สดุดี 1

1 ความสุขมีแก่คนเหล่านั้นที่ไม่เดินตามรอยเท้าของคนชั่ว หรือยืนอยู่ในทางของคนบาป หรือนั่งอยู่ในที่นั่งของคนชอบเยาะเย้ย 2 แต่พวกเขาปีติยินดีในบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า และใคร่ครวญบทบัญญัตินั้นทั้งกลางวันและกลางคืน 3 พวกเขาเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ ซึ่งออกผลตามฤดูกาล และใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง ทุกสิ่งที่พวกเขาทำก็เจริญรุ่งเรือง 4 ส่วนคนชั่วไม่เป็นเช่นนั้น! เขาเป็นเหมือนแกลบ ซึ่งลมพัดปลิวฟุ้งไป 5 ดังนั้นคนชั่วจะถูกตัดสินโทษเมื่อถึงวันพิพากษา และคนบาปจะไม่อยู่ในที่ชุมนุมของผู้ชอบธรรม 6 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงดูแลทางของคนชอบธรรม แต่ทางของคนชั่วจะพินาศ —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/1-201318327ecb4f73edb0a1d00ca4c561.mp3?version_id=179—

สดุดี 2

1 เหตุใดประชาชาติทั้งหลายจึงคบคิดกัน? ชนชาติต่างๆ จะวางแผนให้ป่วยการไปทำไม? 2 เหล่ากษัตริย์ของโลกตั้งตนขัดขืน บรรดาผู้ปกครองรวมตัวกัน เพื่อวางแผนต่อต้านองค์พระผู้เป็นเจ้า และต่อต้านผู้หนึ่งซึ่งพระองค์ทรงเจิมตั้งไว้ 3 แล้วกล่าวว่า “ให้พวกเราหักโซ่ตรวน และปลดเครื่องพันธนาการของพวกเขาทิ้งไป” 4 องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทับในฟ้าสวรรค์ทรงหัวเราะ พระองค์ทรงเย้ยหยันพวกเขา 5 แล้วพระองค์ทรงกำราบพวกเขาด้วยพระพิโรธ และทรงทำให้พวกเขาหวาดกลัวด้วยพระพิโรธ โดยตรัสว่า 6 “เราได้ตั้งกษัตริย์ผู้หนึ่งของเราไว้แล้ว บนศิโยนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา” 7 กษัตริย์ผู้นั้นจะประกาศพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า พระองค์ได้ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า “เจ้าเป็นบุตรของเรา วันนี้เราได้เป็นบิดาของเจ้า 8 จงขอจากเรา แล้วเราจะมอบประชาชาติทั้งหลายให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า และให้เจ้าครอบครองไปจนสุดปลายแผ่นดินโลก 9 เจ้าจะตีพวกเขาให้แตกด้วยกระบองเหล็ก เจ้าจะฟาดพวกเขาให้แหลกเป็นชิ้นๆ เหมือนหม้อดิน” 10 เหตุฉะนั้น กษัตริย์ทั้งหลายเอ๋ย จงมีปัญญา บรรดาผู้นำของโลกเอ๋ย จงฟังคำตักเตือน 11 จงปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความยำเกรง และจงชื่นชมยินดีจนเนื้อเต้น 12 จงก้มกราบพระบุตรนั้นมิฉะนั้นพระองค์จะทรงพระพิโรธ และท่านกับหนทางต่างๆ ของท่านจะถูกทำลาย เพราะว่าพระพิโรธของพระองค์จะพลุ่งขึ้นในพริบตา ความสุขมีแก่ทุกคนที่เข้ามาลี้ภัยในพระองค์ —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/2-9aa67d7fd0c90af4f62475d07eb6b85a.mp3?version_id=179—

