คำพยากรณ์กล่าวโทษคูช 1 วิบัติแก่ดินแดนแห่งตั๊กแตน ซึ่งอยู่ตามห้วงน้ำแห่งคูช 2 ซึ่งส่งทูตมาทางทะเล โดยเรือพาไพรัส ไปเถิดม้าเร็ว จงไปยังชนชาติที่ตัวสูงและผิวเนียนเกลี้ยง ซึ่งเป็นที่ครั่นคร้ามทั้งใกล้และไกล ชนชาติที่แข็งกร้าวและมีสำเนียงภาษาแปลกๆ ดินแดนของพวกเขาถูกแบ่งแยกด้วยแม่น้ำ 3 ชาวโลกทั้งมวลเอ๋ย ทุกชีวิตในโลกเอ๋ย เมื่อธงรบผืนหนึ่งถูกชูขึ้นเหนือภูเขาทั้งหลาย ท่านจะได้เห็น และเมื่อเสียงแตรดังขึ้น ท่านจะได้ยิน 4 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “เราจะนิ่งอยู่และมองลงมาจากที่พำนักของเรา เหมือนความร้อนระยิบระยับยามตะวันฉาย เหมือนเมฆน้ำค้างกลางแดดระอุของฤดูเก็บเกี่ยว” 5 เพราะก่อนการเก็บเกี่ยว เมื่อกลีบดอกร่วงไปแล้ว และดอกกลายเป็นผลองุ่นสุก พระองค์จะทรงใช้ขอลิดฟันแขนง และโค่นกิ่งก้านทิ้ง 6 พวกเขาจะถูกทิ้งไว้บนภูเขาให้นกล่าเหยื่อ และให้สัตว์ป่าทั้งหลาย ฝูงนกจะทึ้งซากกินตลอดฤดูร้อน และสัตว์ป่าจะแทะซากตลอดฤดูหนาว 7 ในเวลานั้นจะมีผู้นำของกำนัลมาถวายแด่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พวกเขาเป็นชนชาติที่ตัวสูงและผิวเนียนเกลี้ยง ซึ่งเป็นที่ครั่นคร้ามทั้งใกล้และไกล ชนชาติที่แข็งกร้าวและมีสำเนียงภาษาแปลกๆ ซึ่งดินแดนของเขาถูกแบ่งแยกด้วยแม่น้ำ พวกเขาจะนำของกำนัลมาถวายที่ภูเขาศิโยน ซึ่งเป็นที่สถาปนาพระนามของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/18-f1af7c73cf65cb353537e7a5afc2ca00.mp3?version_id=179—
Monthly Archives: June 2018
อิสยาห์ 19
คำพยากรณ์กล่าวโทษอียิปต์ 1 พระดำรัสเกี่ยวกับอียิปต์มีดังนี้ว่า ดูเถิดองค์พระผู้เป็นเจ้าประทับเหนือเมฆซึ่งเคลื่อนมาอย่างรวดเร็ว และกำลังมายังอียิปต์ บรรดารูปเคารพของอียิปต์สั่นสะท้านต่อหน้าพระองค์ จิตใจของชาวอียิปต์ระทดท้อ 2 “เราจะกระตุ้นชาวอียิปต์ให้สู้รบกันเอง พี่สู้กับน้อง เพื่อนบ้านรบกับเพื่อนบ้าน เมืองรบพุ่งกับเมือง อาณาจักรรบกับอาณาจักร 3 ชาวอียิปต์จะใจเสีย เราจะทำให้แผนการของพวกเขาล้มเหลว พวกเขาจะขอคำปรึกษาจากเทวรูปและวิญญาณผู้ตาย จากคนทรงเจ้าเข้าผี 4 เราจะหยิบยื่นชาวอียิปต์ ให้แก่นายผู้เหี้ยมโหด กษัตริย์ผู้ดุร้ายจะปกครองพวกเขา” องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น 5 ธารน้ำทั้งหลายจะเหือดแห้ง ท้องน้ำจะแตกระแหง 6 คลองจะเน่าเหม็น ลำธารต่างๆ ของอียิปต์จะตื้นเขินและแห้งขอด ต้นกกและกอปรือจะเหี่ยวเฉา 7 พืชเขียวชอุ่มทั้งปวง ตามริมตลิ่ง และปากแม่น้ำไนล์ จะเหี่ยวแห้งและปลิวไปตามลมจนหมด 8 ชาวประมงจะคร่ำครวญร่ำไห้ พวกที่หย่อนเบ็ดลงในแม่น้ำไนล์ พวกที่เหวี่ยงแหลงน้ำ จะโหยไห้ 9 คนที่สางป่านจะสิ้นหวัง คนทอผ้าลินินเนื้อดีจะหมดอาลัยตายอยาก 10 พวกคนทอผ้าจะถูกบีบคั้น และพวกลูกจ้างจะช้ำใจ 11 เจ้าหน้าที่ของโศอันล้วนแล้วแต่โง่เขลา ที่ปรึกษาชาญฉลาดของฟาโรห์ให้คำแนะนำเหลวไหล เจ้าบังอาจพูดกับฟาโรห์ได้อย่างไรว่า “ข้าพระบาทเป็นคนหนึ่งในหมู่ปราชญ์ เป็นสานุศิษย์ของมวลกษัตริย์โบราณ”? 12 […]
