องค์พระผู้เป็นเจ้า 1 อีกครั้งหนึ่งมีพระดำรัสของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์มาถึงข้าพเจ้าว่า 2 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “เราหวงแหนศิโยนยิ่งนัก เราหวงแหนด้วยใจที่รุ่มร้อน” 3 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า “เราจะกลับมาหาศิโยน มาอยู่ในเยรูซาเล็ม แล้วเยรูซาเล็มจะได้ชื่อว่า ‘นครแห่งความจริง’ และภูเขาของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะได้ชื่อว่า ‘ภูเขาศักดิ์สิทธิ์’ ” 4 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “ตามถนนหนทางในเยรูซาเล็มจะกลับมีชายหญิงที่แก่หง่อม ถือไม้เท้านั่งอยู่เหมือนแต่ก่อน 5 ตามท้องถนนก็มีเด็กชายหญิงวิ่งเล่นอยู่” 6 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “มันอาจดูเป็นไปไม่ได้สำหรับชนหยิบมือที่เหลืออยู่นี้ แต่สำหรับเราแล้วมันจะเป็นไปไม่ได้เชียวหรือ?” พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น 7 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “เราจะช่วยประชากรของเราจากประเทศต่างๆ ทางตะวันออกและตะวันตก 8 เราจะพาพวกเขากลับมาอยู่ที่เยรูซาเล็ม เขาจะเป็นประชากรของเรา และเราจะเป็นพระเจ้าผู้ซื่อสัตย์และชอบธรรมของเขา” 9 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “พวกเจ้าซึ่งบัดนี้ฟังถ้อยคำของบรรดาผู้เผยพระวจนะซึ่งอยู่ด้วยเมื่อครั้งวางฐานรากพระนิเวศของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ จงให้มือของเจ้าเข้มแข็งเพื่อสร้างพระวิหารให้สำเร็จ 10 ก่อนหน้านั้นไม่มีค่าจ้างให้คนหรือสัตว์ ผู้คนที่สัญจรไปมาเพื่อค้าขายก็ไม่ปลอดภัยจากศัตรู เพราะเราทำให้เพื่อนบ้านทุกคนเป็นศัตรูกัน 11 แต่เดี๋ยวนี้เราจะไม่ทำกับชนหยิบมือที่เหลืออยู่เหมือนในอดีต” พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น 12 “เมล็ดจะงอกงาม เถาองุ่นจะออกผล ผืนแผ่นดินจะให้พืชผล และฟ้าจะหยาดน้ำค้างลงมา เราจะมอบสิ่งทั้งปวงนี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของชนหยิบมือที่เหลืออยู่ 13 ยูดาห์และอิสราเอลเอ๋ย เจ้าเคยเป็นที่สาปแช่งในหมู่ชนชาติทั้งหลายนั้นอย่างไร เราจะช่วยเจ้าและเจ้าจะเป็นพระพรอย่างนั้น […]
Monthly Archives: June 2018
เศคาริยาห์ 9
การพิพากษาศัตรูของอิสราเอล 1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า ประณามดินแดนหัดราก และดามัสกัส เพราะตาของมนุษย์และอิสราเอลทุกเผ่า จับจ้องที่องค์พระผู้เป็นเจ้า 2 และทรงประณามฮามัทซึ่งอยู่ใกล้ดามัสกัส และประณามไทระกับไซดอนด้วย ถึงแม้ว่าพวกเขาช่ำชองนัก 3 ไทระสร้างปราการป้องกันเมือง สะสมเงินไว้มากมายเหมือนธุลี และมีทองมากมายเหมือนฝุ่นตามถนน 4 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงริบทรัพย์สมบัติของเมืองนั้นไป และทำลายอำนาจทางทะเลของมัน และเผาผลาญมันด้วยไฟ 5 อัชเคโลนจะเห็นแล้วหวาดกลัว กาซาจะทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส