เฉลยธรรมบัญญัติ 16

เทศกาลปัสกา 1 จงฉลองเทศกาลปัสกาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในเดือนอาบีบ เพราะในเดือนนั้นพระองค์ทรงนำท่านออกจากอียิปต์ในยามค่ำคืน 2 จงเลือกเครื่องบูชาปัสกาจากฝูงแพะแกะและฝูงวัวของท่าน ถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเลือกเป็นที่สถาปนาพระนามของพระองค์ 3 จงรับประทานเครื่องบูชานี้พร้อมกับขนมปังไม่ใส่เชื้อ จงรับประทานขนมปังไม่ใส่เชื้อตลอดเจ็ดวันนี้ ซึ่งเป็นขนมปังแห่งความทุกข์ เพราะท่านออกมาจากอียิปต์อย่างเร่งรีบ เพื่อท่านจะได้ระลึกถึงตอนที่ท่านออกมาจากอียิปต์ตลอดชีวิตของท่าน 4 ตลอดเจ็ดวันอย่าให้มีเชื้อยีสต์ในอาณาเขตของท่านเลย และอย่าให้เนื้อที่ท่านถวายในเย็นวันแรกเหลือค้างถึงรุ่งเช้า 5 อย่าถวายเครื่องบูชาปัสกาในเมืองใดๆ ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทาน 6 ท่านจะต้องถวายในสถานที่ซึ่งพระเจ้าทรงเลือกเป็นที่สถาปนาพระนามของพระองค์เท่านั้น จงถวายปัสกาในเวลาเย็นเมื่อดวงอาทิตย์ลับไป ในวันครบรอบปีแห่งการเดินทางออกจากอียิปต์ 7 จงย่างและรับประทานเครื่องบูชาในสถานที่ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือก แล้วกลับไปยังเต็นท์ในเช้าวันรุ่งขึ้น 8 และจงรับประทานขนมปังไม่ใส่เชื้อตลอดหกวันหลังจากนั้น ในวันที่เจ็ดให้ประชากรมาชุมนุมกันต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และอย่าทำงาน เทศกาลแห่งสัปดาห์ 9 เจ็ดสัปดาห์หลังจากที่ท่านเริ่มลงมือเกี่ยวข้าว 10 จงฉลองเทศกาลแห่งสัปดาห์ถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านโดยถวายเครื่องบูชาตามความสมัครใจ ตามสัดส่วนของพระพรที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ประทานแก่ท่าน 11 และท่าน บุตรชายบุตรสาว ทาสชายหญิง คนเลวีในเมืองของท่าน คนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่ายซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกท่าน จงชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในสถานที่ซึ่งพระองค์จะทรงเลือกเป็นที่สถาปนาพระนามของพระองค์ 12 อย่าลืมว่าท่านเคยเป็นทาสในอียิปต์ ฉะนั้นจงใส่ใจปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เหล่านี้ เทศกาลอยู่เพิง 13 หลังจากเก็บรวบรวมผลิตผลจากลานนวดข้าวและบ่อย่ำองุ่นแล้ว จงฉลองเทศกาลอยู่เพิงตลอดเจ็ดวัน 14 ท่าน บุตรชายบุตรสาว […]

