1ซามูเอล 16

ซามูเอลเจิมตั้งดาวิด 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับซามูเอลว่า “เจ้าจะคร่ำครวญเรื่องที่เราถอดซาอูลออกจากตำแหน่งกษัตริย์อิสราเอลไปอีกนานเท่าใด บัดนี้จงเติมน้ำมันให้เต็มเขาสัตว์และออกเดินทาง เราจะส่งเจ้าไปพบเจสซีแห่งเบธเลเฮม เราได้เลือกบุตรชายคนหนึ่งของเขาให้เป็นกษัตริย์” 2 แต่ซามูเอลกราบทูลว่า “ข้าพระองค์จะไปได้อย่างไร? ซาอูลจะรู้ข่าวและฆ่าข้าพระองค์เสีย” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงเอาวัวตัวเมียไปด้วยตัวหนึ่ง และพูดว่า ‘ข้าพเจ้ามาเพื่อถวายเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า’ 3 จงเชิญเจสซีไปร่วมการถวายเครื่องบูชา แล้วเราจะบอกให้เจ้ารู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง เจ้าจงเจิมตั้งคนที่เราบอกไว้สำหรับเรา” 4 ซามูเอลก็ปฏิบัติตามพระดำรัสสั่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าเมื่อเขามาถึงเบธเลเฮม บรรดาผู้อาวุโสของเมืองนั้นหวาดกลัวจนตัวสั่นและถามเขาว่า “ท่านมาอย่างสันติหรือ?” 5 ซามูเอลตอบว่า “ถูกแล้ว เรามาอย่างสันติ มาเพื่อถวายเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าจงชำระตัวแล้วมาร่วมถวายเครื่องบูชาด้วยกันเถิด” แล้วเขาประกอบพิธีชำระให้แก่เจสซีกับบุตรชายทั้งหลายของเขาและเชิญคนเหล่านั้นมาร่วมในการถวายเครื่องบูชาด้วย 6 เมื่อพวกเขามาถึง ซามูเอลมองดูเอลีอับและคิดในใจว่า “ชายที่ยืนอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าคนนี้แน่ที่พระองค์ทรงเจิมตั้งไว้” 7 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับซามูเอลว่า “อย่าตัดสินจากรูปร่างหน้าตาหรือส่วนสูง เพราะเราไม่ได้เลือกคนนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้มองอย่างที่มนุษย์มอง มนุษย์มองรูปลักษณ์ภายนอก แต่องค์พระผู้เป็นเจ้ามองดูจิตใจ” 8 จากนั้นเจสซีจึงสั่งให้อาบีนาดับมาอยู่ต่อหน้าซามูเอล แต่ซามูเอลกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้เลือกคนนี้” 9 เจสซีจึงเรียกตัวชัมมาห์ แต่ซามูเอลกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ไม่ได้เลือกคนนี้” 10 เจสซีให้บุตรชายทั้งเจ็ดคนมาอยู่ต่อหน้าซามูเอล แต่ซามูเอลกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้เลือกคนเหล่านี้” 11 ดังนั้นซามูเอลถามเจสซีว่า “ท่านมีลูกชายเท่านี้หรือ?” เจสซีตอบว่า […]