เอโครนก็เช่นกันเพราะความหวังของมันอับเฉา กาซาจะสูญเสียกษัตริย์ และอัชเคโลนจะถูกทิ้งร้าง 6 ชนต่างชาติจะครอบครองอัชโดด และเราจะกำจัดความหยิ่งผยองของชาวฟีลิสเตีย 7 เราจะเอาเลือดออกจากปากของพวกเขา และเอาอาหารต้องห้ามออกจากซี่ฟันของพวกเขา บรรดาผู้เหลือรอดอยู่จะเป็นของพระเจ้าของเรา และจะกลายเป็นผู้นำในยูดาห์ และเอโครนจะเป็นเหมือนชาวเยบุส 8 แต่เราจะปกป้องนิเวศของเรา จากกองกำลังที่มาปล้นชิง ผู้กดขี่จะไม่มาย่ำยีบีฑาประชากรของเราอีก เพราะบัดนี้เรากำลังจับตาดูอยู่ การเสด็จมาของกษัตริย์ศิโยน 9 ธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย! จงชื่นชมยินดีเหลือล้น ธิดาแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย! จงโห่ร้อง ดูเถิด กษัตริย์ของเจ้าเสด็จมาหาเจ้า ทรงชอบธรรมและนำความรอดมา ทรงอ่อนโยนและประทับมาบนหลังลา ทรงลูกลาเสด็จมา 10 เราจะกำจัดรถม้าศึกจากเอฟราอิม และม้าศึกจากเยรูซาเล็ม ลูกธนูในการรบจะถูกหักทิ้ง พระองค์จะประกาศสันติภาพแก่นานาประชาชาติ […]
เศคาริยาห์ 10
พระเจ้าจะทรงดูแลยูดาห์ 1 จงทูลขอฝนในฤดูใบไม้ผลิจากองค์พระผู้เป็นเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้านี่แหละเป็นผู้สร้างเมฆและพายุ พระองค์ประทานสายฝนแก่มนุษย์ และพืชพันธุ์ธัญญาหารแก่ทุกคน 2 เทวรูปต่างๆ ให้คำตอบหลอกลวง หมอดูเห็นนิมิตจอมปลอม เขาเล่าความฝันเท็จ และให้คำปลอบใจอันเปล่าประโยชน์ ฉะนั้นประชาชนจึงหลงเตลิดไปเหมือนแกะ ถูกข่มเหงรังแกเพราะไม่มีคนเลี้ยง 3 “เราโกรธบรรดาคนเลี้ยงแกะยิ่งนัก และจะลงโทษบรรดาผู้นำ เพราะพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะทรงดูแล ฝูงแกะของพระองค์ คือพงศ์พันธุ์ยูดาห์ และทรงทำให้พวกเขาเหมือนม้าศึกทะนงองอาจในสงคราม 4 ศิลามุมเอกจะมาจากยูดาห์ อีกทั้งหมุดเต็นท์ ธนูศึก และผู้ปกครองทุกคน 5 เขาทั้งปวงจะเป็นนักรบเกรียงไกร ย่ำไปบนถนนโคลนเลนในสงคราม เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับพวกเขา พวกเขาจะต่อสู้และพิชิตพลม้า 6 “เราจะทำให้พงศ์พันธุ์ยูดาห์เข้มแข็งขึ้น และช่วยเหลือพงศ์พันธุ์โยเซฟ เราจะกู้พวกเขากลับคืนมา เพราะเราสงสารพวกเขา พวกเขาจะเป็นเหมือน คนที่ไม่เคยถูกเราทอดทิ้งเลย เพราะเราเป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา เราจะตอบพวกเขา 7 ชาวเอฟราอิมจะเป็นดั่งนักรบเกรียงไกร จิตใจของพวกเขาจะเปรมปรีดิ์เหมือนได้ดื่มเหล้าองุ่น ลูกหลานของพวกเขาจะเห็นแล้วชื่นชมยินดียิ่งนัก จิตใจของพวกเขาจะชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า 8 เราจะให้สัญญาณ และรวบรวมพวกเขามา แน่นอนเราจะไถ่พวกเขา พวกเขาจะมีจำนวนมากมายเหมือนแต่ก่อน 9 แม้ว่าเราทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปในหมู่ชนชาติต่างๆ แต่ในแดนไกลโพ้นพวกเขาจะระลึกถึงเรา พวกเขากับลูกหลานจะอยู่รอด และพวกเขาจะกลับมา […]
เศคาริยาห์ 11
