด้วยความมุ่งร้ายว่า “เมื่อไหร่เขาจะตายและสิ้นชื่อไป?” 6 เมื่อใดก็ตามที่มีคนมาดูข้าพระองค์ เขาก็ทำเป็นพูดดีทั้งๆ ที่ใจคิดร้าย แล้วก็ออกไปเที่ยวกระพือข่าว 7 ศัตรูทั้งหมดของข้าพระองค์รวมหัวกันนินทาว่าร้ายข้าพระองค์ และแช่งชักข้าพระองค์ว่า 8 “โรคร้ายกัดกินเขา เขาไม่มีวันลุกจากเตียงนั่นได้หรอก” 9 แม้แต่เพื่อนสนิทที่ข้าพระองค์ไว้วางใจ ผู้ที่รับประทานอาหารร่วมกับข้าพระองค์ ยังได้ทรยศหักหลังข้าพระองค์ 10 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าแต่ขอพระองค์โปรดเมตตาข้าพระองค์ด้วย ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ลุกขึ้นมาได้อีกเพื่อจะได้แก้แค้นพวกเขา 11 ข้าพระองค์ทราบว่าพระองค์ทรงพอพระทัยข้าพระองค์ เพราะศัตรูเอาชนะข้าพระองค์ไม่ได้ 12 พระองค์ทรงเชิดชูข้าพระองค์ไว้เพราะข้าพระองค์ซื่อสัตย์สุจริต ทรงตั้งข้าพระองค์ไว้ต่อหน้าพระองค์เป็นนิตย์ 13 ขอถวายสรรเสริญแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ตั้งแต่นิรันดรจวบจนนิรันดร อาเมนและอาเมน —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/41-b78e3844259499e6b2a6e709d210e0de.mp3?version_id=179—

สดุดี 42

(ถึงหัวหน้านักร้อง มัสคิล ของบุตรโคราห์) 1 ข้าแต่พระเจ้า กวางกระหายหาธารน้ำฉันใด จิตวิญญาณของข้าพระองค์ก็โหยหาพระองค์ฉันนั้น 2 จิตวิญญาณของข้าพระองค์กระหายหาพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ เมื่อไหร่หนอ ข้าพระองค์จะได้ไปเข้าเฝ้าต่อหน้าพระองค์? 3 ข้าพระองค์กินน้ำตาต่างอาหารทั้งวันทั้งคืน ขณะที่ผู้คนพูดกับข้าพระองค์วันยังค่ำว่า “พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน?” 4 ข้าพระองค์ยังจำสิ่งเหล่านี้ได้ เมื่อข้าพระองค์ระบายความในใจออกมา จำได้ถึงครั้งที่ข้าพระองค์เคยไปร่วมกับฝูงชน นำขบวนสู่พระนิเวศของพระเจ้า ด้วยเสียงโห่ร้องยินดีและขอบพระคุณพระเจ้า ในเทศกาลฉลอง 5 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย เหตุใดเจ้าจึงท้อแท้? เหตุใดจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายในข้าพเจ้า? จงหวังในพระเจ้า เพราะข้าพเจ้าจะยังคงสรรเสริญพระองค์ พระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้าและพระเจ้าของข้าพเจ้า 6 จิตวิญญาณของข้าพระองค์ท้อแท้อยู่ภายในข้าพระองค์ ฉะนั้นข้าพระองค์จะระลึกถึงพระองค์ จากดินแดนแห่งแม่น้ำจอร์แดน จากยอดภูเขาเฮอร์โมน จากภูเขามิซาร์ 7 ที่ลึกกู่เรียกที่ลึก ด้วยเสียงน้ำตกกึกก้องของพระองค์ กระแสคลื่นและน้ำหลากของพระองค์ ท่วมท้นข้าพระองค์ 8 ยามกลางวันองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาความรักมั่นคงของพระองค์ ยามกลางคืน บทเพลงของพระองค์อยู่กับข้าพเจ้า เป็นคำอธิษฐานต่อพระเจ้าแห่งชีวิตของข้าพเจ้า 9 ข้าพเจ้าทูลพระเจ้าพระศิลาของข้าพเจ้าว่า “เหตุใดทรงลืมข้าพระองค์แล้ว? เหตุใดข้าพระองค์ต้องระทมทุกข์ ต้องทนการข่มเหงรังแกของศัตรู?” 10 ข้าพระองค์ร้าวรานเข้าไปถึงกระดูก ยามเมื่อถูกศัตรูเหยียดหยาม ตลอดวันเขาเยาะเย้ยว่า “พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน?” […]

