การลงโทษอิสราเอล 1 อิสราเอลเอ๋ย อย่าชื่นชมยินดี อย่าเปรมปรีดิ์เหมือนชาติอื่นๆ เพราะเจ้าไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าของเจ้า เจ้ารักค่าจ้างของหญิงโสเภณี ตามลานนวดข้าวทุกแห่ง 2 ลานนวดข้าวและบ่อย่ำองุ่นจะไม่พอเลี้ยงประชากร เหล้าองุ่นใหม่ดับความกระหายของเขาไม่ได้ 3 พวกเขาจะไม่ได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินขององค์พระผู้เป็นเจ้า เอฟราอิมจะกลับไปอียิปต์ และกินอาหารที่มีมลทินในอัสซีเรีย 4 พวกเขาจะไม่ได้รินเหล้าองุ่นบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และเครื่องบูชาของเขาก็ไม่เป็นที่พอพระทัยพระองค์ เครื่องบูชาเหล่านี้จะเป็นเหมือนอาหารผู้ไว้ทุกข์สำหรับเขา ผู้ที่กินเข้าไปจะเป็นมลทิน อาหารนี้จะมีไว้เพื่อตัวเขาเอง ไม่เหมาะที่จะนำเข้ามาในวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า 5 พวกเจ้าจะทำอะไรในงานเลี้ยงฉลองตามกำหนด ในวันเทศกาลขององค์พระผู้เป็นเจ้า? 6 ถึงแม้พวกเขาจะรอดพ้นจากความพินาศย่อยยับ อียิปต์ก็จะรวบรวมพวกเขา และเมมฟิสจะฝังพวกเขาไว้ คลังเงินของพวกเขาจะถูกปกคลุมด้วยพืชหนาม ต้นหนามจะงอกขึ้นท่วมเต็นท์ของพวกเขา 7 วันแห่งการลงโทษกำลังมาถึง วันลงอาญามาใกล้แล้ว อิสราเอลจงรู้เถิด เพราะบาปของพวกเจ้ามากมายนัก เจตนาร้ายของพวกเจ้าใหญ่หลวงนัก ผู้เผยพระวจนะถูกนับว่าเป็นคนโง่ ผู้ที่พระเจ้าดลใจกลับถูกหาว่าเป็นคนบ้าคลั่ง 8 ผู้เผยพระวจนะพร้อมกับพระเจ้าของข้าพเจ้า เป็นยามดูแลเอฟราอิม แต่กับดักรอเขาอยู่ตลอดเส้นทาง และมีศัตรูในพระนิเวศของพระเจ้าของพวกเขา 9 พวกเขาจมดิ่งลงในความเสื่อมทราม เหมือนสมัยกิเบอาห์ พระเจ้าจะทรงระลึกถึงความชั่วช้าของพวกเขา และลงโทษบาปทั้งหลายของพวกเขา 10 “เมื่อเราพบอิสราเอล ก็เหมือนพบองุ่นในถิ่นกันดาร เมื่อเราเห็นบรรพบุรุษของพวกเจ้า ก็เหมือนเห็นผลมะเดื่อรุ่นแรก แต่เมื่อพวกเขามาที่บาอัลเปโอร์ […]
Monthly Archives: June 2018
โฮเชยา 10
1 อิสราเอลเป็นองุ่นเถางาม เขาเกิดผลเพื่อตัวเอง เมื่อผลยิ่งดก เขาก็ยิ่งสร้างแท่นบูชาเพิ่ม เมื่อดินแดนของเขารุ่งเรืองขึ้น เขาก็ตกแต่งหินศักดิ์สิทธิ์ 2 จิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความหลอกลวง และบัดนี้พวกเขาต้องรับโทษ พระองค์จะทรงพังแท่นบูชาของพวกเขา และทำลายหินศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา 3 แล้วพวกเขาจะพูดว่า “เราไม่มีกษัตริย์ เพราะเราไม่ได้ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ถึงเรามีกษัตริย์ พวกเขาจะทำอะไรให้เราได้?” 