ข้อความบนผนัง 1 กษัตริย์เบลชัสซาร์ทรงจัดงานเลี้ยงใหญ่ประทานแก่ขุนนางผู้ใหญ่หนึ่งพันคน และทรงเสวยเหล้าองุ่นร่วมกับเขา 2 ขณะเสวยอยู่ก็รับสั่งให้นำภาชนะเงินและทองคำซึ่งเนบูคัดเนสซาร์ราชบิดาได้ยึดมาจากพระวิหารในเยรูซาเล็มนั้นมาให้กษัตริย์ ขุนนาง มเหสี และเหล่านางสนมใส่เหล้าองุ่น 3 พวกเขาจึงนำภาชนะทองคำซึ่งริบมาจากพระวิหารของพระเจ้าในเยรูซาเล็มมาให้กษัตริย์ ขุนนาง มเหสี และเหล่านางสนมใส่เหล้าองุ่นดื่ม 4 พวกเขาดื่มพร้อมทั้งสรรเสริญเทพเจ้าที่ทำจากทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ และหิน 5 ทันใดนั้นมีนิ้วมือมนุษย์ปรากฏขึ้นและเขียนบนผนังใกล้คันประทีปในพระราชวัง กษัตริย์ทอดพระเนตรดูมือนั้นเขียนไป 6 พระพักตร์ของพระองค์ก็ซีดเผือด ทรงตกพระทัยจนเข่าสั่นกระทบกัน แข้งขาอ่อนหมดเรี่ยวหมดแรง 7 พระองค์ตรัสเรียกให้นำตัวนักเวทมนตร์ โหราจารย์และหมอดูฤกษ์ยามทั้งหลายมา และตรัสแก่ปราชญ์ของบาบิโลนเหล่านี้ว่า “ผู้ใดก็ตามอ่านข้อความนี้แล้วบอกเราได้ว่ามีความหมายว่าอะไร เราจะให้ผู้นั้นสวมชุดสีม่วงกับสร้อยคอทองคำ และให้ครองอำนาจเป็นที่สามในราชอาณาจักร” 8 แล้วปราชญ์ทั้งปวงของกษัตริย์ก็มาเข้าเฝ้า แต่ไม่มีใครสามารถอ่านข้อความที่เขียนไว้ หรือทูลให้กษัตริย์ทรงทราบว่าหมายความว่าอะไร 9 ดังนั้นกษัตริย์เบลชัสซาร์จึงยิ่งตกพระทัย และพระพักตร์ยิ่งขาวซีด ขุนนางทั้งปวงก็ว้าวุ่นใจ 10 พระราชินีทรงได้ยินพระสุรเสียงของกษัตริย์และเสียงเหล่าขุนนาง ก็เสด็จเข้ามาในท้องพระโรงซึ่งมีงานเลี้ยงนั้น พระนางตรัสว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ขอจงทรงพระเจริญ! อย่าตกพระทัยจนพระพักตร์ซีดเลย! 11 มีชายผู้หนึ่งในราชอาณาจักรซึ่งมีวิญญาณของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์สถิตด้วยในรัชสมัยของพระราชบิดา เราพบว่าชายคนนี้มีสติปัญญา ไหวพริบ และความหยั่งรู้เสมอเหมือนเทพเจ้า […]
Monthly Archives: June 2018
ดาเนียล 6
ดาเนียลในถ้ำสิงโต 1 ดาริอัสทรงเห็นชอบให้แต่งตั้งเสนาบดี 120 คนปกครองทั่วราชอาณาจักร 2 โดยมีผู้บริหารการปกครองสามนายปกครองเหนือคนเหล่านั้น หนึ่งในสามนั้นคือดาเนียล เสนาบดีจะรายงานต่อผู้บริหารการปกครองเพื่อรักษาผลประโยชน์ของกษัตริย์ 3 ดาเนียลมีคุณสมบัติดีเด่นเหนือกว่าผู้บริหารการปกครองคนอื่นและเสนาบดีทั้งหลาย กษัตริย์จึงดำริจะแต่งตั้งให้เขาดูแลทั่วราชอาณาจักร 4 ด้วยเหตุนี้ผู้บริหารการปกครองคนอื่นและเสนาบดีทั้งหลายจึงพยายามจับผิดดาเนียลในงานราชการแผ่นดินแต่ไม่สำเร็จ พวกเขาไม่พบข้อบกพร่องของดาเนียลเลยเพราะเขาซื่อสัตย์ ไม่เคยฉ้อราษฎร์บังหลวงหรือละเลยหน้าที่ 