อิสยาห์ 20
คำพยากรณ์กล่าวโทษอียิปต์และคูช 1 ในปีที่กษัตริย์ซาร์กอนแห่งอัสซีเรียส่งแม่ทัพสูงสุดมาโจมตีอัชโดดและยึดเมืองได้ 2 ครั้งนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสผ่านอิสยาห์บุตรอาโมศว่า “เจ้าจงถอดเสื้อผ้ากระสอบออกจากกาย และถอดรองเท้าออก” อิสยาห์ก็ปฏิบัติตาม เดินเปลือยกายและเท้าเปล่า 3 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เช่นเดียวกับที่อิสยาห์ผู้รับใช้ของเราเดินเปลือยกายและเท้าเปล่าตลอดสามปี ซึ่งเป็นหมายสำคัญและลางร้ายแก่อียิปต์และคูช 4 กษัตริย์อัสซีเรียจะจับตัวชาวอียิปต์และคูชไปเป็นนักโทษและเป็นเชลย ให้เดินเปลือยกายและเท้าเปล่าไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ กับเปลือยก้นยังความอัปยศมาสู่อียิปต์ 5 บรรดาคนที่พึ่งคูชและโอ้อวดเรื่องอียิปต์จะหวาดกลัวและอับอาย 6 ในวันนั้นประชาชนที่อาศัยตามชายฝั่งทะเลจะกล่าวว่า ‘ดูสิ ขนาดผู้ที่เราพึ่งพาและหนีมาขอความช่วยเหลือให้พ้นมือจากกษัตริย์อัสซีเรียยังเป็นไปถึงเพียงนี้ แล้วเราจะหนีรอดไปได้อย่างไร?’” —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/20-bfd972d593cc6585050a1b660f8b7856.mp3?version_id=179—
อิสยาห์ 21
คำพยากรณ์กล่าวโทษบาบิโลน 1 พระดำรัสเกี่ยวกับบาบิโลนมีดังนี้ว่า ผู้รุกรานมาจากถิ่นกันดาร จากดินแดนน่าสะพรึงกลัว เหมือนพายุพัดกระหน่ำดินแดนภาคใต้ 2 ข้าพเจ้าได้เห็นนิมิตอันน่ากลัว คือ ผู้ทรยศก่อการกบฏ โจรเข้าฉกชิง เอลามบุกโจมตี มีเดียเข้าล้อมเมือง เราจะยุติเสียงครวญครางทั้งปวงที่มันทำให้เกิดขึ้น 3 ถึงตอนนี้ กายของข้าพเจ้าบิดเร่าด้วยความเจ็บปวด ความรวดร้าวจู่โจมข้าพเจ้าเหมือนความเจ็บปวดของผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก ข้าพเจ้าโซซัดโซเซเพราะสิ่งที่ได้ยิน งงงันเพราะสิ่งที่ได้เห็น 4 หัวใจของข้าพเจ้าเต้นระทึก ตกใจกลัวจนตัวสั่น ยามสนธยาที่ข้าพเจ้าใฝ่หากลับกลายเป็นความสยดสยอง 5 พวกเขาตั้งโต๊ะ ยกพรมมาปู เขากินและดื่ม! นักรบทั้งหลาย ลุกขึ้นเถิด เอาน้ำมันทาโล่! 6 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงวางยามไว้คอยดูแล และให้เขารายงานสิ่งที่เห็น 7 เมื่อเขาเห็นรถรบ ฝูงม้า คนขี่ลา หรือคนขี่อูฐเคลื่อนเข้ามา ให้เขาตื่นตัว และเพ่งดู” 8 แล้วยามร้องบอกว่า “นายครับ ผมยืนเฝ้ายามที่หอคอยนี้ วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า 9 ดูเถิด มีคนหนึ่งนั่งรถรบมา และมีม้ามาเป็นฝูง เขาตอบกลับมาว่า ‘บาบิโลนล่มแล้ว! เทวรูปทั้งหมดของบาบิโลน […]