4 พวกเขาสัญญาไว้มากมาย ทำข้อตกลง และสาบานเท็จ ฉะนั้นการฟ้องร้องคดีจึงงอกงาม เหมือนวัชพืชที่เป็นพิษในทุ่งนาที่ไถแล้ว 5 ประชาชนที่อาศัยในสะมาเรีย กลัวเทวรูปลูกวัวที่เบธอาเวน คนของพระนั้นจะคร่ำครวญถึงมัน ปุโรหิตผู้ลุ่มหลงมันก็เช่นกัน และบรรดาผู้ที่ชื่นชมในความโอ่อ่าตระการของพระนั้นก็เป็นไปด้วย เพราะมันจะถูกเนรเทศออกไป 6 มันจะถูกนำไปอัสซีเรีย เป็นเครื่องบรรณาการแก่กษัตริย์ผู้เกรียงไกร เอฟราอิมจะอับอายขายหน้า อิสราเอลจะอดสูเนื่องด้วยเทวรูปซึ่งทำด้วยไม้ของพวกเขา 7 สะมาเรียและกษัตริย์ของมันจะลอยหายไป เหมือนเศษไม้ที่อยู่บนผิวน้ำ 8 เทวสถานแห่งความชั่วร้ายซึ่งอยู่บนที่สูงของอิสราเอลจะถูกทำลาย มันเป็นบาปของอิสราเอล พืชหนามจะงอกขึ้น ปกคลุมแท่นบูชาของเขา แล้วพวกเขาจะกล่าวแก่ภูเขาทั้งหลายว่า “ปกคลุมเราไว้เถิด!” และบอกเนินเขาทั้งหลายว่า “ล้มมาทับเราเถิด!” 9 “อิสราเอลเอ๋ย เจ้าได้ทำบาปมาตั้งแต่สมัยกิเบอาห์ และเจ้ายังทำอยู่อย่างนั้นเรื่อยมา สงครามไม่ได้เล่นงานคนทำชั่ว ในกิเบอาห์หรอกหรือ? 10 […]
โฮเชยา 11
ความรักของพระเจ้าต่ออิสราเอล 1 “เมื่ออิสราเอลยังเด็กอยู่ เรารักเขา เราเรียกบุตรของเราออกจากอียิปต์ 2 แต่ยิ่งเราเรียกอิสราเอลมากเท่าใด พวกเขายิ่งไกลห่างจากเรามากเท่านั้น พวกเขาถวายเครื่องบูชาแก่พระบาอัล และเผาเครื่องหอมถวายรูปปั้นต่างๆ 3 เรานี่แหละสอนให้เอฟราอิมหัดเดิน เราโอบอุ้มพวกเขาไว้ในอ้อมแขน แต่พวกเขาไม่ตระหนัก ว่าเรานี่แหละเป็นผู้รักษาพวกเขาให้หาย 4 เรานำพวกเขาด้วยสายใยแห่งความเมตตา และด้วยพันธะแห่งความรัก เราปลดแอกจากคอของพวกเขา และก้มลงมาป้อนอาหารพวกเขา 5 “พวกเขาจะไม่กลับไปยังอียิปต์หรือ และอัสซีเรียจะไม่ปกครองพวกเขาหรือ ในเมื่อพวกเขาไม่ยอมกลับใจ? 6 ดาบทั้งหลายจะกวัดแกว่งอยู่ในเมืองต่างๆ ของพวกเขา จะทำลายดาลประตูของพวกเขา และทำให้แผนการต่างๆ ของพวกเขาจบสิ้นลง 7 ประชากรของเราตั้งใจทิ้งเราไป แม้ว่าพวกเขาจะร้องทูลต่อเราผู้สูงสุด เราก็จะไม่เชิดชูพวกเขาเลย 8 “เอฟราอิมเอ๋ย เราจะปล่อยเจ้าหลุดมือไปได้อย่างไร? อิสราเอลเอ๋ย เราจะยอมปล่อยเจ้าไปได้อย่างไร? เราจะปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนอัดมาห์ได้หรือ? เราจะทำให้เจ้าเหมือนเศโบยิมได้อย่างไร? จิตใจที่อยู่ภายในเราก็เปลี่ยนไป ความเมตตาเอ็นดูของเราก็ได้รับการปลุกขึ้น 9 เราจะไม่ลงโทษเจ้าตามความโกรธอันรุนแรงของเรา หรือหันมาทำลายล้างเอฟราอิมอีก เพราะเราเป็นพระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์ เป็นองค์บริสุทธิ์ท่ามกลางเจ้า เราจะไม่มาด้วยความโกรธ 10 เขาจะติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงเปล่งพระสุรเสียงดุจราชสีห์ เมื่อพระองค์ทรงเปล่งเสียงกึกก้อง ลูกๆ […]