5 ในที่สุดคนเหล่านี้ก็พูดกันว่า “เราไม่มีทางหาเรื่องจับผิดดาเนียลคนนี้ได้เลย นอกจากเรื่องเกี่ยวกับพระบัญญัติของพระเจ้าของเขา” 6 ฉะนั้นผู้บริหารการปกครองคนอื่นและเหล่าเสนาบดีจึงรวมกลุ่มกันเข้าเฝ้ากษัตริย์และทูลว่า “ข้าแต่กษัตริย์ดาริอัส ขอจงทรงพระเจริญ! 7 ข้าพระบาททั้งหลาย ผู้บริหารการปกครอง ข้าหลวงภาค เสนาบดี ราชมนตรี และผู้ว่าการทั้งปวง เห็นพ้องต้องกันว่าฝ่าพระบาทควรออกพระราชกฤษฎีกาว่า หากผู้หนึ่งผู้ใดอธิษฐานต่อเทพเจ้าหรือขอต่อมนุษย์นอกเหนือจากฝ่าพระบาทในช่วงสามสิบวันที่จะถึงนี้ ข้าแต่กษัตริย์ ผู้นั้นจะต้องถูกโยนลงในถ้ำสิงโต 8 บัดนี้ ข้าแต่กษัตริย์ ขอทรงออกพระราชกฤษฎีกาเป็นลายลักษณ์อักษรที่ไม่มีผู้ใดเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งตามกฎหมายของชาวมีเดียและเปอร์เซียจะยกเลิกไม่ได้” 9 ฉะนั้นกษัตริย์ดาริอัสจึงให้ออกพระราชกฤษฎีกาเป็นลายลักษณ์อักษร 10 เมื่อดาเนียลทราบว่าพระราชกฤษฎีกาประกาศใช้แล้ว เขาก็กลับบ้านและขึ้นไปยังห้องชั้นบนซึ่งหน้าต่างเปิดไปทางกรุงเยรูซาเล็ม เขาคุกเข่า อธิษฐานขอบพระคุณพระเจ้าของเขาวันละสามครั้งตามที่เคยปฏิบัติเสมอมา 11 แล้วคนเหล่านั้นรวมกลุ่มกันไปเฝ้าดูและพบดาเนียลอธิษฐานทูลวิงวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า 12 พวกเขาจึงไปเข้าเฝ้ากษัตริย์และทูลเกี่ยวกับพระราชกฤษฎีกาว่า “ฝ่าพระบาททรงออกพระราชกฤษฎีกาแล้วไม่ใช่หรือว่า หากผู้หนึ่งผู้ใดอธิษฐานต่อเทพเจ้าหรือขอต่อมนุษย์นอกเหนือจากฝ่าพระบาทในช่วงสามสิบวันนี้ ข้าแต่กษัตริย์ ผู้นั้นจะต้องถูกโยนลงในถ้ำสิงโต?” […]
ดาเนียล 7
ความฝันของดาเนียลเกี่ยวกับสัตว์ทั้งสี่ 1 ในปีแรกของรัชกาลกษัตริย์เบลชัสซาร์แห่งบาบิโลน ดาเนียลฝันเห็นนิมิตขณะนอนหลับอยู่ เขาได้บันทึกความฝันไว้ 2 ดาเนียลกล่าวว่า “ในนิมิตยามกลางคืน ข้าพเจ้ามองไปเบื้องหน้า มีลมทั้งสี่ทิศจากฟ้าสวรรค์พัดกระหน่ำ ทำให้ท้องทะเลใหญ่ปั่นป่วน 3 แล้วสัตว์มหึมาสี่ตัวโผล่ขึ้นจากทะเล แต่ละตัวมีลักษณะไม่เหมือนกัน 4 “ตัวแรกเหมือนสิงโตและมีปีกเหมือนนกอินทรี ข้าพเจ้าเฝ้าดูจนเห็นปีกของมันถูกฉีกออก มันถูกพยุงขึ้นจากพื้นให้ยืนด้วยสองขาแบบมนุษย์ และมันได้รับจิตใจเยี่ยงมนุษย์ 5 “ข้าพเจ้าเห็นสัตว์ตัวที่สองซึ่งดูเหมือนหมี มันโผล่ขึ้นมา ปากคาบซี่โครงสามซี่ไว้ มีผู้บอกมันว่า ‘ลุกขึ้นเถิด จงกินเนื้อให้อิ่ม!’ 6 “หลังจากนั้นข้าพเจ้ามองไป มีสัตว์อีกตัวหนึ่งเหมือนเสือดาว ที่หลังของมันมีปีกสี่ปีกคล้ายปีกนก สัตว์ตัวนี้มีสี่หัว และมันได้รับอำนาจให้ปกครอง 7 “หลังจากนั้น ในนิมิตยามกลางคืน ข้าพเจ้าเห็นสัตว์ตัวที่สี่ น่ากลัวสยดสยองและมีฤทธิ์อำนาจมาก มันมีฟันเหล็กซี่มหึมา มันขย้ำเคี้ยวเหยื่อและเหยียบย่ำส่วนอื่นๆ ที่เหลือจนแหลกลาญ สัตว์ตัวนี้แตกต่างจากตัวอื่นๆ ตรงที่มีเขาสิบเขา 8 “ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังคิดเรื่องเขาต่างๆ อยู่นั้น ก็มีเขาเล็กๆ อีกอันหนึ่งโผล่ขึ้นมาท่ามกลางเขาอื่นๆ และทำให้สามในสิบเขาแรกนั้นถูกถอนออกไป เขาเล็กนี้มีตาเหมือนตามนุษย์และมีปากซึ่งคุยโวโอ้อวด 9 “ขณะที่ข้าพเจ้ามองดู ข้าพเจ้าก็เห็น “บัลลังก์ต่างๆ จัดตั้งไว้แล้ว และองค์ผู้ดำรงอยู่ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ประทับที่บัลลังก์ของพระองค์ […]
ดาเนียล 8
นิมิตของดาเนียลเกี่ยวกับแกะผู้และแพะผู้ 1 ในปีที่สามแห่งรัชกาลเบลชัสซาร์ ข้าพเจ้าดาเนียลเห็นนิมิตอีกครั้งหนึ่ง 2 ในนิมิตนั้นข้าพเจ้าเห็นตัวเองอยู่ที่ป้อมชั้นในเมืองสุสาในแคว้นเอลาม ข้าพเจ้าอยู่ริมคลองอุลัย 3 ข้าพเจ้ามองไปเห็นแกะผู้ตัวหนึ่งยืนอยู่ริมลำคลอง แกะนี้มีสองเขา เขาข้างหนึ่งยาวกว่าอีกข้างหนึ่ง แต่งอกขึ้นมาทีหลัง 4 ข้าพเจ้ามองดูแกะผู้ตัวนั้นขวิดไปทางตะวันตก ทางเหนือ และทางใต้ ไม่มีสัตว์ใดต่อกรกับมันได้และไม่มีสิ่งใดช่วยให้พ้นจากอำนาจของมัน มันทำอะไรตามใจชอบและยิ่งใหญ่ขึ้น 5 ขณะข้าพเจ้าครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ ทันใดนั้นมีแพะผู้ตัวหนึ่งซึ่งมีเขาโดดเด่นอยู่ระหว่างตา วิ่งห้อข้ามพื้นพิภพมาจากทางตะวันตกอย่างรวดเร็ว เท้าของมันไม่แตะดิน 6 มันรี่เข้าใส่แกะผู้สองเขา ซึ่งข้าพเจ้าเห็นยืนอยู่ริมคลองนั้น และพุ่งชนด้วยความโกรธอย่างยิ่ง 7 ข้าพเจ้าเห็นมันขวิดแกะผู้อย่างโกรธจัดจนเขาทั้งสองของแกะหักไป แกะสู้ไม่ได้จึงล้มลงกับพื้นและถูกแพะเหยียบย่ำ ไม่มีใครช่วยแกะนั้นได้ 8 แพะตัวนั้นยิ่งใหญ่มาก แต่เมื่อมันผยองตนขึ้นและเรืองอำนาจสุดขีด เขาอันใหญ่ของมันก็หักและมีเขาโดดเด่นสี่อันงอกขึ้นแทนที่ ชี้ไปยังทิศทางลมทั้งสี่แห่งฟ้าสวรรค์ 9 มีเขาเล็กๆ งอกขึ้นจากเขาหนึ่งในสี่เขานี้ แล้วงอกขึ้นเรื่อยๆ แผ่อำนาจไปทางใต้ ทางตะวันออก และสู่ดินแดนอันงดงาม 10 มันเติบใหญ่ขึ้นจนถึงบริวารแห่งฟ้าสวรรค์ แล้วเหวี่ยงดาวบางดวงร่วงลงมาที่พื้นโลกและเหยียบย่ำเสีย 11 มันหยิ่งผยองตีเสมอองค์ราชันแห่งกองทัพสวรรค์ โดยเลิกล้มการถวายเครื่องบูชาประจำวันแด่พระองค์ และทำให้สถานนมัสการของพระองค์ตกต่ำ 12 เนื่องจากการกบฏนี้ กองกำลังของประชากรของพระเจ้าและการถวายเครื่องบูชาประจำวันก็ถูกมอบไว้ในมือของมัน มันทำอะไรก็เจริญรุ่งเรืองทุกอย่างและสัจธรรมถูกเหวี่ยงลงกับพื้น 13 […]
ดาเนียล 9