สดุดี 3

(บทสดุดีของดาวิด เมื่อหนีจากอับซาโลมราชโอรส) 1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าศัตรูของข้าพระองค์มีมากเหลือเกิน! ผู้ที่ลุกขึ้นต่อต้านข้าพระองค์ก็มีมากมายนัก! 2 หลายคนกล่าวถึงข้าพระองค์ว่า “พระเจ้าจะไม่ทรงช่วยกู้เขา” เสลาห์ 3 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าแต่พระองค์ทรงเป็นโล่ล้อมข้าพระองค์ไว้ องค์ผู้ทรงเกียรติสิริของข้าพระองค์ ผู้ทรงเชิดชูข้าพระองค์ไว้ 4 ข้าพเจ้าร้องทูลต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ทรงตอบข้าพเจ้าจากภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ เสลาห์ 5 ข้าพเจ้าเอนกายลงและหลับไป ข้าพเจ้าตื่นขึ้นอีกเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงค้ำจุนข้าพเจ้า 6 ข้าพเจ้าจะไม่กลัวศัตรูนับหมื่น ที่รุมล้อมข้าพเจ้าอยู่รอบด้าน 7 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดทรงลุกขึ้น! ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์! โปรดทรงช่วยกู้ข้าพระองค์ ขอทรงตบหน้าศัตรูทุกคนของข้าพระองค์ ขอทรงเลาะฟันของเหล่าคนชั่ว 8 การช่วยกู้มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ขอพระพรของพระองค์มีแก่เหล่าประชากรของพระองค์เถิด เสลาห์ —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/3-8921383d48c95c8cdf2e89b68b2e465d.mp3?version_id=179—

สดุดี 4

(ถึงหัวหน้านักร้อง บรรเลงเครื่องสาย บทสดุดีของดาวิด) 1 ข้าแต่พระเจ้าผู้ชอบธรรมของข้าพระองค์ ขอทรงตอบเมื่อข้าพระองค์ร้องทูล ขอทรงบรรเทาความทุกข์โศกของข้าพระองค์ ขอทรงเมตตาและสดับฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ 2 มนุษย์ทั้งหลายเอ๋ย เจ้าจะทำให้เกียรติสิริของเรากลายเป็นความอัปยศไปอีกนานเพียงใด? เจ้าจะรักการหลอกลวงและแสวงหาพระจอมปลอมไปอีกนานเท่าใด? เสลาห์ 3 จงรู้เถิดว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแยกผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ไว้สำหรับพระองค์เอง องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงฟังเมื่อข้าพเจ้าร้องทูลพระองค์ 4 จงยำเกรงและอย่าทำบาป ขณะอยู่บนที่นอน จงพิเคราะห์จิตใจของตนและสงบนิ่ง เสลาห์ 5 จงถวายเครื่องบูชาที่ถูกต้องเหมาะสม และวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า 6 หลายคนถามว่า “ใครจะให้เราเห็นสิ่งดีๆ ได้บ้าง?” ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอให้แสงสว่างแห่งพระพักตร์ของพระองค์ส่องเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย 7 พระองค์ทรงให้จิตใจของข้าพระองค์เปี่ยมล้นด้วยความชื่นชมยินดี ยิ่งกว่าคนเหล่านั้นที่มีธัญญาหารและเหล้าองุ่นใหม่บริบูรณ์ 8 ข้าพระองค์จะเอนกายลงและนอนหลับด้วยความสงบสุข ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะพระองค์ผู้เดียว ทรงทำให้ข้าพระองค์อาศัยอยู่อย่างปลอดภัย —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/4-cc8b575f7f31e9af997d399739e67167.mp3?version_id=179—

