เศฟันยาห์ 2

1 จงรวมตัวกัน รวมตัวกันเถิด ชนชาติน่าอับอายเอ๋ย 2 ก่อนที่กำหนดเวลาจะมาถึง และวันนั้นกระหน่ำเข้ามาเหมือนลมพัดแกลบ ก่อนที่ความเกรี้ยวกราดขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะมาถึงเจ้า ก่อนวันแห่งพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะลงมาเหนือเจ้า 3 จงแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด บรรดาผู้ถ่อมใจของแผ่นดิน ผู้ทำตามพระบัญชาของพระองค์ จงเสาะหาความชอบธรรมและแสวงหาความถ่อมใจ เผื่อบางทีเจ้าจะได้ที่พักพิง ในวันแห่งพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้า กล่าวโทษฟีลิสเตีย 4 กาซาจะถูกทิ้งร้าง และอัชเคโลนจะถูกปล่อยให้ปรักหักพัง ยามเที่ยงวันอัชโดดจะถูกกวาดล้างจนว่างเปล่า และเอโครนถูกถอนราก 5 ชาวเคเรธีเอ๋ย วิบัติแก่เจ้าผู้อาศัยอยู่ริมทะเล คานาอันดินแดนแห่งชาวฟีลิสเตียเอ๋ย พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ากล่าวโทษเจ้าว่า “เราจะทำลายเจ้า ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว” 6 ดินแดนริมทะเลซึ่งชาวเคเรธีอาศัยอยู่ จะเป็นที่สำหรับคนเลี้ยงแกะและเป็นที่สำหรับคอกแกะ 7 ดินแดนนั้นจะตกเป็นของชนหยิบมือที่เหลือของยูดาห์ ที่นั่นพวกเขาจะพบทุ่งหญ้า ยามเย็นเขาจะนอนลง ในบ้านเรือนของอัชเคโลน พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาจะทรงดูแลเขา และให้เขาคืนสู่สภาพดีอีกครั้ง กล่าวโทษโมอับและอัมโมน 8 “เราได้ยินคำสบประมาทของโมอับ และคำถากถางของชาวอัมโมน พวกเขาสบประมาทประชากรของเรา และข่มขู่เอาดินแดนของพวกเขา” 9 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลประกาศว่า “ฉะนั้นเรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด โมอับจะเป็นเหมือนโสโดม และชาวอัมโมนจะเป็นเหมือนโกโมราห์อย่างแน่นอนฉันนั้น เป็นแหล่งวัชพืชและแอ่งเกลือ เป็นแดนทิ้งร้างตลอดไป ประชากรของเราที่เหลืออยู่จะปล้นพวกเขา และชนชาติของเราที่รอดชีวิตจะครอบครองดินแดนของพวกเขา” […]

