อิสราเอลผู้ดื้อดึง 1 “จงฟังเถิด วงศ์วานของยาโคบเอ๋ย เจ้าซึ่งได้ชื่อตามอิสราเอล และสืบเชื้อสายจากยูดาห์ เจ้าผู้ปฏิญาณในพระนามของพระยาห์เวห์ และอ้างพระเจ้าแห่งอิสราเอล แต่ไม่ใช่ด้วยความจริงหรือความชอบธรรม 2 เจ้าผู้อ้างตนเป็นพลเมืองของนครศักดิ์สิทธิ์ และพึ่งในพระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ทรงพระนามว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ 3 เราได้กล่าวถึงสิ่งเก่าก่อนไว้ล่วงหน้านานมาแล้ว เราเองได้พูดไว้และบอกให้รู้ทั่วกัน แล้วเราก็ทำตามนั้นทันที มันก็เป็นไป 4 เพราะเรารู้ว่าเจ้าดื้อด้านหัวแข็งเพียงไร เอ็นคอของเจ้าเป็นเหล็ก หน้าผากของเจ้าคือทองสัมฤทธิ์ 5 ฉะนั้นเราจึงบอกสิ่งเหล่านี้แก่เจ้าไว้ล่วงหน้านานแล้ว ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น เราก็ได้แจ้งเจ้าแล้ว เพื่อเจ้าจะไม่อาจพูดได้ว่า ‘รูปเคารพของข้าพเจ้าทำสิ่งเหล่านี้ เทวรูปไม้และพระโลหะของข้าพเจ้าบัญชาให้เกิดขึ้น’ 6 เจ้าได้ยินถึงสิ่งเหล่านี้มาแล้ว จงพิเคราะห์ดูให้ถี่ถ้วน เจ้าจะไม่ยอมรับหรือ? “นับแต่นี้ไปเราจะแจ้งสิ่งใหม่ๆ แจ้งสิ่งเร้นลับที่เจ้าไม่รู้นั้นแก่เจ้า 7 เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นใหม่ ไม่ใช่นานมาแล้ว ก่อนหน้านี้เจ้าไม่เคยได้ยินมาก่อน เจ้าจึงไม่อาจพูดได้ว่า ‘เรารู้แล้ว’ 8 เจ้าไม่เคยได้ยินหรือเข้าใจมาก่อน แต่เดิมมาหูของเจ้าไม่ได้เปิดออก เรารู้ดีว่าเจ้าคิดคดทรยศเพียงไร เจ้าได้ชื่อว่ากบฏมาตั้งแต่เกิด 9 เพราะเห็นแก่นามของเรา เราจึงกลั้นโทสะไว้ เพราะเห็นแก่เราซึ่งเป็นที่สรรเสริญ เราจึงยับยั้งไว้ ไม่ตัดเจ้าออกไป 10 ดูเถิด เราได้ถลุงเจ้า […]
Monthly Archives: June 2018
อิสยาห์ 49
ผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า 1 จงฟังข้าพเจ้าเถิด บรรดาเกาะแก่งทั้งหลายเอ๋ย ชนชาติไกลโพ้นทั้งหลาย ฟังทางนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเรียกข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้ายังไม่เกิด ทรงเอ่ยชื่อข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้าถือกำเนิด 2 พระองค์ทรงทำให้ปากของข้าพเจ้าเหมือนดาบคมกริบ ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในร่มเงาแห่งพระหัตถ์ ทรงทำให้ข้าพเจ้าเป็นลูกธนูคมปลาบ และทรงเก็บข้าพเจ้าไว้ในแล่งธนูของพระองค์ 3 พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอล เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เราจะสำแดงเกียรติบารมีของเราในตัวเจ้า” 4 แต่ข้าพเจ้ากล่าวว่า “ข้าพเจ้าตรากตรำไปอย่างไร้จุดหมาย ลงแรงไปโดยเปล่าประโยชน์และไร้ค่า ถึงกระนั้นสิ่งที่ข้าพเจ้าควรได้ก็อยู่ในพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า