สดุดี 5

(ถึงหัวหน้านักร้อง บรรเลงขลุ่ย บทสดุดีของดาวิด) 1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดสดับฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ ขอทรงสนพระทัยการคร่ำครวญของข้าพระองค์ 2 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ กษัตริย์ของข้าพระองค์ โปรดฟังคำร้องทูลขอความช่วยเหลือ เพราะข้าพระองค์อธิษฐานต่อพระองค์ 3 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าในยามเช้าพระองค์ทรงได้ยินเสียงข้าพระองค์ ในยามเช้าข้าพระองค์นำคำร้องทูลมาต่อหน้าพระองค์ และจดจ่อรอคอยคำตอบจากพระองค์ 4 เพราะพระองค์ไม่ใช่พระเจ้าที่พอพระทัยในสิ่งชั่วร้าย คนชั่วไม่อาจอยู่ร่วมกับพระองค์ได้ 5 คนหยิ่งจองหองไม่อาจยืนอยู่ต่อหน้าพระองค์ได้ พระองค์ทรงเกลียดชังทุกคนที่ทำผิด 6 พระองค์ทรงทำลายล้างพวกคนโกหก ส่วนคนที่กระหายเลือดและคนคดโกงนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงชิงชัง 7 แต่ข้าพระองค์จะเข้ามายังพระนิเวศของพระองค์ โดยความรักเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ข้าพระองค์จะกราบนมัสการพระองค์ด้วยความยำเกรง ตรงต่อพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ 8 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าเนื่องด้วยศัตรูของข้าพระองค์ ขอทรงนำข้าพระองค์ไปในทางชอบธรรมของพระองค์ ขอให้ข้าพระองค์เดินในวิถีของพระองค์อย่างราบรื่น 9 เพราะไม่มีสักคำจากปากของพวกเขาที่เชื่อถือได้ ในใจของพวกเขามีแต่การทำลายล้าง ลำคอของพวกเขาคือหลุมฝังศพที่เปิดอยู่ พวกเขาใช้ลิ้นกล่าวปลิ้นปล้อน 10 ข้าแต่พระเจ้า! ขอทรงประกาศว่าพวกเขาผิด ขอให้พวกเขาล่มจมด้วยกลอุบายของตัวเอง ขอทรงขับไล่พวกเขาเพราะบาปทั้งหลายของพวกเขา เพราะพวกเขาได้กบฏต่อพระองค์ 11 แต่ขอให้ทุกคนที่ลี้ภัยในพระองค์เปรมปรีดิ์ ให้พวกเขาร้องเพลงรื่นเริงยินดีอยู่เสมอ ขอทรงปกป้องคุ้มครองพวกเขา เพื่อบรรดาผู้ที่รักพระนามของพระองค์จะชื่นชมยินดีในพระองค์ 12 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าแน่ทีเดียว พระองค์ทรงอวยพรคนชอบธรรม ความโปรดปรานของพระองค์เป็นดั่งโล่โอบล้อมพวกเขาไว้ —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/5-58e108b12c5c38a06c16c2b4acb761ef.mp3?version_id=179—

สดุดี 6

(ถึงหัวหน้านักร้อง บรรเลงเครื่องสาย ตามทำนองเชมินิท บทสดุดีของดาวิด) 1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงโปรดอย่ากำราบข้าพระองค์ขณะที่พระองค์ทรงกริ้ว หรือลงวินัยข้าพระองค์ขณะที่ทรงพระพิโรธ 2 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงกรุณาข้าพระองค์เถิด เพราะข้าพระองค์อ่อนระโหยโรยแรง ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงโปรดรักษาข้าพระองค์ เพราะกระดูกของข้าพระองค์ปวดร้าวแสนสาหัส 3 จิตวิญญาณของข้าพระองค์ทุกข์ระทมนัก อีกนานสักเท่าใด ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าอีกนานสักเท่าใด? 4 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงหันมาช่วยกู้ข้าพระองค์ด้วยเถิด ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอดพ้นเพราะความรักมั่นคงของพระองค์ 5 ไม่มีใครที่ตายไปแล้วจะระลึกถึงพระองค์ได้ ผู้ใดเล่าจะสรรเสริญพระองค์จากหลุมฝังศพได้? 6 ข้าพระองค์คร่ำครวญจนอ่อนล้า ข้าพระองค์ร่ำไห้ตลอดทั้งคืนจนน้ำตาท่วมที่นอน และหมอนของข้าพระองค์ชุ่มด้วยน้ำตา 7 ดวงตาของข้าพระองค์หม่นหมองไปเพราะความทุกข์โศก ช้ำไปเพราะบรรดาศัตรูของข้าพระองค์ 8 พวกเจ้าทุกคนที่ทำชั่ว จงไปให้พ้นข้าพเจ้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยินเสียงร่ำไห้ของข้าพเจ้าแล้ว 9 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยินเสียงร้องทูลขอความเมตตาของข้าพเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยอมรับคำอธิษฐานของข้าพเจ้า 10 บรรดาศัตรูของข้าพเจ้าจะมีแต่ความอับอายและความหวาดกลัว พวกเขาจะหันกลับไปและได้รับความอัปยศอดสูทันที —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/6-0a8dc91651ae15c623d5eb747a98788e.mp3?version_id=179—