เศฟันยาห์ 3

อนาคตของเยรูซาเล็ม 1 วิบัติแก่กรุงของผู้กดขี่ข่มเหง ซึ่งมักกบฏและมีมลทิน! 2 มันไม่ยอมฟังใคร ไม่ยอมรับการปรับปรุงแก้ไข ไม่วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า และไม่ยอมเข้ามาใกล้พระเจ้าของตน 3 ข้าราชการของกรุงนี้เป็นเหมือนสิงโตที่ร้องคำราม ผู้ครอบครองของกรุงนี้ก็เป็นดั่งสุนัขป่ายามเย็น ซึ่งไม่เหลืออะไรไว้ถึงเช้า 4 ส่วนบรรดาผู้เผยพระวจนะก็เย่อหยิ่ง พวกเขาเป็นคนทรยศ เหล่าปุโรหิตลบหลู่สถานนมัสการ และย่ำยีพระบัญญัติ 5 องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทับอยู่ในกรุงนั้นทรงชอบธรรม พระองค์ไม่ได้ทรงทำผิดเลย ทุกๆ เช้าพระองค์ทรงอำนวยความยุติธรรม และทุกๆ วันใหม่พระองค์ไม่เคยหยุดยั้งที่จะทำเช่นนั้น ถึงกระนั้นคนอธรรมก็ไม่รู้จักละอาย 6 “เราได้กำจัดประชาชาติทั้งหลายเสีย ที่มั่นของเขาถูกทำลายล้าง เราทำให้ถนนหนทางของเขาร้างเปล่า ไม่มีใครผ่านไปมา เมืองต่างๆ ของเขาถูกทำลาย ไม่มีใครเหลืออยู่เลย ไม่เหลือสักคน 7 เราได้กล่าวแก่กรุงนั้นว่า ‘แน่ทีเดียว เจ้าจะเกรงกลัวเรา และยอมรับการแก้ไขปรับปรุง!’ แล้วที่อยู่ของเขาจะได้ไม่ถูกทำลาย และโทษทัณฑ์ของเราจะได้ไม่มาถึงเขาทั้งหมด แต่เขาก็ยังคงกระเหี้ยนกระหือรือ ที่จะประพฤติเสื่อมทรามเหมือนที่เคยทำมาทุกอย่าง” 8 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “ฉะนั้นคอยดูเถิด ในวันนั้นเราจะยืนขึ้นเป็นพยาน เราได้ตัดสินใจที่จะรวบรวมชนชาติ และอาณาจักรต่างๆ แล้วระบายโทสะอันรุนแรงทั้งปวง เหนือพวกเขา โลกทั้งโลกจะไหม้เป็นจุณ ด้วยไฟแห่งความโกรธอันเนื่องจากความหึงหวงของเรา 9 […]

ฮาบากุก 1

1 พระดำรัสที่ผู้เผยพระวจนะฮาบากุกได้รับ คำร้องทุกข์ของฮาบากุก 2 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์จะต้องร้องทูลขอความช่วยเหลือนานเพียงใด พระองค์จึงจะทรงสดับฟัง? หรืออีกนานเพียงใดที่ต้องร้องต่อพระองค์ว่า “โหดร้าย!” แต่พระองค์ไม่ทรงมาช่วย? 3 เหตุใดพระองค์ทรงให้ข้าพระองค์มองดูความอยุติธรรม? เหตุใดพระองค์ทรงทนต่อความผิด? ความพินาศและความโหดร้ายอยู่ต่อหน้าต่อตาข้าพระองค์ มีการต่อสู้และแก่งแย่งกันมากมาย 4 ฉะนั้นกฎหมายจึงเป็นอัมพาต และความยุติธรรมไม่ปรากฏ คนชั่วล้อมกรอบคนชอบธรรม จนความยุติธรรมถูกบิดเบือนไป คำตอบขององค์พระผู้เป็นเจ้า 5 พระเจ้าตรัสว่า “จงมองและคอยเฝ้าดูชนชาติต่างๆ แล้วจงประหลาดใจอย่างที่สุด เพราะเรากำลังจะทำบางสิ่งในสมัยของเจ้า ซึ่งถึงแม้มีใครบอก เจ้าก็จะไม่เชื่อ 6 เรากำลังจะให้ชาวบาบิโลนมีอำนาจขึ้นมา พวกเขาเป็นชนชาติที่โหดร้ายและเลือดร้อน ซึ่งกรีธาทัพไปทั่วโลก เพื่อยึดครองดินแดนที่ไม่ใช่ของตน 7 พวกเขาเป็นชนชาติที่ใครๆ ก็ขยาดและหวาดกลัว พวกเขาถือเอาตนเองเป็นกฎหมาย แสวงหาเกียรติยศให้ตนเอง 8 ม้าของเขาปราดเปรียวยิ่งกว่าเสือดาว ดุร้ายยิ่งกว่าหมาป่ายามพลบค่ำ กองทหารม้าของเขาควบตะบึงมา พลม้าของเขามาจากแดนไกล พวกเขาเหินมาดุจนกอินทรีโฉบมาขย้ำเหยื่อ 9 พวกเขาทุกคนมุ่งก่อความรุนแรง ฝูงชนของพวกเขารุกเข้ามาเหมือนพายุทะเลทราย และกวาดต้อนเชลยไปเหมือนเม็ดทราย 10 เขาเย้ยหยันกษัตริย์ และเสียดสีเจ้าบ้านผ่านเมือง พวกเขาหัวเราะเยาะเมืองที่มีป้อมปราการทั้งปวง พวกเขาก่อเชิงเทินดินและเข้ายึดเมือง 11 แล้วพวกเขาก็กรีธาทัพผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนลม แล้วมุ่งหน้าต่อไป […]

