1พงศาวดาร 26

ยามเฝ้าประตูพระวิหาร 1 การแบ่งหมู่เหล่าของยามเฝ้าประตูพระวิหารเป็นดังนี้ จากตระกูลโคราห์ได้แก่ เมเชเลมิยาห์บุตรของโคเรซึ่งเป็นบุตรคนหนึ่งของอาสาฟ 2 บุตรของเมเชเลมิยาห์ ได้แก่ เศคาริยาห์บุตรหัวปี คนที่สองคือเยดียาเอล คนที่สามคือเศบาดิยาห์ คนที่สี่คือยาทนีเอล 3 คนที่ห้าคือเอลาม คนที่หกคือเยโฮฮานัน และคนที่เจ็ดคือเอลีโฮนัย 4 โอเบดเอโดมก็มีบุตรด้วยเช่นกัน ได้แก่ เชไมอาห์บุตรหัวปี คนที่สองคือเยโฮซาบาด คนที่สามคือโยอาห์ คนที่สี่คือสาคาร์ คนที่ห้าคือเนธันเอล 5 คนที่หกคืออัมมีเอล คนที่เจ็ดคืออิสสาคาร์ และคนที่แปดคือเปอุลเลธัย (เพราะพระเจ้าทรงอวยพรโอเบดเอโดม) 6 เชไมอาห์บุตรของเขาก็มีบุตรหลายคน ซึ่งเป็นผู้นำในเครือญาติเพราะมีความสามารถ 7 บุตรของเชไมอาห์ได้แก่ โอทนี เรฟาเอล โอเบด และเอลซาบาด ญาติของเขาคือเอลีฮูกับเสมาคิยาห์ก็เป็นผู้มีความสามารถเช่นกัน 8 บุตรหลานและญาติของโอเบดเอโดมรวมทั้งสิ้น 62 คน ล้วนมีความสามารถและมีกำลังในการปฏิบัติงาน 9 เมเชเลมิยาห์มีบุตรและญาติพี่น้องรวม 18 คน ก็เป็นผู้มีความสามารถเช่นกัน 10 สำหรับโฮสาห์ตระกูลเมรารีได้แต่งตั้งชิมรีให้เป็นผู้นำของบุตรทั้งหลายของตน (แม้ว่าชิมรีจะไม่ใช่บุตรหัวปี แต่บิดาตั้งเขาเป็นคนแรก) 11 คนที่สองคือฮิลคียาห์ […]

1พงศาวดาร 27

กองทัพอิสราเอล 1 ต่อไปนี้เป็นรายชื่อหัวหน้าครอบครัว แม่ทัพนายกอง และเจ้าหน้าที่ต่างๆ ของอิสราเอล ซึ่งรับใช้กษัตริย์ในงานที่เกี่ยวกับการแบ่งกำลังพลประจำหน้าที่แต่ละเดือนตลอดปี แต่ละกองมีกำลังพล 24,000 คน 2 ผู้บัญชาการกองพลที่หนึ่งซึ่งรับผิดชอบเดือนที่หนึ่งคือ ยาโชเบอัมบุตรศับดีเอล รับผิดชอบเดือนที่หนึ่ง มีกำลังพล 24,000 คน 3 เขาเป็นวงศ์วานของเปเรศ และเป็นผู้บัญชาการกองทัพทั้งหมดในเดือนที่หนึ่ง 4 ผู้บัญชาการกองพลที่สองซึ่งรับผิดชอบเดือนที่สองคือ โดดัยชาวอาโหอาห์ มีกำลังพล 24,000 คน มิคโลธเป็นผู้บังคับกอง 5 ผู้บัญชาการกองพลที่สามซึ่งรับผิดชอบเดือนที่สามคือ เบไนยาห์บุตรปุโรหิตเยโฮยาดา เขาเป็นหัวหน้าและมีกำลังพล 24,000 คน 6 เขาคือเบไนยาห์ผู้เป็นหัวหน้าของกลุ่มสามสิบยอดนักรบของดาวิด บุตรของเขาคืออัมมีซาบาดเป็นผู้บังคับกอง 7 ผู้บัญชาการกองพลที่สี่ซึ่งรับผิดชอบเดือนที่สี่คือ อาสาเฮลน้องชายของโยอาบ เศบาดิยาห์บุตรของเขารับตำแหน่งต่อ มีกำลังพล 24,000 คน 8 ผู้บัญชาการกองพลที่ห้าซึ่งรับผิดชอบเดือนที่ห้าคือ แม่ทัพชัมหุทแห่งอิสราห์ มีกำลังพล 24,000 คน 9 ผู้บัญชาการกองพลที่หกซึ่งรับผิดชอบเดือนที่หกคือ อิราบุตรอิกเขชจากเทโคอา มีกำลังพล 24,000 คน […]

