เยเรมีย์ 50

พระดำรัสเกี่ยวกับบาบิโลน 1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์เกี่ยวกับบาบิโลนและดินแดนของชาวบาบิโลนความว่า 2 “จงป่าวร้องและประกาศในหมู่ประชาชาติ จงชูธงขึ้นประกาศออกไป อย่าปิดบังเลย แต่จงกล่าวว่า ‘บาบิโลนจะถูกยึด เบลจะอับอายขายหน้า มาร์ดุคจะหวาดหวั่นขวัญผวา เทวรูปของบาบิโลนจะอัปยศอดสู และอกสั่นขวัญแขวน’ 3 ชนชาติหนึ่งจากทางเหนือจะมาโจมตีบาบิโลน ทำให้ดินแดนนั้นถูกทิ้งร้าง ไม่มีใครอาศัยอยู่ ทั้งคนและสัตว์จะหนีเตลิดไปหมด” 4 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “ในเวลานั้น ชนอิสราเอลและยูดาห์ จะร่วมกันแสวงหาพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเขาด้วยน้ำตานองหน้า 5 พวกเขาจะถามทาง และมุ่งหน้ามายังศิโยน พวกเขาจะเข้ามาผูกพันกับองค์พระผู้เป็นเจ้า โดยพันธสัญญานิรันดร์ ซึ่งจะไม่ถูกลืมเลือน 6 “ประชากรของเราเป็นแกะหลงทาง คนเลี้ยงของพวกเขาได้พาพวกเขาให้หลงเตลิดไป และเป็นเหตุให้พวกเขาร่อนเร่อยู่บนภูเขา พวกเขาซัดเซพเนจรไปเหนือภูเขาและเนินเขา และลืมถิ่นที่พำนักของตน 7 ผู้ใดพบพวกเขาก็ขย้ำกิน ศัตรูของพวกเขากล่าวว่า ‘เราไม่ผิด เพราะพวกเขาทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นทุ่งหญ้าที่แท้จริงของพวกเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นความหวังของบรรพบุรุษของพวกเขา’ 8 “จงหนีจากบาบิโลน จงออกจากดินแดนของชาวบาบิโลนเถิด และจงเป็นเหมือนแพะนำฝูง 9 เพราะเราจะเร่งเร้ากองทัพพันธมิตรของชนชาติใหญ่ๆ จากทางเหนือ มาสู้รบกับบาบิโลน พวกเขาจะเข้าประจำที่ต่อสู้กับมัน บาบิโลนจะถูกยึดโดยคนจากทางเหนือ ลูกศรของพวกเขาเหมือนนักรบชำนาญศึก ออกรบคราใดไม่เคยกลับไปมือเปล่า 10 […]

เยเรมีย์ 51

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด เราจะดลใจผู้ทำลายล้าง มาสู้กับบาบิโลนและชาวเลบคามาย 2 เราจะส่งคนต่างชาติมายังบาบิโลน เพื่อฝัดร่อนและล้างผลาญดินแดนนั้น พวกเขาจะมาสู้รบกับบาบิโลนทุกด้าน ในวันแห่งหายนะของบาบิโลน 3 อย่าให้พลธนูโก่งธนูได้ และอย่าให้เขาหยิบเสื้อเกราะมาสวมทัน อย่าไว้ชีวิตชายหนุ่มของดินแดนนั้น จงทำลายทั้งกองทัพให้สิ้นไป 4 พวกเขาจะล้มตายในบาบิโลน บาดเจ็บสาหัสตามถนนหนทาง 5 เพราะพระเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ไม่ได้ทรงทอดทิ้งอิสราเอลและยูดาห์ แม้ดินแดนของเขาจะเต็มไปด้วยความผิด ต่อหน้าองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล 6 “จงหนีจากบาบิโลน! จงหนีเอาชีวิตรอดเถิด! อย่าพลอยถูกทำลายเพราะบาปของมัน ถึงเวลาการแก้แค้นขององค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว พระองค์จะทรงกระทำแก่บาบิโลนให้สาสม 7 บาบิโลนเป็นถ้วยทองคำในพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า บาบิโลนทำให้ทั้งโลกเมามาย ชนชาติทั้งหลายได้ดื่มเหล้าองุ่นของบาบิโลน บัดนี้พวกเขาจึงคลุ้มคลั่งไป 8 บาบิโลนจะล่มจมอย่างฉับพลัน แล้วก็แหลกลาญ จงร่ำไห้ให้กับมัน! เอายามาบำบัดความเจ็บปวดให้บาบิโลนสิ เผื่อว่ามันจะหาย 9 “ ‘เราน่าจะรักษาบาบิโลนให้หาย แต่มันก็ไม่ยอมหาย ให้เราทิ้งบาบิโลน และต่างคนต่างกลับไปยังดินแดนของตน เพราะโทษทัณฑ์ของบาบิโลนสูงเสียดฟ้า สูงเทียมเมฆ’ 10 “ ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้ความเป็นธรรมแก่เราแล้ว มาเถิด ให้เราบอกกล่าวในศิโยน ถึงสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราได้ทรงกระทำ’ 11 “จงลับลูกศรให้แหลมคม […]

