สดุดี 101

(บทสดุดีของดาวิด) 1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์จะร้องเพลงถึงความรักมั่นคงและความยุติธรรมของพระองค์ ข้าพระองค์จะร้องบทเพลงสรรเสริญพระองค์ 2 ข้าพระองค์จะระแวดระวังรักษาชีวิตให้ไร้ตำหนิ เมื่อใดหนอ พระองค์จะเสด็จมาหาข้าพระองค์? ข้าพระองค์จะดำเนินชีวิตในบ้านของข้าพระองค์ ด้วยจิตใจที่ไม่มีตำหนิ 3 ข้าพระองค์จะไม่เห็นดีเห็นงาม กับสิ่งชั่วช้าเลวทรามใดๆ ข้าพระองค์เกลียดชังการกระทำของคนปลิ้นปล้อนตลบตะแลง และไม่ข้องเกี่ยวในกิจการเหล่านั้น 4 ข้าพระองค์จะหลีกห่างจากคนจิตใจดื้อด้าน จะไม่ยอมมีส่วนร่วมใดๆ กับความชั่ว 5 ข้าพระองค์จะปิดปากคนที่แอบใส่ร้ายเพื่อนบ้าน ข้าพระองค์จะไม่ทนกับคนที่วางท่ายโสและมีจิตใจเย่อหยิ่ง 6 ตาของข้าพระองค์จะมองผู้ที่ซื่อสัตย์ในแผ่นดิน เพื่อเขาจะอยู่กับข้าพระองค์ ผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างไร้ตำหนิ จะมาปรนนิบัติข้าพระองค์ 7 คนหลอกลวงจะไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านของข้าพระองค์ คนโป้ปดมดเท็จจะไม่ได้ยืนอยู่ต่อหน้าข้าพระองค์ 8 ทุกๆ เช้าข้าพระองค์จะกำจัดคนชั่วทั้งปวงใน แผ่นดิน ข้าพระองค์จะขจัดคนทำชั่วให้หมดสิ้นจากนครขององค์พระผู้เป็นเจ้า —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/101-c8291dcaf65e4142a2be65f263aa9ccd.mp3?version_id=179—

สดุดี 102

(คำอธิษฐานของผู้ตกทุกข์ได้ยาก ยามอับจน และระบายความในใจต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า) 1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดสดับฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ ขอให้เสียงทูลวิงวอนขอความช่วยเหลือของข้าพระองค์นั้นขึ้นไปถึงพระองค์ 2 ขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์จากข้าพระองค์ เมื่อข้าพระองค์ทุกข์ยาก ขอทรงเอียงพระกรรณสดับฟัง เมื่อข้าพระองค์ร้องทูล ขอทรงตอบข้าพระองค์โดยเร็ว 3 เพราะวันคืนของข้าพระองค์ลับหายไปประหนึ่งควัน กระดูกของข้าพระองค์ถูกแผดเผาเหมือนถ่านลุกโชน 4 จิตใจของข้าพระองค์ห่อเหี่ยวและเฉาไปเหมือนต้นหญ้า ข้าพระองค์ลืมรับประทานอาหาร 5 เพราะข้าพระองค์คร่ำครวญโหยไห้ จนผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก 6 ข้าพระองค์เป็นเช่นนกฮูกในถิ่นกันดาร เป็นเช่นนกฮูกท่ามกลางซากปรักหักพัง 7 ข้าพระองค์ไม่อาจข่มตาให้หลับ ข้าพระองค์เป็นเหมือนนกเดียวดายบนหลังคา 8 ศัตรูของข้าพระองค์เย้ยหยันอยู่วันยังค่ำ คู่อริใช้ชื่อข้าพระองค์เป็นคำแช่งด่า 9 เพราะข้าพระองค์กินขี้เถ้าต่างอาหาร และผสมน้ำตาลงในเครื่องดื่ม 10 เนื่องด้วยพระพิโรธอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระองค์ได้ทรงยกข้าพระองค์ขึ้นและเหวี่ยงข้าพระองค์ทิ้ง 11 วันเวลาของข้าพระองค์เป็นเหมือนเงาในยามเย็น ข้าพระองค์เหี่ยวเฉาไปดั่งต้นหญ้า 12 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าแต่พระองค์ประทับเหนือบัลลังก์ตลอดกาล พระเกียรติของพระองค์เลื่องลือตลอดทุกชั่วอายุ 13 พระองค์จะทรงลุกขึ้นและจะทรงเอ็นดูสงสารศิโยน เพราะบัดนี้ถึงเวลาแล้วที่จะเมตตาเมืองนั้น เวลาที่ทรงกำหนดมาถึงแล้ว 14 เพราะก้อนหินของเมืองนั้นเป็นที่รักของผู้รับใช้ของพระองค์ และผงคลีดินของเมืองนั้นทำให้พวกเขาเกิดใจสงสาร 15 ประชาชาติทั้งหลายจะเกรงกลัวพระนามพระยาห์เวห์ มวลกษัตริย์ของโลกจะยำเกรงพระเกียรติสิริของพระองค์ 16 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงสร้างศิโยนขึ้นใหม่ และพระองค์จะมาปรากฏด้วยพระเกียรติสิริของพระองค์ […]