1ซามูเอล 17

ดาวิดกับโกลิอัท 1 ครั้งนั้นชาวฟีลิสเตียรวมพลมาสู้รบและชุมนุมกันที่โสโคห์ในยูดาห์ พวกเขาตั้งค่ายพักที่เอเฟสดัมมิมซึ่งอยู่ระหว่างโสโคห์กับอาเซคาห์ 2 ซาอูลและชนอิสราเอลมารวมพลและตั้งค่ายพักอยู่ที่หุบเขาเอลาห์ ตั้งแนวรบประจันหน้ากับชาวฟีลิสเตีย 3 ชาวฟีลิสเตียยึดเนินเขาด้านหนึ่ง อิสราเอลยึดเนินเขาอีกด้านหนึ่ง มีหุบเขาคั่นกลาง 4 ยอดนักรบชื่อโกลิอัทจากเมืองกัทออกมาจากค่ายฟีลิสเตีย เขาสูง 6 ศอกกับ 1 ฝ่ามือ 5 เขาสวมหมวกเกราะทองสัมฤทธิ์และสวมเสื้อเกราะทองสัมฤทธิ์หนักประมาณ 57 กิโลกรัม 6 ใส่สนับแข้งทองสัมฤทธิ์ มีหอกทองสัมฤทธิ์คล้องอยู่ที่บ่า 7 ด้ามหอกเหมือนไม้กระพั่นทอผ้า ปลายหอกทำด้วยเหล็กหนักประมาณ 7 กิโลกรัมมีคนแบกโล่เดินนำหน้า 8 โกลิอัทยืนร้องท้าทหารอิสราเอลว่า “พวกเจ้าจะมาตั้งแถวสู้รบกันทำไม? ข้าก็เป็นฟีลิสเตีย ส่วนพวกเจ้าก็เป็นบริวารของซาอูลไม่ใช่หรือ? จงเลือกคนหนึ่งลงมาสู้กับข้า 9 ถ้าคนของเจ้าฆ่าข้าได้ พวกข้าจะยอมแพ้พวกเจ้า แต่ถ้าข้าชนะและฆ่าเขาได้ พวกเจ้าต้องยอมแพ้เป็นทาสรับใช้พวกข้า” 10 ชาวฟีลิสเตียคนนั้นพูดว่า “วันนี้ข้าขอท้ากองทัพอิสราเอล! ส่งคนมาสู้กับข้าสิ” 11 เมื่อซาอูลและชนอิสราเอลทั้งหมดได้ยินเช่นนี้ ก็พากันหวาดผวาและท้อแท้ใจ 12 ฝ่ายดาวิดเป็นบุตรเจสซีชาวถิ่นเอฟราธาห์จากเบธเลเฮมในเขตยูดาห์ เจสซีมีบุตรชายแปดคน เขาก็ชราและมีอายุมากแล้วในสมัยที่ซาอูลเป็นกษัตริย์ 13 บุตรชายสามคนแรกของเจสซีที่ติดตามซาอูลไปรบมีดังนี้คือ เอลีอับบุตรหัวปี […]

1ซามูเอล 18

ซาอูลอิจฉาดาวิด 1 เมื่อดาวิดกราบทูลซาอูลเสร็จแล้ว โยนาธานรู้สึกผูกพันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับดาวิด เขารักดาวิดเหมือนรักตนเอง 2 ตั้งแต่วันนั้นซาอูลเก็บตัวดาวิดไว้ ไม่อนุญาตให้เขากลับไปหาบิดาที่บ้าน 3 และโยนาธานทำพันธสัญญาเป็นเพื่อนแท้กับดาวิดเพราะเขารักดาวิดเหมือนรักตนเอง 4 โยนาธานถอดเสื้อคลุมที่สวมอยู่ยกให้ดาวิด พร้อมทั้งเสื้อตัวใน ดาบ ธนู และเข็มขัด 5 ซาอูลมอบหมายให้ทำการใดๆ ดาวิดก็ปฏิบัติจนสำเร็จลุล่วงซาอูลจึงแต่งตั้งดาวิดให้มีตำแหน่งสูงในกองทัพ ซึ่งเป็นที่พอใจของบรรดาทหารของซาอูลและประชาชนทั่วไป 6 ขณะที่กองทัพอิสราเอลผู้มีชัยกำลังเดินทางกลับบ้าน หลังจากที่ดาวิดได้สังหารชาวฟีลิสเตียแล้ว มีผู้หญิงจากหัวเมืองทั้งปวงของอิสราเอลออกมาเฉลิมฉลองต้อนรับกษัตริย์ซาอูล ร้องเพลง และร่ายรำด้วยความชื่นชมยินดี เล่นรำมะนาและดีดพิณ 7 พวกเขาร่ายรำและร้องเพลงว่า “ซาอูลฆ่าศัตรูนับพัน และดาวิดฆ่าศัตรูนับหมื่น” 8 ซาอูลทรงพระพิโรธยิ่งนัก บทเพลงร้องรับนั้นทำให้พระองค์ไม่พอใจและคิดว่า “พวกเขายกย่องดาวิดว่าฆ่าคนเป็นหมื่นๆ ส่วนเราแค่พัน ต่อไปเขาจะได้อะไรอีกถ้าไม่ใช่อาณาจักรนี้?” 9 นับแต่นั้นมาซาอูลก็ทรงจับตาดูดาวิดด้วยความอิจฉาริษยา 10 วันรุ่งขึ้นวิญญาณชั่วจากพระเจ้าเข้าสิงซาอูล ซาอูลทรงพร่ำเพ้ออยู่ในวัง ขณะที่ดาวิดเล่นพิณถวายเช่นเคย ซาอูลทรงถือหอกอยู่ 11 และรำพึงว่า “ข้าจะตรึงดาวิดให้ติดกำแพง” แล้วทรงพุ่งหอกเข้าใส่ดาวิด แต่ดาวิดหลบได้ทั้งสองครั้ง 12 ซาอูลเกรงกลัวดาวิด เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับดาวิด แต่ทรงละจากซาอูลไป 13 ซาอูลจึงให้ดาวิดออกไปให้พ้นหน้า […]