เยเรมีย์ 52

กรุงเยรูซาเล็มแตก 1 เมื่อเศเดคียาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์มีพระชนมายุ 21 พรรษาและทรงครองราชย์อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มสิบเอ็ดปี ราชมารดาคือฮามุทาลธิดาของเยเรมีย์จากลิบนาห์ 2 เศเดคียาห์ทรงทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าเหมือนที่เยโฮยาคิมได้ทรงทำ 3 เนื่องด้วยพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้จึงเกิดขึ้นกับกรุงเยรูซาเล็มและยูดาห์ และในที่สุดพระองค์ทรงเหวี่ยงพวกเขาพ้นจากพระพักตร์ของพระองค์ ครั้งนั้นเศเดคียาห์ทรงกบฏต่อกษัตริย์บาบิโลน 4 ฉะนั้นกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนทรงกรีธาทัพหลวงมารบกับกรุงเยรูซาเล็มในวันที่สิบเดือนที่สิบของปีที่เก้าแห่งรัชกาลกษัตริย์เศเดคียาห์ พวกเขาตั้งค่ายอยู่นอกเมือง แล้วสร้างเชิงเทินล้อมเมืองไว้ 5 กรุงเยรูซาเล็มถูกล้อมอยู่จนถึงปีที่สิบเอ็ดแห่งรัชกาลเศเดคียาห์ 6 เมื่อถึงวันที่เก้าของเดือนที่สี่ กรุงนี้ก็กันดารอาหารอย่างหนักจนไม่มีอาหารรับประทานเลย 7 แล้วกำแพงเมืองก็ถูกพังลง ทั้งกองทัพก็หนีไปในเวลากลางคืน ผ่านประตูระหว่างกำแพงสองชั้นใกล้ราชอุทยาน แม้ว่าชาวบาบิโลนล้อมเมืองอยู่ พวกเขาหนีไปยังอาราบาห์ 8 แต่กองทัพบาบิโลนไล่ล่ากษัตริย์เศเดคียาห์และมาทันพระองค์ในที่ราบเยรีโค ส่วนทหารทั้งปวงของเศเดคียาห์แตกหนีกันไปคนละทิศคนละทาง 9 และพระองค์ทรงถูกจับกุม พระองค์ทรงถูกคุมตัวมาเข้าเฝ้ากษัตริย์บาบิโลนที่ริบลาห์ในเขตฮามัทและรับการตัดสินโทษ 10 ที่ริบลาห์นี้ กษัตริย์บาบิโลนทรงประหารบรรดาโอรสของเศเดคียาห์ต่อหน้าต่อตาพระองค์ และประหารขุนนางทั้งปวงของยูดาห์ 11 แล้วควักพระเนตรของเศเดคียาห์ออกทั้งสองข้าง จองจำพระองค์ด้วยโซ่ตรวนทองสัมฤทธิ์ และคุมตัวไปขังไว้ในคุกในบาบิโลน จวบจนวันที่เศเดคียาห์สิ้นพระชนม์ 12 ในวันที่สิบเดือนที่ห้าของปีที่สิบเก้าแห่งรัชกาลกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ผู้รับใช้กษัตริย์บาบิโลนได้มายังกรุงเยรูซาเล็ม 13 เขาจุดไฟเผาพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าพระราชวัง และบ้านเรือนทุกหลังในเยรูซาเล็ม รวมทั้งอาคารทุกแห่ง 14 ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์สั่งการให้กองทัพบาบิโลนทั้งหมดทลายกำแพงรอบกรุงเยรูซาเล็ม 15 เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์กวาดต้อนประชาชนที่ยากจนข้นแค้นที่สุดบางคน ผู้คนที่ยังอยู่ในกรุงนั้น และช่างฝีมือต่างๆ […]

