หญิงสาว 1 ดิฉันเป็นดั่งกุหลาบแห่งชาโรน เหมือนดอกลิลลี่แห่งหุบเขา 2 ในหมู่หญิงสาว ที่รักของผม เป็นเหมือนดอกลิลลี่ท่ามกลางหมู่หนาม 3 ในหมู่ชายหนุ่ม ที่รักของดิฉัน เป็นเหมือนต้นแอปเปิ้ลท่ามกลางแมกไม้ในป่า ดิฉันชอบนั่งอยู่ใต้ร่มเงาของเขา และผลของเขาหอมหวานเมื่อดิฉันได้ลิ้มรส 4 เขาพาดิฉันไปในห้องโถงงานเลี้ยง และใครๆ ก็เห็นว่าเขารักดิฉันมากเพียงไร 5 โปรดชูกำลังดิฉันด้วยลูกเกด เพิ่มความสดชื่นให้ดิฉันด้วยผลแอปเปิ้ล เพราะดิฉันอ่อนระโหยโรยแรงด้วยความรัก 6 แขนซ้ายของเขาช้อนประคองศีรษะดิฉัน และแขนขวาของเขาโอบกอดดิฉันไว้ 7 บรรดาสตรีชาวเยรูซาเล็มเอ๋ย เรากำชับเจ้าด้วยพลังอย่างละมั่งและกวางในท้องทุ่งว่า อย่าปลุกเร้าความรัก แต่ปล่อยให้เป็นไปตามครรลองของมัน 8 ได้ยินไหม! ดูนั่นซิ! ที่รักของดิฉันกำลังมา โลดแล่นข้ามเนินข้ามเขาลงมา 9 ที่รักของดิฉันเป็นดั่งละมั่งหรือกวางหนุ่ม ดูซิ! เขาอยู่หลังกำแพงของเรา ชะเง้อผ่านหน้าต่าง แลลอดผ่านลูกกรง 10 ที่รักของดิฉันเอ่ยว่า “ลุกขึ้นเถิด ที่รัก คนงามของผม มากับผมเถิด 11 ดูสิ! ฤดูหนาวผ่านพ้นไป ฝนก็หยุดตกแล้ว 12 ดอกไม้นานาพันธุ์เริ่มแย้มบานบนพื้นดิน ฤดูแห่งการขับขานบทเพลงมาถึงแล้ว เสียงนกเขาขันคู […]
Author Archives: admin
เพลงโซโลมอน 3
1 ตลอดคืนบนเตียงของดิฉัน ดิฉันมองหาพ่อยอดดวงใจ เฝ้าชะแง้แลหาแต่ไม่พบ 2 ดิฉันจะลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ และไปทั่วเมือง ไปตามถนนและลานเมือง ดิฉันจะค้นหาพ่อยอดดวงใจของดิฉัน แต่หาแล้วก็ไม่พบ 3 ยามรักษาการณ์มาพบดิฉันเข้า ขณะที่พวกเขากำลังตระเวนไปรอบเมือง ดิฉันถามเขาว่า “เห็นพ่อยอดดวงใจของดิฉันไหม?” 4 พอคล้อยหลังพวกเขาไปไม่เท่าไร ดิฉันก็พบพ่อยอดดวงใจ ดิฉันโอบกอดเขาไว้ไม่ยอมให้ไปไหน จนพาเขามาถึงที่บ้านแม่ของดิฉัน มาถึงห้องผู้ให้กำเนิดดิฉัน 5 บรรดาสตรีชาวเยรูซาเล็มเอ๋ย เรากำชับเจ้าด้วยพลังอย่างละมั่งและกวางในท้องทุ่งว่า อย่าปลุกเร้าความรัก แต่ปล่อยให้เป็นไปตามครรลองของมัน 6 ใครหนอรีบรุดมาจากทะเลทราย? ประหนึ่งลำหมอกควัน อบอวลด้วยกลิ่นหอมของมดยอบและกำยาน ที่ปรุงจากเครื่องหอมของพ่อค้า 7 ดูสิ! นั่นคือราชยานของโซโลมอน มีนักรบหกสิบคนคุ้มกันเป็นผู้เกรียงไกรที่สุดของอิสราเอล 8 ทุกคนเป็นนักรบเจนศึก