1ซามูเอล 19

ซาอูลพยายามฆ่าดาวิด 1 ซาอูลยุยงข้าราชบริพารและโยนาธานราชโอรสให้ฆ่าดาวิด แต่โยนาธานชอบดาวิดมาก 2 จึงเตือนดาวิดว่า “ซาอูลเสด็จพ่อของเราหาโอกาสจะฆ่าท่าน พรุ่งนี้เช้าท่านจะต้องระวังตัว จงไปหาที่หลบซ่อน 3 เราจะออกไปยืนกับเสด็จพ่อของเราในทุ่งนาที่ท่านอยู่ แล้วจะพูดกับเสด็จพ่อถึงเรื่องของท่าน เมื่อได้ความว่าอย่างไร เราจะบอกให้ทราบ” 4 โยนาธานทูลซาอูลราชบิดาถึงคุณงามความดีของดาวิดว่า “ขอฝ่าพระบาทอย่าได้ทรงประทุษร้ายดาวิดผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเลย เขาไม่ได้มุ่งร้ายต่อฝ่าพระบาท สิ่งที่เขาทำก็เอื้อประโยชน์แก่ฝ่าพระบาทอย่างยิ่ง 5 เขาเสี่ยงเอาชีวิตเป็นเดิมพันเมื่อฆ่าชาวฟีลิสเตียคนนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำชัยชนะอันยิ่งใหญ่มาสู่อิสราเอลทั้งปวง ครั้งนั้นฝ่าพระบาทก็ทรงเห็นและปีติยินดีกับชัยชนะนี้ ทำไมเดี๋ยวนี้ฝ่าพระบาทจะประหารคนบริสุทธิ์อย่างดาวิดโดยไม่มีเหตุผล?” 6 ซาอูลรับฟังโยนาธาน และสาบานว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ดาวิดจะไม่ถูกฆ่าฉันนั้น” 7 โยนาธานจึงเรียกดาวิดและเล่าสิ่งที่พูดคุยกันทั้งหมดให้ฟัง จากนั้นก็นำดาวิดไปเข้าเฝ้าซาอูล ดาวิดจึงได้อยู่กับซาอูลเหมือนแต่ก่อน 8 หลังจากนั้นเกิดสงครามอีก ดาวิดก็ออกไปสู้รบกับชาวฟีลิสเตียและฆ่าฟันจนศัตรูแตกพ่ายไป 9 แต่วิญญาณชั่วจากองค์พระผู้เป็นเจ้ามาเข้าสิงซาอูลขณะที่ประทับอยู่ในวังและพระหัตถ์ถือหอกอยู่ ขณะที่ดาวิดกำลังเล่นพิณถวาย 10 ซาอูลทรงพุ่งหอกหมายตรึงดาวิดติดผนัง แต่ดาวิดเบี่ยงตัวหลบ หอกของซาอูลจึงพุ่งไปปักติดผนัง และดาวิดก็หนีรอดไปได้ในคืนนั้น 11 ซาอูลทรงส่งคนจำนวนหนึ่งไปเฝ้าอยู่ที่บ้านของดาวิด ให้ฆ่าดาวิดในตอนเช้า แต่มีคาลภรรยาของดาวิดเตือนเขาว่า “ถ้าท่านไม่หนีเอาชีวิตรอดในคืนนี้ พรุ่งนี้เช้าท่านจะถูกฆ่า” 12 มีคาลจึงช่วยให้ดาวิดหนีลงทางหน้าต่างและรอดไปได้ 13 แล้วนางยกรูปเคารพมาวางนอนบนเตียงของดาวิดใช้ผ้าห่มคลุมไว้ เอาขนแพะติดไว้ที่ศีรษะ 14 […]