สดุดี 7

(ชิกกาโยน ของดาวิด ซึ่งขับร้องถวายแด่ องค์พระผู้เป็นเจ้า เกี่ยวกับคูชคนเบนยามิน) 1 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ลี้ภัยในพระองค์ ขอทรงช่วยกู้และปลดปล่อยข้าพระองค์จากทุกคนที่ไล่ล่าข้าพระองค์ 2 มิฉะนั้นเขาจะฉีกข้าพระองค์ดุจสิงโต และชำแหละข้าพระองค์เป็นชิ้นๆ โดยไม่มีใครช่วย 3 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ หากข้าพระองค์ได้ทำผิด หรือมีบาปติดมือของข้าพระองค์ 4 หากข้าพระองค์ได้ทำชั่วต่อคนที่อยู่อย่างสงบกับข้าพระองค์ หรือได้ปล้นคู่อริโดยไม่มีเหตุ 5 ก็ขอให้ศัตรูรุกไล่ข้าพระองค์จนหมดทางสู้ ให้เขาเหยียบย่ำชีวิตของข้าพระองค์จนจมดิน และฝังข้าพระองค์ในธุลีดิน เสลาห์ 6 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงลุกขึ้นด้วยพระพิโรธของพระองค์ ขอทรงลุกขึ้นต่อสู้กับความเกรี้ยวกราดของศัตรูของข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงตื่นขึ้น ขอทรงบัญชาความยุติธรรม 7 ขอให้ชนชาติทั้งหลายมาชุมนุมล้อมรอบพระองค์ ในขณะที่พระองค์ทรงประทับบนบัลลังก์เหนือพวกเขา 8 ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพิพากษาชนชาติทั้งหลาย ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงตัดสินข้าพระองค์ตามความชอบธรรมของข้าพระองค์ ตามความซื่อสัตย์สุจริตของข้าพระองค์เถิด องค์ผู้สูงสุด 9 ขอทรงยุติความโหดร้ายของคนชั่ว และกระทำให้ผู้ชอบธรรมมั่นคงปลอดภัย ข้าแต่พระเจ้าผู้ชอบธรรม ผู้ทรงพิเคราะห์ความคิดและจิตใจ 10 พระเจ้าสูงสุดทรงเป็นโล่ของข้าพเจ้า ผู้ทรงช่วยคนที่มีจิตใจเที่ยงตรงให้รอด 11 พระเจ้าทรงเป็นตุลาการที่ชอบธรรม เป็นพระเจ้าผู้ทรงสำแดงพระพิโรธทุกวัน 12 หากเขาไม่หันกลับจากบาป พระองค์จะทรงลับดาบของพระองค์ไว้ พระองค์จะทรงโก่งธนูเตรียมยิง 13 […]