ล้วนสะพายดาบ เตรียมพร้อมรับภัยจู่โจมแห่งรัตติกาล 9 กษัตริย์โซโลมอนทรงให้ประกอบราชยานนี้สำหรับพระองค์เอง ด้วยไม้จากเลบานอน 10 เสาราชยานทำด้วยเงิน แท่นเป็นทอง พระที่นั่งบุผ้าสีม่วง ภายในตกแต่งอย่างงดงาม โดยฝีมือบรรดาสตรีชาวเยรูซาเล็ม 11 บรรดาสตรีแห่งศิโยนออกมาเถิด มาดูกษัตริย์โซโลมอนทรงมงกุฎ ซึ่งราชมารดาทรงสวมให้ ในวันอภิเษกสมรส วันแห่งความชื่นชมยินดีของพระองค์ —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/SNG/3-6d28a870fef9e63407e79165344a2dbe.mp3?version_id=179—
เพลงโซโลมอน 4
1 เธอช่างงามจริงๆ นะ ยอดรัก! งามเหลือเกิน! ดวงตาของเธอภายใต้ผ้าคลุมหน้านั้นประหนึ่งนกพิราบ เรือนผมของเธอเสมือนฝูงแพะ เหยาะย่างลงมาจากภูเขากิเลอาด 2 ฟันของเธอขาวเหมือนแกะที่เพิ่งตัดขน และขึ้นมาจากการชำระล้าง ฟันทุกซี่เรียงรับกัน อย่างไม่มีที่ติ 3 ริมฝีปากของเธอแดงเหมือนด้ายแดง จิ้มลิ้มน่ารัก ภายใต้ผ้าคลุมหน้า ขมับของเธอเหมือนทับทิมผ่าซีก 4 ลำคอของเธอระหงดั่งหอคอยของดาวิด ที่สร้างขึ้นอย่างประณีต ที่ประดับประดาด้วยโล่นับพัน ของเหล่าวีรบุรุษ 5 ทรวงอกของเธอประหนึ่งลูกฝาแฝดของละมั่ง เล็มใบไม้กินอยู่กลางดงลิลลี่ 6 ผมจะขึ้นไปบนภูเขาแห่งมดยอบ ซึ่งเป็นเนินแห่งเครื่องหอม จวบจนเริ่มรุ่งสาง เมื่อเงามืดหนีหายไป 7 ที่รักของผม เธองามหมดจด ทั่วเรือนร่างไม่มีที่ติเลย 8 ลงมาจากเลบานอนกับผมเถิด เจ้าสาวของผม ลงมาจากเลบานอนกับผมเถิด ลงมาจากยอดเขาอามานา จากยอดเสนีร์ และยอดเฮอร์โมน จากถ้ำของราชสีห์ และภูเขาอันเป็นถิ่นเสือดาว 9 เธอขโมยดวงใจของผมไปแล้ว นวลน้องของพี่ เจ้าสาวของผม หัวใจของผมก็ถูกเธอกุมไปเสียแล้ว แค่เธอชายตาเพียงครั้งเดียว แค่อัญมณีเพียงเม็ดเดียวที่สร้อยคอของเธอ 10 นวลน้องของพี่ เจ้าสาวของผม ความรักของเธอน่าชื่นใจ! […]
เพลงโซโลมอน 5
1 ผมเข้ามาในสวนของผมแล้ว นวลน้องของพี่ เจ้าสาวของผม ผมได้เก็บมดยอบและเครื่องหอม กินรวงผึ้งกับน้ำผึ้งของผม ดื่มเหล้าองุ่นกับน้ำนมของผมแล้ว เพื่อนๆ เอ๋ย กินและดื่มเถิด คู่รักเอ๋ย ดื่มให้อิ่มเอมเปรมอุรา 2 ดิฉันหลับไปแต่หัวใจยังตื่นอยู่ ฟังสิ! ที่รักของดิฉันกำลังเคาะประตู และพร่ำว่า “นวลน้องของพี่ ยอดรักของผม เปิดประตูรับผมเถิด แม่นกพิราบน้อยๆ ของผม