บำเหน็จของข้าพเจ้าอยู่ที่พระเจ้าของข้าพเจ้า” 5 และบัดนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า พระองค์ผู้ทรงสร้างข้าพเจ้าในครรภ์มารดา เพื่อให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อนำยาโคบกลับมายังพระองค์ และรวบรวมอิสราเอลมายังพระองค์เอง เพราะข้าพเจ้ามีเกียรติในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า และพระเจ้าทรงเป็นพละกำลังของข้าพเจ้า 6 พระองค์ตรัสว่า “เป็นการเล็กน้อยเกินไปที่จะให้เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เพื่อฟื้นฟูชนเผ่าต่างๆ ของยาโคบให้กลับสู่สภาพเดิม และนำชนอิสราเอลเหล่านั้นซึ่งเราสงวนไว้กลับมาหาเรา เราจะให้เจ้าเป็นแสงสว่างสำหรับชนต่างชาติด้วย เพื่อเจ้าจะนำความรอดของเราไปจนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก” 7 พระยาห์เวห์ พระผู้ไถ่ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล ตรัสแก่ผู้นั้นซึ่งเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ของชาติ ผู้เป็นคนรับใช้ของบรรดาผู้ครอบครองนั้นว่า “กษัตริย์ทั้งหลายจะเห็นเจ้าแล้วยืนขึ้น เจ้านายทั้งปวงจะเห็นเจ้าแล้วหมอบกราบ เนื่องด้วยองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงซื่อสัตย์ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ทรงเลือกสรรเจ้า” การกอบกู้อิสราเอล 8 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ในเวลาแห่งความโปรดปราน เราจะตอบเจ้า […]
อิสยาห์ 50
บาปของอิสราเอลและการเชื่อฟังของผู้รับใช้ 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “หนังสือหย่าของแม่เจ้าที่เราใช้ไล่นางไป อยู่ที่ไหน? หรือเราขายเจ้าไป ให้เจ้าหนี้คนไหน? ที่แท้เจ้าถูกขายไปเพราะบาปของเจ้า แม่ของเจ้าถูกไล่ออกไปเพราะการล่วงละเมิดของเจ้า 2 เมื่อเรามาถึง ทำไมจึงไม่มีใครสักคน? เมื่อเราเรียก ทำไมไม่มีใครตอบ? แขนของเราสั้นเกินกว่าที่จะไถ่เจ้าหรือ? เราขาดกำลังที่จะช่วยเจ้าให้รอดหรือ? เราสั่งเพียงคำเดียว ทะเลก็แห้งเหือด เราทำให้แม่น้ำกลับกลายเป็นทะเลทราย ปลาของพวกเขาเน่าเหม็นเพราะขาดน้ำ และตายเพราะความกระหาย 3 เราเอาความมืดห่อหุ้มท้องฟ้า เอาผ้ากระสอบคลุมมันเสีย” 4 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประทานลิ้นที่ฝึกปรือแล้วแก่ข้าพเจ้า เพื่อจะรู้จักถ้อยคำซึ่งช่วยค้ำชูผู้อ่อนระโหย ทุกๆ เช้าพระองค์ทรงปลุกข้าพเจ้า ทรงปลุกหูของข้าพเจ้าให้รับฟังอย่างผู้ที่พระองค์ทรงสอน 5 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงเปิดหูของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าไม่ได้ขัดขืน หรือถอยหนี 6 