สดุดี 8

(ถึงหัวหน้านักร้อง ตามทำนองกิททีธ บทสดุดีของดาวิด) 1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระนามของพระองค์เกริกไกรทั่วแผ่นดินโลกจริงๆ! พระองค์ทรงตั้งเกียรติสิริของพระองค์ เหนือฟ้าสวรรค์ 2 พระองค์ทรงตั้งที่มั่นเพื่อต่อสู้กับเหล่าศัตรูของพระองค์ ผ่านทางการสรรเสริญของเด็กและทารก เพื่อทำให้ศัตรูและคนที่เคียดแค้นเงียบไป 3 เมื่อข้าพระองค์เพ่งพินิจฟ้าสวรรค์ อันเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ ดวงจันทร์และดวงดาวทั้งหลาย ที่พระองค์ทรงตั้งไว้ 4 มนุษย์ที่ต้องตายเป็นใครหนอ พระองค์จึงทรงพะวงถึง? บุตรของมนุษย์เป็นผู้ใด พระองค์จึงทรงห่วงใยพวกเขา? 5 พระองค์ทรงสร้างพวกเขาให้ต่ำกว่าชาวสวรรค์เพียงเล็กน้อย และทรงสวมมงกุฎแห่งศักดิ์ศรีและเกียรติให้พวกเขา 6 พระองค์ทรงตั้งพวกเขาให้ปกครองสิ่งสารพัดที่ทรงสร้างขึ้น พระองค์ทรงวางทุกสิ่งไว้ใต้เท้าของพวกเขา 7 ฝูงแพะแกะและฝูงวัวทั้งสิ้น และสัตว์ป่าทั้งหลายในทุ่งกว้าง 8 หมู่นกในอากาศ และปลาในทะเล ทุกสิ่งที่ว่ายไปมาในท้องทะเล 9 ข้าแต่พระยาห์เวห์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระนามของพระองค์เกริกไกรทั่วแผ่นดินโลกจริงๆ! —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/8-b19216115b6a1f98675a3821252afd27.mp3?version_id=179—

สดุดี 9

(ถึงหัวหน้านักร้อง ทำนอง “การตายของบุตรชาย” บทสดุดีของดาวิด) 1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์หมดหัวใจ ข้าพระองค์จะบอกถึงการมหัศจรรย์ทั้งสิ้นที่ทรงกระทำ 2 ข้าพระองค์จะชื่นชมยินดีและเปรมปรีดิ์ในพระองค์ ข้าแต่องค์ผู้สูงสุด ข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์ 3 เหล่าศัตรูของข้าพระองค์หันกลับไป พวกเขาล้มลงและพินาศต่อหน้าพระองค์ 4 เพราะพระองค์ทรงผดุงสิทธิ์และความยุติธรรมแก่ข้าพระองค์ พระองค์ประทับบนบัลลังก์ในฐานะผู้พิพากษาที่ชอบธรรม 5 พระองค์ทรงกำราบประชาชาติทั้งหลาย และทรงทำลายคนชั่ว พระองค์ทรงลบชื่อของพวกเขาออกไปเป็นนิตย์ 6 ศัตรูพินาศย่อยยับไปนิรันดร์ พระองค์ทรงทำลายเมืองต่างๆ ของพวกเขาอย่างถอนรากถอนโคน แม้แต่อนุสรณ์ของพวกเขาก็วอดวายไปสิ้น 7 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงครอบครองอยู่เป็นนิตย์ พระองค์ทรงสถาปนาบัลลังก์ของพระองค์ไว้เพื่อการพิพากษา 8 พระองค์จะทรงปกครองโลกด้วยความชอบธรรม และทรงพิพากษาประชาชาติทั้งหลายด้วยความยุติธรรม 9 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหง ทรงเป็นปราการมั่นคงในยามยากลำบาก 10 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทุกคนที่รู้จักพระนามของพระองค์จะวางใจในพระองค์ เพราะพระองค์ไม่เคยทอดทิ้งบรรดาผู้ที่แสวงหาพระองค์ 11 จงร้องเพลงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ครองบัลลังก์ในศิโยน จงประกาศพระราชกิจของพระองค์ท่ามกลางประชาชาติ 12 เพราะพระองค์ผู้ทรงแก้แค้นให้ไม่ทรงลืม พระองค์ไม่ทรงเพิกเฉยต่อเสียงร่ำร้องของผู้ที่ทุกข์ลำเค็ญ 13 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดทอดพระเนตรว่า เหล่าศัตรูข่มเหงรังแกข้าพระองค์เพียงใด! ขอทรงเมตตาและโอบอุ้มข้าพระองค์ให้พ้นจากประตูแห่งความตาย 14 เพื่อข้าพระองค์จะเปล่งเสียงสรรเสริญพระองค์ ที่ประตูเมืองของธิดาแห่งศิโยน และปีติยินดีในความรอดของพระองค์ที่นั่น 15 ประชาชาติทั้งหลายได้ตกลงไปในหลุมที่พวกเขาขุดไว้ เท้าของพวกเขาติดกับดักที่พวกเขาเองซ่อนไว้ […]