คำอธิษฐานของดาเนียล 1 ในปีที่หนึ่งแห่งรัชกาลกษัตริย์ดาริอัสโอรสของเซอร์ซีส(ทรงมีเชื้อสายมีเดีย) ซึ่งได้ครองอาณาจักรบาบิโลน 2 ในปีแรกแห่งรัชกาล ข้าพเจ้าดาเนียลเข้าใจจากพระคัมภีร์เกี่ยวกับพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งตรัสกับผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ว่ากรุงเยรูซาเล็มจะเริศร้างอยู่เจ็ดสิบปี 3 ข้าพเจ้าจึงขะมักเขม้นอธิษฐานวิงวอนต่อพระเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยการถืออดอาหาร สวมเสื้อผ้ากระสอบ และคลุกขี้เถ้า 4 ข้าพเจ้าอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าและทูลสารภาพบาปว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่และน่าครั่นคร้าม ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาแห่งความรักต่อบรรดาผู้ที่รักพระองค์และเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ 5 ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำผิดทำบาป ทำชั่วและกบฏต่อพระองค์ หันหนีจากบทบัญญัติและพระบัญชาของพระองค์ 6 ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้เชื่อฟังเหล่าผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ ซึ่งกล่าวในพระนามของพระองค์แก่บรรดากษัตริย์ เจ้านาย บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายตลอดจนประชากรของแผ่นดิน 7 “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงชอบธรรม แต่ทุกวันนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายต้องอับอายขายหน้า ไม่ว่าชาวยูดาห์ ชาวกรุงเยรูซาเล็ม และปวงชนอิสราเอลทั้งใกล้และไกลในประเทศต่างๆ ซึ่งพระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกระจัดกระจายไป เพราะเราไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ 8 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ทั้งหลายตลอดจนบรรดากษัตริย์ เจ้านาย และบรรพบุรุษต้องอัปยศอดสูเพราะได้ทำบาปต่อพระองค์ 9 องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายทรงเปี่ยมด้วยความเมตตาและทรงให้อภัย แม้ว่าข้าพระองค์ทั้งหลายกบฏต่อพระองค์ 10 ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย และไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติที่พระองค์ประทานผ่านทางผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ 11 อิสราเอลทั้งปวงได้ล่วงละเมิดบทบัญญัติของพระองค์ และหลงเตลิดไป ไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์ “ฉะนั้นคำสาปแช่งและโทษทัณฑ์ทั้งปวงซึ่งบันทึกไว้ในบทบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้าจึงตกแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายเพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระองค์ 