1ซามูเอล 20

ดาวิดกับโยนาธาน 1 ครั้งนั้นดาวิดหนีจากนาโยทที่รามาห์ไปพบกับโยนาธาน ดาวิดถามว่า “ข้าพเจ้าทำอะไรหรือ? ข้าพเจ้าก่ออาชญากรรมอะไรหรือ? ข้าพเจ้าทำอะไรผิดต่อราชบิดาของท่านหรือ พระองค์จึงทรงพยายามจะเอาชีวิตของข้าพเจ้า?” 2 โยนาธานตอบว่า “ไม่เป็นเช่นนั้นหรอก! ท่านจะไม่ตาย! ดูเถิด เสด็จพ่อจะไม่ทรงทำสิ่งใดไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่โดยไม่บอกเรา ทำไมพระองค์จะต้องปิดบังเราในเรื่องนี้? ไม่เป็นเช่นนั้นแน่!” 3 แต่ดาวิดสาบานและกล่าวว่า “เสด็จพ่อของท่านทรงทราบดีว่าท่านโปรดปรานข้าพเจ้า พระองค์คงดำริว่า ‘อย่าให้โยนาธานรู้เรื่องนี้เลย เดี๋ยวเขาจะสะเทือนใจ’ แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใดและท่านมีชีวิตอยู่แน่ฉันใด ข้าพเจ้าอยู่ใกล้ความตายแค่คืบฉันนั้น” 4 โยนาธานพูดกับดาวิดว่า “ถ้าอย่างนั้นบอกมาสิว่าท่านจะให้เราทำอะไร เรายินดีจะทำให้” 5 ดาวิดตอบว่า “ดูเถิด พรุ่งนี้จะมีงานฉลองขึ้นหนึ่งค่ำ ข้าพเจ้าน่าจะร่วมอยู่ที่โต๊ะเสวย แต่ข้าพเจ้าขอซ่อนอยู่ในทุ่งนาจนถึงเย็นวันมะรืนนี้ 6 หากราชบิดาของท่านทรงถามถึงข้าพเจ้า ช่วยทูลว่า ‘ดาวิดทูลขออนุญาตรีบกลับไปเบธเลเฮม เพื่อร่วมฉลองการถวายบูชาประจำปีของตระกูล’ 7 หากพระองค์ตรัสว่า ‘ดี’ ผู้รับใช้ของท่านก็ปลอดภัย แต่หากพระองค์กริ้ว ท่านก็แน่ใจได้ว่าพระองค์ตั้งพระทัยจะทำร้ายข้าพเจ้า 8 ส่วนท่านขอให้กรุณาผู้รับใช้ของท่านเพราะท่านให้ข้าพเจ้าเข้าร่วมกระทำพันธสัญญากับท่านต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าหากข้าพเจ้าทำผิดคิดร้ายใดๆ ท่านเองก็ฆ่าข้าพเจ้าได้เลย! ทำไมต้องมอบข้าพเจ้าแก่ราชบิดาของท่านเล่า?” 9 โยนาธานกล่าวว่า “เราไม่ทำอย่างนั้นเด็ดขาด ทำไมเราจะไม่บอกท่านถ้าเราได้เบาะแสว่าเสด็จพ่อตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะทำร้ายท่าน?” 10 ดาวิดจึงถามว่า […]