ฮาบากุก 2

1 ข้าพเจ้าจะยืนเฝ้ายาม และประจำการบนเชิงเทิน ข้าพเจ้าจะคอยดูว่าพระองค์จะตรัสประการใดแก่ข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะตอบคำร้องทุกข์นี้อย่างไร คำตอบขององค์พระผู้เป็นเจ้า 2 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “จงเขียนสิ่งที่เราเปิดเผยแก่เจ้า ให้เห็นชัดเจนบนแผ่นจารึก เพื่อว่าทุกคนที่อ่านจะเข้าใจได้ทันที 3 เพราะสิ่งที่เราจะเปิดเผยแก่เจ้านั้นยังรอกำหนดเวลาอยู่ เป็นเรื่องวาระสุดท้าย และจะพิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่เรื่องเท็จ แม้จะเนิ่นช้าอยู่ ก็จงอดใจรอ มันจะมาถึงอย่างแน่นอนและจะไม่ล่าช้า 4 “ดูเถิด เขาผยองขึ้น ความปรารถนาของเขาไม่ถูกทำนองคลองธรรม แต่คนชอบธรรมจะดำรงชีวิตโดยความเชื่อของเขา 5 อันที่จริงเหล้าองุ่นทรยศเขา เขาหยิ่งผยองและไม่เคยพักสงบ เพราะเขาตะกละเหมือนหลุมฝังศพ และเหมือนความตายซึ่งไม่เคยอิ่ม เขารวบรวมประชาชาติมาเป็นของตน และจับชนชาติทั้งปวงมาเป็นเชลย 6 “คนเหล่านั้นทั้งหมดจะไม่ร้องยั่วเย้าเขาด้วยคำเยาะเย้ยและคำสบประมาทหรอกหรือว่า “ ‘วิบัติแก่เขาผู้เอาของที่ขโมยมากองสุมไว้ และทำให้ตนเองร่ำรวยโดยการขู่กรรโชก! สิ่งนี้จะต้องดำเนินไปอีกนานเพียงใด?’ 7 เจ้าหนี้ของเจ้าจะไม่ลุกฮือขึ้นในทันทีทันใดหรือ? เขาจะไม่ตื่นขึ้นและทำให้เจ้าตัวสั่นงันงกหรือ? เมื่อนั้นเจ้าจะตกเป็นเหยื่อของเขา 8 เพราะเจ้าได้ปล้นชิงมาหลายชาติ ชนชาติที่เหลืออยู่จะปล้นเจ้า เพราะเจ้าทำให้คนต้องหลั่งเลือด เจ้าได้ทำลายดินแดนและเมืองต่างๆ ตลอดจนทุกคนในนั้น 9 “วิบัติแก่เขาผู้สร้างอาณาจักรของตนด้วยสิ่งที่ได้มาอย่างอยุติธรรม เพื่อสร้างรังไว้บนที่สูง เพื่อหนีจากเงื้อมมือแห่งหายนะ! 10 เจ้าวางแผนให้หลายชนชาติถูกทำลาย ก่อความอัปยศแก่เรือนของเจ้าเองและทำให้ชีวิตของตนเองต้องเสียไป 11 ก้อนหินที่ผนังจะส่งเสียงร้อง และไม้ขื่อไม้คานก็จะส่งเสียงสะท้อน […]