แม่คนงามไม่มีที่ติ ศีรษะของผมชุ่มด้วยน้ำค้าง และเส้นผมชุ่มด้วยละอองน้ำยามราตรี” 3 แต่ดิฉันถอดเสื้อคลุมออกแล้ว จะให้สวมเข้าไปใหม่หรือ? ดิฉันล้างเท้าแล้ว จะให้ไปเปื้อนดินอีกหรือ? 4 ยอดรักของดิฉันพยายามถอดสลักประตู ใจของดิฉันเต้นแรงเพราะคิดถึงเขา 5 ดิฉันลุกขึ้นเพื่อเปิดประตูรับที่รักของดิฉัน ขณะถอดดาลประตู มือของดิฉันชุ่มด้วยหยดน้ำหอม นิ้วของดิฉันอบอวลด้วยกลิ่นมดยอบ 6 ดิฉันเปิดประตูต้อนรับที่รักของดิฉัน แต่เขาได้จากไปแล้ว ดิฉันใจหายเมื่อเขาจากไป ดิฉันค้นหาเขา แต่ไม่พบเลย ดิฉันร้องเรียกเขา แต่ไม่มีคำขานตอบ 7 ยามรักษาการณ์มาพบดิฉันเข้า ขณะที่พวกเขาตระเวนไปรอบเมือง พวกเขาทุบตีจนดิฉันฟกช้ำ พวกยามรักษาการณ์ที่กำแพงเมือง เขาริบเสื้อคลุมของดิฉันไป! 8 บรรดาสตรีชาวเยรูซาเล็มเอ๋ย ดิฉันขอร้องว่า […]
เพลงโซโลมอน 6
1 แม่หญิงผู้เลอโฉม ที่รักของเธออยู่ที่ไหน? ที่รักของเธอไปทางไหน? เราจะได้ช่วยเธอเสาะหาเขา 2 ที่รักของดิฉันได้ลงไปที่สวนของเขา ไปที่แปลงเครื่องหอม ไปเลี้ยงสัตว์ของเขาในสวน และเก็บดอกลิลลี่ 3 ดิฉันเป็นของที่รักของดิฉันและที่รักของดิฉันก็เป็นของดิฉัน เขาเลี้ยงสัตว์อยู่กลางหมู่ลิลลี่ 4 ยอดรักของผม เธองามประหนึ่งแดนทีรซาห์ น่ารักเหมือนเยรูซาเล็ม สง่าผ่าเผยดั่งกองทหารประดับประดาธงทิวไสว 5 ละสายตาไปจากผมเถิด เพราะสายตาของเธอทำให้ผมหวั่นไหว เรือนผมของเธอเหมือนฝูงแพะ เหยาะย่างลงมาจากเนินกิเลอาด 6 ฟันของเธอเหมือนฝูงแกะ ที่เพิ่งขึ้นมาจากการชำระล้าง ฟันทุกซี่เรียงรับกัน อย่างไม่มีที่ติ 7 ภายใต้ผ้าคลุมหน้า ขมับของเธอ เหมือนทับทิมผ่าซีก 8 อาจมีราชินีถึงหกสิบองค์ นางสนมแปดสิบคน และสาวพรหมจารีอีกนับไม่ถ้วน 9 แต่แม่นกพิราบของผม คนดีของผมไม่มีใครเหมือน เป็นลูกสาวคนโปรด เป็นลูกสาวคนเดียวของแม่ บรรดาหญิงสาวเห็นเธอ ก็เรียกเธอว่า ผู้เป็นสุข แม้แต่มเหสีและเหล่านางห้ามก็ยกย่องเธอ 10 นี่ใครกันหนอ ปรากฏตัวขึ้นมาดั่งรุ่งอรุณ งามดั่งดวงจันทร์ สดใสดั่งดวงตะวัน งามสง่าดั่งดวงดาราที่เคลื่อนคล้อย? 11 ผมลงไปยังทิวต้นอัลมอนด์ เพื่อมองดูสิ่งที่เพิ่งผลิงามในหุบเขา ดูว่าเถาองุ่นแตกตา […]
เพลงโซโลมอน 7