สดุดี 103

(บทประพันธ์ของดาวิด) 1 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า ทั้งหมดในชีวิตของข้าพเจ้า จงสรรเสริญพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์ 2 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า และอย่าลืมพระราชกิจทั้งปวงอันเปี่ยมด้วยพระคุณ 3 ผู้ทรงอภัยโทษบาปทั้งหมดของท่าน และทรงรักษาโรคภัยทั้งสิ้นของท่าน 4 ผู้ทรงไถ่ชีวิตของท่านจากแดนผู้ตาย และทรงเชิดชูท่านด้วยความรักมั่นคงและความเอ็นดูสงสาร 5 ผู้ทรงให้ท่านอิ่มเอมด้วยสิ่งดีๆ ตลอดชีวิต เพื่อวัยฉกรรจ์ของท่านจะกลับคืนมาใหม่ เหมือนวัยหนุ่มของนกอินทรี 6 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้ความเป็นธรรม และความยุติธรรมแก่ทุกคนที่ถูกข่มเหงรังแก 7 พระองค์ทรงสำแดงทางของพระองค์แก่โมเสส ทรงสำแดงพระราชกิจของพระองค์แก่ประชากรอิสราเอล 8 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตาและทรงพระคุณ ทรงพระพิโรธช้าและเปี่ยมด้วยความรักมั่นคง 9 พระองค์จะไม่ทรงกล่าวโทษอยู่เสมอ หรือทรงพระพิโรธเป็นนิตย์ 10 พระองค์ไม่ได้ทรงกระทำแก่เราอย่างสาสมกับบาปของเรา หรือลงโทษอย่างสาสมกับความชั่วช้าของเรา 11 เพราะว่าฟ้าสวรรค์สูงเหนือแผ่นดินเพียงใด ความรักของพระองค์ที่มีต่อผู้ที่ยำเกรงพระองค์ก็ยิ่งใหญ่เพียงนั้น 12 ตะวันออกไกลจากตะวันตกเพียงใด พระองค์ก็ทรงยกเอาการล่วงละเมิดของเราออกไปไกลเพียงนั้น 13 บิดาเอ็นดูสงสารบุตรของตนฉันใด องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงเอ็นดูสงสารผู้ที่ยำเกรงพระองค์ฉันนั้น 14 เพราะพระองค์ทรงทราบว่าเราถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร พระองค์ทรงระลึกว่าเราเป็นธุลีดิน 15 สำหรับมนุษย์นั้น วันเวลาของเขาก็เหมือนต้นหญ้า เขาจำเริญขึ้นดุจดอกไม้ในท้องทุ่ง 16 เมื่อถูกลมพัดผ่าน มันก็สูญสิ้นไป […]