12 พระองค์ทรงทำตามที่ตรัสไว้แล้วว่าจะนำภัยพิบัติยิ่งใหญ่มายังข้าพระองค์ทั้งหลายและผู้ครอบครอง ทั่วใต้ฟ้าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเสมอเหมือนที่เกิดกับเยรูซาเล็ม 13 ภัยพิบัติทั้งปวงนี้เกิดกับข้าพระองค์ทั้งหลาย ตามที่บันทึกไว้แล้วในบทบัญญัติของโมเสส ถึงกระนั้นข้าพระองค์ทั้งหลายก็ไม่ได้แสวงหาความเมตตาจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายโดยหันกลับจากบาป […]
ดาเนียล 10
ดาเนียลเห็นผู้หนึ่งในนิมิต 1 ในปีที่สามของรัชกาลกษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซีย พระเจ้าทรงสำแดงเรื่องหนึ่งแก่ดาเนียล (ซึ่งได้ชื่อว่าเบลเทชัสซาร์) เป็นเรื่องจริงและเป็นเรื่องสงครามใหญ่เขาได้รับความเข้าใจเนื้อความนี้โดยทางนิมิต 2 ครั้งนั้นข้าพเจ้าดาเนียลเป็นทุกข์อยู่ตลอดสามสัปดาห์ 3 ข้าพเจ้าไม่รับประทานอาหารชั้นดีหรือเนื้อ และไม่ได้แตะต้องเหล้าองุ่นหรือใช้เครื่องชโลมกายใดๆ จนกระทั่งล่วงสามสัปดาห์นั้นไปแล้ว 4 ในวันที่ยี่สิบสี่ของเดือนที่หนึ่ง ขณะที่ข้าพเจ้ายืนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไทกริสซึ่งเป็นแม่น้ำใหญ่ 5 ข้าพเจ้าเงยหน้ามองเห็นชายผู้หนึ่งอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า สวมเสื้อผ้าลินินเนื้อละเอียด คาดเข็มขัดทองคำเนื้อดี 6 กายของเขาสุกใสเหมือนบุษราคัม ใบหน้าเจิดจ้าเหมือนแสงฟ้าแลบ นัยน์ตาเหมือนเปลวไฟลุกโชน แขนขาเป็นมันปลาบเหมือนทองสัมฤทธิ์ขัดเงา และเสียงของเขาดังเหมือนเสียงคนหมู่ใหญ่ 7 ข้าพเจ้าดาเนียลเพียงคนเดียวที่เห็นนิมิตนั้น ผู้คนที่อยู่กับข้าพเจ้าไม่เห็นอะไร แต่พวกเขาก็หวาดกลัวจนหนีไปหลบซ่อน 8 ข้าพเจ้าจึงถูกทิ้งไว้ตามลำพัง ข้าพเจ้าเพ่งดูนิมิตยิ่งใหญ่นี้ แล้วก็หมดเรี่ยวแรง หน้าซีดเผือดเหมือนคนตายและทำอะไรไม่ถูก 9 จากนั้นข้าพเจ้าได้ยินผู้นั้นพูด ขณะที่ฟังอยู่ข้าพเจ้าก็หมดสติล้มซบลงกับดิน 10 มีมือมาแตะต้องข้าพเจ้า แล้วพยุงข้าพเจ้าให้ค่อยๆ ลุกขึ้นด้วยมือและเข่าที่สั่นเทา 11 เขากล่าวว่า “ดาเนียลเอ๋ย ท่านผู้เป็นที่ทรงรักยิ่ง จงใส่ใจฟังถ้อยคำที่เราจะบอกอยู่นี้และยืนขึ้นเถิด เพราะพระเจ้าทรงใช้เรามาหาท่าน” เมื่อเขากล่าวอย่างนี้ ข้าพเจ้าก็ยืนขึ้นและตัวยังสั่นอยู่ 12 แล้วเขากล่าวต่อไปว่า “ดาเนียลเอ๋ย อย่ากลัวเลย ตั้งแต่วันแรกที่ท่านตั้งใจแน่วแน่จะหาความเข้าใจ และถ่อมใจลงต่อหน้าพระเจ้าของท่าน […]
ดาเนียล 11