ฮาบากุก 3

คำอธิษฐานของฮาบากุก 1 คำอธิษฐานของผู้เผยพระวจนะฮาบากุก ท่วงทำนองชิกิโอโนท 2 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ได้ยินกิตติศัพท์ของพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ยืนอยู่ด้วยความครั่นคร้ามยำเกรงในพระราชกิจของพระองค์ ขอทรงรื้อฟื้นพระราชกิจเหล่านั้นในยุคของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงให้ทราบทั่วกันในสมัยของข้าพระองค์ทั้งหลาย ในพระพิโรธขอทรงระลึกถึงพระเมตตา 3 พระเจ้าเสด็จจากเทมาน องค์บริสุทธิ์เสด็จจากภูเขาปาราน เสลาห์ พระเกียรติสิริของพระองค์ปกคลุมฟ้าสวรรค์ และโลกนี้เต็มด้วยคำสรรเสริญพระองค์ 4 สง่าราศีของพระองค์ประดุจรุ่งอรุณ มีรังสีส่องแวบวาบมาจากพระหัตถ์ ซึ่งซ่อนฤทธานุภาพของพระองค์ไว้ 5 โรคระบาดนำเสด็จพระองค์ ภัยพิบัติตามย่างพระบาทของพระองค์มา 6 เมื่อพระองค์ประทับยืน โลกก็สั่นสะเทือน เมื่อพระองค์ทอดพระเนตร ประชาชาติทั้งหลายก็สั่นสะท้าน ภูเขาดึกดำบรรพ์ทั้งหลายพังทลายลง เนินเขาเก่าแก่ทั้งหลายทรุดลง ทางของพระองค์ยั่งยืนนิรันดร์ 7 ข้าพระองค์เห็นเต็นท์ของชาวคูชันตกอยู่ในความทุกข์ยาก และที่อาศัยของชาวมีเดียนก็ตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน 8 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงกริ้วแม่น้ำหรือ? พระองค์ทรงพระพิโรธลำธารหรือ? เมื่อพระองค์ทรงม้า และรถม้าศึกแห่งชัยชนะ พระองค์ทรงเกรี้ยวกราดต่อทะเลหรือ? 9 พระองค์ทรงหยิบคันธนูออกมา พระองค์ทรงเรียกหาลูกศรมามากมาย เสลาห์ พระองค์ทรงแยกแผ่นดินด้วยแม่น้ำ 10 ภูเขาทั้งหลายเห็นพระองค์และบิดตัวไปมา กระแสน้ำโถมซัดไป ห้วงลึกคำรามลั่น และซัดคลื่นเป็นระลอกสูง 11 ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์หยุดนิ่งอยู่ในฟ้าสวรรค์ เมื่อลูกศรที่พุ่งทะยานของพระองค์ส่องประกาย เมื่อหอกของพระองค์ส่องประกายราวกับฟ้าแลบ 12 […]

นาฮูม 1

1 คำพยากรณ์เกี่ยวกับกรุงนีนะเวห์ หนังสือแห่งนิมิตของนาฮูมชาวเอลโขช พระพิโรธต่อนีนะเวห์ 2 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระเจ้าผู้หึงหวงและทำการแก้แค้น องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแก้แค้นและเต็มไปด้วยพระพิโรธ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแก้แค้นเหล่าปฏิปักษ์ของพระองค์ และยังทรงพระพิโรธต่อศัตรูของพระองค์ 3 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกริ้วช้าและทรงฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงปล่อยให้คนผิดลอยนวลพ้นโทษ ทางของพระองค์อยู่ในพายุหมุนและในลมพายุ เมฆคือธุลีจากพระบาทของพระองค์ 4 พระองค์ตรัสกำราบทะเลและทรงทำให้มันเหือดแห้ง ทรงทำให้แม่น้ำทุกสายแห้งไป บาชานกับคารเมลก็เหี่ยวเฉา และหมู่ดอกไม้ผลิบานของเลบานอนก็ร่วงโรย 5 ภูเขาสะเทือนเลื่อนลั่นต่อหน้าพระองค์ และเนินเขาต่างๆ หลอมละลาย เมื่อพระองค์ทรงปรากฏ แผ่นดินโลกก็สั่นสะท้าน คือโลกและทุกคนที่อยู่ในโลก 6 ใครเล่าสามารถต้านทานความกริ้วของพระองค์ได้? ใครเล่าสามารถทนต่อพระพิโรธอันรุนแรงของพระองค์ได้? พระองค์ทรงระบายพระพิโรธลงมาเหมือนไฟ แล้วศิลาก็แหลกละเอียดต่อหน้าพระองค์ 7 องค์พระผู้เป็นเจ้าประเสริฐ ทรงเป็นที่ลี้ภัยในยามยากลำบาก ทรงห่วงใยบรรดาผู้วางใจในพระองค์ 8 แต่ด้วยกระแสน้ำท่วมท้น พระองค์จะทรงทำให้นีนะเวห์สูญสิ้นไป พระองค์จะทรงรุกไล่เหล่าศัตรูเข้าสู่ความมืด 9 ไม่ว่าพวกเขาจะคบคิดกันต่อสู้องค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างไร พระองค์ก็จะทรงทำให้พบจุดจบ ปัญหาจะไม่เกิดขึ้นซ้ำสอง 10 พวกเขาจะติดอยู่ในดงหนาม และเมามายด้วยเหล้าองุ่นของตนเอง พวกเขาจะถูกเผาผลาญเหมือนตอข้าวแห้ง 11 นีนะเวห์เอ๋ย มีผู้หนึ่งออกมาจากเจ้า ซึ่งวางแผนร้ายต่อสู้องค์พระผู้เป็นเจ้า และวางแผนชั่ว 12 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ “แม้พวกเขามีพันธมิตรและมีจำนวนมาก […]