1ซามูเอล 21

ดาวิดที่เมืองโนบ 1 ดาวิดเดินทางไปพบปุโรหิตอาหิเมเลคที่เมืองโนบ อาหิเมเลคตัวสั่นเมื่อพบดาวิด เขาถามว่า “ทำไมท่านมาคนเดียว? ทำไมไม่มีใครมาด้วย?” 2 ดาวิดตอบปุโรหิตอาหิเมเลคว่า “กษัตริย์รับสั่งให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติงานอย่างหนึ่ง ทรงกำชับข้าพเจ้าว่า ‘อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้’ ข้าพเจ้านัดกับพรรคพวกไว้แล้วว่าจะไปพบกันที่ไหน 3 ว่าแต่ตอนนี้มีอะไรให้ข้าพเจ้ากินบ้างไหม? ขอขนมปังสักห้าก้อนหรืออะไรก็ได้ที่ท่านมี” 4 ปุโรหิตตอบดาวิดว่า “เราไม่มีขนมปังธรรมดา มีแต่ขนมปังศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเราคิดว่าพวกท่านจะกินได้ก็ต่อเมื่อคนของท่านไม่ได้หลับนอนกับหญิงใดตลอดช่วงนี้” 5 ดาวิดตอบว่า “แน่นอน โดยปกติเมื่อออกปฏิบัติภารกิจก็จะกันพวกผู้หญิงให้ห่างอยู่แล้ว แม้ปฏิบัติหน้าที่ตามธรรมดาก็ยังรักษาตัวให้บริสุทธิ์ วันนี้ก็ยิ่งกว่านั้นอีก!” 6 เนื่องจากไม่มีอาหารอื่นใดเลย ปุโรหิตจึงให้ขนมปังศักดิ์สิทธิ์แก่ดาวิดคือ ขนมปังเฉพาะพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งในวันนั้นเพิ่งจะนำขนมปังใหม่สดมาเปลี่ยน 7 ขณะนั้นโดเอกชาวเอโดมหัวหน้าคนเลี้ยงสัตว์ของซาอูลอยู่ที่นั่นด้วย เพราะเขามีเหตุต้องอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 8 ดาวิดถามอาหิเมเลคว่า “มีหอกหรือดาบบ้างไหม? เนื่องจากพระราชกิจครั้งนี้เร่งด่วนมาก ข้าพเจ้ารีบร้อนจนไม่ได้เอาอาวุธติดมือมาเลย” 9 ปุโรหิตตอบว่า “มีดาบของโกลิอัทชาวฟีลิสเตียซึ่งท่านฆ่าที่หุบเขาเอลาห์ห่ออยู่ในผ้าข้างหลังเอโฟด ถ้าท่านต้องการก็เอาไปได้เลย เพราะมีดาบเล่มนั้นอยู่เล่มเดียว” ดาวิดตอบว่า “ไม่มีดาบเล่มไหนเหมือนเล่มนั้นอีกแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าเถิด” ดาวิดที่เมืองกัท 10 ในวันนั้นดาวิดหนีจากซาอูลไปเฝ้ากษัตริย์อาคีชแห่งกัท 11 แต่ข้าราชบริพารของอาคีชทูลว่า “นี่คือกษัตริย์ดาวิดของดินแดนนั้นไม่ใช่หรือ? คนนี้ไม่ใช่หรือที่ประชาชนร้องรำทำเพลงยกย่องว่า “‘ซาอูลฆ่าศัตรูนับพัน […]