1 และในปีแรกของรัชกาลดาริอัสชาวมีเดีย เราได้ยืนหยัดเพื่อสนันสนุนและปกป้องทูตสวรรค์มีคาเอล) กษัตริย์ฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ 2 “บัดนี้เราจะบอกความจริงแก่ท่านคือ จะมีกษัตริย์อีกสามองค์ในเปอร์เซีย แล้วจะมีองค์ที่สี่ซึ่งร่ำรวยกว่าองค์อื่นๆ เมื่อเขามีอำนาจขึ้นมาด้วยทรัพย์สมบัตินั้น เขาจะปลุกระดมทุกคนให้ต่อสู้กับอาณาจักรกรีซ 3 แล้วจะมีกษัตริย์เกรียงไกรองค์หนึ่งขึ้นมาซึ่งปกครองด้วยอำนาจยิ่งใหญ่และทำตามใจชอบ 4 หลังจากเขาเรืองอำนาจไม่นาน จักรวรรดิของเขาจะแยกออกเป็นส่วนๆ ตามทิศทางลมทั้งสี่แห่งฟ้าสวรรค์ ซึ่งจะไม่ได้ตกแก่เชื้อสายของเขาและไม่เรืองอำนาจเท่าเขา เพราะจักรวรรดิของเขาจะถูกถอนรากถอนโคนและมอบให้คนอื่นยึดครอง 5 “กษัตริย์ฝ่ายใต้จะเข้มแข็งขึ้น แต่แม่ทัพคนหนึ่งจะเข้มแข็งกว่าเขาและครอบครองอาณาจักรของตนอย่างเกรียงไกร 6 หลายปีผ่านไปทั้งสองจะเป็นพันธมิตรกัน ธิดากษัตริย์ฝ่ายใต้จะเสด็จไปเจริญสัมพันธไมตรีกับกษัตริย์ฝ่ายเหนือ แต่นางจะไม่สามารถรักษาอำนาจของนาง และกษัตริย์ฝ่ายใต้กับอำนาจของเขาจะไม่ยั่งยืน ครั้งนั้นนางกับผู้ติดตามบิดาของนางและผู้ที่สนับสนุนนางจะพลาดท่าเสียที 7 “คนหนึ่งในวงศ์ตระกูลของนางจะขึ้นมาแทนที่นาง เขาจะโจมตีกองกำลังของกษัตริย์ฝ่ายเหนือ ทะลวงป้อมปราการ ต่อสู้ขับเคี่ยว และได้รับชัยชนะ 8 ทั้งจะชิงรูปเทพเจ้า เทวรูปโลหะกับภาชนะเงินและทองอันล้ำค่าขนกลับไปอียิปต์ เขาจะปล่อยกษัตริย์ฝ่ายเหนือไว้ตามลำพังอยู่หลายปี 9 แล้วกษัตริย์ฝ่ายเหนือจะบุกอาณาจักรของกษัตริย์ฝ่ายใต้ แต่จะถอยทัพกลับประเทศของตน 10 ลูกๆ ของเขาจะเตรียมรบ ระดมกำลังเป็นทัพใหญ่ ซึ่งถาโถมเข้ามาเหมือนน้ำท่วมซัดที่ไม่มีอะไรยับยั้งได้ และรบมาถึงป้อมของเขา 11 “แล้วกษัตริย์ฝ่ายใต้จะยกทัพออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว รบกับกษัตริย์ฝ่ายเหนือ ซึ่งระดมทัพใหญ่มาแต่จะพ่ายแพ้ 12 เมื่อฝ่ายเหนือถอยทัพกลับไป กษัตริย์ฝ่ายใต้จะภาคภูมิใจยิ่งนัก และประหารคนหลายพันคน แต่ก็มีชัยชนะอยู่ได้ไม่นาน […]
ดาเนียล 12
วาระสุดท้าย 1 “ครั้งนั้นเทพบดีมีคาเอลผู้พิทักษ์ประชากรของท่านจะมา จะเกิดช่วงทุกข์ลำเค็ญอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่มีประชาชาติขึ้น แต่ในครั้งนั้นประชากรของท่านคือทุกคนที่มีชื่ออยู่ในหนังสือนั้นจะได้รับการช่วยกู้ 2 คนเป็นอันมากที่ตายไปแล้วจะฟื้นขึ้น บางคนก็เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ บางคนก็เข้าสู่ความอับอายและถูกดูหมิ่นเหยียดหยามตลอดกาล 3 บรรดาผู้มีปัญญาจะส่องแสงเหมือนความสว่างแห่งฟ้าสวรรค์ และบรรดาผู้ที่นำคนเป็นอันมากมาสู่ความชอบธรรมจะส่องสว่างดั่งดวงดาวชั่วนิรันดร์ 