อิสยาห์ 1

1 นิมิตเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็มซึ่งอิสยาห์บุตรอาโมศเห็นในช่วงรัชกาลของอุสซียาห์ โยธาม อาหัส และเฮเซคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์ เป็นดังนี้ ชนชาติจอมกบฏ 2 ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงฟัง! แผ่นดินโลกเอ๋ย! จงฟังเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราเลี้ยงลูกๆ มาจนเติบใหญ่ แต่พวกเขากลับกบฏต่อเรา 3 วัวยังรู้จักนาย ลารู้จักเจ้าของรางหญ้า แต่อิสราเอลไม่รู้จัก ประชากรของเราไม่เข้าใจ” 4 โอ ชนชาติบาปหนา ประชากรผู้แบกความผิดไว้อย่างมากมายหนักหนา เผ่าพันธุ์ผู้กระทำชั่ว ลูกหลานของความเสื่อมทราม! พวกเขาได้ละทิ้งองค์พระผู้เป็นเจ้า หมิ่นประมาทองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล และหันหลังให้พระองค์ 5 ทำไมต้องให้โบยอยู่ร่ำไป? ทำไมจึงกบฏซ้ำแล้วซ้ำเล่า? ศีรษะของเจ้าก็ร้าวระบม หัวใจก็ร้าวราน 6 ตั้งแต่ศีรษะจดเท้า ไม่มีส่วนใดปกติ ล้วนมีแต่แผลถลอก แผลขึ้นแนว และรอยแผลอักเสบ ไม่ได้ล้างแผล ทายา หรือพันแผลไว้เลย 7 ดินแดนของเจ้าก็ร้างเปล่า เมืองต่างๆ ถูกเผาผลาญ ท้องทุ่งเหี้ยนเตียนด้วยน้ำมือของคนต่างชาติ เริศร้างต่อหน้าต่อตาเจ้า เหมือนเมื่อถูกคนแปลกหน้าล้มล้าง 8 ธิดาแห่งศิโยนถูกทิ้งร้าง เหมือนเพิงในสวนองุ่น […]

อิสยาห์ 2

ภูเขาขององค์พระผู้เป็นเจ้า 1 นี่คือสิ่งที่อิสยาห์บุตรอาโมศเห็นเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็ม 2 ในบั้นปลาย ภูเขาที่พระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าตั้งอยู่ จะได้รับการสถาปนาให้เป็นเอกในหมู่ภูเขาทั้งหลาย จะได้รับการเชิดชูเหนือบรรดาเนินเขา และมวลประชาชาติจะหลั่งไหลไปที่นั่น 3 ชนชาติต่างๆ จะมาและกล่าวว่า “มาเถิด ให้เราขึ้นไปบนภูเขาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ไปยังพระนิเวศของพระเจ้าของยาโคบ พระองค์จะทรงสอนพระมรรคาของพระองค์แก่เรา เพื่อเราจะดำเนินในวิถีทางของพระองค์” บทบัญญัติจะออกมาจากศิโยน พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะออกมาจากเยรูซาเล็ม 4 พระองค์จะทรงตัดสินความระหว่างประชาชาติทั้งหลาย และยุติกรณีพิพาทให้ชนชาติทั้งหลาย พวกเขาจะตีดาบให้เป็นผาลไถนา และตีหอกให้เป็นขอลิด ประชาชาติจะเลิกรบราฆ่าฟันกัน ทั้งจะไม่มีการฝึกรบอีกต่อไป 5 มาเถิดวงศ์วานของยาโคบเอ๋ย ให้เราเดินในแสงสว่างขององค์พระผู้เป็นเจ้ากันเถิด วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า 6 พระองค์ได้ทรงทอดทิ้งพงศ์พันธุ์ยาโคบ ซึ่งเป็นประชากรของพระองค์ พวกเขาเล่นไสยศาสตร์จากตะวันออก มีหมอดู คนทรงเหมือนชาวฟีลิสเตีย และสนิทสนมกับผู้ที่ไม่นับถือพระเจ้า 7 ดินแดนของเขามีเงินและทองเต็มไปหมด มีทรัพย์สมบัตินับไม่ถ้วน ดินแดนของเขามีม้าเต็มไปหมด มีรถม้าศึกนับไม่ถ้วน 8 ดินแดนของเขามีรูปเคารพเต็มไปหมด เขาหมอบกราบสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้น สิ่งที่ทำขึ้นด้วยน้ำมือของตน 9 ดังนั้นมนุษย์จะถูกทำให้ตกต่ำลง มนุษยชาติถูกทำให้ต่ำต้อย อย่าอภัยให้เขาเลย 10 จงคลานเข้าไปในซอกหิน และมุดลงไปในดิน ให้พ้นจากความน่าสะพรึงกลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้า และจากความรุ่งโรจน์แห่งพระบารมีของพระองค์ […]