โฮเชยา 12
1 เอฟราอิมเลี้ยงชีพด้วยลม เขาติดตามลมตะวันออกทั้งวัน เขาทวีการโกหกและความอำมหิต เขาทำสัญญากับอัสซีเรีย และส่งน้ำมันมะกอกไปยังอียิปต์ 2 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงดำเนินคดีกับยูดาห์ พระองค์จะทรงลงโทษยาโคบตามวิถีทางความประพฤติของเขา และตอบแทนเขาตามการกระทำของเขา 3 เขาฉวยส้นเท้าของพี่ชายไว้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ครั้นหนุ่มใหญ่เขาก็ต่อสู้กับพระเจ้า 4 เขาสู้กับทูตสวรรค์และเอาชนะได้ เขาร่ำไห้อ้อนวอนขอความเมตตา พระองค์ทรงพบเขาที่เบธเอล และตรัสกับเขาที่นั่น 5 พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระยาห์เวห์เป็นพระนามอันเกรียงไกรของพระองค์! 6 แต่เจ้าต้องกลับมาหาพระเจ้าของเจ้า จงผดุงความรักและความยุติธรรม และรอคอยพระเจ้าของเจ้าเสมอ 7 พวกพ่อค้าโกงตาชั่ง เขารักการฉ้อฉล 8 เอฟราอิมโอ้อวดว่า “เราร่ำรวยมากและกลายเป็นเศรษฐี ด้วยทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเรา พวกเขาจะไม่พบความชั่วช้าหรือบาปใดๆ ในเราเลย” 9 “เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้พาเจ้าออกมาจากอียิปต์ เราจะทำให้เจ้าอาศัยอยู่ในเต็นท์อีกครั้ง เหมือนเมื่อครั้งเทศกาลงานเลี้ยงตามกำหนดของเจ้า 10 เราพูดกับบรรดาผู้เผยพระวจนะ ให้นิมิตมากมายแก่พวกเขา และกล่าวคำอุปมาผ่านทางพวกเขา” 11 กิเลอาดชั่วร้ายหรือ? ชาวเมืองนั้นไร้ค่านัก! พวกเขาถวายวัวผู้ในกิลกาลหรือ? แท่นบูชาของพวกเขาจะเป็นเหมือนกองหิน บนทุ่งที่ไถแล้ว 12 ยาโคบหนีไปยังแดนอารัม อิสราเอลปรนนิบัติรับใช้เพื่อจะได้ภรรยา เขาเลี้ยงแกะเพื่อจ่ายเป็นค่าตัวนาง 13 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้ผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งนำอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ […]
โฮเชยา 13
พระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้า 1 เมื่อเอฟราอิมกล่าว ผู้คนก็สั่นสะท้าน เขาเป็นที่ยกย่องในอิสราเอล แต่เขาก็มีความผิดและตายไปเพราะกราบไหว้พระบาอัล 2 บัดนี้ เขายิ่งทำบาปมากขึ้น เขาใช้เงินทำรูปเคารพเพื่อตัวเขาเอง เป็นเทวรูปที่ปั้นแต่งขึ้นอย่างชาญฉลาด ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผลงานของช่างฝีมือ ผู้คนกล่าวถึงคนเหล่านี้ว่า “พวกเขาใช้มนุษย์เป็นเครื่องบูชา และจูบเทวรูปลูกวัว” 3 ฉะนั้นเขาจะเป็นเหมือนหมอกในยามเช้า เหมือนน้ำค้างยามรุ่งอรุณซึ่งหายลับไป เหมือนแกลบปลิวจากลานนวดข้าว เหมือนควันที่ลอยออกไปทางหน้าต่าง 4 “แต่เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์ เจ้าจะไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากเรา และไม่มีผู้ช่วยให้รอดอื่นใดยกเว้นเรา 5 เราฟูมฟักดูแลเจ้าในทะเลทราย ในดินแดนอันร้อนระอุ 6 เมื่อเราเลี้ยงดูพวกเขา พวกเขาก็อิ่มหนำ เมื่ออิ่มหนำแล้ว พวกเขาก็หยิ่งผยองขึ้น และลืมเรา 7 ดังนั้นเราจึงจู่โจมเข้าใส่พวกเขาเหมือนสิงโต เราจะซุ่มอยู่ริมทางเหมือนเสือดาว 8 เหมือนแม่หมีที่ถูกขโมยลูกไป เราจะเข้าโจมตีและฉีกพวกเขาออก เราจะเป็นดั่งราชสีห์ที่กลืนกินพวกเขา สัตว์ป่าจะฉีกพวกเขาออกเป็นชิ้นๆ 9 “อิสราเอลเอ๋ย เจ้าถูกทำลายล้าง เพราะเจ้าต่อสู้เราผู้ที่ช่วยเหลือเจ้า 10 ไหนล่ะกษัตริย์ของเจ้า ผู้ที่จะช่วยเจ้าได้? ไหนล่ะเจ้าเมืองทั้งปวง ที่เจ้าพูดว่า ‘ให้เรามีกษัตริย์และเจ้านายเถิด’? 11 ฉะนั้นเราจึงให้กษัตริย์แก่เจ้าด้วยโทสะของเรา และเราก็พรากเขาไปด้วยความกริ้วโกรธของเรา […]
โฮเชยา 14
การกลับใจใหม่ซึ่งนำพระพรมา 1 อิสราเอลเอ๋ย จงหันกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าเถิด ที่เจ้าล่มจมลงก็เพราะบาปทั้งหลายของเจ้า! 2 จงนำคำอ้อนวอนมาด้วย และกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด จงทูลพระองค์ว่า “ขอทรงอภัยบาปทั้งสิ้นของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงรับข้าพระองค์ทั้งหลายไว้ด้วยพระคุณ เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะถวายคำสรรเสริญจากริมฝีปากของข้าพระองค์ทั้งหลาย 3 อัสซีเรียไม่อาจช่วยเหล่าข้าพระองค์ได้ ข้าพระองค์ทั้งหลายจะไม่พึ่งม้าศึก จะไม่เรียกสิ่งที่มือของข้าพระองค์ทั้งหลายสร้างขึ้นนั้นว่า ‘บรรดาพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย’ อีกต่อไป เพราะลูกกำพร้าพ่อจะพบความเมตตาสงสารในพระองค์” 4 “เราจะรักษาความดื้อด้านของพวกเขา และจะรักพวกเขาอย่างเต็มที่ เพราะเราหายโกรธพวกเขาแล้ว 5 เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างพร่างพรมให้อิสราเอล เขาจะผลิบานดั่งดอกลิลลี่ เขาจะหยั่งรากลง เหมือนสนซีดาร์แห่งเลบานอน 6 หน่ออ่อนของเขาจะเติบโตขึ้น เขาจะงดงามรุ่งโรจน์เหมือนต้นมะกอก และส่งกลิ่นหอมเหมือนสนซีดาร์แห่งเลบานอน 7 ผู้คนจะพักพิงในร่มเงาของเขาอีก เขาจะเจริญงอกงามเหมือนเมล็ดข้าว จะผลิบานเหมือนเถาองุ่น ชื่อเสียงเลื่องลือเหมือนเหล้าองุ่นจากเลบานอน 8 เอฟราอิมเอ๋ย เราจะต้องเกี่ยวข้องอะไรกับรูปเคารพทั้งหลายอีก? เราจะตอบเขาและห่วงใยดูแลเขา เราเป็นเหมือนต้นสนเขียวชอุ่ม เจ้าจะมีผลงอกงามเพราะเรา” 9 ผู้ใดเฉลียวฉลาด? ผู้นั้นจะประจักษ์สิ่งเหล่านี้ ผู้ใดมีวิจารณญาณ? ผู้นั้นจะเข้าใจ วิถีทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าล้วนถูกต้อง ผู้ชอบธรรมดำเนินในวิถีทางเหล่านี้ แต่ผู้กบฏต่อพระเจ้าก็สะดุดอยู่ในทางของพระองค์ —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/HOS/14-c7516445c1516d8428f7aa74a14bd1bc.mp3?version_id=179—