ข้าพเจ้ายอมหันหลังให้แก่ผู้ที่โบยตีข้าพเจ้า และเอียงแก้มให้แก่ผู้ที่ทึ้งเคราของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ได้หันหน้าหนี จากผู้ที่เย้ยหยันและถ่มน้ำลายรด 7 เพราะพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงช่วยข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่อัปยศอดสู ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงตั้งหน้าไว้ประหนึ่งหินเหล็กไฟ และรู้ว่าตัวเองจะไม่ต้องอับอาย 8 พระองค์ผู้ทรงพิสูจน์ว่าข้าพเจ้าเป็นฝ่ายถูกนั้นอยู่ใกล้ แล้วใครจะมาฟ้องร้องข้าพเจ้า? ให้เรามาประจันหน้ากัน! ใครเป็นโจทก์ของข้าพเจ้า? ให้เขามาเผชิญหน้ากับข้าพเจ้า! 9 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตนี่แหละทรงช่วยข้าพเจ้า ใครที่ไหนจะตัดสินโทษข้าพเจ้า? พวกเขาจะเปื่อยยุ่ยไปเหมือนเสื้อผ้า และถูกตัวแมลงกินหมด […]
อิสยาห์ 51
ความรอดนิรันดร์สำหรับศิโยน 1 “จงฟังเราเถิด บรรดาผู้ขวนขวายหาความชอบธรรม และผู้แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า จงมองดูศิลาที่เจ้าถูกสกัดออกมา ดูเหมืองหินที่เจ้าถูกขุดออกมา 2 จงมองดูอับราฮัมบรรพบุรุษของเจ้า และซาราห์ผู้ให้กำเนิดเจ้า เมื่อครั้งเราเรียกเขา เขามีเพียงตัวคนเดียว และเราก็อวยพรเขา ทำให้เขามีจำนวนมาก 3 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงปลอบโยนศิโยนอย่างแน่นอน และจะทอดพระเนตรซากปรักหักพังทั้งปวงของศิโยนด้วยความเอ็นดูสงสาร พระองค์จะทรงทำให้ทะเลทรายของศิโยนเป็นเหมือนสวนเอเดน ที่ทิ้งร้างของเธอเหมือนอุทยานขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่นั่นจะมีความปลาบปลื้มยินดี มีการขอบพระคุณพระเจ้าและเสียงเพลงไพเราะ 4 “จงฟังเราเถิด ประชากรของเราเอ๋ย ฟังเราเถิด ชนชาติของเราเอ๋ย บทบัญญัติจะออกมาจากเรา ความยุติธรรมของเราจะเป็นแสงสว่างแก่มวลประชาชาติ 5 ความชอบธรรมของเรารีบรุดเข้ามาใกล้ ความรอดของเรากำลังมาถึงแล้ว แขนของเราจะนำความยุติธรรมมาให้ชนชาติต่างๆ เกาะแก่งต่างๆ จะมองดูเรา และรอคอยด้วยหวังว่าเราจะสำแดงฤทธิ์อำนาจ 6 จงเงยหน้าขึ้นมองฟ้าสวรรค์ และมองดูโลกเบื้องล่าง ฟ้าสวรรค์จะลับหายไปเหมือนควัน โลกจะเปื่อยยุ่ยไปเหมือนเสื้อผ้า และชาวโลกจะตายไปเหมือนแมลงวัน แต่ความรอดของเราจะดำรงอยู่เป็นนิตย์ ความชอบธรรมของเราจะไม่สิ้นสุดเลย 7 “จงฟังเราเถิด เจ้าทั้งหลายผู้รู้ว่าอะไรคือความถูกต้อง ชนชาติผู้ถนอมบทบัญญัติของเราไว้ในใจ อย่ากลัวการตำหนิติเตียนของมนุษย์ อย่าหวาดหวั่นไปกับคำสบประมาทของพวกเขา 8 เพราะแมลงจะแทะกินเขาเหมือนเสื้อผ้า หนอนจะกัดกินเขาเหมือนผ้าขนสัตว์ แต่ความชอบธรรมของเราจะดำรงอยู่ตลอดกาล ความรอดของเราจะยั่งยืนสืบไปทุกชั่วอายุ” 9 […]
อิสยาห์ 52