เฉลยธรรมบัญญัติ 17

1 อย่าถวายแกะหรือวัวที่มีตำหนิหรือพิการแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับพระองค์ 2 หากชายหรือหญิงคนใดที่อยู่ท่ามกลางท่านในเมืองใดเมืองหนึ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ท่าน ทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านโดยการละเมิดพันธสัญญาของพระองค์ 3 ไปนมัสการกราบไหว้พระอื่นๆ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หรือดวงดาว ซึ่งข้าพเจ้าได้สั่งห้ามไว้ 4 และมีผู้มาร้องเรียนต่อท่าน ท่านต้องไต่สวนอย่างรอบคอบ หากเป็นจริงและมีข้อพิสูจน์ว่ามีสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนี้เกิดขึ้นในอิสราเอล 5 ก็จงนำชายหรือหญิงที่ทำชั่วนั้นออกไปที่ประตูเมือง แล้วเอาหินขว้างให้ตาย 6 แต่อย่าประหารใครเมื่อมีพยานเพียงปากเดียว จะต้องมีพยานอย่างน้อยสองหรือสามปาก 7 พยานต้องลงมือขว้างก่อน จากนั้นประชาชนจะร่วมขว้างด้วย ท่านต้องขจัดความชั่วร้ายออกไปจากหมู่พวกท่าน ศาลยุติธรรม 8 หากมีคดีความใดยุ่งยากเกินกว่าท่านจะตัดสิน ไม่ว่าเป็นคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา คดีฟ้องร้อง หรือคดีทำร้ายร่างกาย จงนำคดีเหล่านั้นไปยังสถานที่ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือก 9 ไปแจ้งต่อปุโรหิตซึ่งเป็นคนเลวี และแจ้งตุลาการซึ่งประจำการอยู่ในขณะนั้น คนเหล่านี้จะเป็นผู้ไต่สวนและตัดสิน 10 ท่านจะต้องปฏิบัติตามคำตัดสินของเขาที่แจ้งท่านในที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเลือก จงใส่ใจปฏิบัติตามทุกสิ่งที่พวกเขาสั่งท่าน 11 จงปฏิบัติตามบทบัญญัติที่พวกเขาสั่งสอนและทำตามคำตัดสินของเขา อย่าหันเหจากสิ่งที่เขาแจ้งท่านไปทางขวาหรือทางซ้าย 12 ผู้ใดดูหมิ่นตุลาการหรือปุโรหิตซึ่งปรนนิบัติพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านที่นั่นจะต้องถูกประหาร ท่านจะต้องขจัดความชั่วออกจากอิสราเอล 13 ประชาชนทั้งปวงจะได้ยินเรื่องราวแล้วเกรงกลัวและจะไม่กล้าหมิ่นประมาทอีก กษัตริย์ 14 เมื่อท่านได้เข้าไปครอบครองและตั้งถิ่นฐานในดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านแล้ว และกล่าวว่า “ให้พวกเราตั้งกษัตริย์ปกครองเราเหมือนชนชาติทั้งปวงรอบๆ เรา” 15 […]

เฉลยธรรมบัญญัติ 18

ส่วนแบ่งของปุโรหิตและคนเลวี 1 ปุโรหิตชาวเลวีรวมทั้งคนในเผ่าเลวีทั้งหมดจะไม่ได้รับส่วนแบ่งหรือมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับอิสราเอล พวกเขาจะยังชีพด้วยเครื่องบูชาซึ่งเผาด้วยไฟถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะนั่นเป็นส่วนกรรมสิทธิ์ของพวกเขา 2 พวกเขาจะไม่ครอบครองทรัพย์สมบัติใดในหมู่พี่น้อง เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาตามที่ทรงสัญญาไว้กับพวกเขา 3 เมื่อประชาชนถวายวัวผู้หรือแกะเป็นเครื่องบูชา บรรดาปุโรหิตจะได้โคนขาหน้า เนื้อแก้ม และเนื้อท้องเป็นส่วนแบ่ง 4 จงมอบผลิตผลรุ่นแรก คือเมล็ดข้าว เหล้าองุ่นใหม่ น้ำมัน และขนแกะที่ตัดครั้งแรกให้แก่พวกเขา 5 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงเลือกสรรพวกเขาและวงศ์วานของพวกเขาจากทุกเผ่าให้มาปฏิบัติหน้าที่รับใช้ในพระนามของพระยาห์เวห์เสมอไป 6 หากชนเลวีคนใดปรารถนาจะย้ายถิ่นฐานจากเมืองใดในอิสราเอลมายังสถานที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเลือก เขาก็ทำได้ 7 และให้เขาปฏิบัติหน้าที่ในพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาได้เช่นเดียวกับญาติพี่น้องเลวีทั้งปวงซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 8 เขามีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งจากเครื่องบูชาและของถวายอย่างเท่าเทียมกัน แม้จะได้รับเงินจากการขายทรัพย์สินของครอบครัวแล้วก็ตาม การกระทำอันน่ารังเกียจ 9 เมื่อท่านเข้าสู่ดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทาน อย่าเลียนแบบการกระทำอันน่าชิงชังของชนชาติทั้งหลายที่นั่น 10 อย่าให้ผู้ใดในพวกท่านยกบุตรชายบุตรสาวเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟเป็นหมอดูหรือนักคาถาอาคม แปลความหมายลางบอกเหตุต่างๆ เป็นพ่อมดแม่มด 11 หรือทำเวทมนตร์ หรือเป็นคนทรง หรือเป็นหมอผี หรือไปปรึกษาคนที่ตายแล้ว 12 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรังเกียจคนที่ทำสิ่งเหล่านี้ และที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงขับไล่ชนชาติเหล่านั้นออกไปต่อหน้าท่านก็เพราะธรรมเนียมปฏิบัติอันน่าชิงชังเหล่านี้ 13 ท่านจะต้องไม่มีที่ติต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ผู้เผยพระวจนะ 14 ชนชาติต่างๆ ซึ่งท่านจะขับไล่ออกไปจากดินแดนนั้นฟังคำของนักคาถาอาคมและหมอดู แต่ส่วนท่านพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านไม่ทรงอนุญาตให้ท่านทำเช่นนั้น 15 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงตั้งผู้เผยพระวจนะเหมือนข้าพเจ้าขึ้นมาคนหนึ่งสำหรับท่าน จากท่ามกลางพี่น้องของท่านเอง ท่านต้องรับฟังเขา […]