ดาเนียล 1
การฝึกฝนของดาเนียลในบาบิโลน 1 ในปีที่สามของรัชกาลกษัตริย์เยโฮยาคิมแห่งยูดาห์ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนทรงกรีธาทัพมาล้อมกรุงเยรูซาเล็ม 2 และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบกษัตริย์เยโฮยาคิมแห่งยูดาห์พร้อมทั้งภาชนะบางอย่างในพระวิหารของพระเจ้าไว้ในมือเนบูคัดเนสซาร์ เนบูคัดเนสซาร์ทรงนำสิ่งเหล่านี้ไปเก็บไว้ที่คลังของวิหารเทพเจ้าของตนในบาบิโลน 3 แล้วเนบูคัดเนสซาร์ตรัสบัญชาอัชเปนัสหัวหน้ากรมวังให้คัดเลือกชายหนุ่มอิสราเอลบางคนซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์และอยู่ในตระกูลขุนนาง 4 คนหนุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาดี ไม่พิกลพิการ เฉลียวฉลาดพร้อมที่จะเรียนรู้ ได้รับการศึกษาอบรมมาอย่างดี มีไหวพริบปฏิภาณ และคุณสมบัติเหมาะสมที่จะปฏิบัติหน้าที่ในพระราชวัง ให้อัชเปนัสสอนภาษาและวรรณคดีของชาวบาบิโลนแก่ชายหนุ่มเหล่านี้ 5 กษัตริย์ทรงประทานอาหารและเหล้าองุ่นจากโต๊ะเสวยแก่คนเหล่านี้ทุกวันและให้พวกเขารับการฝึกฝนตลอดสามปี หลังจากนั้นจึงเข้ารับราชการ 6 ในกลุ่มชายหนุ่มเหล่านี้ มีบางคนจากยูดาห์ได้แก่ดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ 7 หัวหน้ากรมวังตั้งชื่อใหม่ให้พวกเขาดังนี้ ดาเนียลชื่อเบลเทชัสซาร์ ฮานันยาห์ชื่อชัดรัค มิชาเอลชื่อเมชาค และอาซาริยาห์ชื่ออาเบดเนโก 8 แต่ดาเนียลตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่ยอมให้ตนเองเป็นมลทินเพราะเครื่องเสวย ทั้งอาหารและเหล้าองุ่น จึงขออนุญาตจากหัวหน้ากรมวังที่จะไม่ทำให้ตนเองเป็นมลทินอย่างนั้น 9 พระเจ้าทรงบันดาลให้หัวหน้ากรมวังชอบพอและเห็นใจดาเนียล 10 แต่เขาบอกดาเนียลว่า “เรากลัวเจ้าเหนือหัวซึ่งทรงเป็นผู้ประทานอาหารและเครื่องดื่มให้พวกเจ้า หากเราปล่อยให้พระองค์เห็นพวกเจ้าซูบซีดกว่าชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน พระองค์คงตัดหัวเราเพราะพวกเจ้า” 11 ดาเนียลจึงบอกผู้ดูแลซึ่งหัวหน้ากรมวังแต่งตั้งให้รับผิดชอบดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ว่า 12 “โปรดลองให้ผู้รับใช้ของท่านกินแต่ผักและดื่มแต่น้ำสักสิบวัน 13 แล้วเปรียบเทียบหน้าตาของพวกเรากับชายหนุ่มซึ่งรับประทานเครื่องเสวย จากนั้นเชิญท่านปฏิบัติต่อผู้รับใช้ตามที่ท่านเห็นควรเถิด” 14 ผู้ดูแลก็ตกลงตามนี้และให้พวกเขาทดลองดูสิบวัน […]
