อัสซีเรียเป็นเครื่องมือขององค์พระผู้เป็นเจ้า 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงเอาหนังสือม้วนแผ่นใหญ่มาและใช้ปากกาเขียนลงไปว่า ‘มาเฮอร์ชาลาลหัชบัส’ 2 และเราจะเรียกปุโรหิตอุรียาห์กับเศคาริยาห์บุตรเยเบเรคิยาห์ให้เป็นพยานที่เชื่อถือได้ของเรา” 3 แล้วข้าพเจ้าก็เข้าหาผู้เผยพระวจนะหญิง นางจึงตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงตั้งชื่อเขาว่ามาเฮอร์ชาลาลหัชบัส 4 ก่อนที่เด็กคนนั้นจะรู้จักเรียก ‘พ่อ’ หรือ ‘แม่’ กษัตริย์อัสซีเรียจะริบทรัพย์สมบัติของดามัสกัสและสะมาเรียไป” 5 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าอีกว่า 6 “เนื่องจากชนชาตินี้ได้ปฏิเสธ น้ำแห่งชิโลอาห์ซึ่งไหลเอื่อยๆ ไปชื่นชมเรซีน และบุตรของเรมาลิยาห์ 7 ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะใช้กระแสน้ำอันหลากเชี่ยวของยูเฟรติส มาท่วมมิดพวกเขา คือกษัตริย์อัสซีเรียกับกองทัพมหึมา กระแสน้ำนั้นจะท่วมมิดทุกช่องทาง และล้นทุกตลิ่ง 8 และกวาดเข้ามาในยูดาห์ ไหลวนเหนือดินแดนนั้น ไหลหลากท่วมถึงคอ โอ อิมมานูเอลเอ๋ย! ท่วมมิดยูดาห์จนสุดเขตแดน” 9 ประชาชาติทั้งหลายเอ๋ย โห่ร้องออกศึกไปเถิด และจงถูกบดขยี้! ดินแดนไกลโพ้นทั้งปวง จงฟัง เตรียมทำศึกเถิด และจงถูกบดขยี้! เตรียมทำศึกเถิด และจงถูกบดขยี้! 10 วางแผนกลยุทธ์ไปเถิด แต่มันจะกลับตาลปัตร ดำเนินตามแผนเถิด แต่จะไปไม่รอด เพราะพระเจ้าทรงอยู่กับเรา จงยำเกรงพระเจ้า 11 […]
Monthly Archives: June 2018
อิสยาห์ 9
เด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา 1 อย่างไรก็ตามผู้ทุกข์ลำเค็ญจะไม่เศร้าหมองอีกต่อไป ในอดีตพระเจ้าทรงทำให้ดินแดนเศบูลุนและนัฟทาลีต่ำลง แต่ในอนาคตพระองค์จะทรงเชิดชูกาลิลีที่ชาวต่างชาติอาศัยอยู่ ซึ่งรวมทั้งเมืองริมทะเลเลียบแม่น้ำจอร์แดน 2 ประชากรผู้เดินอยู่ในความมืด ได้เห็นแสงสว่างอันยิ่งใหญ่ บรรดาผู้อาศัยในดินแดนแห่งเงาของความตาย แสงสว่างเริ่มสาดต้องพวกเขาแล้ว 3 พระเจ้าทรงขยายชนชาตินั้น และเพิ่มพูนความปีติยินดีของพวกเขา พวกเขาชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์ เหมือนคนเริงรื่นชื่นบานยามเก็บเกี่ยว หรือยามแบ่งสมบัติที่ริบได้จากเชลย 4 เหมือนอย่างวันแห่งชัยชนะเหนือมีเดียน พระองค์จะทรงทำลาย แอกที่เป็นภาระของประชากรของพระองค์ คานที่พวกเขาต้องแบกหาม และไม้ตะบองของผู้ที่กดขี่ข่มเหงเขา 5 รองเท้าทุกคู่ของนักรบซึ่งใช้ในสงคราม และเสื้อผ้าทั้งหมดของพวกเขาที่โชกเลือด จะถูกเผาไฟ และใช้เป็นเชื้อเพลิง 6 ด้วยว่ามีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งที่ประทานแก่เรา และการปกครองจะอยู่บนบ่าของเขา และเขาจะได้รับการขนานนามว่า “ที่ปรึกษามหัศจรรย์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช” 7 