สดุดี 104

1 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ พระองค์ทรงยิ่งใหญ่นัก พระองค์ทรงฉลองพระองค์ด้วยสง่าราศีและพระบารมี 2 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงคลุมพระองค์ด้วยแสงสว่างเหมือนเป็นฉลองพระองค์ พระองค์ทรงขึงฟ้าสวรรค์ดั่งขึงเต็นท์ 3 และทรงวางคานของที่ประทับของพระองค์ไว้เหนือน้ำ พระองค์ทรงใช้เมฆเป็นรถม้าศึก และเสด็จมาบนปีกของกระแสลม 4 พระองค์ทรงใช้ลมเป็นผู้สื่อสาร และเปลวไฟเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ 5 พระองค์ทรงตั้งโลกไว้บนฐาน โลกจะไม่มีวันเคลื่อนย้าย 6 พระองค์ทรงห่อหุ้มโลกด้วยห้วงลึกเหมือนห่อหุ้มด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ น้ำบ่าท่วมมิดภูเขา 7 แต่เมื่อพระองค์ทรงกำราบ น้ำก็หนีไป เมื่อทรงเปล่งพระสุรเสียงดุจฟ้าร้อง มันก็เตลิดไป 8 น้ำไหลท่วมภูเขา ไหลลงหุบเขา ไปยังที่ซึ่งทรงกำหนดไว้ให้ 9 พระองค์ทรงวางเขตกั้นไม่ให้น้ำข้ามไป เพื่อไม่ให้น้ำท่วมแผ่นดินโลกอีก 10 พระองค์ทรงให้น้ำพุหลั่งน้ำให้แก่ลำห้วย ซึ่งไหลไประหว่างภูเขา 11 ให้สัตว์ทั้งปวงในท้องทุ่งได้ดื่มกิน ให้ลาป่าได้ดับกระหาย 12 นกจึงสร้างรังริมธารน้ำ และร้องเพลงอยู่กลางแมกไม้ 13 พระองค์ทรงรดน้ำภูเขาจากที่ประทับเบื้องบน แผ่นดินโลกอิ่มเอมด้วยผลแห่งพระราชกิจของพระองค์ 14 พระองค์ทรงให้หญ้างอกงามขึ้นเพื่อฝูงสัตว์ และทรงให้พืชพันธุ์แก่มนุษย์สำหรับเพาะปลูก ทรงให้ธัญญาหารงอกงามจากผืนแผ่นดิน 15 ทรงประทานเหล้าองุ่นที่ทำให้จิตใจมนุษย์ชื่นบาน น้ำมันมะกอกที่ทำให้ใบหน้าผ่องใส และขนมปังเพื่อค้ำชูใจเขา 16 […]

สดุดี 105

1 จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าและร้องทูลออกพระนามของพระองค์ ให้ประชาชาติทั้งหลายได้รู้ถึงสิ่งที่พระองค์ทรงทำ 2 จงร้องเพลงถวายพระองค์ ร้องสรรเสริญถวายพระองค์ บอกถึงพระราชกิจอันมหัศจรรย์ทั้งสิ้นของพระองค์ 3 จงเทิดทูนพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์ ให้จิตใจของผู้ที่แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าชื่นชมยินดี 4 จงหมายพึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระกำลังของพระองค์ จงแสวงหาพระพักตร์พระองค์เสมอ 5 จงระลึกถึงปาฏิหาริย์ที่พระองค์ทรงกระทำ ถึงการอัศจรรย์และคำพิพากษาที่พระองค์ทรงประกาศ 6 วงศ์วานอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์เอ๋ย ลูกหลานของยาโคบที่ทรงเลือกสรรเอ๋ย 7 พระองค์ทรงเป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา คำพิพากษาของพระองค์อยู่ทั่วพื้นแผ่นดินโลก 8 พระองค์ทรงระลึกถึงพันธสัญญาของพระองค์ตลอดกาล ทรงระลึกถึงพระดำรัสที่ทรงบัญชาไว้ตลอดพันชั่วอายุคน 9 พันธสัญญาที่พระองค์ทรงทำกับอับราฮัม คำปฏิญาณที่พระองค์ทรงสัญญากับอิสอัค 10 พระองค์ทรงยืนยันต่อยาโคบเป็นกฎเกณฑ์ ต่ออิสราเอลเป็นพันธสัญญานิรันดร์ 11 “เราจะยกดินแดนคานาอันให้เจ้า ให้เป็นมรดกของเจ้าทั้งหลาย” 12 เมื่ออิสราเอลยังมีจำนวนน้อยนัก น้อยเหลือเกิน และเป็นเพียงคนแปลกหน้าในดินแดนนั้น 13 พวกเขาระเหเร่ร่อนจากชนชาติหนึ่งไปอีกชนชาติหนึ่ง จากอาณาจักรหนึ่งไปอีกอาณาจักรหนึ่ง 14 พระองค์ไม่ทรงยอมให้ผู้ใดข่มเหงรังแกเขา เพราะเห็นแก่เขา พระองค์ทรงกำราบกษัตริย์ทั้งหลาย 15 “อย่าแตะต้องบรรดาผู้ที่เราเจิมตั้งไว้ อย่าทำอันตรายใดๆ แก่เหล่าผู้เผยพระวจนะของเรา” 16 พระองค์ทรงบัญชาให้เกิดการกันดารอาหารในดินแดนนั้น และทำลายเสบียงอาหารทั้งสิ้นของเขา 17 และพระองค์ทรงส่งชายคนหนึ่งไปล่วงหน้าพวกเขา โยเซฟถูกขายไปเป็นทาส […]