เฉลยธรรมบัญญัติ 19

เมืองลี้ภัย 1 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงทำลายชนชาติต่างๆ ในดินแดนซึ่งพระองค์กำลังจะประทานแก่ท่าน เมื่อท่านขับไล่พวกเขาออกไปและตั้งถิ่นฐานในบ้านเมืองของเขาแล้ว 2 จงเลือกเมืองสามแห่งในดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังประทานแก่ท่าน 3 จงสร้างทางไปยังเมืองเหล่านี้และแบ่งดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานเป็นกรรมสิทธิ์นั้นออกเป็นสามส่วนเพื่อผู้ที่ฆ่าคนจะหนีไปลี้ภัยที่นั่น 4 ต่อไปนี้คือกฎเกี่ยวกับผู้ที่ทำให้คนตายแล้วหนีไปเมืองลี้ภัยเพื่อเอาชีวิตรอด คือผู้ที่ทำให้คนตายโดยไม่เจตนา ไม่ได้วางแผนการร้ายมาก่อน 5 ยกตัวอย่างเช่นชายคนหนึ่งเข้าไปตัดไม้ในป่ากับเพื่อนบ้าน ขณะที่เหวี่ยงขวาน หัวขวานกระเด็นออกมาถูกเพื่อนบ้านถึงแก่ความตาย เขาสามารถหนีไปยังเมืองลี้ภัยแห่งใดแห่งหนึ่งในสามเมืองนี้และได้รับการคุ้มครอง 6 ถ้ามีเพียงเมืองเดียวอาจจะไกลเกินไป ทำให้ญาติของผู้ตายตามล้างแค้นเขาได้ทัน เขาจะถูกฆ่าทั้งๆ ที่ไม่น่าจะต้องตาย ในเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอุบัติเหตุ 7 ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงสั่งให้ท่านตั้งเมืองสามแห่งนี้ขึ้น 8 หากพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงขยายอาณาเขตของท่านตามที่ทรงสัญญาด้วยคำปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่าน และประทานดินแดนทั้งหมดที่ทรงสัญญาไว้ 9 เนื่องจากท่านเชื่อฟังบทบัญญัติทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าแจ้งท่านในวันนี้ คือรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและดำเนินในทางของพระองค์เสมอ เมื่อนั้นจงกำหนดเมืองลี้ภัยขึ้นอีกสามแห่ง 10 จงทำอย่างนี้เพื่อเลือดของผู้บริสุทธิ์จะไม่ต้องหลั่งลงบนดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานให้ท่านเป็นกรรมสิทธิ์ และเพื่อท่านจะไม่มีความผิดฐานทำให้เลือดตกยางออก 11 แต่หากผู้ใดเกลียดชังเพื่อนบ้าน และซุ่มดักคอยเล่นงาน และฆ่าเขา แล้วหนีเข้าไปในเมืองลี้ภัยไม่ว่าแห่งใด 12 บรรดาผู้อาวุโสประจำเมืองของเขาจะส่งคนมาจับกุมตัวเขาและนำเขากลับมามอบให้แก่ผู้แก้แค้นแทนผู้ตายเพื่อประหาร 13 อย่าสงสารเขาเลย จงขจัดความผิดจากการหลั่งโลหิตของผู้ที่ไม่มีความผิดออกไปจากอิสราเอล เพื่อท่านจะอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข 14 อย่าโยกย้ายหลักเขตของเพื่อนบ้านซึ่งบรรพบุรุษปักไว้ในดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานเป็นกรรมสิทธิ์ พยาน 15 อย่าตัดสินคดีผู้ใดเมื่อมีพยานเพียงปากเดียว แต่ละคดีจะต้องมีพยานยืนยันสองสามปาก 16 ถ้าผู้ใดเป็นพยานมุ่งร้ายกล่าวโทษอีกผู้หนึ่งว่าประกอบอาชญากรรม […]