1พงศาวดาร 28

แผนงานของดาวิดในการสร้างพระวิหาร 1 ดาวิดทรงเรียกชุมนุมข้าราชการทั้งปวงในกรุงเยรูซาเล็ม คือเจ้าหน้าที่เผ่าต่างๆ บรรดาผู้บัญชาการกองพลของกษัตริย์ เหล่าแม่ทัพนายกอง ผู้ดูแลรับผิดชอบทรัพย์สินและปศุสัตว์ส่วนพระองค์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ราชวัง เหล่ายอดนักรบ และบรรดาทหารกล้า 2 ดาวิดทรงยืนขึ้นและตรัสว่า “พี่น้องประชาชนทั้งหลาย ข้าพเจ้าตั้งใจจะสร้างพระนิเวศเพื่อเป็นที่วางหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าและเพื่อเป็นแท่นรองพระบาทสำหรับพระเจ้าของเรา และข้าพเจ้าได้จัดเตรียมการก่อสร้างไว้แล้ว 3 แต่พระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เจ้าจะสร้างนิเวศสำหรับนามของเราไม่ได้ เพราะเจ้าเป็นนักรบและได้ทำให้เลือดนองแผ่นดินมามาก’ 4 “แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลได้ทรงเลือกข้าพเจ้าขึ้นมาจากวงศ์ตระกูล ให้เป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอลตลอดกาล ทรงเลือกตระกูลยูดาห์เป็นผู้นำ และจากยูดาห์ทรงเลือกครอบครัวของบิดาของข้าพเจ้า และจากบุตรทั้งหลายของบิดา พระองค์ทรงพอพระทัยตั้งข้าพเจ้าเป็นกษัตริย์ปกครองเหนืออิสราเอล 5 จากบรรดาบุตรของข้าพเจ้าซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ประทานให้มากมาย พระองค์ทรงเลือกโซโลมอนให้ครองบัลลังก์แห่งอาณาจักรอิสราเอลขององค์พระผู้เป็นเจ้า 6 พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘โซโลมอนบุตรชายของเจ้า คือผู้ที่จะสร้างพระนิเวศและลานพระนิเวศสำหรับเรา เพราะเราเลือกเขาเป็นบุตรของเราและเราจะเป็นบิดาของเขา 7 หากเขาตั้งใจแน่วแน่ ปฏิบัติตามบทบัญญัติและคำบัญชาของเราเหมือนที่เขาทำอยู่นี้เราก็จะสถาปนาอาณาจักรของเขาไว้ตลอดกาล’ 8 “บัดนี้เราขอกำชับเจ้าต่อหน้าอิสราเอลทั้งปวง ต่อหน้าที่ประชุมประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าและต่อพระกรรณของพระเจ้าของเราว่า จงใส่ใจปฏิบัติตามพระบัญชาทั้งสิ้นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เพื่อจะได้ครองดินแดนอันอุดมแห่งนี้ และสืบทอดเป็นมรดกถึงลูกหลานของเจ้าตลอดไป 9 “ลูกโซโลมอนเอ๋ย จงรู้จักพระเจ้าของบรรพบุรุษของเจ้า จงปรนนิบัติพระองค์ด้วยสุดหัวใจและด้วยความเต็มใจ เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพิเคราะห์จิตใจทุกดวง ทรงเข้าใจเจตนาและแรงจูงใจทุกอย่าง หากเจ้าแสวงหาพระองค์ก็จะพบพระองค์ แต่หากเจ้าละทิ้งพระองค์ พระองค์ก็จะทรงปฏิเสธเจ้าตลอดไป 10 บัดนี้จงไตร่ตรองดู เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกเจ้าให้สร้างพระวิหารเพื่อเป็นสถานนมัสการ […]