1ซามูเอล 22

ดาวิดที่อดุลลัมและมิสปาห์ 1 ดาวิดจึงออกจากเมืองกัทแล้วหนีไปยังถ้ำอดุลลัม เมื่อพวกพี่ชายและคนในครัวเรือนของบิดาได้ข่าวก็มาพบเขาที่นั่น 2 ทุกคนที่มีปัญหาทุกข์ร้อนต่างๆ มีหนี้สิน หรือมีเรื่องไม่พอใจก็มาเข้าเป็นพวกกับดาวิด และเขากลายเป็นหัวหน้าของคนเหล่านี้ มีคนมาอยู่กับดาวิดประมาณสี่ร้อยคน 3 จากที่นั่นดาวิดไปยังมิสปาห์ในโมอับและทูลกษัตริย์แห่งโมอับว่า “ขอให้บิดามารดาของข้าพระบาทมาพึ่งพระบารมี จนกว่าจะทราบว่าพระเจ้าจะทรงกระทำประการใดเพื่อข้าพระบาทต่อไป” 4 ดังนั้นดาวิดจึงให้บิดามารดามาอาศัยอยู่กับกษัตริย์โมอับตลอดเวลาที่เขาอยู่ในที่มั่น 5 แต่ผู้เผยพระวจนะกาดมาบอกดาวิดว่า “อย่าพักอาศัยในที่มั่นนี้ จงกลับไปยังดินแดนยูดาห์” ดาวิดจึงไปยังป่าเฮเรท ซาอูลประหารเหล่าปุโรหิตของเมืองโนบ 6 ฝ่ายซาอูลทรงได้ข่าวว่ามีผู้พบดาวิดกับพรรคพวก ซาอูลประทับอยู่ใต้ต้นสนหมอกบนเนินเขาที่กิเบอาห์ ทรงถือหอกอยู่ รายรอบด้วยเหล่าทหาร 7 ซาอูลตรัสกับพวกเขาว่า “ฟังนะ ชนเบนยามินทั้งหลาย! ลูกเจสซีหรือจะให้ที่ดินและสวนองุ่นแก่เจ้า? เขาจะให้เจ้าเป็นแม่ทัพนายกองหรือ? 8 นี่หรือเป็นเหตุให้พวกเจ้าสมคบกันเป็นศัตรูกับเรา? ไม่มีใครมาบอกเราเมื่อลูกชายของเราไปทำพันธสัญญากับลูกเจสซี ไม่มีใครในพวกเจ้าที่ห่วงใยเรา และบอกเราว่าลูกชายเราเองยุยงคนรับใช้ของเราให้มาดักเล่นงานเราอย่างทุกวันนี้” 9 แต่โดเอกชาวเอโดมซึ่งยืนอยู่กับข้าราชบริพารของซาอูลทูลว่า “ข้าพระบาทเห็นบุตรเจสซีมาพบอาหิเมเลคบุตรอาหิทูบที่เมืองโนบ 10 อาหิเมเลคทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าให้กับเขา พร้อมทั้งให้เสบียงและดาบของโกลิอัทชาวฟีลิสเตียด้วย” 11 ซาอูลจึงตรัสสั่งให้ตามตัวปุโรหิตอาหิเมเลคบุตรอาหิทูบและทั้งครอบครัวของบิดาของเขาซึ่งเป็นปุโรหิตที่เมืองโนบมาเข้าเฝ้า 12 ซาอูลตรัสกับอาหิเมเลคว่า “ฟังเรานะบุตรอาหิทูบ” อาหิเมเลคทูลว่า “พระเจ้าข้า” 13 ซาอูลตรัสว่า “ทำไมเจ้ากับบุตรเจสซีจึงสมคบกันต่อต้านเรา? ทำไมเจ้าถึงให้อาหารให้ดาบและทูลถามพระเจ้าให้เขา […]

1ซามูเอล 23

ดาวิดช่วยเมืองเคอีลาห์ 1 เมื่อมีคนมาบอกดาวิดว่า “ดูเถิด พวกฟีลิสเตียมาต่อสู้กับชาวเคอีลาห์และกำลังปล้นลานนวดข้าว” 2 เขาจึงทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าพระองค์ควรเข้าโจมตีพวกฟีลิสเตียหรือไม่?” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “ไปเถิด ไปโจมตีชาวฟีลิสเตีย ป้องกันเมืองเคอีลาห์ไว้!” 3 แต่คนของดาวิดพูดว่า “แม้แต่ในยูดาห์เรายังกลัว ถ้าเราไปเมืองเคอีลาห์เพื่อต่อสู้กับกองกำลังของฟีลิสเตียจะยิ่งน่ากลัวกว่านั้นสักเท่าใด!” 4 ดาวิดจึงทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าอีกครั้ง และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “จงไปที่เมืองเคอีลาห์เถิด เพราะเราจะมอบชาวฟีลิสเตียไว้ในมือของเจ้า” 5 ดาวิดและพวกจึงไปที่เมืองเคอีลาห์และสู้รบทำลายชาวฟีลิสเตียเสียหายยับเยิน ยึดเอาฝูงสัตว์ของเขามา และช่วยชีวิตชาวเมืองเคอีลาห์ไว้ได้ 6 (เมื่อปุโรหิตอาบียาธาร์บุตรอาหิเมเลคหนีไปหาดาวิดที่เมืองเคอีลาห์ เขาได้นำเอโฟดติดตัวไปด้วย) ซาอูลตามล่าดาวิด 7 เมื่อซาอูลทรงทราบข่าวว่าดาวิดอยู่ที่เมืองเคอีลาห์ก็ตรัสว่า “พระเจ้ามอบดาวิดไว้ในมือของเราแล้ว เขาเองที่เข้ามาติดกับอยู่ในเมืองที่มีกำแพงและประตูแน่นหนาอย่างนี้” 8 ฉะนั้นซาอูลทรงระดมพลไปที่เมืองเคอีลาห์เพื่อจับตัวดาวิดกับพรรคพวก 9 แต่ดาวิดล่วงรู้แผนการของซาอูล เขาจึงกล่าวกับปุโรหิตอาบียาธาร์ว่า “โปรดนำเอโฟดออกมา” 10 ดาวิดกราบทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้รับใช้ของพระองค์ได้ยินมาอย่างแน่นอนแล้วว่าซาอูลทรงดำริจะมาทำลายล้างเมืองเคอีลาห์เพราะข้าพระองค์อยู่ที่นี่ 11 ชาวเมืองเคอีลาห์จะจับกุมข้าพระองค์ไปมอบให้กษัตริย์หรือไม่? ซาอูลจะเสด็จมาจริงๆ อย่างที่ผู้รับใช้ของพระองค์ได้ยินข่าวหรือไม่? ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลโปรดแจ้งแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ด้วยเถิด” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เขาจะมา” 12 ดาวิดทูลถามอีกว่า “แล้วชาวเคอีลาห์จะยอมมอบตัวข้าพระองค์และคนของข้าพระองค์แก่ซาอูลหรือไม่?” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “เขาจะทำเช่นนั้น” […]