เฉลยธรรมบัญญัติ 20

การออกศึก 1 เมื่อท่านออกรบและเห็นศัตรูมีม้า รถม้าศึก และกองทัพยิ่งใหญ่เหนือกว่าท่าน อย่ากลัวพวกเขาเลย เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านผู้นำท่านออกมาจากอียิปต์นั้นจะสถิตกับท่าน 2 ก่อนจะออกรบ ปุโรหิตจะเดินมาข้างหน้าและกล่าวแก่กองทัพว่า 3 “อิสราเอลเอ๋ย จงฟังเถิด วันนี้ท่านกำลังจะไปรบกับศัตรู ไม่ต้องขวัญหนีดีฝ่อหรือหวาดกลัว อย่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงหรือตื่นตระหนกตกใจ 4 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเสด็จไปกับท่าน พระองค์ทรงต่อสู้กับศัตรูเพื่อท่านและจะประทานชัยชนะแก่ท่าน” 5 แล้วแม่ทัพนายกองจะกล่าวแก่กองทัพว่า “มีใครบ้างที่เพิ่งสร้างบ้านใหม่ แต่ยังไม่ได้ทำพิธีถวาย? ถ้ามีจงกลับไปบ้าน เพราะท่านอาจจะตายในสงคราม แล้วคนอื่นจะมาทำพิธีถวายแทน 6 มีใครบ้างเพิ่งปลูกสวนองุ่น แต่ยังไม่ได้กินผลเลย? ถ้ามีจงกลับบ้าน ท่านอาจจะตายในสงครามแล้ว คนอื่นมากินแทน 7 มีใครบ้างที่เพิ่งหมั้นและยังไม่ได้แต่งงาน? ถ้ามีจงกลับบ้านแต่งงานเสียเถิด มิฉะนั้นท่านอาจจะตายในสงครามและคนอื่นมาแต่งงานกับคู่หมั้นของท่านแทน” 8 แล้วแม่ทัพนายกองกล่าวเสริมว่า “มีใครใจเสาะหรือหวาดหวั่นบ้าง? ถ้ามีจงกลับบ้านไปก่อนที่จะทำให้คนอื่นเสียขวัญไปด้วย” 9 เมื่อแม่ทัพนายกองกล่าวจบแล้ว ก็จะประกาศรายชื่อผู้นำทัพ 10 เมื่อท่านประชิดเมืองใด ก่อนอื่นจงยื่นข้อเสนอให้เขายอมเจรจา 11 หากเมืองนั้นยอมรับข้อเสนอและเปิดประตูเมืองให้ ชาวเมืองทั้งหมดจะถูกเกณฑ์แรงงานเป็นคนรับใช้ของท่าน 12 หากเขาไม่ยอมเจรจาอย่างสันติและต่อสู้กับท่าน ท่านจงล้อมเมืองนั้น 13 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านมอบเมืองนั้นไว้ในมือของท่าน จงลงดาบฆ่าชายทุกคนในเมืองนั้น […]