สดุดี 106

1 จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะพระองค์ทรงแสนดี ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์ 2 ผู้ใดจะสามารถประกาศพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า หรือเทิดทูนสรรเสริญพระองค์อย่างครบถ้วนได้? 3 ความสุขมีแก่บรรดาผู้ที่รักษาความยุติธรรม ผู้ที่ทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอ 4 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์เมื่อพระองค์ทรงสำแดง ความโปรดปรานแก่ประชากรของพระองค์ ขอเสด็จมาช่วยข้าพระองค์เมื่อพระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้รอด 5 เพื่อข้าพระองค์จะร่วมชื่นบานกับความเจริญรุ่งเรืองของผู้ที่ทรงเลือกสรรไว้ เพื่อข้าพระองค์จะร่วมยินดีกับชนชาติของพระองค์ และร่วมสรรเสริญกับชนชาติซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ 6 ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาปเช่นเดียวกับบรรพบุรุษ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำสิ่งที่ผิดและชั่วช้าเลวทราม 7 เมื่อบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายอยู่ในอียิปต์ พวกเขาไม่ได้ระลึกถึงการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ พวกเขาไม่ได้จดจำพระกรุณานานัปการของพระองค์ และพวกเขากบฏต่อพระองค์ที่ทะเลแดง 8 ถึงกระนั้นพระองค์ก็ทรงช่วยกู้พวกเขา เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์ เพื่อให้ฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์เป็นที่ประจักษ์ 9 พระองค์ทรงกำราบทะเลแดง มันก็เหือดแห้ง ทรงนำพวกเขาเหล่านั้นผ่านที่ลึกราวกับผ่านทะเลทราย 10 พระองค์ทรงช่วยพวกเขาจากเงื้อมมือของปฏิปักษ์ ทรงกอบกู้พวกเขาจากอุ้งมือของเหล่าศัตรู 11 น้ำไหลท่วมมิดเหล่าศัตรู ไม่เหลือรอดสักคนเดียว 12 แล้วพวกเขาจึงเชื่อในพระสัญญาของพระองค์ และร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ 13 แต่ไม่ช้าพวกเขาก็ลืมสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ และไม่รอคอยคำแนะนำจากพระองค์ 14 ในทะเลทรายพวกเขายอมแพ้แก่ความอยาก ในถิ่นกันดารพวกเขาลองดีกับพระเจ้า 15 พระองค์จึงประทานตามที่พวกเขาเรียกร้อง แต่ทรงส่งโรคระบาดมาเหนือพวกเขา 16 ในค่ายพักนั้น […]