อิสยาห์ 3

การพิพากษาเหนือเยรูซาเล็มและยูดาห์ 1 ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ กำลังจะตัดแหล่งน้ำ แหล่งเสบียง ตัดขุมกำลังของเยรูซาเล็มและยูดาห์ 2 จะตัดวีรบุรุษและนักรบ ตุลาการและผู้เผยพระวจนะ ผู้ทำนายและผู้อาวุโส 3 นายทหารและขุนนาง ที่ปรึกษา ช่างฝีมือ และผู้วิเศษ 4 เราจะตั้งเด็กๆ เป็นเจ้านาย ให้เด็กอมมือเป็นผู้ปกครองพวกเขา 5 ประชาชนจะข่มเหงกันเอง คนจะต่อสู้กัน เพื่อนบ้านต่อสู้เพื่อนบ้าน เยาวชนจะลุกฮือขึ้นสู้ผู้อาวุโส คนถ่อยจะต่อสู้ผู้ทรงเกียรติ 6 คนหนึ่งจะจับตัวพี่น้องของเขา ที่บ้านบิดาของตนและกล่าวว่า “ท่านมีเสื้อคลุม ขอท่านมาเป็นผู้นำของเรา มาดูแลกองปรักหักพังนี้!” 7 แต่ในวันนั้นคนนั้นจะร้องว่า “ข้าพเจ้าช่วยอะไรไม่ได้ ในบ้านของข้าพเจ้าไม่มีอาหารหรือเสื้อผ้า อย่าให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำประชาชนเลย” 8 เยรูซาเล็มโซซัดโซเซ ยูดาห์ล้มลง วาจาและความประพฤติของเขาต่อต้านองค์พระผู้เป็นเจ้า ลบหลู่ดูหมิ่นต่อพระพักตร์อันทรงเกียรติสิริของพระองค์ 9 สีหน้าของเขาฟ้องตัวเอง พวกเขาอวดบาปของตนเหมือนโสโดม ไม่ยับยั้งปิดบัง วิบัติแก่เขา! เขานำภัยพิบัติมาสู่ตนเอง 10 จงบอกคนชอบธรรมว่าเขาจะอยู่เย็นเป็นสุข เพราะเขาจะได้ชื่นชมกับผลจากการกระทำของตน 11 วิบัติแก่คนชั่วร้าย! หายนะตกแก่เขา! […]

อิสยาห์ 4

1 ในวันนั้นหญิงเจ็ดคนจะยื้อยุดชายคนเดียว และกล่าวว่า “เราจะหาอาหารกินเอง และจัดหาเสื้อผ้าสำหรับตัวเราเอง ขอเพียงแต่ให้เราใช้นามสกุลของท่าน ช่วยลบล้างความอัปยศให้เราด้วยเถิด!” กิ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้า 2 ในวันนั้นกิ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะงดงามและเปี่ยมด้วยราศี ผลแห่งดินแดนนั้นจะเป็นเกียรติสิริและความภาคภูมิใจของชาวอิสราเอลที่เหลือ 3 เขาจะเรียกบรรดาคนที่เหลืออยู่ในศิโยน คืออยู่ในเยรูซาเล็มว่า วิสุทธิชน คือทุกคนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนพลเมืองเยรูซาเล็ม 4 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงชำระล้างมลทินของพวกผู้หญิงศิโยน จะทรงชำระคราบโลหิตจากเยรูซาเล็มโดยวิญญาณแห่งไฟและการพิพากษา 5 จากนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงสร้างกลุ่มเมฆควันในยามกลางวัน และเปลวไฟลุกโชติช่วงในยามกลางคืนเหนือภูเขาศิโยนและเหนือบรรดาผู้ที่ชุมนุมกันอยู่ที่นั่น เหนือสิ่งทั้งหมดเหล่านั้นคือพระเกียรติสิริของพระเจ้าจะเป็นเพดานฟ้า 6 เป็นร่มเงากำบังความร้อนระอุในยามกลางวันและเป็นที่ปกป้องและที่พักพิงจากพายุและฝน —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/4-731b02a354561ffc46a00b8bff45fb7e.mp3?version_id=179—