เฉลยธรรมบัญญัติ 21

การลบบาปสำหรับการฆาตกรรมที่ไม่รู้ตัวผู้กระทำผิด 1 เมื่อท่านเข้าสู่ดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานเป็นกรรมสิทธิ์ หากพบศพกลางทุ่งและไม่ทราบว่าใครเป็นคนฆ่า 2 ผู้อาวุโสและตุลาการของท่านจะวัดระยะจากศพไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุด 3 แล้วผู้อาวุโสของเมืองนั้นจะนำวัวสาวซึ่งไม่เคยเทียมแอก ไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน 4 ไปยังหุบเขาซึ่งไม่เคยมีการไถหว่านและมีธารน้ำไหล แล้วหักคอวัวที่นั่น 5 ปุโรหิตชนเลวีจะก้าวไปข้างหน้า เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงเลือกปุโรหิตให้ปฏิบัติหน้าที่ ให้อวยพรในพระนามพระยาห์เวห์ และให้ตัดสินกรณีพิพาทและการทำร้ายร่างกาย 6 บรรดาผู้อาวุโสของเมืองที่ใกล้ที่สุดนั้นจะล้างมือเหนือวัวซึ่งถูกหักคอในหุบเขา 7 และประกาศว่า “มือของเราไม่ได้ทำให้หลั่งเลือด และตาของเราไม่ได้เห็นว่าใครทำ 8 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดรับการลบมลทินบาปสำหรับอิสราเอลประชากรของพระองค์ซึ่งทรงไถ่ไว้แล้ว อย่าให้ประชากรของพระองค์ต้องรับโทษที่คนบริสุทธิ์ผู้นี้ถูกฆ่าตายเลย” แล้วความตายนี้จะได้รับการอภัยโทษบาป 9 ท่านก็จะได้ช่วยให้ตัวเองพ้นโทษจากการที่คนบริสุทธิ์ต้องตาย เนื่องจากท่านได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า การแต่งงานกับหญิงเชลย 10 เมื่อท่านออกรบและพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงมอบข้าศึกไว้ในมือของท่าน และท่านจับเขาเป็นเชลย 11 หากท่านเห็นหญิงงามในหมู่เชลยซึ่งท่านชอบและอยากได้ไว้เป็นภรรยา 12 จงพานางมาที่บ้านของท่าน ให้นางโกนผมและตัดเล็บ 13 และเปลี่ยนเสื้อผ้าซึ่งสวมอยู่เมื่อถูกจับมาเป็นเชลย ให้นางอยู่ในบ้านของท่าน ไว้ทุกข์แก่บิดามารดาของนางหนึ่งเดือนเต็มๆ หลังจากนั้นท่านจึงรับนางมาเป็นภรรยา 14 หากนางไม่ถูกใจท่าน จงปล่อยนางไปตามทางที่นางต้องการ อย่าขายหรือปฏิบัติกับนางเยี่ยงทาส เพราะท่านได้ทำให้นางอับอายแล้ว สิทธิบุตรหัวปี 15 หากชายใดมีภรรยาสองคน เขารักคนหนึ่งและไม่รักอีกคนหนึ่ง และทั้งสองให้กำเนิดบุตรชายแก่เขา แต่บุตรหัวปีเป็นบุตรของภรรยาที่เขาไม่รัก […]