1พงศาวดาร 29

ของถวายสำหรับสร้างพระวิหาร 1 จากนั้นกษัตริย์ดาวิดตรัสกับชุมนุมประชากรทั้งหมดว่า “โซโลมอนบุตรของข้าพเจ้าซึ่งพระเจ้าทรงเลือกสรรนั้นยังเด็กและอ่อนประสบการณ์นัก งานที่รออยู่ก็ใหญ่หลวง เพราะอาคารมโหฬารนี้ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อมนุษย์ แต่สำหรับพระเจ้าพระยาห์เวห์ 2 ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมไว้สุดความสามารถสำหรับพระวิหารของพระเจ้า ไม่ว่าทอง เงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ โกเมน หินจำพวกโมรา พลอยขี้นกการเวกสำหรับฝังประดับเพชรพลอยหลากสี หินลาย และหินอ่อนจำนวนมหาศาล 3 และบัดนี้ ด้วยชีวิตที่ทุ่มเทเพื่อพระวิหารของพระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอมอบทองและเงินซึ่งเป็นสมบัติส่วนตัวเพื่อสมทบในการก่อสร้างพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์นี้ นอกเหนือจากวัสดุทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้รวบรวมไว้ให้แล้วนั้น 4 ของถวายส่วนตัวนี้ได้แก่ ทองคำหนักประมาณ 100 ตัน(เป็นทองคำจากโอฟีร์) และเงินบริสุทธิ์หนักประมาณ 240 ตันสำหรับใช้กรุผนังอาคาร 5 สำหรับทำเครื่องเงินเครื่องทองและงานช่างฝีมือ บัดนี้มีใครบ้างที่เต็มใจจะทุ่มเทถวายตัวแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าในวันนี้?” 6 บรรดาผู้นำของวงศ์วานต่างๆ เจ้าหน้าที่ประจำเผ่า แม่ทัพนายกอง และข้าราชบริพารทั้งหลายจึงพากันเต็มใจถวาย 7 เพื่องานสร้างพระวิหารของพระเจ้า พวกเขาได้มอบทองคำหนักประมาณ 170 ตัน กับอีกประมาณ 84 กิโลกรัมเงินหนักประมาณ 345 ตันทองสัมฤทธิ์หนักประมาณ 610 ตัน และเหล็กหนักประมาณ 3,450 ตัน […]

2พงศ์กษัตริย์ 1

องค์พระผู้เป็นเจ้า 1 หลังจากที่อาหับสิ้นพระชนม์ ชนชาติโมอับกบฏต่ออิสราเอล 2 ฝ่ายอาหัสยาห์ทรงพลัดตกจากเฉลียงชั้นบนของพระราชวังที่สะมาเรียพระอาการสาหัส พระองค์จึงทรงใช้ผู้สื่อสารไปกล่าวกับพวกเขาว่า “จงไปปรึกษาบาอัลเซบูบเทพเจ้าแห่งเอโครนว่าอาการบาดเจ็บของเราจะหายหรือไม่” 3 แต่ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเอลียาห์ชาวทิชบีว่า “จงไปพบผู้สื่อสารของกษัตริย์สะมาเรียนั้นและถามพวกเขาว่า ‘ในอิสราเอลไม่มีพระเจ้าหรือ ทำไมพวกเจ้าจึงต้องไปปรึกษาบาอัลเซบูบเทพเจ้าแห่งเอโครน?’ 4 เพราะเหตุนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘เจ้าจะไม่ได้ลุกจากเตียงที่นอนอยู่ เจ้าจะต้องตายแน่!’ ” แล้วเอลียาห์ก็ไป 5 เมื่อผู้สื่อสารของกษัตริย์กลับไปเข้าเฝ้า กษัตริย์ตรัสถามว่า “พวกเจ้ากลับมาทำไม?” 6 พวกเขาทูลว่า “มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกข้าพระบาท แล้วบอกให้กลับมาทูลฝ่าพระบาทว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ในอิสราเอลไม่มีพระเจ้าหรือ ทำไมเจ้าจึงต้องส่งคนไปปรึกษาบาอัลเซบูบเทพเจ้าแห่งเอโครน? เพราะเหตุนี้เจ้าจะไม่ได้ลุกจากเตียง แต่จะต้องตายแน่นอน!’ ” 7 กษัตริย์ตรัสถามว่า “ชายคนที่มาพบและบอกเรื่องนี้แก่พวกเจ้าหน้าตาท่าทางเป็นอย่างไร?” 8 พวกเขาทูลว่า “เขาสวมเสื้อคลุมขนสัตว์และใช้สายหนังคาดเอว” กษัตริย์ตรัสว่า “เขาคือเอลียาห์ชาวทิชบี” 9 แล้วพระองค์ทรงใช้นายทหารคนหนึ่งพร้อมด้วยทหารห้าสิบนายไปหาเอลียาห์ นายทหารขึ้นไปพบเอลียาห์ซึ่งนั่งอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง และกล่าวกับเขาว่า “คนของพระเจ้า กษัตริย์ตรัสว่า ‘จงลงมาเถิด!’ ” 10 เอลียาห์ตอบนายทหารผู้นั้นว่า “หากเราเป็นคนของพระเจ้า ขอให้ไฟตกลงมาจากสวรรค์เผาผลาญเจ้าและทหารทั้งห้าสิบนายของเจ้า!” ไฟก็ตกลงมาเผาผลาญนายทหารและคนของเขาวอดวาย 11 […]