การปกครองอย่างสันติของบุคคลนั้น จะรุ่งเรืองขึ้นไม่สิ้นสุด พระองค์จะทรงครอบครองเหนือบัลลังก์ และอาณาจักรของดาวิด ทรงสถาปนาและผดุงอาณาจักรนั้นไว้ ด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม ตั้งแต่เวลานั้นตราบนิรันดร์ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ทรงกระตือรือร้น ที่จะกระทำการนี้ให้สำเร็จ องค์พระผู้เป็นเจ้า 8 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีพระดำรัสเป็นคำพิพากษาเกี่ยวกับอิสราเอล พงศ์พันธุ์ของยาโคบว่า 9 ประชากรทั้งปวงจะรู้ถึงคำพิพากษา คือเอฟราอิมและชาวสะมาเรียทั้งหลาย ซึ่งกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง และด้วยใจอหังการว่า […]
อิสยาห์ 10
1 วิบัติแก่บรรดาผู้ออกบทบัญญัติอันไม่เป็นธรรม วิบัติแก่ผู้ที่ออกกฎหมายกดขี่ข่มเหง 2 เพื่อริดรอนสิทธิของผู้ยากไร้ และไม่ให้ความยุติธรรมแก่ประชากรผู้ถูกข่มเหงของเรา ทำให้หญิงม่ายตกเป็นเหยื่อของพวกเขา และลูกกำพร้าพ่อถูกปล้น 3 พวกเจ้าจะทำอย่างไรในวันลงทัณฑ์ เมื่อภัยพิบัติมาจากแดนไกล? เจ้าจะหนีไปพึ่งใคร? เจ้าจะเอาทรัพย์สมบัติไปเก็บไว้ที่ไหน? 4 จะไม่มีอะไรเหลือ นอกจากต้องไปคุดคู้อยู่ในหมู่เชลย หรือไม่ก็ล้มลงในหมู่คนที่ถูกฆ่าตาย ถึงขนาดนี้แล้วพระพิโรธของพระเจ้าก็ยังไม่หันเห พระองค์ยังคงเงื้อพระหัตถ์ค้างอยู่ พระเจ้าพิพากษาอัสซีเรีย 5 “วิบัติแก่ชาวอัสซีเรีย ผู้เป็นไม้เรียวแห่งความโกรธของเรา ผู้ถือกระบองแห่งความกริ้วของเรา! 6 เราส่งอัสซีเรียไปปราบชนชาติอธรรม ไปเล่นงานชนชาติที่ยั่วโทสะเรา ให้ไปปล้นและริบทรัพย์สิน และเหยียบย่ำเขาดั่งย่ำโคลนในถนน 7 แต่เขาไม่ได้ตั้งใจเช่นนั้น ไม่ได้คิดตามนั้น เป้าหมายของเขาคือล้างผลาญ ทำลายชนชาติต่างๆ ให้ดับสูญ 8 เขากล่าวว่า ‘แม่ทัพของเราล้วนแต่เป็นกษัตริย์ไม่ใช่หรือ? 9 คาลโนไม่ได้เหมือนคารเคมิชหรอกหรือ? ฮามัทก็เหมือนอารปัดไม่ใช่หรือ? และสะมาเรียก็เหมือนดามัสกัสไม่ใช่หรือ? 10 เช่นเดียวกับที่เรายึดบรรดาอาณาจักรที่เต็มไปด้วยรูปเคารพ อาณาจักรซึ่งมีรูปเคารพมากกว่าของเยรูซาเล็มและสะมาเรีย 11 เราจะไม่จัดการกับเยรูซาเล็มและรูปเคารพต่างๆ เหมือนที่เราทำกับสะมาเรียและรูปเคารพของพวกเขาหรือ?’” 12 เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงจัดการกับภูเขาศิโยนและเยรูซาเล็มเรียบร้อยแล้ว พระองค์จะตรัสว่า “เราจะลงโทษกษัตริย์อัสซีเรียเพราะใจที่เย่อหยิ่งอหังการและท่าทีที่ยโสโอหังของเขา 13 เพราะเขาโอ้อวดว่า “ ‘เราทำการนี้ด้วยกำลังแห่งน้ำมือของเรา […]
อิสยาห์ 11