สดุดี 43

1 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงว่าความ และสู้คดีแทนข้าพระองค์ต่อประชาชาติอธรรม ขอทรงช่วยกู้ข้าพระองค์ให้พ้นจากคนชั่วร้ายและคนหลอกลวง 2 พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า เป็นที่มั่นของข้าพระองค์ เหตุใดทรงทอดทิ้งข้าพระองค์? เหตุใดข้าพระองค์ต้องระทมทุกข์ ต้องทนการข่มเหงรังแกของศัตรู? 3 ขอทรงโปรดส่งความสว่างและความจริงของพระองค์ มานำข้าพระองค์ไป ให้สิ่งเหล่านั้นนำข้าพระองค์ไปสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ สู่ที่ประทับของพระองค์ 4 แล้วข้าพระองค์จะไปยังแท่นบูชาของพระเจ้า ไปยังพระเจ้าผู้ทรงเป็นความชื่นชมยินดี และความปลื้มปีติของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงพิณ ข้าแต่พระเจ้า พระเจ้าของข้าพระองค์ 5 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย เหตุใดเจ้าจึงท้อแท้? เหตุใดจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายในข้าพเจ้า? จงหวังในพระเจ้า เพราะข้าพเจ้าจะยังคงสรรเสริญพระองค์ พระผู้ช่วยให้รอดและพระเจ้าของข้าพเจ้า —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/43-d6583a4395cd2cf667d5452ab26b29ae.mp3?version_id=179—

สดุดี 44

(ถึงหัวหน้านักร้อง มัสคิล ของบุตรโคราห์) 1 ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ยินมากับหู บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายได้เล่าให้ฟัง ถึงสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำในสมัยของพวกเขา เมื่อนานมาแล้ว 2 ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์ทรงขับไล่ชนชาติต่างๆ ออกไป และทรงฝังรากบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงบดขยี้ชนเผ่าต่างๆ และทรงทำให้เหล่าบรรพบุรุษของข้าพระองค์เจริญรุ่งเรือง 3 ไม่ใช่ด้วยดาบที่ทำให้พวกเขาพิชิตดินแดนได้ ไม่ใช่ด้วยแขนของพวกเขาที่นำชัยชนะมา แต่ด้วยพระหัตถ์ขวาของพระองค์ ด้วยพระกรของพระองค์ และด้วยความสว่างแห่งพระพักตร์ของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงรักพวกเขา 4 พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ของข้าพระองค์และเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ผู้ทรงกำหนดชัยชนะแก่ยาโคบ 5 โดยพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายจึงขับไล่เหล่าศัตรูให้ล่าถอย โดยพระนามของพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายจึงบดขยี้ข้าศึก 6 ข้าพระองค์ไม่ได้วางใจในคันธนูของตน ดาบไม่ได้นำชัยชนะมาให้ข้าพระองค์ 7 แต่พระองค์ต่างหากทรงให้เราชนะศัตรู พระองค์ทรงทำให้ปฏิปักษ์อับอายขายหน้า 8 ข้าพระองค์ทั้งหลายจะอวดพระเจ้าเรื่อยไป จะสรรเสริญพระนามของพระองค์เป็นนิตย์ เสลาห์ 9 แต่บัดนี้พระองค์ทรงทอดทิ้งและปล่อยให้ข้าพระองค์ทั้งหลายตกต่ำ พระองค์ไม่ได้ร่วมทัพไปกับข้าพระองค์ทั้งหลายอีกแล้ว 10 พระองค์ทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายล่าถอยต่อหน้าศัตรู เหล่าปฏิปักษ์ได้ปล้นข้าพระองค์ทั้งหลาย 11 พระองค์ทรงปล่อยให้ข้าพระองค์ทั้งหลายถูกขย้ำกินเหมือนแกะ และทรงทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกระจัดกระจายไปในหมู่ชนชาติต่างๆ 12 พระองค์ทรงขายประชากรของพระองค์ไปในราคาน้อยนิด ไม่ได้อะไรจากการขายนั้นเลย 13 พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายตกเป็นขี้ปากของเพื่อนบ้าน […]