4 ส่วนท่าน ดาเนียลเอ๋ย จงม้วนและประทับตราถ้อยคำแห่งหนังสือม้วนนี้ไว้จนถึงวาระสุดท้าย คนเป็นอันมากจะไปที่นี่ที่นั่นเพื่อเพิ่มพูนความรู้” 5 แล้วข้าพเจ้าดาเนียลมองไปเห็นชายสองคนยืนอยู่คนละฟากแม่น้ำ 6 คนหนึ่งกล่าวกับผู้สวมเสื้อผ้าลินินซึ่งอยู่เหนือแม่น้ำว่า “อีกนานเท่าใดเหตุการณ์น่าประหลาดทั้งปวงนี้จึงจะสำเร็จครบถ้วน?” 7 ชายผู้สวมเสื้อผ้าลินินซึ่งอยู่เหนือแม่น้ำก็ชูมือทั้งสองข้างขึ้นสู่ฟ้าสวรรค์และข้าพเจ้าได้ยินเขาปฏิญาณอ้างพระองค์ผู้ทรงพระชนม์อยู่เป็นนิตย์ว่า “จะเป็นหนึ่งวาระ หลายวาระ และครึ่งวาระเมื่ออำนาจของประชากรของพระเจ้าหมดสิ้นลง ในที่สุดสิ่งทั้งปวงนี้ก็จะสำเร็จสมบูรณ์” 8 ข้าพเจ้าได้ยินแต่ไม่เข้าใจจึงถามว่า “ท่านเจ้าข้า ทั้งหมดนี้จะลงเอยอย่างไร?” 9 เขาผู้นั้นตอบว่า “ดาเนียลเอ๋ย จงไปตามทางของท่านเถิด เพราะถ้อยคำเหล่านี้ถูกเก็บงำและประทับตราไว้จวบจนวาระสุดท้าย 10 คนเป็นอันมากจะถูกถลุงและได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ปราศจากตำหนิ ส่วนคนชั่วยังคงทำชั่วต่อไป ไม่มีคนชั่วคนใดจะเข้าใจแต่ผู้มีปัญญาจะเข้าใจ 11 “ตั้งแต่ยกเลิกการถวายเครื่องบูชาประจำวันจนถึงวาระที่สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนอันเป็นต้นเหตุของวิบัติถูกตั้งขึ้นเป็นเวลา 1,290 วัน 12 ผู้ที่รอคอยและอยู่จนครบ 1,335 วันก็เป็นสุข 13 “ส่วนท่านจงไปตามทางของท่านจวบจนวาระสุดท้าย ท่านจะพักสงบและเมื่อสิ้นยุคท่านจะเป็นขึ้นมาเพื่อรับมรดกส่วนของท่าน” —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/DAN/12-c4c784734bc01a62989435bff1c84e35.mp3?version_id=179—
เอเสเคียล 1
สิ่งมีชีวิตทั้งสี่และพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้า 1 ในวันที่ห้าเดือนที่สี่ปีที่สามสิบขณะที่ข้าพเจ้าอยู่กับเพื่อนเชลยที่ริมแม่น้ำเคบาร์ ฟ้าสวรรค์ได้เปิดออกและข้าพเจ้าเห็นนิมิตจากพระเจ้า 2 ในวันที่ห้าเดือนนั้นเป็นปีที่ห้าซึ่งกษัตริย์เยโฮยาคีนตกเป็นเชลย 3 พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงปุโรหิตเอเสเคียลบุตรบุซีที่ริมแม่น้ำเคบาร์ในดินแดนของชาวบาบิโลนพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เหนือเอเสเคียลที่นั่น 4 ข้าพเจ้ามองดูและเห็นพายุใหญ่พัดมาจากทางเหนือ มีเมฆมหึมาซึ่งรายล้อมด้วยแสงสว่างเจิดจ้าและมีฟ้าแลบแวบวาบอยู่ ใจกลางไฟนั้นดูเหมือนโลหะสุกปลั่ง 5 และในไฟนั้นมีบางสิ่งคล้ายสิ่งมีชีวิตสี่ตน ซึ่งมีรูปพรรณสัณฐานคล้ายมนุษย์ 6 แต่ว่าทุกตนต่างมีสี่หน้าและมีสี่ปีก 7 มีขาเหยียดตรง มีกีบเท้าเหมือนกีบลูกวัว และสุกปลั่งเหมือนทองสัมฤทธิ์ขัดเงา 