เฉลยธรรมบัญญัติ 22

1 หากท่านเห็นวัวหรือแกะของเพื่อนบ้านหลงมา อย่านิ่งดูดาย จงนำมันกลับไปคืนเจ้าของ 2 หากเจ้าของอยู่ไกลหรือท่านไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ จงพามันไปที่บ้านของท่าน และดูแลมันจนกว่าเจ้าของจะมาถามหา จึงคืนมันให้เขา 3 ไม่ว่าจะเป็นลา เสื้อผ้า หรือสิ่งใดๆ ของเขาที่สูญหาย อย่านิ่งดูดาย 4 เมื่อท่านเห็นลาหรือวัวของเพื่อนบ้านล้มอยู่ตามทาง อย่านิ่งดูดาย จงเข้าไปช่วยเหลือให้มันยืนขึ้นได้อีก 5 สตรีอย่าสวมเครื่องแต่งกายของบุรุษและบุรุษก็อย่าสวมเครื่องแต่งกายของสตรี เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงรังเกียจผู้ที่ทำเช่นนั้น 6 หากพบรังนกริมทาง หรือบนต้นไม้ หรือที่พื้น และมีแม่นกกกไข่หรือลูกของมัน อย่าจับทั้งแม่นกและลูกนก 7 ท่านอาจจับลูกนกไว้ แต่จงปล่อยแม่นกไป เพื่อประโยชน์สุขของท่าน และเพื่อท่านจะมีชีวิตยืนยาว 8 เมื่อสร้างบ้านใหม่ จงก่อขอบรอบหลังคาเพื่อท่านจะไม่นำความผิดมาสู่บ้านของท่านเนื่องจากมีคนพลัดตกลงมาตาย 9 อย่าหว่านเมล็ดพืชสองชนิดปนกันในสวนองุ่นของท่าน หากท่านทำ ทั้งผลองุ่นและพืชพันธุ์นั้นจะเป็นมลทิน 10 อย่าเอาวัวกับลาเข้าเทียมแอกด้วยกัน 11 อย่าสวมเสื้อผ้าที่ทอจากด้ายขนสัตว์ปนด้ายลินิน 12 ท่านจงเย็บพู่ห้อยไว้ที่มุมทั้งสี่ของเสื้อคลุม การทำผิดในชีวิตสมรส 13 หากชายใดแต่งงานและหลังจากที่หลับนอนกับภรรยาแล้วไม่ชอบนาง 14 จึงทำให้นางเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยพูดให้ร้ายว่า “ข้าพเจ้าแต่งงานกับหญิงนี้ แต่เมื่อเข้าหานาง กลับไม่พบหลักฐานที่พิสูจน์ว่านางเป็นสาวพรหมจารี” 15 […]

เฉลยธรรมบัญญัติ 23

ผู้ที่ถูกห้ามเข้าร่วมชุมนุมประชากร 1 ชายใดถูกตอนโดยการทุบหรือตัด ห้ามเข้าร่วมชุมนุมประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้า 2 ห้ามลูกที่เกิดจากการสมรสต้องห้ามหรือวงศ์วานของเขาเข้าร่วมชุมนุมประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าจนถึงสิบชั่วอายุ 3 ห้ามชาวอัมโมนหรือชาวโมอับหรือวงศ์วานของเขาเข้าร่วมชุมนุมประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าจนถึงสิบชั่วอายุ 4 เพราะพวกเขาไม่ยอมให้อาหารและน้ำแก่ท่านเมื่อท่านออกมาจากอียิปต์ และเขาว่าจ้างบาลาอัมบุตรเบโอร์จากเปโธร์ในอารัมนาหะราอิมมาแช่งท่าน 5 แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านไม่ทรงฟังบาลาอัม กลับทรงพลิกผันคำสาปแช่งให้กลายเป็นพรสำหรับท่าน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงรักท่าน 6 อย่าทำสนธิสัญญาไมตรีกับพวกเขาเลยตลอดชีวิตของท่าน 7 อย่ารังเกียจคนเอโดมเพราะเขาเป็นพี่น้องของท่าน และอย่ารังเกียจคนอียิปต์เพราะท่านเคยเป็นคนต่างด้าวในประเทศของเขา 8 บุตรหลานชั่วอายุที่สามของพวกเขาสามารถเข้ามาร่วมชุมนุมประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ สิ่งที่เป็นมลทินในค่าย 9 ระหว่างรบ ผู้ที่อยู่ในค่ายพักจะต้องหลีกห่างจากทุกสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ 10 ชายใดเป็นมลทินเนื่องจากการหลั่งน้ำอสุจิในเวลากลางคืนจะต้องออกไปอยู่นอกค่ายพัก 11 จนตกเย็นจึงอาบน้ำและกลับเข้ามาในค่ายได้เมื่อดวงอาทิตย์ลับฟ้า 12 จงกำหนดที่ปลดทุกข์ไว้นอกค่ายพัก 13 ทุกคนจะมีพลั่ว จงใช้พลั่วขุดหลุมและกลบสิ่งปฏิกูลหลังจากปลดทุกข์แล้ว 14 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงดำเนินอยู่ในค่ายของท่าน เพื่อปกป้องคุ้มครองท่านและมอบศัตรูไว้ในมือของท่าน ค่ายพักจะต้องบริสุทธิ์เพื่อพระองค์จะได้ไม่เห็นสิ่งที่ไม่บังควรและเมินพระพักตร์ไปจากท่าน กฎอื่นๆ 15 ทาสคนใดหนีนายมาพึ่งท่าน อย่าจับเขาส่งคืนนาย 16 จงยอมให้เขาอาศัยอยู่กับท่านในเมืองใดก็ได้ตามที่เขาเลือก อย่าข่มเหงรังแกเขา 17 อย่าให้มีชายหญิงชาวอิสราเอลคนใดเป็นโสเภณีในเทวสถาน 18 อย่านำรายได้จากหญิงโสเภณีหรือชายโสเภณีมาแก้บนในพระนิเวศของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะทั้งสองเป็นที่รังเกียจสำหรับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน 19 เมื่อท่านให้พี่น้องร่วมชาติยืมเงิน อาหาร หรือสิ่งอื่นใดก็ตาม […]