กิ่งจากเจสซี 1 หน่อหนึ่งจะงอกขึ้นมาจากตอของเจสซี กิ่งหนึ่งจะเกิดผล จากรากของเขา 2 พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทับอยู่เหนือผู้นั้น คือองค์พระวิญญาณแห่งสติปัญญาและความเข้าใจ พระวิญญาณแห่งคำปรึกษาและอานุภาพ พระวิญญาณแห่งความรู้และความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า 3 และเขาผู้นั้นจะปีติยินดีในความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า เขาจะไม่พิพากษาตามที่ได้เห็นภายนอก หรือตัดสินตามที่ได้ฟัง 4 แต่เขาจะพิพากษาคนขัดสนด้วยความชอบธรรม และตัดสินอย่างยุติธรรมเพื่อคนยากจนในแผ่นดินโลก เขาจะฟาดโลกด้วยคำพิพากษาจากริมฝีปากของเขา เขาจะประหารคนชั่วด้วยลมจากปากของเขา 5 ความชอบธรรมจะเป็นเข็มขัดของเขา และความซื่อสัตย์จะเป็นสายคาดเอวของเขา 6 สุนัขป่ากับลูกแกะจะอาศัยอยู่ด้วยกัน เสือดาวจะนอนเคียงข้างแพะ ลูกวัวกับสิงโตและลูกอ่อนของสัตว์อื่นๆ จะอยู่ด้วยกัน และเด็กเล็กๆ คนหนึ่งจะนำพวกมัน 7 แม่วัวจะกินหญ้าอยู่กับหมี ลูกของมันทั้งสองจะนอนด้วยกัน และสิงโตจะกินฟางเหมือนวัว 8 ทารกจะเล่นอยู่ใกล้รูงูเห่า และเด็กเล็กๆ จะยื่นมือเข้าไปในรังของงูพิษ 9 พวกมันจะไม่ทำร้ายหรือทำลายกัน ตลอดทั่วภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เพราะแผ่นดินโลกจะเต็มไปด้วยความรู้เรื่ององค์พระผู้เป็นเจ้า ดุจน้ำปกคลุมทะเล 10 ในวันนั้นรากของเจสซีจะตั้งเด่นดุจธงสำหรับมวลประชาชาติ ชาติต่างๆ จะรวมพลกันมาหาเขา และที่พำนักของเขาจะสง่างาม 11 ในวันนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงยื่นพระหัตถ์ออกเป็นครั้งที่สอง เพื่อรับประชากรของพระองค์ที่เหลืออยู่นั้นกลับมาจากอัสซีเรีย อียิปต์บนและอียิปต์ล่าง จากคูชเอลาม บาบิโลนฮามัท และดินแดนชายฝั่งทะเลที่ห่างไกล 12 […]
อิสยาห์ 12
บทเพลงสรรเสริญ 1 ในวันนั้น ท่านจะพูดว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ ถึงแม้พระองค์ทรงพระพิโรธข้าพระองค์ พระพิโรธของพระองค์ก็ได้หันไป และพระองค์ทรงปลอบโยนข้าพระองค์ 2 แน่นอน พระเจ้าทรงเป็นความรอดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะวางใจและไม่กลัว องค์พระผู้เป็นเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพลังและบทเพลงของข้าพเจ้า พระองค์ได้ทรงมาเป็นความรอดของข้าพเจ้า” 3 ท่านจะตักน้ำจากบ่อแห่งความรอด ด้วยความยินดี 4 ในวันนั้นท่านจะกล่าวว่า “จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าจงร้องทูลออกพระนามของพระองค์ จงแจ้งให้หมู่ประชาชาติทราบถึงสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ และประกาศว่าพระนามของพระองค์เป็นที่เทิดทูน 5 จงร้องเพลงสดุดีองค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ประเสริฐ จงประกาศให้ทั่วทั้งโลกทราบถึงเรื่องนี้ 6 ชาวศิโยนเอ๋ย จงโห่ร้องและร้องเพลงด้วยความชื่นชมยินดี เพราะองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ประทับท่ามกลางพวกท่านนั้นยิ่งใหญ่นัก” —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/12-8044803c8b5c9cd257d34f0afd3577ba.mp3?version_id=179—