1 โอ ธิดาของผู้สูงศักดิ์! เท้าของเธอที่อยู่ในรองเท้าสานนั้นช่างงามเสียนี่กระไร ขาของเธอเรียวงามดั่งอัญมณี ที่ช่างฝีมือเจียระไนไว้ 2 สะดือของเธอดั่งแก้วกลมงาม ที่ไม่เคยขาดเหล้าองุ่นผสม เอวของเธองามดั่งกองข้าวสาลี ล้อมด้วยมวลหมู่ลิลลี่ 3 ทรวงอกของเธอเหมือนลูกกวางสองตัว เหมือนลูกแฝดของละมั่ง 4 ลำคอของเธอระหงดั่งหอคอยงาช้าง ดวงตาของเธอใสเหมือนสระน้ำในเฮชโบน ที่ส่องประกายอยู่ที่ข้างประตูบัทรับบิม จมูกของเธองามดั่งหอคอยแห่งเลบานอน ที่สามารถมองไปยังดามัสกัส 5 ศีรษะของเธอทำให้เธองามสง่าเหมือนภูเขาคารเมล ผมของเธองามประหนึ่งม่านปักในวังหลวง ปอยผมของเธอเป็นบ่วงเสน่ห์มัดพระทัยกษัตริย์ 6 ที่รักจ๋า เธอช่างงาม น่าพิสมัย น่าชื่นชมเสียนี่กระไร! 7 เธอสูงโปร่งเหมือนต้นอินทผลัม และทรวงอกของเธอเหมือนพวงผลไม้ 8 ผมพูดว่า “ผมจะปีนขึ้นต้นอินทผลัมต้นนี้ และกอดผลของมันไว้” ขอให้ทรวงอกของเธอเหมือนพวงองุ่น ให้ลมหายใจของเธอหอมเหมือนกลิ่นแอปเปิ้ล 9 และปากของเธอเหมือนเหล้าองุ่นชั้นเยี่ยม ขอให้เหล้าองุ่นนี้ไหลรินสู่ริมฝีปาก และฟันของที่รักของดิฉัน 10 ดิฉันเป็นของที่รักของดิฉัน และเขาปรารถนาดิฉัน 11 มาเถอะ ที่รัก ให้เราออกไปกลางทุ่งด้วยกัน ไปค้างแรมที่หมู่บ้าน 12 ให้เราลุกขึ้นไปสวนองุ่นแต่เช้า ดูว่าเถาองุ่นแตกหน่อหรือยัง ดูว่าดอกองุ่นคลี่บานหรือยัง และดูว่าดอกทับทิมผลิบานหรือยัง […]
เพลงโซโลมอน 8
1 ถ้าเพียงแต่คุณเป็นพี่ชายของดิฉัน ที่ดูดนมจากอกของแม่ดิฉัน! ดิฉันก็จะจูบคุณได้ เมื่อพบคุณข้างนอก และจะไม่มีใครเหยียดหยามดิฉัน 2 ดิฉันจะพาคุณ มายังบ้านแม่ของดิฉัน ผู้ที่ได้สั่งสอนดิฉันมา ดิฉันจะให้คุณดื่มเหล้าองุ่นใส่เครื่องเทศ เป็นเหล้าทับทิมหวานละมุน 3 แขนซ้ายของเขาช้อนประคองศีรษะของดิฉัน และแขนขวาของเขาโอบกอดดิฉันไว้ 4 บรรดาสตรีชาวเยรูซาเล็มเอ๋ย เรากำชับเจ้าว่า อย่าปลุกเร้าความรัก แต่ปล่อยให้เป็นไปตามครรลองของมัน 5 นี่ใครหนอกำลังมาจากทะเลทราย อิงแอบคู่รักของเธอมา? ใต้ต้นแอปเปิ้ล ซึ่งแม่ของคุณให้กำเนิดคุณด้วยความเจ็บปวด ดิฉันจะปลุกความรักของคุณที่นั่น 6 โปรดให้ดิฉันเป็นดั่งดวงตราประทับที่ใจ และที่แขนของคุณเพื่อแสดงว่าคุณเป็นของดิฉัน เพราะความรักทรงอำนาจประหนึ่งความตาย และความหึงหวงคงทนราวกับแดนผู้ตาย ความรักนั้นแผดเผาดั่งไฟ เสมือนเปลวไฟแรงกล้า 7 ธารน้ำหลายสายไม่อาจดับเพลิงรัก