1ซามูเอล 24

ดาวิดไว้ชีวิตซาอูล 1 หลังจากที่ซาอูลกลับมาจากการรบกับชาวฟีลิสเตีย มีผู้กราบทูลว่า “ดาวิดอยู่ในถิ่นกันดารเอนเกดี” 2 ซาอูลจึงทรงนำพลที่คัดเลือกแล้วจากทั่วอิสราเอลสามพันคนไปค้นหาดาวิดกับพวกตามซอกเขาแห่งเลียงผา 3 พระองค์เสด็จมาถึงคอกแกะริมทาง ทรงเข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่งเพื่อปลดทุกข์ ดาวิดกับพวกอยู่ลึกเข้าไปในถ้ำ 4 คนของดาวิดพูดว่า “วันนี้แหละคือวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่ท่านไว้ว่า ‘เราจะมอบศัตรูไว้ในมือของเจ้า เจ้าทำอะไรกับเขาก็ได้ตามใจชอบ’ ” แล้วดาวิดก็ย่องเข้าไปตัดชายฉลองพระองค์ของซาอูลโดยที่ซาอูลไม่รู้ตัว 5 ต่อมาดาวิดรู้สึกผิดที่ได้ตัดชายฉลองพระองค์ของซาอูล 6 ดาวิดกล่าวกับพรรคพวกว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงห้ามเราไม่ให้ทำเช่นนั้นต่อนายเหนือหัวผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมตั้งไว้หรือทำร้ายกษัตริย์ เพราะทรงเป็นผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมตั้งไว้” 7 ดาวิดพูดดังนี้เพื่อปรามคนของเขาไม่ให้ทำร้ายซาอูล แล้วซาอูลก็ทรงออกจากถ้ำและไปตามทางของพระองค์ 8 ดาวิดก็ออกจากถ้ำตามมาและร้องทูลว่า “ข้าแต่องค์กษัตริย์! เจ้านายของข้าพระบาท” เมื่อซาอูลทรงหันพระพักตร์มา ดาวิดก็หมอบกราบลง 9 แล้วทูลซาอูลว่า “ทำไมทรงฟังผู้คนที่พูดว่า ‘ดาวิดมุ่งทำร้ายฝ่าพระบาท’? 10 วันนี้ก็ทรงเห็นกับตาแล้วที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบฝ่าพระบาทไว้ในมือของข้าพระบาทในถ้ำนี้ มีผู้สนับสนุนให้ปลงพระชนม์ฝ่าพระบาท แต่ข้าพระบาทไว้ชีวิตฝ่าพระบาท เพราะข้าพระบาทลั่นวาจาไว้ว่า ‘ข้าพเจ้าจะไม่ทำร้ายเจ้านายของข้าพเจ้าเพราะว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมตั้งไว้’ 11 ดูเถิด ราชบิดาของข้าพระบาท โปรดทอดพระเนตรชายฉลองพระองค์ของฝ่าพระบาทที่อยู่ในมือของข้าพระบาทชิ้นนี้! ข้าพระบาทตัดออกมา แต่ไม่ได้ปลงพระชนม์ฝ่าพระบาท บัดนี้ขอทรงเข้าพระทัยและประจักษ์เถิดว่าข้าพระบาทไม่ได้ทำร้ายหรือกบฏต่อฝ่าพระบาท และไม่ได้ทำผิดต่อฝ่าพระบาท แม้ว่าฝ่าพระบาททรงตามล่าเอาชีวิตข้าพระบาทอยู่ 12 ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตัดสินความระหว่างเราสองฝ่าย และขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงคืนสนองสิ่งที่ฝ่าพระบาททำผิดต่อข้าพระบาท แต่ข้าพระบาทเองจะไม่แตะต้องฝ่าพระบาท […]