ดาเนียล 2
เนบูคัดเนสซาร์ทรงฝัน 1 ในปีที่สองแห่งรัชกาล เนบูคัดเนสซาร์ทรงฝัน แล้วทุกข์พระทัยมากจนบรรทมไม่หลับ 2 จึงรับสั่งให้นักเล่นอาคม นักเวทมนตร์ พ่อมดหมอผี และพวกโหราจารย์มาทูลให้ทรงทราบว่าทรงฝันเรื่องอะไร เมื่อพวกเขามาเข้าเฝ้า 3 กษัตริย์ตรัสกับเขาว่า “เราฝันไป ทำให้เราทุกข์ใจมาก เราอยากรู้ว่าฝันนั้นหมายถึงอะไร” 4 พวกโหราจารย์จึงกราบทูลเป็นภาษาอารเมคว่า “ขอฝ่าพระบาทจงทรงพระเจริญ! โปรดเล่าความฝันมาเถิด พวกข้าพระบาทจะทูลทำนายถวาย” 5 กษัตริย์ตรัสตอบเหล่าโหราจารย์ว่า “เราตั้งใจแน่วแน่แล้วว่า หากพวกเจ้าบอกเราไม่ได้ว่าเราฝันอะไรและหมายความว่าอะไร เราจะสับพวกเจ้าเป็นชิ้นๆ และทำลายบ้านเรือนของเจ้าให้กลายเป็นกองขยะ 6 แต่หากเจ้าเล่าความฝันและทำนายได้ เจ้าจะได้รับรางวัลและเกียรติยศยิ่งใหญ่ ฉะนั้นจงเล่าความฝันและแก้ฝันให้เราเถิด” 7 พวกเขาทูลอีกว่า “ขอฝ่าพระบาททรงเล่าความฝันให้ผู้รับใช้ฟังเถิด แล้วข้าพระบาททั้งหลายจะทำนายฝันถวาย” 8 กษัตริย์จึงตรัสว่า “เราแน่ใจว่าพวกเจ้าพยายามถ่วงเวลา เพราะพวกเจ้ารู้อยู่ว่าเราตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว 9 หากพวกเจ้าไม่บอกว่าเราฝันอะไรก็มีโทษทัณฑ์สถานเดียว พวกเจ้าสมรู้ร่วมคิดกันพูดล่อหลอกเราเพราะหวังว่าเราจะเปลี่ยนใจ จงเล่าความฝันมาสิ เราจะได้รู้ว่าเจ้าแก้ฝันให้เราได้” 10 โหราจารย์ทั้งหลายทูลว่า “ไม่มีใครในโลกนี้สามารถทำอย่างที่ฝ่าพระบาทประสงค์ได้! ไม่มีกษัตริย์องค์ใดจะถามเช่นนี้จากผู้เล่นอาคม นักเวทมนตร์ หรือโหราจารย์ได้ ไม่ว่ากษัตริย์องค์นั้นจะยิ่งใหญ่เกรียงไกรเพียงใด 11 สิ่งที่ฝ่าพระบาทให้ทำนี้ยากเกินวิสัยมนุษย์จะทำได้ มีแต่เทพเจ้าเท่านั้นจะบอกได้และเทพเจ้าก็ไม่ได้อยู่ในหมู่มนุษย์” 12 […]
ดาเนียล 3
เทวรูปทองคำและเตาไฟร้อนแรง 1 กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ทรงสร้างเทวรูปทองคำสูงถึง 60 ศอก กว้าง 6 ศอกตั้งไว้ในที่ราบดูราในมณฑลบาบิโลน 2 แล้วทรงให้เรียกเสนาบดี ข้าหลวงภาค ผู้ว่าการ ราชมนตรี ขุนคลัง ผู้พิพากษา ตุลาการ และเจ้าหน้าที่ของทุกมณฑลมาชุมนุมเพื่อร่วมงานฉลองเทวรูปซึ่งสถาปนาขึ้นนั้น 3 คนเหล่านั้นก็มาร่วมฉลองและยืนอยู่หน้าเทวรูปที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ทรงสร้างขึ้น 4 แล้วมีเสียงป่าวประกาศว่า “บรรดาพลเมืองทุกชาติทุกภาษา มีพระราชโองการว่า 5 ทันทีที่พวกเจ้าได้ยินเสียงเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณ พิณเขาคู่ พิณใหญ่ ปี่ และเสียงดนตรีทุกชนิด