อิสยาห์ 13
คำพยากรณ์กล่าวโทษบาบิโลน 1 พระดำรัสเกี่ยวกับบาบิโลนซึ่งอิสยาห์บุตรอาโมศได้รับ 2 จงชูธงขึ้นเหนือยอดเขาหัวโล้น จงร้องเรียกพวกเขา จงส่งสัญญาณให้พวกเขา เข้ามาทางประตูของบรรดาเจ้านาย 3 เราได้ออกคำสั่งแก่วิสุทธิชนของเรา เราเรียกชุมนุมเหล่านักรบผู้ปีติยินดีในชัยชนะของเรา ให้เป็นผู้ลบล้างโทสะของเรา 4 ฟังสิ เสียงอึกทึกบนภูเขา ดั่งเสียงมหาชนล้นหลาม! ฟังสิ เสียงครึกโครมในหมู่อาณาจักร ดั่งเสียงชุมนุมประชาชาติ! พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ทรงกรีธาทัพมาเพื่อทำศึก 5 พวกเขามาจากดินแดนไกลโพ้น จากสุดขอบฟ้า คือองค์พระผู้เป็นเจ้าและอาวุธแห่งพระพิโรธของพระองค์ เพื่อทำลายดินแดนทั้งหมด 6 จงร้องไห้เถิด เพราะวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว วันนั้นจะมาถึงดั่งหายนะจากองค์ทรงฤทธิ์ 7 ด้วยเหตุนี้แขนทุกแขนจะอ่อนปวกเปียก หัวใจทุกดวงจะระทดท้อ 8 ความหวาดกลัวจะจู่โจมพวกเขา ความปวดร้าวและทุกข์ทรมานจะเกาะกุมพวกเขา พวกเขาจะทุรนทุรายดั่งผู้หญิงเจ็บท้องใกล้คลอด พวกเขาจะมองตากัน ใบหน้าแดงก่ำ 9 ดูเถิด วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามา เป็นวันหฤโหด มาพร้อมกับความกริ้วและพระพิโรธอันรุนแรง เพื่อทำให้ดินแดนนั้นเริศร้าง และทำลายคนบาปทั้งปวงซึ่งอยู่ที่นั่น 10 เหล่าดวงดาวบนท้องฟ้าและหมู่ดาว จะไม่ฉายแสง ดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นจะถูกดับ และดวงจันทร์จะไม่ทอแสง 11 เราจะลงโทษโลกเพราะความชั่วร้าย ลงโทษคนชั่วเพราะบาปของพวกเขา เราจะยุติความเย่อหยิ่งของคนทะนง […]
อิสยาห์ 14
1 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเอ็นดูสงสารยาโคบ พระองค์จะทรงเลือกสรรอิสราเอลอีกครั้งหนึ่ง และจะนำพวกเขากลับมาตั้งถิ่นฐานในแผ่นดินของพวกเขา ชนต่างชาติจะมาสมทบ และเข้าร่วมกับวงศ์วานของยาโคบ 2 ประชาชาติต่างๆ จะรับ และนำพวกเขากลับคืนถิ่น วงศ์วานอิสราเอลจะครอบครองประชาชาติต่างๆ ซึ่งจะเป็นผู้รับใช้ชายหญิงในแผ่นดินขององค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ที่จับอิสราเอลเป็นเชลยจะตกเป็นเชลยของอิสราเอล และอิสราเอลจะปกครองผู้ที่เคยกดขี่ข่มเหงพวกเขา 3 ในวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้เจ้าพ้นจากความทุกข์ทรมาน ความชุลมุนวุ่นวาย และพันธนาการอันโหดร้าย 4 เจ้าจะเย้ยหยันกษัตริย์บาบิโลนดังนี้ว่า ผู้กดขี่ข่มเหงมาถึงจุดจบได้อย่างไรหนอ! ความเกรี้ยวกราดของเขาสิ้นสุดลงได้อย่างไร! 5 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหักไม้เรียวของคนชั่วร้าย ทรงหักคทาของผู้ครอบครอง 6 ซึ่งกระหน่ำตีชาติต่างๆ อย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยแรงโทสะ และปราบนานาประเทศ ด้วยการจู่โจมอย่างอำมหิต 7 ดินแดนทั้งปวงก็หยุดพักและสงบสุข พวกเขาเปล่งเสียงร้องเพลง 8 แม้แต่ต้นสนต่างๆ และสนซีดาร์แห่งเลบานอน ก็เปรมปรีดิ์และกล่าวว่า “เดี๋ยวนี้เจ้าตกต่ำแล้ว ก็ไม่มีคนตัดไม้มาโค่นเรา” 9 แดนมรณะเบื้องล่าง ลุกขึ้นต้อนรับเจ้า มันปลุกวิญญาณของบรรดาผู้ที่จากไปให้มาทักทายเจ้า คือผู้ที่เคยเป็นผู้นำของโลก มันทำให้เหล่ากษัตริย์ผู้เคยปกครองเหนือบรรดาประชาชาติ ลุกขึ้นมาจากบัลลังก์ของพวกเขา 10 พวกเขาจะร้องออกมา เป็นเสียงเดียวกันว่า “บัดนี้ท่านก็อ่อนแอเหมือนพวกเรา ท่านกลับกลายเป็นเหมือนเรา” 11 ความลำพองของเจ้าลงไปในหลุม พร้อมกับเสียงพิณของเจ้า […]
อิสยาห์ 15
คำพยากรณ์กล่าวโทษโมอับ 1 พระดำรัสเกี่ยวกับโมอับมีดังนี้ นครอาร์ในโมอับถูกทำลาย ย่อยยับในคืนเดียว! นครคีร์ในโมอับถูกทำลาย ย่อยยับในคืนเดียว! 2 ดีโบนขึ้นไปยังวิหาร ขึ้นไปบนที่สูงทั้งหลายเพื่อร่ำไห้ โมอับไว้อาลัยให้เนโบและเมเดบา ทุกคนโกนศีรษะเลี่ยน ทุกคนโกนหนวดเคราเกลี้ยง 3 ตามท้องถนน ผู้คนสวมผ้ากระสอบ บนหลังคาและตามลานเมือง ทุกคนร้องคร่ำครวญ และหมอบร่ำไห้ 4 เฮชโบนและเอเลอาเลห์ส่งเสียงร้อง ได้ยินไปไกลถึงยาฮาส ฉะนั้นพลรบของโมอับร้องออกมา และหัวใจก็ระทดท้อ 5 ดวงใจของเราร่ำไห้ให้กับโมอับ ผู้ลี้ภัยของเขาเตลิดหนีไปไกลถึงโศอาร์ ไกลถึงเอกลัทเชลีชิยาห์ พวกเขาขึ้นไปตามทางสู่ลูฮีท ไปพลางร้องไห้พลาง พวกเขาคร่ำครวญเกี่ยวกับความย่อยยับของตน ไปตลอดทางสู่โฮโรนาอิม 6 ลำน้ำนิมริมแห้งเหือด และหญ้าก็เหี่ยวเฉา พืชพันธุ์หมดสิ้น และไม่มีความเขียวขจีเหลืออยู่ 7 ดังนั้นทรัพย์สินที่พวกเขาหามาได้และเก็บสะสมไว้ พวกเขาก็แบกข้ามลำห้วยของหมู่ต้นปอปลาร์ไป 8 เสียงร้องของพวกเขาดังก้องไปตลอดชายแดนโมอับ เสียงโอดครวญของพวกเขาไปไกลถึงเอกลาอิม เสียงคร่ำครวญหวนไห้ดังไปถึงเบเออร์เอลิม 9 ห้วงน้ำของดีโมนจะแดงฉานไปด้วยเลือด แต่เรายังจะลงมือกับดีโมนต่อไปอีก สิงโตตัวหนึ่งจะตามล่าทั้งผู้ลี้ภัยชาวโมอับ และไล่ล่าผู้ที่ยังอยู่ในดินแดน —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/15-7f192c1ebd5853fbb22ae1c0d3001036.mp3?version_id=179—
อิสยาห์ 16
1 จงส่งลูกแกะมาเป็นเครื่องบรรณาการ แด่ผู้ครอบครองดินแดน ส่งมาจากเสลา ข้ามถิ่นกันดาร มายังภูเขาของธิดาแห่งศิโยน 2 บรรดาผู้หญิงของโมอับ ถูกปล่อยไว้ริมตลิ่งของแม่น้ำอารโนน เหมือนนกกระพือปีก ซึ่งถูกผลักจากรัง 3 “โปรดให้คำปรึกษา และช่วยตัดสินใจ ในยามเที่ยงวันโปรดให้ร่มเงา ดั่งยามค่ำคืน โปรดให้ที่ซ่อนแก่ผู้หนีภัย อย่าทรยศหักหลังผู้ลี้ภัย 4 ขอให้ผู้ลี้ภัยชาวโมอับพักอยู่กับท่าน ขอเป็นที่พักพิงให้พวกเขาพ้นจากผู้ทำลาย” ผู้กดขี่จะถึงจุดจบ และความพินาศย่อยยับจะยุติลง ผู้กดขี่ข่มเหงจะหมดสิ้นไปจากดินแดน 5 ราชบัลลังก์หนึ่งจะได้รับการสถาปนาขึ้นด้วยความรัก ผู้หนึ่งจากวงศ์วานของดาวิด จะนั่งบนบัลลังก์นั้นด้วยความซื่อสัตย์ เป็นผู้ตัดสินอย่างยุติธรรม และส่งเสริมความชอบธรรม 6 เราได้ยินถึงความหยิ่งทะนงของโมอับ ความอวดดี ความจองหอง ความเย่อหยิ่ง และความโอหัง แต่คำโอ้อวดของโมอับก็ว่างเปล่า 7 ฉะนั้นชาวโมอับจึงพากันร่ำไห้ให้กับแผ่นดินโมอับ และร้องไห้คร่ำครวญให้แก่ผู้คนของคีร์หะเรเสท 8 ท้องทุ่งแห่งเฮชโบนก็เหี่ยวเฉา เช่นเดียวกับเถาองุ่นของสิบมาห์ บรรดาผู้ครอบครองชาติต่างๆ ได้เหยียบย่ำเถาองุ่นที่ดีที่สุด ซึ่งครั้งหนึ่งเคยงอกงามไปถึงยาเซอร์ แพร่ขยายไปถึงถิ่นกันดาร แตกหน่อผลิผล ไปไกลถึงทะเล 9 ฉะนั้นเราจึงร่ำไห้เหมือนที่ยาเซอร์ร่ำไห้ ให้กับเถาองุ่นแห่งสิบมาห์ เฮชโบนเอ๋ย เอเลอาเลห์เอ๋ย เราหลั่งน้ำตาให้เจ้าจนเปียกชุ่ม! […]
อิสยาห์ 17
พระดำรัสกล่าวโทษดามัสกัส 1 พระดำรัสเกี่ยวกับดามัสกัสมีดังนี้ว่า “ดูเถิด ดามัสกัสจะไม่เป็นนครอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นซากปรักหักพัง 2 นครต่างๆ ของอาโรเออร์จะถูกทิ้งร้าง ทิ้งไว้ให้ฝูงแพะแกะซึ่งจะนอนลงที่นั่น และไม่มีใครทำให้พวกมันตกใจกลัว 3 เมืองป้อมปราการจะสาบสูญไปจากเอฟราอิม และอำนาจของดามัสกัสจะสิ้นสุดลง ชนที่เหลืออยู่ของอารัมจะเป็นเหมือนศักดิ์ศรีของอิสราเอล” พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น 4 “ในวันนั้นศักดิ์ศรีของยาโคบจะโรยรา ความอ้วนพีแห่งเรือนร่างของเขาจะหายไป 5 จะเป็นเหมือนเวลาที่มีคนมาเกี่ยวข้าวที่ชูรวง และแขนของเขาโอบฟ่อนข้าวไว้ เหมือนเวลาที่คนเก็บเศษรวงข้าวที่ตกอยู่ ในหุบเขาเรฟาอิม 6 ถึงกระนั้นก็ยังมีบางส่วนเหลืออยู่ เหมือนเมื่อใช้ไม้ฟาดต้นมะกอก ก็ยังมีเหลืออยู่สองสามผลบนยอดสูง หรือสี่ห้าผลบนกิ่งผลดก” พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ประกาศดังนั้น 7 ในวันนั้นคนทั้งหลายจะมุ่งมององค์พระผู้สร้างของตน และหันมาจับตามองที่องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล 8 พวกเขาจะไม่มุ่งมองแท่นบูชาต่างๆ อันเป็นฝีมือสร้างของตน พวกเขาจะไม่เคารพนับถือเสาเจ้าแม่อาเชราห์ และแท่นเผาเครื่องหอมซึ่งตนสร้างขึ้นกับมือ 9 ในวันนั้นนครต่างๆ ที่เข้มแข็งซึ่งพวกเขาทิ้งไว้เพราะชาวอิสราเอลจะเป็นเหมือนที่ร้าง และมีพุ่มไม้น้อยใหญ่ขึ้นรกไปหมด และทุกสิ่งจะถูกทิ้งร้าง 10 เจ้าได้หลงลืมพระเจ้าองค์พระผู้ช่วยให้รอดของเจ้า เจ้าไม่ได้ระลึกถึงพระศิลาผู้เป็นป้อมปราการของเจ้า ฉะนั้นถึงแม้ว่าพวกเจ้าปลูกพืชพันธุ์ที่ดีที่สุด และปลูกเถาองุ่นจากต่างแดน 11 แม้เจ้าทำให้มันงอกในวันเดียวกับที่เจ้าปลูกได้ และทำให้มันผลิตาในเช้าวันที่เจ้าลงต้นได้ ถึงอย่างนั้นก็จะไม่ได้เก็บเกี่ยวสิ่งใด ในวันแห่งโรคภัยและความเจ็บปวดที่เกินเยียวยาได้ 12 […]