อิสยาห์ 22
คำพยากรณ์กล่าวโทษเกี่ยวกับเยรูซาเล็ม 1 พระดำรัสเกี่ยวกับหุบเขาแห่งนิมิตมีดังนี้ว่า เกิดอะไรขึ้นนี่ ทุกคนถึงได้วิ่งขึ้นบนหลังคา 2 โอ เมืองอันเต็มไปด้วยความอึกทึกครึกโครม นครแห่งการจลาจลและความสำมะเลเทเมา ผู้ตายไม่ได้ถูกฆ่าด้วยคมดาบ ทั้งไม่ได้ตายในสงคราม 3 พวกผู้นำของเจ้าหนีไปกันหมด พวกเขายอมจำนนโดยไม่ได้หยิบธนูขึ้นต่อสู้ ทุกคนที่ถูกจับได้ต้องกลายเป็นนักโทษ เป็นคนที่พ่ายหนีตั้งแต่ศัตรูยังอยู่แต่ไกล 4 ข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า “ปล่อยข้าพเจ้า ร้องไห้อยู่คนเดียวเถอะ อย่าพยายามปลอบข้าพเจ้าเลย ปล่อยให้ข้าพเจ้าหลั่งน้ำตาเพราะหายนะของพี่น้องร่วมชาติ” 5 องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์กำหนดวันหนึ่งไว้ เป็นวันชุลมุนวุ่นวาย ยุ่งเหยิง สยดสยอง ในหุบเขาแห่งนิมิต วันแห่งการทลายกำแพง และการป่าวร้องแก่ภูเขาทั้งหลาย 6 เอลามหยิบแล่งธนู มีพลรถรบและม้า คีร์ถือโล่มา 7 หุบเขาที่ดีที่สุดของท่านเต็มไปด้วยรถรบ และพลม้าประจำอยู่ที่ประตูเมือง 8 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำจัดเครื่องป้องกันของยูดาห์ออกไป ในวันนั้นท่านมองหาอาวุธ ในตำหนักพนาเลบานอน 9 ท่านเห็นแนวป้องกันของเมืองดาวิด มีช่องโหว่หลายแห่ง ท่านเก็บน้ำ ไว้ที่สระล่าง 10 ท่านนับอาคารบ้านเรือนในเยรูซาเล็ม และรื้อเรือนมาเสริมกำแพง 11 ท่านสร้างที่กักเก็บน้ำไว้ระหว่างกำแพงทั้งสอง เพื่อรับน้ำของบ่อเดิม แต่ท่านไม่ได้มุ่งมองพระองค์ผู้ทรงทำสิ่งนี้ ไม่ใส่ใจพระองค์ผู้ทรงดำริสิ่งนี้ไว้เมื่อนานมาแล้ว 12 […]
อิสยาห์ 23
คำพยากรณ์กล่าวโทษไทระ 1 พระดำรัสเกี่ยวกับเมืองไทระมีดังนี้ว่า จงร่ำไห้เถิด เหล่านาวาแห่งทารชิช! เพราะไทระล่มจมแล้ว ไม่เหลือบ้านเรือนและท่าเรืออีก มีข่าวจากดินแดนไซปรัส มาถึงพวกเขา 2 จงนิ่งเถิด ชาวเกาะ และพวกพ่อค้าแห่งไซดอน ผู้มั่งคั่งจากเรือเดินทะเล 3 เมล็ดข้าวจากชิโหร์ เดินทางข้ามมหาสมุทรมา ผลผลิตแห่งแม่น้ำไนล์เป็นรายได้ของไทระ ซึ่งกลายเป็นตลาดของประชาชาติ 4 จงอับอายเถิด ไซดอนเอ๋ย และเจ้าผู้เป็นที่มั่นแห่งท้องทะเล เพราะทะเลกล่าวว่า “เราไม่เคยเจ็บท้องและไม่เคยคลอด อีกทั้งไม่เคยเลี้ยงดูลูกชายลูกสาว” 5 เมื่ออียิปต์ได้ยินข่าวจากไทระ พวกเขาจะทุกข์โศกยิ่งนัก 6 จงข้ามไปทารชิชเถิด ชาวเกาะเอ๋ย จงร่ำไห้ 7 นี่หรือนครแห่งความสนุกสนานบันเทิง? นครเก่าแก่ ซึ่งเท้าพามันไป ตั้งรกรากยังแดนไกล 8 ใครหนอวางแผนเล่นงานไทระ ผู้ซึ่งให้มงกุฎ ผู้ซึ่งพ่อค้าได้เป็นเจ้านาย ผู้ซึ่งนายวาณิชเลื่องชื่อในโลก? 