นาฮูม 2

นีนะเวห์จะล่มสลาย 1 นีนะเวห์เอ๋ย ผู้โจมตีได้รุดหน้ามารบกับเจ้าแล้ว จงเข้าประจำป้อม เฝ้าทางไว้ เตรียมตัวให้ทะมัดทะแมง และระดมกำลังทั้งหมดมา! 2 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงคืนความรุ่งเรืองให้ยาโคบ เช่นเดียวกับความรุ่งเรืองของอิสราเอล แม้ผู้ทำลายได้ทำให้มันเริศร้าง และทำลายเถาองุ่นของมัน 3 โล่ทหารของเขาเป็นสีแดง นักรบก็สวมชุดสีแดงเข้ม โลหะที่ตัวรถม้าศึกเปล่งประกายแวบวาบ ในวันที่พวกเขาเตรียมพร้อม หอกไม้สนก็กวัดแกว่ง 4 รถม้าศึกห้อตะบึงไปตามถนน รีบรุดไปมาผ่านลานเมือง มองดูเหมือนคบเพลิงลุกโชน พวกเขาวิ่งปราดไปมาเหมือนสายฟ้า 5 เขาระดมกองทหารที่หามาได้ แต่พวกเขาสะดุดล้มกลางทาง พวกเขากรูเข้าไปที่กำแพงเมือง โล่ป้องกันตั้งประจำที่ 6 ประตูด้านแม่น้ำถูกทำลายลง และพระราชวังพังครืน 7 มีประกาศิตให้กรุงนั้น ถูกจับและพาไปเป็นเชลย พวกทาสหญิงร้องครวญครางเหมือนนกพิราบ และตีอกชกตัว 8 นีนะเวห์เป็นเหมือนสระ และน้ำกำลังจะไหลออกไปหมด พวกเขาร้องว่า “หยุดก่อน! หยุดก่อน!” แต่ไม่มีใครหันกลับมา 9 จงปล้นเงิน! จงปล้นทอง! ข้าวของมากมายใช้ไม่หมด ทรัพย์สมบัติจากทุกคลังของนีนะเวห์มีมากเหลือเกิน! 10 มันถูกปล้นทำลาย ถูกริบของมีค่าไปหมด! หัวใจก็อ่อนล้า แข้งขาก็สิ้นแรง เนื้อตัวสั่นเทาและทุกคนหน้าซีดเซียว […]

นาฮูม 3

วิบัติแก่นีนะเวห์ 1 วิบัติแก่กรุงที่นองเลือด ซึ่งเต็มไปด้วยการโกหก เต็มไปด้วยการปล้นชิง ไม่เคยขาดเหยื่อเลย! 2 เสียงแส้หวดขวับ เสียงล้อรถครึกโครม! เสียงม้าควบ และเสียงรถม้าศึกห้อตะบึง! 3 ทหารม้าเข้าประจัญบาน ดาบแวบวาบ และหอกวาววับ! ผู้บาดเจ็บล้มตายก่ายกอง ซากศพนับไม่ถ้วน ผู้คนเดินสะดุดศพ 4 ทั้งหมดนี้เนื่องมาจากความหื่นกระหายของหญิงโสเภณี ผู้ยั่วยวนและเป็นเจ้าแห่งมนต์เสน่ห์ ผู้ทำให้ประชาชาติต่างๆ ตกเป็นทาสโดยการขายตัวของนาง และสะกดผู้คนด้วยอาคม 5 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “เราเป็นศัตรูกับเจ้า เราจะถลกกระโปรงของเจ้าคลุมหน้าเจ้า เราจะเผยความเปลือยเปล่าของเจ้าให้ประชาชาติต่างๆ เห็น และให้อาณาจักรต่างๆ เห็นความน่าอับอายของเจ้า 6 เราจะสาดของโสโครกใส่เจ้า เราจะเหยียดหยาม และประจานเจ้า 7 คนทั้งปวงที่เห็นเจ้าจะหนีจากเจ้า และกล่าวว่า ‘นีนะเวห์พังยับเยิน ใครจะอาลัยอาวรณ์เธอ?’ จะหาใครที่ไหนมาปลอบโยนเจ้า?” 8 เจ้าวิเศษกว่าเธเบส ซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ และมีน้ำล้อมรอบหรือ? แม่น้ำเป็นปราการของนาง น้ำเป็นกำแพงของนาง 9 คูชและอียิปต์เป็นกำลังอันไม่จำกัดให้นาง พูตและลิเบียก็เป็นพันธมิตรของนางด้วย 10 ถึงกระนั้นนางก็ต้องตกเป็นเมืองขึ้น ถูกกวาดไปเป็นเชลย ลูกเล็กเด็กแดงถูกจับฟาดแหลกลาญ […]

มีคาห์ 1

1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งมีมาถึงมีคาห์แห่งโมเรเชทในรัชกาลกษัตริย์โยธาม อาหัส และเฮเซคียาห์แห่งยูดาห์ ต่อไปนี้คือนิมิตที่มีคาห์เห็นเกี่ยวกับสะมาเรียและเยรูซาเล็ม 2 ประชาชาติทั้งสิ้นเอ๋ยจงฟังเถิด โลกและทุกคนที่อยู่ในโลกจงฟัง พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตจะเป็นพยานกล่าวโทษท่าน องค์พระผู้เป็นเจ้าจากพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ คำพิพากษาสะมาเรียและเยรูซาเล็ม 3 ดูเถิด!องค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังเสด็จจากที่ประทับ พระองค์เสด็จลงมาและทรงดำเนินอยู่บนเบื้องสูงของโลก 4 ภูเขาหลอมละลายใต้พระองค์ และหุบเขาต่างๆ แยกออก เหมือนขี้ผึ้งถูกลนไฟ และเหมือนน้ำถาโถมลงมาตามลาดเขา 5 ทั้งหมดนี้เนื่องมาจากการล่วงละเมิดของยาโคบ เนื่องด้วยบาปทั้งหลายของพงศ์พันธุ์อิสราเอล ยาโคบล่วงละเมิดอะไร? ไม่ใช่สะมาเรียหรอกหรือ? สถานบูชาบนที่สูงของยูดาห์นั้นคืออะไร? ไม่ใช่เยรูซาเล็มหรอกหรือ? 6 “ฉะนั้นเราจะทำให้สะมาเรียกลายเป็นซากปรักหักพัง เป็นที่ทำสวนองุ่น เราจะเทหินที่ใช้สร้างเมืองนั้นลงในหุบเขา และจะเผยฐานรากของเมืองนั้นออกมา 7 รูปเคารพทั้งปวงของสะมาเรียจะถูกทุบแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เครื่องถวายทั้งปวงในวิหารของเมืองนั้นจะถูกไฟเผา เราจะทำลายเทวรูปทั้งหมดของเมืองนั้น เนื่องจากสะมาเรียรวบรวมเครื่องถวายมาจากค่าจ้างของโสเภณี มันจะถูกใช้เป็นค่าจ้างโสเภณีอีก” คร่ำครวญไว้อาลัย 8 ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจะร้องไห้คร่ำครวญ จะเดินไปมาโดยเปลือยกายและเท้าเปล่า ข้าพเจ้าจะร้องโหยหวนเหมือนหมาใน และครวญครางเหมือนนกเค้าแมว 9 เพราะบาดแผลของสะมาเรียเยียวยาไม่ได้ และลามมาถึงยูดาห์แล้ว มาถึงประตูเมืองของพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้า มาถึงเยรูซาเล็มเลยทีเดียว 10 อย่าบอกเรื่องนี้ในเมืองกัท อย่าร้องไห้เลย อย่าบอกในเบธโอฟราห์ จงเกลือกตัวในฝุ่น 11 […]