จงหมอบกราบลงนมัสการเทวรูปทองคำที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์สร้างขึ้น 6 ผู้ใดก็ตามที่ไม่ยอมหมอบกราบลงนมัสการ จะถูกโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชนทันที” 7 ฉะนั้นทันทีที่คนทั้งหลายได้ยินเสียงเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณ พิณเขาคู่ พิณใหญ่ และเสียงดนตรีทุกชนิด พลเมืองทั้งปวงจากทุกชาติทุกภาษาก็หมอบกราบลงนมัสการเทวรูปทองคำที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ทรงสร้างขึ้น 8 ในครั้งนั้นมีโหราจารย์บางคนมาทูลฟ้องกษัตริย์เรื่องชาวยิว 9 พวกเขามาทูลเนบูคัดเนสซาร์ว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ขอจงทรงพระเจริญ! 10 ฝ่าพระบาททรงประกาศพระราชกฤษฎีกาว่า ทุกคนที่ได้ยินเสียงเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณ […]
ดาเนียล 4
นิมิตของเนบูคัดเนสซาร์เรื่องต้นไม้ใหญ่ 1 เรากษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ถึงท่านทั้งหลายผู้เป็นพลเมืองทุกชาติทุกภาษาทั่วโลก ขอให้ท่านเจริญรุ่งเรือง! 2 เราเห็นควรที่จะแจ้งให้ทราบถึงหมายสำคัญและปาฏิหาริย์ที่พระเจ้าสูงสุดทรงกระทำเพื่อเรา 3 หมายสำคัญของพระองค์ยิ่งใหญ่เหลือล้ำ การอัศจรรย์ของพระองค์เกรียงไกรยิ่งนัก ราชอาณาจักรของพระองค์ดำรงนิรันดร์ ทรงครอบครองอยู่ตลอดทุกชั่วอายุ 4 เรา เนบูคัดเนสซาร์ อยู่ในวังอย่างผาสุกและรุ่งเรือง 5 ขณะนอนอยู่บนเตียงเราได้ฝัน ทำให้ตกใจกลัว ภาพและนิมิตต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในความคิดทำให้ตระหนกตกใจ 6 เราจึงสั่งให้นำปราชญ์ของบาบิโลนทั้งหมดมาทำนายฝันให้ 7 เมื่อบรรดานักเล่นอาคม นักเวทมนตร์ โหราจารย์และหมอดูฤกษ์ยามมาแล้วเราก็แจ้งความฝันให้ฟัง แต่พวกเขาไม่สามารถแก้ฝันให้ได้ 8 แล้วดาเนียลก็มาเข้าเฝ้า เราจึงเล่าความฝันให้ฟัง (เขามีอีกชื่อหนึ่งว่า เบลเทชัสซาร์ ตามชื่อเทพเจ้าองค์หนึ่ง วิญญาณของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์อยู่ในเขา) 9 เรากล่าวว่า “เบลเทชัสซาร์ หัวหน้านักเล่นอาคมเอ๋ย เรารู้ว่าวิญญาณของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์อยู่ในเจ้า และไม่มีความล้ำลึกใดๆ ยากเกินความเข้าใจของเจ้า เราฝันเช่นนี้ จงแก้ฝันให้เราเถิด 10 ขณะนอนอยู่บนเตียง เราเห็นนิมิตคือเรามองไปเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งที่ตรงกลางแผ่นดิน มันสูงใหญ่มาก 11 ต้นไม้นั้นเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งจนยอดสูงจรดฟ้า แม้แต่สุดโลกก็ยังมองเห็น 12 ใบของมันงามน่าดู ผลก็ดกเต็มต้น มันให้อาหารแก่สิ่งมีชีวิตทั้งปวง […]