อิสยาห์ 5

บทเพลงสวนองุ่น 1 ข้าพเจ้าจะขับร้องบทเพลงแด่ผู้ที่เป็นที่รักของ ข้าพเจ้า เกี่ยวกับสวนองุ่นของเขา ที่รักของข้าพเจ้ามีสวนองุ่นแปลงหนึ่งบนไหล่ เขาอันอุดมสมบูรณ์ 2 เขาไถที่และกำจัดกรวดหิน และปลูกองุ่นพันธุ์เยี่ยม เขาสร้างหอยาม และสกัดบ่อย่ำองุ่นไว้ด้วย จากนั้นเขารอเก็บผลองุ่นชั้นดี แต่กลับได้องุ่นเปรี้ยว 3 “โอ ชาวเยรูซาเล็มและชาวยูดาห์ จงตัดสินความระหว่างเรากับสวนองุ่นของเรา 4 เราจะทำอะไรได้อีก เพื่อสวนองุ่นของเรา? เราหวังผลองุ่นที่ดี แต่ทำไมกลับได้แต่องุ่นเปรี้ยว? 5 เราจะบอกให้ว่าเราจะทำอะไรกับสวนองุ่นนั้น เราจะรื้อรั้วลงและปล่อยให้สวนนั้นถูกทำลาย เราจะทลายกำแพงลง และมันจะถูกเหยียบย่ำ 6 เราจะทิ้งให้เริศร้าง ไม่ลิดกิ่งหรือพรวนดินให้ ปล่อยให้หนามขึ้นรกไปหมด เราจะสั่งเมฆไม่ให้ส่งฝน มารดมันอีกต่อไป” 7 สวนองุ่นของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์คือวงศ์วานอิสราเอล ชนยูดาห์คือสวนที่ทรงปีติยินดี พระองค์ทรงหวังให้พวกเขาออกผลเป็นความยุติธรรม แต่กลับเห็นการนองเลือด ทรงคาดหวังความชอบธรรม แต่กลับได้ยินเสียงโหยไห้ร้องทุกข์ วิบัติและโทษทัณฑ์ 8 วิบัติแก่เจ้าผู้ซื้อที่ดิน จนผู้อื่นไม่มีที่อาศัย บ้านของเจ้าสร้างบนที่ดินผืนใหญ่ จนเจ้าสามารถอยู่ตามลำพังในดินแดนนั้น 9 ข้าพเจ้าได้ยินพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “บ้านใหญ่ๆ จะเริศร้างอย่างแน่นอน คฤหาสน์งดงามก็จะไร้ผู้อยู่อาศัย 10 สวนองุ่นสิบๆ แอกจะผลิตเหล้าองุ่นได้เพียงบัทเดียว […]