สดุดี 107

1 จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะพระองค์ทรงแสนดี ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์ 2 ให้ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงไถ่กล่าวเช่นนี้ คือผู้ที่ทรงไถ่จากเงื้อมมือของศัตรู 3 ผู้ที่พระองค์ทรงรวบรวมมาจากดินแดนต่างๆ จากตะวันออกและตะวันตก จากเหนือและใต้ 4 บางคนระเหเร่ร่อนอยู่ในถิ่นกันดารแห้งแล้ง ไม่พบทางไปเมืองที่พวกเขาจะตั้งถิ่นฐาน 5 พวกเขาทั้งหิวและกระหาย อ่อนแรงใจจะขาด 6 แล้วพวกเขาร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าในความทุกข์ยาก พระองค์ก็ทรงปลดปล่อยพวกเขาจากความทุกข์เข็ญ 7 พระองค์ทรงนำพวกเขาไปในทางตรง ไปเมืองที่พวกเขาจะตั้งถิ่นฐานได้ 8 ให้พวกเขาขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับความรักมั่นคงของพระองค์ และสำหรับพระราชกิจมหัศจรรย์ของพระองค์ที่ทำเพื่อมนุษย์ 9 เพราะว่าพระองค์ทรงให้คนที่กระหายได้อิ่มเอม ทรงให้ผู้ที่หิวโหยอิ่มด้วยสิ่งดี 10 บางคนนั่งอยู่ในความมืดมิดหม่นหมอง ถูกจองจำทุกข์ทรมานด้วยโซ่ตรวน 11 เพราะพวกเขากบฏต่อพระวจนะของพระเจ้า และดูหมิ่นคำแนะนำสั่งสอนขององค์ผู้สูงสุด 12 ฉะนั้นพระองค์ทรงสยบพวกเขาด้วยงานหนัก พวกเขาล้มลงและไม่มีใครช่วย 13 แล้วพวกเขาร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าในความทุกข์ยาก และพระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้รอดจากความทุกข์เข็ญ 14 พระองค์ทรงนำพวกเขาออกมาจากความมืดมิดหม่นหมอง และทรงทำลายโซ่ตรวนของพวกเขา 15 ให้พวกเขาขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับความรักมั่นคงของพระองค์ และสำหรับพระราชกิจมหัศจรรย์ของพระองค์ที่ทำเพื่อมนุษย์ 16 เพราะพระองค์ทรงทลายประตูทองสัมฤทธิ์ และตัดลูกกรงเหล็กออก 17 บางคนกลายเป็นคนโง่โดยการกบฏของตัวเอง และต้องทนทุกข์เพราะความชั่วช้าของตน 18 พวกเขาเบื่ออาหารทุกอย่าง และเฉียดใกล้ประตูแห่งความตาย […]

สดุดี 108

(บทเพลง บทสดุดีของดาวิด) 1 ข้าแต่พระเจ้า จิตใจของข้าพระองค์แน่วแน่ ข้าพระองค์จะขับร้องและบรรเลงดนตรีด้วยสุดจิตสุดใจ 2 พิณใหญ่และพิณเขาคู่ จงบรรเลงเถิด! ข้าพเจ้าจะปลุกรุ่งอรุณ 3 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ในหมู่ประชาชาติ ข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางชนชาติต่างๆ 4 เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ยิ่งใหญ่สูงส่งเหนือฟ้าสวรรค์ ความซื่อสัตย์ของพระองค์ถึงท้องฟ้า 5 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเป็นที่ยกย่องเทิดทูนเหนือฟ้าสวรรค์ ขอพระเกียรติสิริของพระองค์ครอบคลุมไปทั่วโลก 6 ขอทรงช่วยกู้ข้าพระองค์ทั้งหลายด้วยพระหัตถ์ขวาของพระองค์ เพื่อบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงรักจะรอดพ้น 7 พระเจ้าตรัสจากสถานนมัสการของพระองค์ว่า “ในชัยชนะ เราจะแบ่งเชเคม และกำหนดเขตหุบเขาสุคคท 8 กิเลอาดเป็นของเรา มนัสเสห์เป็นของเรา เอฟราอิมคือหมวกเกราะของเรา ยูดาห์คือคทาของเรา 9 โมอับเป็นอ่างชำระของเรา เราเหวี่ยงรองเท้าของเราลงบนเอโดม และเราจะโห่ร้องด้วยความมีชัยเหนือฟีลิสเตีย” 10 ใครจะพาข้าพระองค์ไปยังเมืองป้อมปราการ? ใครจะนำข้าพระองค์ไปยังเอโดม? 11 พระองค์ไม่ใช่หรือ ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ผู้ได้ทรงทอดทิ้งข้าพระองค์ทั้งหลาย และไม่ทรงร่วมทัพกับเหล่าข้าพระองค์อีกต่อไป? 12 ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายต่อสู้ข้าศึก เพราะความช่วยเหลือของมนุษย์นั้นไร้ค่า 13 โดยพระเจ้าเราจะมีชัยชนะ พระองค์จะทรงเหยียบย่ำศัตรูของเรา —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/108-8cb96668aa4699414bdcbf579691a4ac.mp3?version_id=179—