เฉลยธรรมบัญญัติ 24

1 ชายใดไม่พึงพอใจภรรยาเพราะข้อบกพร่องต่างๆ ให้เขียนหนังสือหย่ามอบแก่นางและส่งตัวนางออกไปจากบ้านของเขา 2 หลังจากนั้นหากนางแต่งงานใหม่ 3 และสามีใหม่ก็ไม่พึงพอใจนาง แล้วเขียนหนังสือหย่ามอบให้แล้วส่งตัวนางออกไปจากบ้านของเขา หรือหากสามีใหม่ตายไป 4 สามีคนแรกที่หย่ากันแล้ว ห้ามกลับไปแต่งงานกับนางอีกเพราะนางเป็นมลทินแล้ว เพราะเป็นที่น่ารังเกียจในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่านำบาปมาเหนือดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านเป็นกรรมสิทธิ์ 5 อย่าเกณฑ์ชายที่เพิ่งแต่งงานให้ออกรบหรือมอบหมายหน้าที่ใดๆ แก่เขา ตลอดปีแรกให้เขามีความสุขอยู่กับภรรยาที่บ้าน 6 อย่ายึดหินโม่เป็นของค้ำประกันการกู้ยืม เพราะเป็นเครื่องมือที่เจ้าของใช้ประทังชีวิต 7 ผู้ใดลักพาตัวพี่น้องชาวอิสราเอลและปฏิบัติต่อเขาเยี่ยงทาสหรือขายเขาไป ผู้ลักพาตัวจะต้องตาย ท่านต้องขจัดความชั่วร้ายออกไปจากหมู่พวกท่าน 8 ในกรณีของโรคเรื้อนจงใส่ใจปฏิบัติตามคำสั่งของปุโรหิตชาวเลวีอย่างเคร่งครัด ท่านต้องใส่ใจปฏิบัติตามสิ่งที่ข้าพเจ้าได้บัญชาพวกเขาไว้ 9 จงจดจำสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงทำต่อมิเรียมระหว่างทางหลังจากที่ท่านออกจากอียิปต์ 10 เมื่อท่านให้เพื่อนบ้านยืมสิ่งใด อย่าเข้าไปเอาของค้ำประกันในบ้านของเขา 11 จงคอยอยู่ข้างนอก ให้ผู้ขอกู้นำของค้ำประกันออกมาให้ท่านเอง 12 หากคนนั้นยากจน ท่านอย่าเก็บของค้ำประกันไว้ข้ามคืน 13 จงคืนเสื้อคลุมให้เขาก่อนดวงอาทิตย์ตกดิน เพื่อเขาจะใช้ห่มนอน แล้วเขาจะขอบคุณท่าน และจะถือว่าเป็นการกระทำที่ชอบธรรมในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน 14 อย่าเอารัดเอาเปรียบลูกจ้างที่ยากไร้และขัดสน ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องชาวอิสราเอลหรือคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองของท่าน 15 จงจ่ายค่าแรงแก่เขาทุกวันก่อนดวงอาทิตย์ลับฟ้า เนื่องจากเขายากจนและใจจดใจจ่ออยู่ที่ค่าจ้าง มิฉะนั้นเขาอาจจะร้องกล่าวโทษท่านต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและท่านจะมีความผิดบาป 16 อย่าประหารบิดาเพราะบาปของบุตร หรือประหารบุตรเพราะบาปของบิดา แต่ละคนจะต้องตายเพราะบาปของตนเอง 17 […]