อิสยาห์ 6

พระเจ้าทรงมอบหมายหน้าที่ให้อิสยาห์ 1 ในปีที่กษัตริย์อุสซียาห์สิ้นพระชนม์ ข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าประทับบนบัลลังก์อันสูงส่งและเป็นที่เทิดทูน ชายฉลองพระองค์ปกคลุมทั่วพระวิหาร 2 เหนือพระองค์มีเสราฟิม แต่ละตนมีหกปีก สองปีกปกหน้า สองปีกปกเท้าและอีกสองปีกบินไปมา 3 ต่างร้องขานรับต่อๆ กันว่า “บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ทั่วโลกเต็มไปด้วยพระเกียรติสิริของพระองค์” 4 เสียงทูตสวรรค์เหล่านี้ทำให้เสาประตูและธรณีประตูสั่นสะเทือน มีควันปกคลุมทั่วพระวิหาร 5 ข้าพเจ้าจึงร้องว่า “วิบัติแก่ข้าพเจ้า! ข้าพเจ้าพินาศแล้ว! เพราะข้าพเจ้าเป็นคนที่ริมฝีปากไม่สะอาด และใช้ชีวิตในหมู่ชนชาติที่มีริมฝีปากไม่สะอาด และตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์กษัตริย์คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์” 6 แล้วเสราฟิมตนหนึ่งบินมาหาข้าพเจ้า มีถ่านลุกโชนซึ่งใช้คีมคีบมาจากแท่นบูชาอยู่ในมือ 7 ทูตสวรรค์นั้นใช้ถ่านแตะริมฝีปากข้าพเจ้า และกล่าวว่า “ดูเถิด ถ่านนี้แตะริมฝีปากของเจ้าแล้ว ความผิดของเจ้าถูกลบไป และบาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว” 8 แล้วข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราจะส่งผู้ใดไป? และใครจะไปเพื่อเรา?” ข้าพเจ้ากราบทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่ ขอทรงส่งข้าพระองค์ไปเถิด!” 9 พระองค์ตรัสว่า “จงไปบอกชนชาตินี้ว่า “‘จงฟังแล้วฟังเล่าแต่จะไม่มีวันเข้าใจ ดูแล้วดูเล่าแต่จะไม่มีวันเห็น’ 10 จงทำให้จิตใจของชนชาตินี้ดื้อด้านไป ทำให้หูของพวกเขาตึง และปิดตาของพวกเขาเสีย มิฉะนั้นแล้วพวกเขาจะได้เห็นกับตา […]

อิสยาห์ 7

หมายสำคัญของอิมมานูเอล 1 ในรัชกาลกษัตริย์อาหัสแห่งยูดาห์ โอรสของโยธามซึ่งเป็นโอรสของอุสซียาห์ กษัตริย์เรซีนแห่งอารัม และกษัตริย์เปคาห์แห่งอิสราเอล โอรสของเรมาลิยาห์ กรีธาทัพมาโจมตีเยรูซาเล็ม แต่ยึดเมืองไม่ได้ 2 เมื่อข่าวมาถึงราชวงศ์ของดาวิดว่า “อารัมร่วมเป็นพันธมิตรกับเอฟราอิม” ทั้งจิตใจของอาหัสและราษฎรก็หวาดหวั่นเหมือนต้นไม้ในป่าสั่นสะท้านกลางพายุ 3 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับอิสยาห์ว่า “เจ้ากับเชอารยาชูบบุตรของเจ้า จงออกไปพบอาหัสที่ปลายท่อน้ำของอ่างเก็บน้ำด้านบน ในทางที่จะไปลานซักฟอก 4 จงกล่าวกับเขาว่า ‘ให้ระวัง นิ่งสงบ อย่ากลัวเลย อย่าเสียขวัญเพราะดุ้นฟืนที่กำลังจะมอดทั้งสองนี้ คือความเกรี้ยวกราดของกษัตริย์เรซีนแห่งอารัมและของบุตรเรมาลิยาห์ 5 อารัม เอฟราอิม และบุตรของเรมาลิยาห์คบคิดกันทำลายล้างเจ้า และพูดกันว่า 6 “ให้เราบุกยูดาห์ ยึดดินแดนมาแบ่งกัน และตั้งบุตรของทาเบเอลขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองที่นี่” 7 แต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสว่า “‘จะไม่เป็นไปเช่นนั้น จะไม่เกิดขึ้น 8 เพราะหัวของอารัมคือดามัสกัส และหัวของดามัสกัสคือเรซีนเท่านั้น เอฟราอิมก็เช่นกัน ภายในหกสิบห้าปี จะถูกบดขยี้ไม่เหลือเป็นชนชาติ 9 หัวของเอฟราอิมคือสะมาเรีย และหัวของสะมาเรียก็เป็นแค่บุตรของเรมาลิยาห์ หากเจ้าไม่ตั้งมั่นในความเชื่อ เจ้าก็ไม่อาจยืนอยู่ได้เลย’ ” 10 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับอาหัสอีกครั้งว่า 11 “จงขอหมายสำคัญจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ไม่ว่าจะในที่ลึกที่สุดหรือในที่สูงที่สุดก็ได้” 12 […]