2พงศ์กษัตริย์ 2

พระเจ้าทรงรับเอลียาห์ขึ้นสวรรค์ 1 เมื่อใกล้เวลาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงรับเอลียาห์ขึ้นสวรรค์ด้วยพายุหมุน เอลียาห์กับเอลีชาเดินทางออกจากกิลกาล 2 เอลียาห์กล่าวกับเอลีชาว่า “เจ้าจงพักที่นี่เถิดองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้เราไปยังเบธเอล” แต่เอลีชาตอบว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์อยู่และท่านมีชีวิตอยู่แน่ฉันใด ข้าพเจ้าก็จะไม่ไปจากท่านฉันนั้น” คนทั้งสองจึงเดินทางไปยังเบธเอลด้วยกัน 3 บรรดาผู้เผยพระวจนะที่เบธเอลออกมาพบเอลีชาและถามว่า “ท่านรู้หรือไม่ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังจะรับอาจารย์ของท่านไปในวันนี้?” เอลีชาตอบว่า “เรารู้แล้ว อย่าพูดเรื่องนี้เลย” 4 แล้วเอลียาห์กล่าวกับเอลีชาว่า “เอลีชาเอ๋ย จงพักอยู่ที่นี่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้เราไปยังเมืองเยรีโค” เอลีชาตอบว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์อยู่และท่านมีชีวิตอยู่แน่ฉันใด ข้าพเจ้าจะไม่ไปจากท่านฉันนั้น” คนทั้งสองจึงเดินทางต่อไปยังเมืองเยรีโค 5 บรรดาผู้เผยพระวจนะที่เมืองเยรีโคมาหาเอลีชา และถามเขาว่า “ท่านรู้หรือไม่ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังจะรับอาจารย์ของท่านไปในวันนี้?” เอลีชาตอบว่า “เรารู้แล้ว อย่าพูดเรื่องนี้เลย” 6 เอลียาห์จึงกล่าวกับเอลีชาว่า “จงพักอยู่ที่นี่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้เราไปยังแม่น้ำจอร์แดน” เอลีชาตอบว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์อยู่และท่านมีชีวิตอยู่แน่ฉันใด ข้าพเจ้าจะไม่ไปจากท่านฉันนั้น” คนทั้งสองจึงเดินทางต่อไปด้วยกัน 7 เอลียาห์กับเอลีชามาหยุดอยู่ริมแม่น้ำจอร์แดน ขณะที่ผู้เผยพระวจนะห้าสิบคนยืนดูอยู่ห่างๆ 8 แล้วเอลียาห์ถอดเสื้อคลุมออก ม้วนและฟาดลงที่แม่น้ำ น้ำก็แยกออก คนทั้งสองจึงเดินข้ามไปบนพื้นแห้ง 9 เมื่อข้ามมาแล้ว เอลียาห์กล่าวกับเอลีชาว่า “บอกมาเถิด เราจะทำอะไรให้เจ้าได้บ้างก่อนที่เราจะถูกรับไป?” เอลีชาตอบว่า “โปรดให้ข้าพเจ้าได้รับมรดกในฤทธิ์อำนาจของท่านเป็นสองเท่า” 10 […]