สดุดี 109

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของดาวิด) 1 ข้าแต่พระเจ้าผู้ที่ข้าพระองค์สรรเสริญ ขออย่าทรงนิ่งเงียบ 2 เพราะคนชั่วและคนหลอกลวง ได้อ้าปากต่อต้านข้าพระองค์ พวกเขาปรักปรำข้าพระองค์ด้วยวาจามุสา 3 พวกเขารุมด่าข้าพระองค์ด้วยถ้อยคำเกลียดชัง โจมตีข้าพระองค์โดยไม่มีสาเหตุ 4 ข้าพระองค์เป็นมิตรกับเขา แต่เขากลับกล่าวหาข้าพระองค์ แม้ข้าพระองค์กำลังอธิษฐานเพื่อพวกเขา 5 พวกเขาตอบแทนความดีของข้าพระองค์ด้วยความชั่ว ตอบแทนมิตรภาพด้วยความเกลียดชัง 6 ขอทรงตั้งคนชั่วให้ต่อต้านเขา ขอให้ผู้กล่าวโทษยืนอยู่ข้างขวาเขา 7 เมื่อถูกไต่สวน ขอให้เขาถูกตัดสินว่าผิดจริง ขอให้คำอธิษฐานของเขามัดตัวเขา 8 ขอให้เขาอายุสั้น ให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำแทนตำแหน่ง ของเขา 9 ขอให้ลูกๆ ของเขากำพร้าพ่อ และภรรยาของเขาเป็นม่าย 10 ขอให้ลูกหลานของเขาเร่ร่อนขอทาน ขอให้พวกเขาถูกขับไล่ออกจากที่อาศัยอันปรักหักพัง 11 ขอให้เจ้าหนี้ยึดของทุกอย่างที่เขามี ขอให้คนต่างถิ่นมาปล้นชิงสิ่งที่เขาลงแรงหามา 12 ขออย่าให้ใครเมตตากรุณาเขา หรือสงสารลูกกำพร้าพ่อของเขา 13 ขอให้วงศ์วานของเขาถูกตัดขาด ให้เขาสิ้นชื่อภายในชั่วอายุถัดไป 14 ขอให้ความชั่วช้าของบรรพบุรุษของเขาเป็นที่ระลึกอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้บาปของมารดาเขาไม่มีวันลบเลือนไป 15 ขอให้บาปเหล่านั้นอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ เพื่อพระองค์จะทรงกระทำให้เขาถูกลืมไปจากโลก 16 เพราะเขาไม่เคยคิดที่จะเมตตากรุณาใคร แต่เข่นฆ่าคนยากไร้ […]

สดุดี 110

(บทสดุดีของดาวิด) 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเจ้านายของข้าพเจ้าว่า “จงนั่งที่ขวามือของเรา จนกว่าเราจะทำให้ศัตรูของเจ้า เป็นแท่นวางเท้าของเจ้า” 2 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้คทาทรงฤทธิ์ของท่าน แผ่อำนาจออกไปจากศิโยน ท่านจะปกครองในหมู่อริราชศัตรู 3 ในวันที่ท่านออกศึก กองทหารของท่านจะเต็มใจอาสาสู้รบ ตั้งแนวรบด้วยพระบารมีศักดิ์สิทธิ์ ท่านจะได้รับหยาดน้ำค้างแห่งวัยฉกรรจ์ จากครรภ์แห่งรุ่งอรุณ 4 องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงปฏิญาณแล้ว และจะไม่ทรงเปลี่ยนพระทัยคือ “เจ้าเป็นปุโรหิตชั่วนิรันดร์ ตามแบบของเมลคีเซเดค” 5 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประทับเบื้องขวาของท่าน พระองค์จะทรงบดขยี้กษัตริย์ทั้งหลายในวันแห่งพระพิโรธของพระองค์ 6 พระองค์จะทรงพิพากษานานาประชาชาติ ทำให้ผู้คนล้มตายเกลื่อนกลาด จะทรงบดขยี้ผู้นำทั่วโลก 7 ท่านจะดื่มน้ำจากลำธารริมทาง ฉะนั้นท่านจะผงาดเกรียงไกร —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/110-0d4704a337470ee9a630945703d0c15c.mp3?version_id=179—