1 ตื่นเถิด ตื่นเถิด ศิโยนเอ๋ย จงสวมกำลังวังชา เยรูซาเล็มนครบริสุทธิ์เอ๋ย จงสวมอาภรณ์งามตระการของเจ้าเถิด ผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตและผู้มีมลทิน จะไม่เข้ามาในเจ้าอีก 2 จงสะบัดฝุ่นธุลีทิ้งไป จงลุกขึ้น นั่งบนบัลลังก์เถิด เยรูซาเล็มเอ๋ย จงปลดโซ่ตรวนที่ล่ามคอของเจ้าเถิด ธิดาแห่งศิโยนผู้ตกเป็นเชลย 3 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เจ้าถูกขายโดยไม่มีราคาค่างวด เจ้าก็จะได้รับการไถ่คืนมาโดยไม่ต้องจ่ายเงิน” 4 เพราะพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสว่า “เดิมทีประชากรของเราลงไปอาศัยอยู่ที่อียิปต์ บัดนี้อัสซีเรียได้กดขี่ข่มเหงพวกเขา” 5 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “และบัดนี้เรามีอะไรที่นี่บ้าง? “เพราะประชากรของเราถูกพาตัวไปเปล่าๆ และผู้ครอบครองเขาก็เย้ยหยัน” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “ตลอดทั้งวัน นามของเราถูกหมิ่นประมาทอยู่เสมอ 6 ดังนั้นประชากรของเราจะรู้จักนามของเรา เพราะฉะนั้นในวันนั้นเขาจะรู้ว่า เราเองเป็นผู้บอกไว้ล่วงหน้า ใช่ เป็นเราเอง” 7 เท้าของผู้นำข่าวดีมาบนภูเขา ช่างงดงามยิ่งนัก ผู้ประกาศสันติภาพ ผู้แจ้งข่าวดี ผู้ประกาศความรอด ผู้กล่าวกับศิโยนว่า “พระเจ้าของเจ้าทรงครอบครอง!” 8 จงฟังเถิด! พวกยามของเจ้าส่งเสียงร้อง ร่วมกันโห่ร้องด้วยความชื่นชมยินดี เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จกลับมายังศิโยน พวกเขาจะเห็นกับตา 9 จงร่วมกันเปล่งเสียงร้องเพลงเบิกบานเถิด ซากปรักหักพังของเยรูซาเล็มเอ๋ย […]
อิสยาห์ 53
1 ใครเล่าได้เชื่อถ้อยคำของเรา และพระกรขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้สำแดงแก่ผู้ใด? 2 เขาผู้นั้นเจริญขึ้นต่อหน้าพระองค์เหมือนหน่ออ่อน และเหมือนรากที่โผล่ออกมาบนพื้นดินแห้ง เขาไม่มีความงามหรือความโอ่อ่าตระการที่จะดึงดูดเรา รูปลักษณ์ของเขาไม่มีอะไรชวนให้ปรารถนา 3 เขาถูกมนุษย์ดูหมิ่นและทอดทิ้ง เป็นคนเจ้าทุกข์และคุ้นเคยกับความทุกข์ทรมาน เป็นคนที่ใครๆ เบือนหน้าหนี เขาถูกเหยียดหยาม และเราก็ไม่นับถือเขา 4 แน่ทีเดียว เขารับความอ่อนแอทั้งหลายของเรา และแบกรับความทุกข์โศกของเราไป ถึงกระนั้นเรากลับถือว่าเขาถูกพระเจ้าตี คือถูกพระองค์โบยตีและทรมาน 5 แต่เขาถูกแทงเพราะการล่วงละเมิดของเรา เขาบอบช้ำเพราะความชั่วช้าของเรา เขารับโทษทัณฑ์เพื่อเราจะมีสันติสุข บาดแผลของเขาทำให้เราได้รับการรักษาให้หาย 6 เราทุกคนหลงเตลิดไปเหมือนแกะ แต่ละคนหันไปตามทางของตน และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงวางความชั่วช้าของเราทุกคน ไว้บนตัวเขา 7 เขาถูกกดขี่ข่มเหงและทนทุกข์ทรมาน แต่ก็ไม่เคยปริปากเลย