2พงศ์กษัตริย์ 3

โมอับแข็งข้อ 1 โยรัมโอรสของอาหับขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอลในสะมาเรีย ตรงกับปีที่สิบแปดของรัชกาลกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ ทรงครองราชย์อยู่สิบสองปี 2 พระองค์ทรงทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าแต่ไม่ถึงขนาดที่ราชบิดาและราชมารดาของพระองค์ได้ทรงทำไว้ พระองค์ทรงกวาดล้างหินศักดิ์สิทธิ์ของพระบาอัลซึ่งราชบิดาได้สร้างไว้ 3 แต่โยรัมยังคงยึดมั่นในบาปของเยโรโบอัมบุตรเนบัทซึ่งชักนำอิสราเอลให้ทำตาม โยรัมไม่ได้เลิกทำบาปนั้น 4 ฝ่ายกษัตริย์เมชาแห่งโมอับทรงเลี้ยงแกะ พระองค์ต้องนำลูกแกะหนึ่งแสนตัวและขนแกะตัวผู้หนึ่งแสนตัวมาเป็นบรรณาการแก่กษัตริย์อิสราเอล 5 แต่หลังจากอาหับสิ้นพระชนม์แล้ว กษัตริย์โมอับก็กบฏต่อกษัตริย์อิสราเอล 6 ครั้งนั้นกษัตริย์โยรัมจึงเสด็จจากสะมาเรีย และระดมทัพอิสราเอลทั้งหมด 7 และส่งสาส์นไปยังกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ มีใจความว่า “กษัตริย์โมอับกบฏต่อข้าพเจ้า ท่านจะช่วยข้าพเจ้ารบกับโมอับหรือไม่?” เยโฮชาฟัทตอบว่า “ข้าพเจ้าจะไปกับท่าน เราเป็นพวกเดียวกัน คนของข้าพเจ้าก็เหมือนเป็นคนของท่าน ม้าของข้าพเจ้าก็เหมือนเป็นม้าของท่าน” 8 กษัตริย์เยโฮชาฟัทถามว่า “ว่าแต่เราจะโจมตีจากทางไหน?” โยรัมตอบว่า “จากถิ่นกันดารเอโดม” 9 ฉะนั้นกษัตริย์อิสราเอลจึงกรีธาทัพออกไปร่วมรบกับกษัตริย์ยูดาห์และกษัตริย์เอโดม หลังจากอ้อมผ่านถิ่นกันดารเป็นเวลาเจ็ดวันก็ไม่มีน้ำเหลือสำหรับคนและสัตว์พาหนะเลย 10 กษัตริย์อิสราเอลตรัสว่า “อะไรกันนี่!องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำเราทั้งสามกษัตริย์มาที่นี่เพื่อมอบไว้ในมือของโมอับหรือ?” 11 แต่เยโฮชาฟัทตรัสถามว่า “ที่นี่ไม่มีผู้เผยพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าเลยหรือ เราจะได้ขอให้ช่วยทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้า?” นายทหารคนหนึ่งของกษัตริย์อิสราเอลทูลว่า “เอลีชาบุตรชาฟัทอยู่ที่นี่ เขาเคยเป็นผู้ช่วยของเอลียาห์” 12 เยโฮชาฟัทตรัสว่า “เราจะรู้พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าจากเขาผู้นี้” ฉะนั้นกษัตริย์อิสราเอล กษัตริย์เยโฮชาฟัท และกษัตริย์เอโดมจึงไปพบเอลีชา 13 […]