มีคาห์ 2

แผนการของมนุษย์และแผนงานของพระเจ้า 1 วิบัติแก่บรรดาผู้ที่วางแผนชั่วร้าย บรรดาผู้ที่คิดอุบายชั่วร้ายขณะนอนอยู่บนเตียง! ครั้นรุ่งเช้าก็ดำเนินการตามแผนนั้น เพราะอยู่ในอำนาจที่เขาจะทำได้ 2 เขาโลภอยากได้ที่ดินก็ยึดเอา อยากได้บ้านก็ริบไป เขาโกงบ้าน โกงมรดกของเพื่อนมนุษย์ 3 ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เรากำลังวางแผนนำภัยพิบัติมาให้แก่คนพวกนี้ ซึ่งพวกเจ้าไม่มีทางเอาตัวรอดไปได้เลย พวกเจ้าจะไม่เดินอย่างหยิ่งทะนงอีกต่อไป เพราะมันจะเป็นวาระแห่งความพินาศ 4 ในวันนั้นผู้คนจะเยาะเย้ยพวกเจ้า เขาจะถากถางพวกเจ้าด้วยเพลงโศกบทนี้ว่า ‘เราย่อยยับป่นปี้ ข้าวของในกรรมสิทธิ์ของพี่น้องร่วมชาติถูกยึดไปแบ่งกัน พระองค์ทรงริบไปจากเราแล้ว! พระองค์ทรงมอบที่ดินของเราให้แก่บรรดาคนทรยศ’ ” 5 ฉะนั้นพวกเจ้าจะไม่มีใครสักคนในชุมชนขององค์พระผู้เป็นเจ้า มาจับสลากแบ่งดินแดน ผู้เผยพระวจนะเท็จ 6 บรรดาผู้เผยพระวจนะของเขากล่าวว่า “อย่าเผยพระวจนะ อย่าพยากรณ์เรื่องเหล่านี้ ความอัปยศอดสูจะมาไม่ถึงเรา” 7 พงศ์พันธุ์ยาโคบเอ๋ย ควรหรือที่จะพูดกันว่า “พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้ากริ้วหรือ? พระองค์ทรงกระทำสิ่งเหล่านี้หรือ?” “ถ้อยคำของเราไม่ได้เป็นผลดี แก่บรรดาผู้ประพฤติอย่างชอบธรรมหรือ? 8 เมื่อไม่นานมานี้ประชากรของเราได้ลุกขึ้น เหมือนเป็นศัตรู พวกเจ้าริบเอาเสื้อคลุมอย่างดี จากผู้ที่ผ่านไปโดยไม่ระมัดระวัง เหมือนคนที่เพิ่งกลับมาจากการรบ 9 พวกเจ้าขับไล่ผู้หญิงในหมู่ประชากรให้ออกไป จากบ้านอันผาสุกของเขา พวกเจ้าริบพรของเราไป จากลูกหลานของเขาตลอดกาล 10 ลุกขึ้น ไปให้พ้น! เพราะนี่ไม่ใช่ที่พักของพวกเจ้า […]