9 คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์นั่นเอง ทรงดำริไว้ที่จะทำให้ความภาคภูมิแห่งศักดิ์ศรีทั้งปวงตกต่ำลง และทำให้บรรดาผู้ที่มีชื่อเสียงของโลกเจียมเนื้อเจียมตัว 10 จงพรวนที่ดินของเจ้าเหมือนอย่างที่ดินริมแม่น้ำไนล์ ธิดาแห่งทารชิชเอ๋ย เพราะเจ้าไม่มีท่าเรืออีกแล้ว 11 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์ออกเหนือท้องทะเล ทรงเขย่าอาณาจักรทั้งหลาย พระองค์ทรงมีประกาศิต […]
อิสยาห์ 24
องค์พระผู้เป็นเจ้า 1 ดูเถิดองค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังจะทรงทิ้งโลกให้ร้าง และทำให้มันย่อยยับ พระองค์จะทรงทำลายพื้นผิวของโลก ทำให้ผู้อยู่อาศัยกระจัดกระจายไป 2 ทุกคนจะเหมือนกันหมด ไม่ว่าประชาชนหรือปุโรหิต ไม่ว่านายหรือบ่าว ไม่ว่านายหญิงหรือสาวใช้ ไม่ว่าผู้ซื้อหรือผู้ขาย ไม่ว่าเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ ไม่ว่าผู้ยืมหรือผู้ให้ยืม 3 โลกจะว่างเปล่า และยับเยินอย่างสิ้นเชิง องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสถ้อยคำเหล่านี้ 4 โลกก็เหือดแห้งและโรยรา พิภพก็ซบเซาและเหี่ยวเฉา ผู้สูงศักดิ์ของโลกก็อ่อนระโหย 5 โลกนี้สกปรกโสมมเพราะผู้คนที่อยู่ในโลก พวกเขาไม่เชื่อฟังบทบัญญัติ ละเมิดกฎเกณฑ์ และฝ่าฝืนพันธสัญญานิรันดร์ 6 ฉะนั้นคำสาปแช่งจึงล้างผลาญโลก ชาวพิภพต้องรับโทษความผิดของตน ฉะนั้นผู้อาศัยอยู่ในโลกจึงถูกเผาผลาญ และรอดชีวิตอยู่ไม่กี่คน 7 เหล้าองุ่นใหม่ก็เหือดแห้ง และเถาองุ่นก็เหี่ยวเฉา บรรดาผู้ให้ความบันเทิงได้แต่โอดครวญ 8 เสียงสนุกสนานร่าเริงของรำมะนาเงียบไป เสียงบันเทิงยุติลง เสียงพิณไพเราะก็เงียบไป 9 ไม่มีการจิบเหล้าเคล้าเสียงเพลงอีกแล้ว สุราก็ขมแก่ผู้ดื่ม 10 นครอันล่มจมก็เริศร้าง ทางเข้าบ้านทุกหลังถูกปิดไม่ให้ใครเข้า 11 ตามท้องถนน ผู้คนร้องหาเหล้าองุ่น ความยินดีกลายเป็นความหม่นหมอง ความรื่นเริงบันเทิงใจถูกกำจัดไปจากโลก 12 นครนั้นตกอยู่ในสภาพปรักหักพัง ประตูเมืองถูกทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย 13 […]
อิสยาห์ 25
สรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า 1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะยกย่องเทิดทูนพระองค์และสรรเสริญพระนามของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงทำการมหัศจรรย์ ตามที่ทรงดำริไว้นานมาแล้ว ด้วยความซื่อสัตย์อันบริบูรณ์ 2 พระองค์ทรงทำให้นครนั้นกลายเป็นซากปรักหักพัง เมืองป้อมปราการพังพินาศ ที่มั่นของชนต่างชาติล่มจมแล้ว ไม่อาจสร้างขึ้นมาใหม่ได้เลย 3 ดังนั้นชนชาติที่เข้มแข็งจะเทิดพระเกียรติพระองค์ ประชาชาติที่อำมหิตจะยำเกรงพระองค์ 4 พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของผู้ยากไร้ เป็นที่พักพิงสำหรับคนขัดสนซึ่งอยู่ในความทุกข์ เป็นป้อมกำบังจากพายุ เป็นร่มเงาหลบความร้อน เพราะลมหายใจเข้าออกของคนอำมหิต เหมือนพายุที่พัดกระหน่ำกำแพง 5 และเหมือนความร้อนระอุของถิ่นกันดาร พระองค์ทรงสยบการขู่คำรามของคนต่างชาติ เหมือนเงาเมฆบรรเทาความร้อนระอุ แล้วบทเพลงของคนอำมหิตก็เงียบลง 6 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะจัดเตรียมงานเลี้ยงใหญ่บนภูเขาแห่งนี้ สำหรับชนชาติทั้งปวง งานเลี้ยงซึ่งมีเหล้าองุ่น และเนื้อชั้นเยี่ยม 7 บนภูเขาแห่งนี้พระองค์จะทรงขจัดผ้าคลุมหน้า ซึ่งห่อหุ้มชนชาติทั้งปวง และขจัดม่านซึ่งคลุมมวลประชาชาติ 8 พระองค์จะทรงกลืนความตายไปชั่วนิรันดร์ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงซับหยาดน้ำตาจากทุกใบหน้า และจะทรงขจัดความอัปยศอดสูของประชากรของพระองค์ ออกไปจากแผ่นดินโลก องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น 9 ในวันนั้นพวกเขาจะกล่าวว่า “แน่นอน นี่คือพระเจ้าของเรา เราวางใจพระองค์ และพระองค์ทรงช่วยเรา นี่คือองค์พระผู้เป็นเจ้าเราวางใจในพระองค์ ให้เรามาชื่นชมยินดีและเปรมปรีดิ์ในความรอดที่พระองค์ประทานเถิด” 10 พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะวางลงบนภูเขาแห่งนี้ ส่วนโมอับจะถูกเหยียบย่ำ เหมือนฟางถูกเหยียบลงในหลุมมูลสัตว์ 11 […]
อิสยาห์ 26
บทเพลงสรรเสริญ 1 ในวันนั้นทั่วแดนยูดาห์จะร้องเพลงบทนี้ว่า เรามีเมืองแข็งแกร่งเมืองหนึ่ง พระเจ้าทรงทำให้ความรอด เป็นกำแพงและเชิงเทินของมัน 2 เปิดประตูเถิด เพื่อชนชาติที่ชอบธรรม ซึ่งรักษาความเชื่อไว้จะได้เข้ามา 3 จิตใจที่แน่วแน่นั้น พระองค์จะทรงปกป้องไว้ในสันติภาพอันสมบูรณ์ เพราะเขาไว้วางใจในพระองค์ 4 จงวางใจองค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดไป เพราะพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระศิลานิรันดร์ 5 พระองค์ทรงทำให้คนที่อยู่สูงตกต่ำลง ทรงดึงนครที่ยโสโอหังลงมา พระองค์ทรงปราบมันให้ราบคาบ และทรงเหวี่ยงมันลงมาคลุกฝุ่น 6 เท้าของผู้ยากไร้ และผู้ถูกข่มเหง ก็เหยียบย่ำมัน 7 หนทางของคนชอบธรรมราบเรียบ ข้าแต่องค์ผู้เที่ยงธรรม พระองค์ทรงทำให้วิถีของคนชอบธรรมราบรื่น 8 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ทั้งหลายรอคอยพระองค์ โดยดำเนินอยู่ในทางแห่งบทบัญญัติของพระองค์ พระนามและกิตติศัพท์ของพระองค์ เป็นความปรารถนาในใจของข้าพระองค์ทั้งหลาย 9 ยามค่ำคืนจิตวิญญาณของข้าพระองค์โหยหาพระองค์ ยามเช้าจิตวิญญาณของข้าพระองค์ใฝ่หาพระองค์ เมื่อคำพิพากษาของพระองค์มายังโลก ชาวโลกจึงได้เรียนรู้ความชอบธรรม 10 แม้ทรงแสดงพระคุณแก่คนชั่วร้าย พวกเขาก็ไม่ได้เรียนรู้ความชอบธรรม แม้ในดินแดนแห่งความเที่ยงธรรม พวกเขาก็ยังคงทำชั่วต่อไป และไม่คำนึงถึงพระบารมีขององค์พระผู้เป็นเจ้า 11 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงเงื้อพระหัตถ์ของพระองค์ขึ้นสูง แต่พวกเขาไม่เห็น ขอทรงให้พวกเขาเห็นพระทัยอันกระตือรือร้นที่ทรงมีต่อประชากรของพระองค์ แล้วเขาจะได้ละอายอดสู ขอให้ไฟที่ทรงสงวนไว้สำหรับเหล่าศัตรูเผาผลาญพวกเขา 12 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดประทานสันติสุขแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย สิ่งสารพัดที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำสำเร็จ […]
อิสยาห์ 27
การกอบกู้อิสราเอล 1 ในวันนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงใช้พระแสงดาบ อันยิ่งใหญ่และทรงอานุภาพลงโทษเลวีอาธาน เจ้าพญานาคที่เลื้อยปราดอย่างรวดเร็ว เจ้างูใหญ่ที่ขดตัวอยู่ พระองค์จะทรงสังหารเจ้าสัตว์ร้ายมหึมาแห่งท้องทะเล 2 ในวันนั้น “จงร้องเพลงเกี่ยวกับสวนองุ่นที่มีผลดกดังนี้ว่า 3 เราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าดูแลสวนนั้น เรารดน้ำให้ตลอดเวลา เฝ้าดูทั้งวันทั้งคืน ไม่ยอมให้ใครมาทำอันตราย 4 เราไม่โกรธ แต่ถ้ามีหนามใหญ่น้อยออกมาให้เห็น! เราจะไปรบรากับมัน และเผามันทิ้ง 5 หรือไม่ก็ให้มันมาพักพิงเรา ให้มาเจรจาสันติภาพกับเรา ให้มาเจรจาสันติภาพกับเรา” 6 ในภายภาคหน้ายาโคบจะหยั่งราก อิสราเอลจะผลิตาและผลิดอกบาน และออกผลทั่วโลก 7 พระองค์ทรงลงโทษอิสราเอล เหมือนที่ทรงลงโทษศัตรูของเขาหรือ? อิสราเอลถูกฆ่า เหมือนคนที่ฆ่าอิสราเอลถูกฆ่าหรือ? 8 พระองค์ทรงลงโทษอิสราเอลด้วยสงครามและการเนรเทศ ทรงขับไล่เขาออกไปด้วยความเกรี้ยวกราด เหมือนวันที่ลมตะวันออกพัด 9 โดยการนี้ ความผิดของยาโคบจะได้รับการลบล้างไป และนี่จะเป็นการกำจัดบาปของเขาอย่างสิ้นเชิง พระองค์ทรงทำให้หินแท่นบูชา เป็นเหมือนหินชอล์กที่ถูกบดละเอียด ไม่มีเสาเจ้าแม่อาเชราห์หรือแท่นเครื่องหอม เหลืออยู่อีกเลย 10 เมืองป้อมปราการก็ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว ถูกทิ้งร้างว่างเปล่าเหมือนถิ่นกันดาร วัวกินหญ้าอยู่ที่นั่น มันเอนตัวลง เคี้ยวกิ่งไม้จนโล่งเตียน 11 เมื่อง่ามไม้แห้ง มันก็หัก […]