2พงศ์กษัตริย์ 4

น้ำมันของหญิงม่าย 1 มีภรรยาของผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งมาร้องต่อเอลีชาว่า “ผู้รับใช้ของท่านผู้เป็นสามีของดิฉันเสียชีวิตแล้ว และท่านก็ทราบว่าเขายำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าตอนนี้เจ้าหนี้จะมายึดลูกชายสองคนของดิฉันไปเป็นทาส” 2 เอลีชาตอบว่า “เราจะช่วยอะไรได้บ้าง? ที่บ้านของเจ้ามีอะไรบ้างล่ะ?” นางตอบว่า “ไม่มีอะไรเลยนอกจากน้ำมันเพียงเล็กน้อย” 3 เอลีชากล่าวว่า “จงไปขอไหเปล่าจากเพื่อนบ้านทุกคน จงขอมาหลายๆ ใบ 4 แล้วเข้าไปในบ้านกับลูก ปิดประตู เทน้ำมันลงไหทุกใบ พอเต็มใบหนึ่งก็ยกไปตั้งไว้ต่างหาก” 5 นางก็กลับไปที่บ้านและปิดประตู บุตรชายของนางนำไหมาให้ นางก็เทน้ำมัน 6 เมื่อไหทุกใบเต็ม นางบอกลูกชายว่า “เอาไหมาให้แม่อีกใบสิ” ลูกชายตอบว่า “ไม่มีเหลือแล้ว” น้ำมันก็หยุดไหล 7 นางจึงไปแจ้งเอลีชาคนของพระเจ้า และเขากล่าวว่า “จงไปขายน้ำมันเอาเงินใช้หนี้ ส่วนที่เหลือเจ้ากับลูกๆ เก็บไว้เลี้ยงชีวิต” บุตรของหญิงชาวชูเนมฟื้นคืนชีวิต 8 วันหนึ่งเอลีชาไปที่ชูเนม ในเมืองนั้นมีหญิงมั่งมีคนหนึ่งเชิญเขาไปรับประทานอาหาร ฉะนั้นทุกครั้งที่เขาเดินทางผ่านมาก็จะแวะไปรับประทานอาหารที่นั่น 9 หญิงนั้นกล่าวกับสามีว่า “ดิฉันรู้ว่าชายคนที่แวะเวียนเข้ามาบ่อยๆ คนนี้คือคนบริสุทธิ์ของพระเจ้า 10 ให้เราจัดห้องเล็กบนดาดฟ้าสำหรับเขา ยกเตียง โต๊ะ เก้าอี้ และตะเกียงเข้าไปตั้ง ทุกครั้งที่เขาผ่านมาจะได้แวะพัก” 11 […]

2พงศ์กษัตริย์ 5

นาอามานหายจากโรคเรื้อน 1 ฝ่ายนาอามานเป็นแม่ทัพของกษัตริย์อารัม เขาเป็นคนสำคัญของเจ้านายและเป็นที่ยกย่องนับถือ เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานชัยชนะแก่ประเทศอารัมผ่านทางเขา เขาเป็นนักรบเก่งกล้า แต่เป็นโรคเรื้อน 2 กองทหารอารัมได้ไปรุกรานอิสราเอล และในบรรดาเชลย มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งถูกยกให้เป็นสาวใช้ของภรรยานาอามาน 3 เด็กหญิงผู้นี้พูดกับนายหญิงว่า “หนูอยากให้นายท่านไปพบผู้เผยพระวจนะในสะมาเรีย! เขาผู้นั้นจะได้รักษานายท่านให้หายจากโรคเรื้อน” 4 นาอามานจึงกราบทูลเจ้านายตามที่เด็กผู้หญิงจากอิสราเอลคนนั้นบอก 5 กษัตริย์อารัมตรัสว่า “อย่างนี้ต้องไปให้ได้ เราจะฝากสาส์นไปถึงกษัตริย์อิสราเอล” นาอามานจึงออกเดินทาง นำเงินหนักประมาณ 340 กิโลกรัมทองหนักประมาณ 70 กิโลกรัมและเสื้อผ้าสิบชุดมาด้วย 6 สาส์นถึงกษัตริย์อิสราเอลนั้นมีใจความว่า “พร้อมกับสาส์นนี้ เราขอส่งนาอามานผู้รับใช้ของเรามาให้ท่านรักษาโรคเรื้อน” 7 เมื่อกษัตริย์อิสราเอลได้อ่านสาส์นนั้นก็ฉีกฉลองพระองค์และตรัสว่า “เราเป็นพระเจ้าหรือ? ที่จะสามารถทำลายหรือให้ชีวิตได้? ทำไมเขาส่งคนโรคเรื้อนมาให้เรารักษา ดูสิ เขาพยายามหาเหตุมารุกรานเรานั่นเอง!” 8 เมื่อเอลีชาคนของพระเจ้าได้ยินว่ากษัตริย์อิสราเอลทรงฉีกฉลองพระองค์ ก็ส่งข่าวมาทูลพระองค์ว่า “ทำไมฝ่าพระบาทจึงทรงฉีกฉลองพระองค์? ขอส่งชายคนนั้นมาพบข้าพระบาท แล้วเขาจะได้รู้ว่ามีผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งในอิสราเอล” 9 นาอามานจึงนั่งรถม้าศึกมาหยุดอยู่หน้าประตูบ้านของเอลีชา 10 เอลีชาส่งคนออกมาบอกนาอามานว่า “จงไปชำระตัวของท่านในแม่น้ำจอร์แดนเจ็ดครั้ง แล้วเนื้อของท่านจะกลับเป็นปกติและท่านจะหาย” 11 แต่นาอามานโกรธจัดและกล่าวว่า “เราคิดว่าเขาจะออกมาพบเรา มายืนร้องทูลพระนามพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา โบกไม้โบกมือเหนือแผลและรักษาเราให้หายจากโรคเรื้อน […]