8 ภายใต้ปีกทั้งสี่ด้าน มีมือเป็นมือมนุษย์ สิ่งมีชีวิตทั้งสี่นี้มีหน้าและปีก 9 ปีกของมันกางออกจดปีกของกันและกัน เคลื่อนตัวไปในทิศทางใดก็ได้ โดยไม่ต้องหันตัวเลย 10 ทั้งสี่ตนล้วนมีสี่หน้า คือหน้าหนึ่งเป็นมนุษย์ ด้านขวาเป็นหน้าสิงโต ด้านซ้ายเป็นหน้าวัว และด้านหลังเป็นหน้านกอินทรี 11 หน้าของสิ่งมีชีวิตทั้งสี่ก็เป็นเช่นนั้น ทั้งสี่ตนคลี่สองปีกแผ่ขึ้นข้างบน ออกไปจดกับปีกของกันและกัน ส่วนอีกสองปีกปกคลุมลำตัวไว้ 12 แต่ละตนมุ่งตรงไปข้างหน้า ไม่ว่าวิญญาณจะไปทางไหน ทั้งสี่ตนก็มุ่งไปทางนั้นโดยไม่ได้หันตัวเลย 13 ลักษณะของสิ่งมีชีวิตทั้งสี่ตนเหมือนถ่านไฟคุโชนหรือเหมือนคบไฟ มีดวงไฟที่สว่างเคลื่อนไปมาท่ามกลางทั้งสี่ตนนี้ และมีแสงแวบวาบออกมาจากดวงไฟนั้น 14 สิ่งมีชีวิตทั้งสี่ตนนี้โฉบไปมาดุจสายฟ้าแลบ 15 ขณะที่ข้าพเจ้าจ้องดูสิ่งมีชีวิตทั้งสี่ตนนี้ ก็เห็นวงล้อที่พื้น วงล้อแต่ละวงอยู่ข้างสิ่งมีชีวิตแต่ละตนซึ่งมีสี่หน้า 16 […]
เอเสเคียล 2
การทรงเรียกเอเสเคียล 1 พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงยืนขึ้นเถิด เราจะพูดกับเจ้า” 2 ขณะพระองค์ตรัส พระวิญญาณเสด็จเข้ามาในข้าพเจ้า ทำให้ข้าพเจ้ายืนขึ้น และข้าพเจ้าได้ยินพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้า 3 พระองค์ตรัสว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย เราจะส่งเจ้าไปยังชนชาติอิสราเอล ไปยังชนชาติที่ชอบกบฏซึ่งได้ทรยศเรา เขากับบรรพบุรุษกบฏต่อเราจนถึงทุกวันนี้ 4 ชนชาติที่เราจะส่งเจ้าไปนี้เป็นพวกที่ดื้อดึงและหัวแข็ง จงกล่าวกับพวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้’ 5 และไม่ว่าเขาจะรับฟังหรือไม่ เขาก็จะรู้ว่ามีผู้เผยพระวจนะในหมู่พวกเขา เพราะเขาเป็นพงศ์พันธุ์ที่ชอบกบฏ 6 ส่วนเจ้า บุตรมนุษย์เอ๋ย อย่ากลัวเขาหรือคำพูดของเขาเลย อย่ากลัวแม้ว่าเจ้าจะถูกล้อมกรอบด้วยต้นหนามน้อยใหญ่ หรือตกอยู่ในดงแมงป่อง อย่าหวาดกลัวคำพูดของเขาหรือขวัญผวาเพราะเขา แม้ว่าเขาจะเป็นพงศ์พันธุ์ที่ชอบกบฏ 7 เจ้าจงกล่าวถ้อยคำของเราให้เขาฟัง ไม่ว่าเขาจะรับฟังหรือไม่ก็ตาม เพราะพวกเขาชอบกบฏ 8 ส่วนเจ้า บุตรมนุษย์เอ๋ย จงฟังสิ่งที่เราบอก อย่าทรยศเหมือนพงศ์พันธุ์ที่ชอบกบฏ จงอ้าปากกินสิ่งที่เรามอบให้เจ้า” 9 แล้วข้าพเจ้าก็มองดู เห็นมือหนึ่งยื่นหนังสือม้วนออกมาให้ 10 พระองค์ทรงคลี่หนังสือม้วนนั้นออกต่อหน้าข้าพเจ้า ในนั้นมีถ้อยคำคร่ำครวญ คำไว้อาลัย และถ้อยคำเกี่ยวกับภัยพิบัติ เขียนไว้ทั้งสองด้าน —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/EZK/2-bb851d5de5ef76c6d022ebfbebd87634.mp3?version_id=179—