สดุดี 45

(ถึงหัวหน้านักร้อง ทำนอง “ลิลลี่” มัสคิล ของบุตรโคราห์ เพลงแต่งงาน) 1 จิตใจของข้าพเจ้าเปี่ยมด้วยเรื่องราวอันสูงส่ง ขณะร่ายบทร้อยกรองถวายองค์ราชา ลิ้นของข้าพเจ้าคือปากกาของกวีเอก 2 พระองค์ทรงเลิศล้ำที่สุดในหมู่มนุษย์ ริมฝีปากของพระองค์ได้รับการเจิมด้วยพระเมตตาคุณ เพราะพระเจ้าทรงอวยพรพระองค์นิรันดร์ 3 ขอทรงคาดพระแสงดาบเถิด ราชาผู้เกรียงไกร ขอทรงคลุมพระองค์ด้วยพระบารมีและสง่าราศี 4 ทรงรุดหน้าไปอย่างมีชัยด้วยพระบารมี รุดหน้าไปในนามแห่งความจริง ความอ่อนสุภาพ และความชอบธรรม ขอพระหัตถ์ขวาสำแดงพระราชกิจอันน่าครั่นคร้าม 5 ขอให้ลูกศรคมกริบของพระราชาแทงทะลุหัวใจศัตรูของพระองค์ ขอให้ประชาชาติทั้งหลายล้มลงแทบพระบาทของพระองค์ 6 ข้าแต่พระเจ้า ราชบัลลังก์ของพระองค์จะยืนยงเป็นนิจ พระองค์จะทรงปกครองราชอาณาจักรด้วยคทาแห่งความยุติธรรม 7 พระองค์ทรงรักความชอบธรรม และทรงเกลียดชังความชั่ว ฉะนั้นพระเจ้าผู้ทรงเป็นพระเจ้าของพระองค์จึงทรงตั้งพระองค์ไว้เหนือพระสหายทั้งปวง โดยทรงเจิมพระองค์ด้วยน้ำมันแห่งความชื่นชมยินดี 8 ฉลองพระองค์หอมกรุ่นด้วยมดยอบ กฤษณา และการบูร เสียงดนตรีเครื่องสายจากพระราชวังที่ตกแต่งด้วยงาช้าง ทำให้พระองค์เกษมเปรมปรีดิ์ 9 พระราชธิดาของบรรดากษัตริย์อยู่ท่ามกลางเหล่าสตรีสูงศักดิ์ของพระองค์ เบื้องขวาของพระองค์คือคู่อภิเษกผู้ทรงเครื่องประดับทองคำจากเมืองโอฟีร์ 10 พระราชธิดาเอ๋ย ขอทรงสดับฟังและพิเคราะห์ดู ขอทรงลืมชนชาติและลืมบ้านบิดาของพระนาง 11 พระราชาพึงพระทัยในความงามของพระนาง ขอทรงถวายเกียรติแด่พระองค์เพราะทรงเป็นเจ้านายของพระนาง 12 ธิดาแห่งเมืองไทระจะนำเครื่องบรรณาการมาถวาย คนมั่งมีจะแสวงหาความโปรดปรานจากพระนาง […]

สดุดี 46

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทเพลงของบุตรโคราห์ ตามทำนองอาลาโมธ) 1 พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของเรา เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมเสมอในยามทุกข์ร้อน 2 ฉะนั้นเราจะไม่กลัว ถึงแม้โลกจะสั่นสะเทือน และภูเขาทลายราบลงสู่ใจกลางทะเล 3 ถึงแม้มหาสมุทรคำรามก้องและซัดคลื่นเป็นฟองฟูฟ่อง และภูเขาสะเทือนเลื่อนลั่น เสลาห์ 4 มีแม่น้ำสายหนึ่งที่ให้ความยินดีแก่นครของพระเจ้า ซึ่งเป็นที่ประทับบริสุทธิ์ขององค์ผู้สูงสุด 5 พระเจ้าสถิตในนคร นครนั้นจะไม่ล่มสลาย พระเจ้าจะทรงช่วยในยามรุ่งอรุณ 6 ประชาชาติทั้งหลายโกลาหลอลหม่าน อาณาจักรต่างๆ ล่มสลาย พระเจ้าทรงเปล่งพระสุรเสียง แผ่นดินโลกก็หลอมละลายไป 7 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์สถิตกับเรา พระเจ้าของยาโคบทรงเป็นป้อมปราการของเรา เสลาห์ 8 มาเถิด มาดูพระราชกิจขององค์พระผู้เป็นเจ้า ดูความเริศร้างที่พระองค์ทรงนำมาสู่โลก 9 พระองค์ทรงกระทำให้สงครามยุติทั่วโลก ทรงหักคันธนู และทำให้หอกหักสะบั้น พระองค์ทรงเผาโล่ 10 “จงนิ่งสงบและรู้ว่าเราเป็นพระเจ้า เราจะได้รับการยกย่องท่ามกลางประชาชาติ เราจะได้รับการยกย่องในโลก” 11 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์สถิตกับเรา พระเจ้าของยาโคบทรงเป็นป้อมปราการของเรา เสลาห์ —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/46-074209074308900d0c89d8ce8f9a5757.mp3?version_id=179—

สดุดี 47

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของบุตรโคราห์) 1 ประชาชาติทั้งปวงเอ๋ย จงปรบมือ จงโห่ร้องยินดีถวายแด่พระเจ้า 2 เพราะพระยาห์เวห์ผู้สูงสุดนั้นน่าครั่นคร้ามยิ่งนัก ทรงเป็นจอมกษัตริย์แห่งสากลโลก! 3 พระองค์ทรงปราบบรรดาประชาชาติให้อยู่ใต้อำนาจของเรา ทรงปราบชนชาติทั้งหลายให้อยู่ใต้เท้าของเรา 4 พระองค์ทรงเลือกสรรมรดกให้แก่เรา ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของยาโคบผู้ที่พระองค์ทรงรัก เสลาห์ 5 พระเจ้าเสด็จขึ้นท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดี องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จขึ้นท่ามกลางเสียงแตร 6 จงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า จงร้องสรรเสริญ จงร้องเพลงสรรเสริญองค์กษัตริย์ของเรา จงร้องสรรเสริญ 7 เพราะพระเจ้าทรงเป็นกษัตริย์แห่งสากลโลก จงร้องเพลงสดุดีสรรเสริญพระองค์เถิด 8 พระเจ้าทรงครอบครองเหนือนานาประชาชาติ พระเจ้าประทับบนพระที่นั่งบริสุทธิ์ของพระองค์ 9 บรรดาเจ้านายของชนชาติทั้งหลายร่วมชุมนุมกัน เป็นประชากรของพระเจ้าของอับราฮัม เพราะว่ากษัตริย์ทั้งหลายของแผ่นดินโลกเป็นของพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นที่เทิดทูนสูงสุด —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/47-430f7fcbdbe8335973da6cfd24576a07.mp3?version_id=179—