เขาถูกนำตัวไปเหมือนลูกแกะที่ถูกนำไปฆ่า และเหมือนแกะที่เงียบอยู่ต่อหน้าคนตัดขน เขาก็ไม่ได้ปริปากเช่นกัน 8 เขาถูกนำตัวออกไปโดยการกดขี่ข่มเหงและการพิพากษา และใครเล่าจะพูดถึงเชื้อสายของเขาได้ เพราะเขาถูกตัดขาดจากดินแดนผู้มีชีวิต เขาถูกตีเพราะการล่วงละเมิดของประชากรของเรา 9 เขาถูกฝังในหลุมศพร่วมกับคนชั่ว และฝังร่วมกับเศรษฐีในความตายของเขา ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยทำอะไรรุนแรง ไม่เคยพูดคำโกหกหลอกลวง 10 ถึงกระนั้นก็เป็นพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่จะบดขยี้และทำให้เขาทุกข์ทรมาน และถึงแม้พระองค์ทรงใช้ชีวิตของเขาเป็นเครื่องบูชาลบความผิด แต่เขาจะเห็นวงศ์วานของตนและวันคืนของเขายาวนาน พระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะเจริญรุ่งเรืองในมือของเขา 11 หลังจากที่ชีวิตจิตใจของเขาต้องทุกข์ทรมานแล้ว […]
อิสยาห์ 54
พระเกียรติสิริที่จะมาถึงของศิโยน 1 “จงร้องเพลงเถิด หญิงหมันเอ๋ย เจ้าผู้ไม่เคยมีลูก จงเปล่งเสียงร้องเพลงและจงโห่ร้องยินดีเถิด เจ้าผู้ไม่เคยเจ็บครรภ์ เพราะลูกของหญิงที่โดดเดี่ยว ก็ยังมีมากกว่าลูกของหญิงผู้มีสามี” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น 2 “จงขยายที่ตั้งเต็นท์ของเจ้า ขึงผ้าเต็นท์ออกกว้าง อย่ารั้งไว้ ต่อเชือกเต็นท์ และตอกหลักหมุดให้มั่นคง 3 เพราะเจ้าจะขยายออกไปทั้งซ้ายและขวา ลูกหลานของเจ้าจะยึดกรรมสิทธิ์ของประชาชาติต่างๆ และตั้งถิ่นฐานในนครต่างๆ ที่เริศร้างของพวกเขา 4 “อย่ากลัวเลย เจ้าจะไม่ต้องทนอับอาย อย่ากลัวเลย เจ้าจะไม่ต้องขายหน้า เจ้าจะลืมความอัปยศในวัยสาว และไม่จดจำคำถากถางเรื่องความเป็นม่ายของเจ้าอีก 5 เพราะพระผู้สร้างของเจ้าเป็นสามีของเจ้า พระองค์ทรงพระนามว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลคือพระผู้ไถ่ของเจ้า เขาจะเรียกพระองค์ว่าพระเจ้าเหนือสากลโลก 6 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเรียกเจ้ากลับมา เสมือนหนึ่งเจ้าเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งและชอกช้ำระกำใจ เป็นภรรยาที่แต่งงานไปตั้งแต่ยังสาว เพียงเพื่อจะถูกทอดทิ้ง” พระเจ้าของเจ้าตรัสดังนั้น 7 “เราทอดทิ้งเจ้าชั่วประเดี๋ยวหนึ่ง แต่ด้วยความเมตตาอย่างลึกซึ้ง เราจะพาเจ้ากลับมา 8 ในชั่วขณะหนึ่งของความโกรธ เราเบือนหน้าหนีไปจากเจ้า แต่ด้วยความกรุณานิรันดร์ เราจะเมตตาเจ้า” พระยาห์เวห์พระผู้ไถ่ของเจ้าตรัสไว้ดังนั้น 9 “สำหรับเราแล้วเรื่องนี้เป็นเหมือนในสมัยโนอาห์ เราปฏิญาณไว้ว่าจะไม่ให้น้ำของโนอาห์ท่วมโลกอีกฉันใด บัดนี้เราก็ปฏิญาณว่าจะไม่โกรธ และไม่ตำหนิเจ้าอีกฉันนั้น 10 […]
อิสยาห์ 55