เฉลยธรรมบัญญัติ 25

1 เมื่อผู้ใดเป็นความกันให้นำเรื่องมาถึงศาล ตุลาการจะตัดสินคดี ปล่อยตัวผู้บริสุทธิ์ และลงโทษผู้กระทำผิด 2 หากผู้กระทำผิดสมควรถูกโบย ตุลาการจะสั่งให้เขานอนลงและให้โบยต่อหน้า มากน้อยตามแต่โทษหนักเบา 3 แต่อย่าโบยเขาเกินสี่สิบที มิฉะนั้นโทษทัณฑ์จะรุนแรงเกินเหตุและพี่น้องของท่านจะต้องเสื่อมเสียเกียรติต่อหน้าท่าน 4 อย่าเอาตะกร้อครอบปากวัวซึ่งนวดข้าวอยู่ 5 ถ้าพี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันและมีคนหนึ่งตายไปโดยปราศจากบุตรชาย อย่าให้ภรรยาม่ายของเขาแต่งงานกับคนนอกครอบครัวสามี พี่น้องสามีจงรับนางเป็นภรรยาและทำหน้าที่พี่น้องสามีแก่นาง 6 ลูกคนแรกที่เกิดมาจะสืบชื่อของผู้ล่วงลับไปแล้วเพื่อชื่อของเขาจะไม่ถูกลบไปจากอิสราเอล 7 แต่หากพี่น้องของผู้ตายไม่ยอมแต่งงานกับหญิงม่ายผู้นั้น นางจะไปหาบรรดาผู้อาวุโสที่ประตูเมืองและกล่าวว่า “พี่น้องสามีของดิฉันไม่ยอมสืบชื่อของผู้ตายในอิสราเอล เขาไม่ยอมทำหน้าที่พี่น้องสามีต่อดิฉัน” 8 แล้วบรรดาผู้อาวุโสของเมืองนั้นจะเรียกตัวญาติคนนั้นมาเจรจา หากเขายังยืนกรานปฏิเสธว่า “ข้าพเจ้าไม่ต้องการแต่งงานกับนาง” 9 หญิงม่ายจะเดินเข้าไปหาชายคนนั้นต่อหน้าบรรดาผู้อาวุโส ถอดรองเท้าของเขาออกมาข้างหนึ่ง ถ่มน้ำลายรดหน้าเขาและกล่าวว่า “นี่แหละผลที่จะเกิดกับคนที่ไม่ยอมสืบสายตระกูลให้พี่น้องของเขา” 10 หลังจากนั้นคนอิสราเอลจะเรียกเชื้อสายของชายผู้นั้นว่า ‘ครอบครัวของคนที่ถูกดึงรองเท้าออก’ 11 หากชายสองคนสู้รบตบมือกัน และภรรยาของฝ่ายหนึ่งตรงเข้ามาช่วยสามีโดยบีบของลับของฝ่ายตรงข้าม 12 ท่านจะต้องตัดมือของนางทิ้ง อย่าสงสารนางเลย 13 อย่ามีตุ้มน้ำหนักที่ต่างกันไว้ในถุงของท่าน อันหนึ่งหนัก อันหนึ่งเบา 14 อย่ามีเครื่องตวงวัดที่ต่างกันในบ้านของท่าน อันหนึ่งใหญ่ อันหนึ่งเล็ก 15 จงใช้มาตราชั่ง ตวง วัด […]