สดุดี 48

(เพลงบทหนึ่ง บทสดุดีของบุตรโคราห์) 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยิ่งใหญ่ และควรแก่การสรรเสริญเป็นที่สุด ในนครแห่งพระเจ้าของเราภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ 2 ศิโยนนั้นสูงเด่นงามตายิ่งนัก เป็นความปีติยินดีของคนทั่วโลก ดั่งยอดสูงสุดของซาโฟน ศิโยนนครแห่งองค์จอมราชัน 3 พระเจ้าทรงประทับในป้อมของนครนั้น พระองค์ทรงสำแดงพระองค์เองเป็นปราการของนคร 4 เมื่อบรรดากษัตริย์รวมกำลังกัน เมื่อพวกเขารุดหน้าไปด้วยกัน 5 พวกเขาอัศจรรย์ใจเมื่อเห็นนครนั้น พวกเขาพากันหนีไปด้วยความกลัว 6 พวกเขาหวาดหวั่นขวัญผวา เจ็บปวดดั่งผู้หญิงที่กำลังคลอดบุตร 7 พระองค์ทรงทำลายพวกเขาให้เป็นเหมือนเรือแห่งทารชิช ซึ่งแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยลมตะวันออก 8 เราได้ยินมาอย่างไร เราก็ได้เห็นอย่างนั้นว่า ในนครของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ในนครของพระเจ้าของเรา พระเจ้าทรงทำให้นครนั้นมั่นคง นิรันดร์ เสลาห์ 9 ข้าแต่พระเจ้า ภายในพระวิหารของพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายใคร่ครวญถึงความรักมั่นคงของพระองค์ 10 ข้าแต่พระเจ้า เช่นเดียวกับพระนามของพระองค์ คำสรรเสริญของพระองค์ก็ไปถึงสุดปลายแผ่นดินโลก พระหัตถ์ขวาของพระองค์บริบูรณ์ด้วยความชอบธรรม 11 ภูเขาศิโยนชื่นชมยินดี ชาวยูดาห์ปลื้มปีติ เนื่องด้วยการพิพากษาของพระองค์ 12 จงเดินรอบศิโยน ไปให้ทั่ว นับจำนวนหอคอยในเมืองนั้น 13 สังเกตดูเชิงเทิน เที่ยวดูป้อมปราการ […]

สดุดี 49

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของบุตรโคราห์) 1 ชนชาติทั้งปวงเอ๋ย จงฟังทางนี้ ทุกคนทั่วโลกจงฟัง 2 ทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อย คนจนและคนรวย 3 ปากของข้าพเจ้าจะกล่าวถ้อยคำแห่งสติปัญญา เนื้อความจากใจของข้าพเจ้านี้จะให้ความเข้าใจ 4 ข้าพเจ้าจะเอียงหูฟังภาษิต ข้าพเจ้าจะใช้พิณขานไขปริศนา 5 ทำไมข้าพเจ้าต้องกลัวยามตกที่นั่งลำบาก เมื่อคนเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายรุมล้อมข้าพเจ้า? 6 คนพวกนั้นพึ่งพิงทรัพย์สมบัติ และอวดอ้างความร่ำรวยเหลือล้นของตน 7 ไม่มีสักคนไถ่ชีวิตให้ใครได้ หรือถวายค่าไถ่ชีวิตของเขาแด่พระเจ้า 8 ค่าไถ่สำหรับชีวิตหนึ่งนั้นแพงนัก ชดใช้แค่ไหนก็ไม่พอ 9 เพื่อให้เขามีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์ และไม่ต้องพบกับความเน่าเปื่อย 10 เพราะทุกคนก็เห็นว่าคนมีปัญญาก็ตาย คนโง่และคนสิ้นคิดก็ย่อยยับเหมือนกัน และเขาทิ้งทรัพย์สมบัติของตนไว้ให้คนอื่น 11 หลุมศพของเขาจะเป็นบ้านของเขาตลอดกาล เป็นที่อาศัยตลอดทุกชั่วอายุ แม้พวกเขาได้ตั้งชื่อดินแดนตามชื่อของตัว 12 แต่มนุษย์ไม่ว่าจะร่ำรวยสักปานใดก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไป เขาเหมือนสัตว์เดียรัจฉานที่ต้องจบชีวิตลง 13 นี่แหละคือชะตากรรมของคนที่วางใจตัวเอง และของสาวกที่เห็นชอบกับคำสอนของเขา เสลาห์ 14 เขาเป็นเหมือนแกะที่ถูกกำหนดไว้สำหรับหลุมฝังศพ และความตายจะมากัดกินเขา ผู้เที่ยงธรรมจะปกครองเหนือพวกเขาในยามรุ่งอรุณ ร่างของเขาจะเน่าเปื่อยในหลุมศพ ห่างไกลจากคฤหาสน์อันโอ่อ่าของตน 15 แต่พระเจ้าจะทรงไถ่ชีวิตของข้าพเจ้าให้พ้นจากอำนาจของหลุมฝังศพ พระองค์จะทรงรับข้าพเจ้าไว้แน่นอน เสลาห์ […]