แม่น้ำไม่อาจพัดพาความรักไปได้ หากใครทุ่มเททรัพย์สินจนหมดตัว เพื่อแลกกับความรัก ไม่แคล้วถูกดูหมิ่นดูแคลน เพื่อน 8 เรามีน้องสาวเล็กๆ คนหนึ่ง ซึ่งทรวงอกยังไม่ขึ้น เราจะทำอย่างไรดี หากมีคนมาสู่ขอน้อง? 9 หากน้องเป็นกำแพง เราจะสร้างหอคอยเงินบนนั้น หากน้องเป็นประตู เราจะใส่กลอนด้วยไม้สนซีดาร์ 10 ดิฉันเป็นกำแพง และทรวงอกของดิฉันเหมือนหอคอย ในสายตาของที่รัก […]
ปัญญาจารย์ 1
ทุกสิ่งล้วนอนิจจัง 1 ถ้อยคำของปัญญาจารย์กษัตริย์ในเยรูซาเล็ม เชื้อสายดาวิด 2 ปัญญาจารย์กล่าวว่า “อนิจจัง! อนิจจัง! อนิจจังแท้ๆ! ทุกสิ่งล้วนอนิจจัง” 3 มนุษย์ได้ประโยชน์อะไรจากการงานทั้งสิ้น ที่เขาตรากตรำภายใต้ดวงอาทิตย์? 4 คนรุ่นหนึ่งผ่านมาแล้วอีกรุ่นหนึ่งผ่านไป แต่โลกยังคงอยู่ตลอดกาล 5 ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้วก็ลับไป และรีบวนมาขึ้นที่เดิมอีก 6 ลมพัดไปทางใต้แล้ว กลับมาทางเหนือ มันพัดวนไปเวียนมา เป็นวัฏจักร 7 แม่น้ำไหลลงสู่ทะเล แต่ทะเลก็ไม่เคยอิ่ม และน้ำกลับไปสู่แม่น้ำอีกครั้ง แล้วไหลลงสู่มหาสมุทรอยู่ร่ำไป 8 ทุกสิ่งทุกอย่างอ่อนระโหย เกินที่จะบรรยาย ไม่ว่าเห็นสักเท่าไร เราก็ไม่อิ่ม ไม่ว่าได้ยินสักแค่ไหน เราก็ไม่จุใจ 9 อะไรที่เกิดขึ้นแล้วก็เกิดขึ้นอีก สิ่งที่ทำไปแล้วก็ทำกันอีก ไม่มีอะไรใหม่ภายใต้ดวงอาทิตย์ 10 อะไรบ้างที่เราจะบอกได้ว่า “ดูเถิด นี่เป็นสิ่งใหม่” เพราะมันมีมาตั้งนานแล้ว มีมาตั้งแต่ก่อนยุคสมัยของเรา 11 ไม่มีการระลึกถึงคนรุ่นก่อน และแม้แต่คนรุ่นที่กำลังจะเกิดมา คนรุ่นต่อจากเขา ก็ยังไม่ระลึกถึงพวกเขา สติปัญญาอนิจจัง 12 ข้าพเจ้าปัญญาจารย์ เป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอลอยู่ในเยรูซาเล็ม […]
ปัญญาจารย์ 2
ความสนุกสนานเพลิดเพลินก็อนิจจัง 1 ข้าพเจ้าคิดในใจว่า “งั้นมาเถอะ รื่นเริง สนุกสนาน บันเทิงใจเพื่อค้นหาสิ่งดีๆ” แต่ก็พบว่า นี่ก็อนิจจังอีก 2 ข้าพเจ้ากล่าวว่า “การหัวเราะก็โง่เขลา ความสนุกสนานเพลิดเพลินให้ประโยชน์อะไรบ้าง?” 3 ข้าพเจ้าพยายามทำตัวให้เบิกบานด้วยเหล้าองุ่นและทำอะไรโง่ๆ แต่จิตใจก็ยังนำข้าพเจ้าไว้ด้วยสติปัญญา ข้าพเจ้าอยากจะดูว่าอะไรบ้างที่มีคุณค่าซึ่งมนุษย์ควรจะทำกันใต้ฟ้าสวรรค์ในชั่วอายุสั้นๆ ของตน 4 ข้าพเจ้าดำเนินโครงการใหญ่ๆ คือ สร้างบ้านให้ตัวเองหลายหลัง ทำสวนองุ่นหลายแห่ง 5 สร้างสวนหย่อนใจและปลูกผลไม้นานาชนิดในสวนเหล่านั้น 6 ทำแหล่งเก็บน้ำ ส่งน้ำไปรดแมกไม้ที่กำลังงอกงาม 7 ข้าพเจ้าซื้อทาสชายหญิงและมีทาสอื่นๆ อีกที่ถือกำเนิดในครัวเรือน ข้าพเจ้ามีฝูงสัตว์มากกว่าใครๆ ในเยรูซาเล็มซึ่งอยู่มาก่อนข้าพเจ้า 8 ข้าพเจ้าสะสมเงินทองไว้สำหรับตัวเอง ทั้งยังได้รับเครื่องบรรณาการจากกษัตริย์และแว่นแคว้นต่างๆ ข้าพเจ้าจัดให้มีนักร้องชายหญิง และมีฮาเร็มอันเป็นสิ่งถูกใจผู้ชาย 9 ข้าพเจ้ากลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่กว่าใครๆ ในเยรูซาเล็มก่อนหน้าข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีสติปัญญาอยู่กับตัวในทุกสิ่งเหล่านี้ 10 ตาอยากดูอะไร ข้าพเจ้าก็ไม่ปฏิเสธตัวเอง ใจอยากสนุกอย่างไร ข้าพเจ้าก็ไม่ห้าม ข้าพเจ้าชื่นชมผลงานทั้งปวงของตน และนี่เป็นรางวัลจากการลงทุนลงแรงของข้าพเจ้า 11 ถึงกระนั้นเมื่อข้าพเจ้าสำรวจดูทุกสิ่งที่ทำไป และที่ตรากตรำเพื่อให้ได้มา ทุกสิ่งล้วนอนิจจัง เหมือนวิ่งไล่ตามลม ไม่ก่อประโยชน์อะไรขึ้นมาภายใต้ดวงอาทิตย์ […]
ปัญญาจารย์ 3
มีเวลาสำหรับทุกสิ่ง 1 มีเวลาสำหรับทุกสิ่ง มีกำหนดเวลาสำหรับกิจกรรมทุกอย่าง ภายใต้ฟ้าสวรรค์นี้ 2 มีเวลาเกิด เวลาตาย เวลาปลูก เวลาถอน 3 เวลาฆ่า เวลาเยียวยารักษา เวลารื้อถอน เวลาสร้างขึ้นใหม่ 4 เวลาร้องไห้ เวลาหัวเราะ เวลาไว้ทุกข์ เวลาเต้นรำ 5 เวลาโยนก้อนหิน เวลาเก็บรวบรวมก้อนหิน เวลาโอบกอด เวลาหันหนี 6 เวลาค้นหา เวลาเลิกรา เวลาทะนุถนอม เวลาเหวี่ยงทิ้งไป 7 เวลาฉีกขาด เวลาซ่อมแซม เวลานิ่งเงียบ เวลาพูดจา 8 เวลารัก เวลาเกลียด เวลาสงคราม เวลาสันติ 9 คนเราได้อะไรจากการตรากตรำทำงานหรือ? 10 ข้าพเจ้าเห็นภาระซึ่งพระเจ้าทรงวางไว้บนมนุษย์ 11 พระองค์ทรงทำให้ทุกสิ่งงดงามตามเวลาของมัน ทั้งทรงตั้งนิรันดร์กาลไว้ในจิตใจของมนุษย์ ถึงอย่างนั้นมนุษย์ก็ไม่สามารถหยั่งรู้ถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงทำตั้งแต่ต้นจนจบได้ 12 ข้าพเจ้ารู้ว่าสำหรับมนุษย์ไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำตัวให้มีความสุข และทำดีขณะยังมีชีวิตอยู่ 13 คนเราทุกคนควรกิน ดื่ม และหาความอิ่มใจในการตรากตรำทำงานทั้งสิ้น […]