1ซามูเอล 25

ดาวิด นาบาล และอาบีกายิล 1 ซามูเอลสิ้นชีวิตลง ชาวอิสราเอลทั้งปวงพากันมาร่วมชุมนุมไว้อาลัยให้แก่ซามูเอล และฝังศพเขาที่รามาห์บ้านเกิดของเขา ส่วนดาวิดย้ายไปที่ถิ่นกันดารมาโอน 2 มีเศรษฐีคนหนึ่งในมาโอน มีทรัพย์สินอยู่ที่คารเมล เขามีแพะหนึ่งพันตัว แกะสามพันตัว ขณะนั้นเขาไปที่คารเมลเพื่อตัดขนแกะ 3 เศรษฐีผู้นี้มีนามว่านาบาล เป็นวงศ์วานของคาเลบ ภรรยาของเขาชื่ออาบีกายิล เป็นคนสวยและเฉลียวฉลาด แต่ตัวนาบาลเป็นคนใจแคบและหยาบคาย 4 ขณะที่ดาวิดอยู่ในถิ่นกันดาร เขาได้ยินว่านาบาลกำลังตัดขนแกะ 5 ก็สั่งชายหนุ่มสิบคนว่า “จงไปหานาบาลที่คารเมลและทักทายเขาในนามของเรา 6 และแจ้งเขาว่า ‘ขอให้ท่านมีอายุมั่นขวัญยืน! ขอให้ท่านและครอบครัวมีสุขภาพดี! ขอให้ทุกอย่างในกรรมสิทธิ์ของท่านเจริญขึ้น! 7 “ ‘ข้าพเจ้าทราบมาว่าท่านกำลังตัดขนแกะ เราไม่เคยทำร้ายคนเลี้ยงแกะของท่านเลยขณะที่พวกเขาอาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเรา ตลอดเวลาที่พวกเขาอยู่ในคารเมลก็ไม่มีสิ่งใดขาดหายไป 8 โปรดถามคนของท่านดูว่าเป็นอย่างที่กล่าวมานี้หรือไม่ ฉะนั้นขอท่านเกื้อหนุนแก่คนของข้าพเจ้าเพราะเรามาเยือนในงานเลี้ยงฉลองนี้ โปรดให้ดาวิดบุตรและผู้รับใช้ของท่านตามแต่จะเอื้อเฟื้อ’” 9 เมื่อบรรดาคนของดาวิดมาถึง ก็เรียนให้นาบาลทราบตามนั้นในนามของดาวิดและรอฟังคำตอบ 10 นาบาลตอบคนรับใช้ของดาวิดว่า “ดาวิดเป็นใครกัน? ลูกเจสซีคนนี้เป็นใครกัน? ทุกวันนี้มีลูกจ้างมากมายหนีนายของตัวไป 11 ควรหรือที่เราจะเอาขนมปัง น้ำ และเนื้อที่เราฆ่าสำหรับคนตัดขนแกะของเราไปให้กลุ่มคนที่เราไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า?” 12 คนของดาวิดจึงกลับมารายงานทุกถ้อยคำที่นาบาลกล่าว 13 ดาวิดสั่งว่า […]