สดุดี 50

(บทสดุดีของอาสาฟ) 1 องค์ทรงฤทธิ์ พระเจ้า พระยาห์เวห์ตรัสเรียกคนทั้งโลก จากที่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงที่ดวงอาทิตย์ตกให้มาชุมนุมกัน 2 พระเจ้าทรงเปล่งรัศมี จากศิโยนอันงามพร้อม 3 พระเจ้าของเราเสด็จมาและจะไม่ทรงนิ่งเงียบ เปลวไฟเผาผลาญอยู่ต่อหน้าพระองค์ พายุโหมกระหน่ำอยู่รอบพระองค์ 4 พระองค์ตรัสเรียกชุมนุมฟ้าสวรรค์เบื้องบนและแผ่นดินโลก เพื่อจะทรงพิพากษาประชากรของพระองค์ 5 “บรรดาผู้ที่เราได้ชำระไว้แล้ว จงรวมกันมาหาเรา ผู้ซึ่งเข้าร่วมพันธสัญญากับเราทางเครื่องบูชา” 6 ฟ้าสวรรค์ป่าวประกาศความชอบธรรมของพระองค์ เพราะพระเจ้าเองทรงเป็นองค์ตุลาการ เสลาห์ 7 “ประชากรของเราเอ๋ย จงฟังและเราจะพูด อิสราเอลเอ๋ย เราจะแจ้งข้อหาของเจ้า เราเป็นพระเจ้า พระเจ้าของเจ้า 8 เราไม่ได้ตำหนิเจ้าในเรื่องเครื่องบูชา หรือเครื่องเผาบูชาที่เจ้านำมาถวายเราอย่างสม่ำเสมอ 9 เราไม่ได้ต้องการวัวหนุ่มจากโรงวัวของเจ้า หรือแพะจากคอกของเจ้า 10 เพราะสัตว์ทุกชนิดในป่าเป็นของเรา รวมทั้งสัตว์เลี้ยงบนเนินเขานับพัน 11 เรารู้จักนกทุกตัวบนภูเขาทั้งหลาย บรรดาสัตว์ในท้องทุ่งเป็นของเรา 12 หากเราหิว เราจะไม่บอกเจ้า เพราะโลกนี้และสิ่งสารพัดในโลกล้วนเป็นของเรา 13 เรากินเนื้อวัวผู้หรือ? เราดื่มเลือดแพะหรือ? 14 จงถวายเครื่องบูชาขอบพระคุณแด่พระเจ้า ทำตามที่ได้ถวายปฏิญาณต่อองค์ผู้สูงสุด 15 และจงร้องทูลเราในยามทุกข์ร้อน […]