คำเชื้อเชิญบรรดาผู้กระหาย 1 “เชิญทุกคนที่กระหาย มาดื่มน้ำเถิด และผู้ที่ไม่มีเงิน จงมาซื้อกินเถิด! มาเถิด มาซื้อเหล้าองุ่นและน้ำนม โดยไม่คิดเงินและไม่คิดมูลค่า 2 ทำไมเจ้าจึงใช้จ่ายเงินซื้อสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร และลงแรงทำสิ่งที่ไม่ช่วยให้อิ่มใจ? จงฟังเถิด จงฟังเราและรับประทานสิ่งที่ดี แล้วจิตวิญญาณของเจ้าจะปีติยินดีในอาหารอันอุดมสมบูรณ์ที่สุด 3 จงเงี่ยหูและมาหาเรา มาฟังเราเพื่อจิตวิญญาณของเจ้าจะมีชีวิตอยู่ เราจะทำพันธสัญญานิรันดร์กับเจ้า ว่าด้วยความรักอันซื่อสัตย์ซึ่งเราสัญญาไว้กับดาวิด 4 ดูเถิด เราได้ทำให้เขาเป็นพยานแก่ประชาชาติต่างๆ เป็นผู้นำและผู้บังคับบัญชาประชาชาติทั้งหลาย 5 แน่ทีเดียวเจ้าจะเรียกประชาชาติซึ่งเจ้าไม่รู้จักมาชุมนุม และประชาชาติซึ่งไม่รู้จักเจ้าจะรีบรุดมาหาเจ้า เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลประทานความรุ่งโรจน์แก่เจ้า” 6 จงแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าขณะที่จะพบพระองค์ได้ จงร้องทูลพระองค์ขณะที่พระองค์ยังทรงอยู่ใกล้ 7 ให้คนชั่วร้ายละทิ้งวิถีทางของตน และให้คนชั่วละทิ้งความคิดของตน ให้เขาหันกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระองค์จะทรงเมตตาเขา ให้เขาหันกลับมาหาพระเจ้าของเรา เพราะพระองค์จะทรงให้อภัยโดยไม่คิดมูลค่า 8 “เพราะความคิดของเราไม่เป็นความคิดของเจ้า ทั้งวิถีทางของเจ้าไม่เป็นวิถีทางของเรา” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 9 “ฟ้าสวรรค์สูงกว่าแผ่นดินโลกฉันใด วิถีของเราก็สูงกว่าทางของเจ้า และความคิดของเราก็สูงกว่าความคิดของเจ้าฉันนั้น 10 เฉกเช่นฝนและหิมะ โปรยลงมาจากฟ้าสวรรค์ และไม่กลับไปที่นั่น จนกว่าจะทำให้แผ่นดินโลกชุ่มฉ่ำ และทำให้พืชพันธุ์แตกหน่องอกงาม เพื่อให้มันเกิดเมล็ดสำหรับผู้หว่านและอาหารสำหรับผู้บริโภค 11 ถ้อยคำที่ออกจากปากของเราก็เป็นเช่นนั้น […]
อิสยาห์ 56
ความรอดสำหรับคนอื่นๆ 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า “จงผดุงความยุติธรรม และทำสิ่งที่ถูกต้อง เพราะความรอดของเราใกล้เข้ามาแล้ว และความชอบธรรมของเราจะปรากฏในไม่ช้า 2 ความสุขมีแก่ผู้ที่ทำเช่นนี้ คือผู้ที่ยึดถือไว้อย่างเหนียวแน่น ผู้ถือรักษาวันสะบาโตโดยไม่ลบหลู่ดูหมิ่น และยับยั้งมือของตนจากการทำชั่วใดๆ” 3 อย่าให้คนต่างชาติผู้อุทิศตนแด่องค์พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงแยกข้าพเจ้าจากประชากรของพระองค์เป็นแน่” และอย่าให้ขันทีบ่นว่า “ข้าพเจ้าเป็นเพียงต้นไม้แห้ง” 4 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เหล่าขันทีซึ่งรักษาวันสะบาโตของเรา ผู้เลือกทำสิ่งที่เราพอใจ และยึดมั่นในพันธสัญญาของเรา 5 เราจะมอบอนุสรณ์และชื่อ ที่อยู่ภายในวิหารและภายในกำแพงวิหารของเราแก่พวกเขา ซึ่งดีกว่าบุตรชายบุตรสาวเสียอีก เราจะให้นามนิรันดร์แก่พวกเขา เป็นนามที่จะไม่ถูกตัดออก 6 และคนต่างชาติที่ผูกพันตนกับองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อปรนนิบัติพระองค์ เพื่อรักพระนามพระยาห์เวห์ และเพื่อนมัสการพระองค์ ทุกคนที่รักษาวันสะบาโตโดยไม่ลบหลู่ดูหมิ่น ผู้ที่ยึดมั่นในพันธสัญญาของเรา 7 เราจะพาพวกเขามายังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา และให้พวกเขาชื่นชมยินดีในนิเวศแห่งการอธิษฐานของเรา เราจะรับเครื่องเผาบูชาและเครื่องถวายบูชาของเขา บนแท่นบูชาของเรา เพราะนิเวศของเราจะได้ชื่อว่า นิเวศแห่งการอธิษฐานสำหรับมวลประชาชาติ” 8 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตผู้รวบรวมเชลยอิสราเอลประกาศว่า “เราจะรวบรวมคนอื่นมารวมกับพวกเขา นอกเหนือจากคนที่รวมกันอยู่แล้ว” พระเจ้าทรงกล่าวโทษคนชั่วร้าย 9 มาสิ มวลสัตว์ป่าแห่งท้องทุ่งเอ๋ย มาขย้ำกินสิ บรรดาสัตว์ป่าแห่งพงไพร! 10 คนยามของอิสราเอลตาบอด พวกเขาล้วนขาดความรู้ […]
อิสยาห์ 57
1 คนชอบธรรมพินาศไป และไม่มีใครใส่ใจ คนที่ดำเนินในทางของพระเจ้าถูกคร่าไป และไม่มีใครเข้าใจ ว่าคนชอบธรรมถูกรับไป เพื่อให้พ้นจากความเลวร้าย 2 บรรดาผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างเที่ยงธรรมเข้าสู่สันติสุข พวกเขาได้พักสงบเมื่อพวกเขาตาย 3 “ส่วนเจ้า จงมาที่นี่ เจ้าลูกแม่มดหมอผี เจ้าผู้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคนล่วงประเวณีและหญิงโสเภณี! 4 เจ้าเย้ยหยันใคร? เจ้าหัวเราะเยาะใคร? เจ้าแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ใคร? เจ้าเป็นเทือกเถาเหล่ากอของคนทรยศ และเป็นวงศ์วานของคนโกหกไม่ใช่หรือ? 5 เจ้าเร่าร้อนด้วยราคะในหมู่ต้นโอ๊ก และใต้ต้นไม้ใบดกทุกต้น เจ้าสังเวยลูกของเจ้าในหุบเขาลึก และใต้ชะง่อนผา 6 รูปเคารพท่ามกลางหินเรียบในหุบเขาลึกเป็นส่วนของเจ้า พระเหล่านั้นเป็นส่วนของเจ้า ใช่ เจ้าได้ถวายเครื่องดื่มบูชา และเครื่องธัญบูชาแก่พวกมัน เพราะสิ่งเหล่านี้ เราควรจะยกโทษให้เจ้าหรือ? 7 เจ้าได้ตั้งเตียงไว้บนภูเขาสูงเด่น เจ้าขึ้นไปถวายเครื่องบูชาของเจ้าที่นั่น 8 ข้างหลังประตูและเสาประตูของเจ้า เจ้าได้ตั้งสัญลักษณ์นอกศาสนาไว้ เจ้าละทิ้งเรา เจ้าเปิดผ้าคลุมเตียง เจ้าขึ้นไปบนเตียงและเปิดกว้าง เจ้าทำสัญญากับบรรดาเจ้าของเตียงที่เจ้ารัก และมองดูความเปลือยเปล่าของเขา 9 เจ้าไปหาพระโมเลคพร้อมกับน้ำมันมะกอก และเพิ่มน้ำหอมของเจ้า เจ้าส่งคณะทูตของเจ้าไปไกล ถึงขนาดลงไปยังแดนผู้ตาย! 10 เจ้าอ่อนระโหยไปเพราะวิถีทางของเจ้า แต่เจ้าก็ไม่เคยพูดว่า ‘หมดหวัง’ เจ้าฟื้นกำลังตัวเอง […]