2พงศ์กษัตริย์ 6

หัวขวานลอยน้ำ 1 กลุ่มผู้เผยพระวจนะกล่าวกับเอลีชาว่า “ดูเถิดสถานที่ซึ่งเราอยู่กับท่านนี้ก็คับแคบไปแล้ว 2 พวกข้าพเจ้าขอไปตัดต้นไม้และสร้างที่อยู่อาศัยที่แม่น้ำจอร์แดน” เขาตอบว่า “ไปเถิด” 3 คนหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า “ท่านขอรับ โปรดไปกับเหล่าผู้รับใช้ของท่านด้วย” เอลีชาตอบว่า “เราจะไป” 4 แล้วเอลีชาก็ไปกับพวกเขา เมื่อพวกเขามาถึงแม่น้ำจอร์แดนก็เริ่มตัดไม้ 5 ขณะนั้นมีคนหนึ่งทำหัวขวานเหล็กหลุดตกลงในแม่น้ำ เขาจึงร้องว่า “แย่แล้วนายท่าน นี่เป็นขวานที่ขอยืมมา!” 6 คนของพระเจ้าถามว่า “มันตกลงไปที่ไหน?” คนนั้นชี้ให้เขาดูตำแหน่งที่หัวขวานตกลงไป เอลีชาจึงตัดกิ่งไม้เหวี่ยงลงตรงนั้น แล้วหัวขวานเหล็กก็ลอยขึ้นมา 7 เอลีชาพูดกับคนนั้นว่า “หยิบขึ้นมาเถิด” เขาก็เอื้อมมือไปหยิบขึ้นมา เอลีชาวางกับดักชาวอารัมที่ตาบอด 8 ครั้งนั้นกษัตริย์อารัมรบกับอิสราเอล เมื่อใดที่พระองค์ตรัสกับทหารว่า “เราจะยกกำลังไปตั้งค่ายที่นั่นที่นี่” 9 คนของพระเจ้าก็จะเตือนกษัตริย์อิสราเอลว่า “อย่าไปใกล้ที่นั่นเพราะพวกอารัมกำลังจะยกทัพมา” 10 กษัตริย์อิสราเอลก็ส่งคนไปตรวจดูสถานที่ซึ่งคนของพระเจ้าระบุไว้ เอลีชาเตือนกษัตริย์ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อจะทรงระแวดระวังที่เหล่านั้น 11 เรื่องนี้ทำให้กษัตริย์อารัมกริ้วนัก จึงทรงเรียกประชุมนายทหารและตรัสสั่งว่า “พวกท่านจะไม่ยอมบอกหรือว่าใครในพวกเราที่เป็นสายให้กษัตริย์อิสราเอล?” 12 ทหารคนหนึ่งทูลว่า “ข้าแต่องค์กษัตริย์ ไม่ใช่พวกข้าพระบาท แต่ผู้เผยพระวจนะเอลีชาในอิสราเอลต่างหากเป็นผู้ทูลกษัตริย์อิสราเอล แม้กระทั่งเนื้อความที่ฝ่าพระบาทตรัสในห้องบรรทม” 13 กษัตริย์จึงตรัสสั่งว่า […]