สดุดี 10

1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทำไมพระองค์จึงทรงประทับอยู่ไกลแสนไกล? ทำไมพระองค์จึงทรงซ่อนพระองค์ในยามเดือดร้อน? 2 ด้วยความหยิ่งผยอง คนชั่วไล่ล่าคนอ่อนแอ ผู้ซึ่งติดกับในอุบายที่เขาคิดขึ้น 3 พวกเขาโอ้อวดตัณหาในใจของตน พวกเขาอวยพรคนโลภและลบหลู่องค์พระผู้เป็นเจ้า 4 ด้วยความจองหองอวดดี คนชั่วไม่แสวงหาพระเจ้า ไม่เคยมีพระเจ้าในความคิดของพวกเขาเลย 5 ทางของพวกเขาเจริญรุ่งเรืองเสมอ พวกเขาปฏิเสธบทบัญญัติของพระองค์ พวกเขาเย้ยหยันศัตรูทั้งปวงของพวกเขา 6 พวกเขาบอกตัวเองว่า “ไม่มีสิ่งใดทำให้เราสั่นคลอนได้” พวกเขาสาบานว่า “ไม่มีใครทำอันตรายเราได้” 7 ริมฝีปากของพวกเขาเต็มไปด้วยคำโกหกและคำข่มขู่ ความเดือดร้อนและความชั่วอยู่ใต้ลิ้นของพวกเขา 8 พวกเขาหมอบคอยอยู่ใกล้หมู่บ้าน ออกจากที่ซ่อนมาฆ่าคนบริสุทธิ์ ตาของพวกเขาซุ่มมองเหยื่อ 9 พวกเขาหมอบคอยอยู่เหมือนสิงโตที่ซุ่มซ่อน พวกเขาหมอบรอจับคนไม่มีทางสู้ พวกเขาจับคนไม่มีทางสู้และลากไปในตาข่าย 10 คนบริสุทธิ์ถูกบดขยี้และล้มลง พวกเขาล้มเหยื่อด้วยกำลังที่เหนือกว่า 11 คนชั่วบอกตัวเองว่า “พระเจ้าไม่มีวันสังเกตเห็น พระองค์ทรงปิดพระพักตร์และทรงมองไม่เห็นเลย” 12 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า! ขอทรงลุกขึ้น ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงชูพระหัตถ์ของพระองค์ ขออย่าทรงลืมคนไม่มีทางสู้ 13 ทำไมคนชั่วจึงลบหลู่พระเจ้า? ทำไมพวกเขาจึงกล่าวกับตนเองว่า “พระองค์จะไม่ทรงเอาเรื่องเรา”? 14 แต่พระเจ้าทรงเห็นความเดือดร้อนของผู้ที่ทุกข์ลำเค็ญ พระองค์ทรงระลึกถึงความทุกข์โศกของพวกเขาและทรงรับมันไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมอบชีวิตของพวกเขาไว้กับพระองค์ […]