1 เลบานอนเอ๋ย จงเปิดประตูทั้งหลายของเจ้าเถิด เพื่อไฟจะได้เผาผลาญเหล่าสนซีดาร์ของเจ้า! 2 ต้นสนเอ๋ย จงร่ำไห้เถิด เพราะซีดาร์ถูกโค่นลงแล้ว ต้นไม้งามตระหง่านนั้นย่อยยับลงแล้ว! ต้นโอ๊กแห่งบาชานเอ๋ย จงร่ำไห้เถิด ป่าทึบถูกตัดเตียนแล้ว! 3 จงฟังเสียงร่ำไห้ของบรรดาคนเลี้ยงแกะ ทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ของพวกเขาถูกทำลายไป! จงฟังเสียงคำรามของเหล่าสิงห์ ป่าอันเขียวขจีของจอร์แดนถูกทำลายไปแล้ว! คนเลี้ยงแกะทั้งสอง 4 พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ตรัสว่า “จงเลี้ยงฝูงแกะที่จะต้องถูกฆ่า 5 ผู้ซื้อฆ่าแกะเหล่านั้นและไม่ถูกลงโทษแต่อย่างใด บรรดาคนขายก็พูดว่า ‘สรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าเรารวยแล้ว!’ คนเลี้ยงแกะเองขายมันไปโดยไม่ปรานีฝูงแกะเลย 6 เพราะเราจะไม่สงสารชาวแผ่นดินนี้อีกแล้ว”องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “เราจะมอบทุกคนไว้ในมือเพื่อนบ้านและกษัตริย์ของพวกเขา ซึ่งจะข่มเหงเบียดเบียนแผ่นดินนี้ เราจะไม่ช่วยพวกเขาจากเงื้อมมือของคนเหล่านั้น” 7 ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเลี้ยงแกะที่จะต้องถูกฆ่า โดยเฉพาะตัวที่ถูกรังแก แล้วข้าพเจ้าเอาไม้เท้าคนเลี้ยงแกะมาสองอัน อันหนึ่งตั้งชื่อว่า “พระคุณ” และอีกอันหนึ่งตั้งชื่อว่า “กลมเกลียว” แล้วข้าพเจ้าก็เลี้ยงดูแกะ 8 ภายในเดือนเดียวข้าพเจ้าได้กำจัดคนเลี้ยงแกะทั้งสามคนนั้นออกไป แต่ข้าพเจ้ากลับเอือมระอาฝูงแกะคือชนชาตินี้ และพวกเขาก็เกลียดชังข้าพเจ้า 9 ข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า “เราจะไม่เป็นคนเลี้ยงของเจ้าอีกแล้ว ใครจะตายก็ให้ตายไป ใครจะพินาศก็ให้พินาศไป ที่เหลือก็ให้กินเลือดกินเนื้อกันเอง” 10 แล้วข้าพเจ้าเอาไม้เท้าที่ชื่อว่า “พระคุณ” มาหักเสีย เป็นการล้มเลิกพันธสัญญาที่ข้าพเจ้าทำไว้กับประชาชาติทั้งปวง […]
เศคาริยาห์ 12
ศัตรูของเยรูซาเล็มจะถูกทำลาย 1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าต่อไปนี้คือพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับอิสราเอลองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงคลี่ฟ้าสวรรค์ ผู้ทรงวางฐานรากของโลก ผู้ทรงสร้างวิญญาณในตัวมนุษย์ประกาศว่า 2 “เราจะทำให้เยรูซาเล็มเป็นถ้วยที่ทำให้ชนชาติทั้งปวงซึ่งล้อมรอบกลิ้งไป ยูดาห์จะถูกล้อมเมืองเช่นเดียวกับเยรูซาเล็ม 3 ในวันนั้นเมื่อมวลประชาชาติในโลกรวมตัวกันมาสู้กับเยรูซาเล็ม เราจะทำให้เยรูซาเล็มเป็นศิลาซึ่งชนชาติทั้งปวงไม่อาจขยับเขยื้อน คนที่พยายามจะขยับก็เจ็บตัว 4 ในวันนั้นเราจะทำให้ม้าทุกตัวกลัวลานและผู้ขี่คลุ้มคลั่ง”องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “เราจะจับตาดูพงศ์พันธุ์ยูดาห์ แต่จะทำให้ม้าทั้งปวงของชนชาติต่างๆ ตาบอด 5 แล้วบรรดาผู้นำยูดาห์จะรำพึงว่า ‘ชาวเยรูซาเล็มเข้มแข็งเพราะมีพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์เป็นพระเจ้าของพวกเขา’ 6 “ในวันนั้นเราจะทำให้บรรดาผู้นำยูดาห์เป็นดั่งไฟร้อนแดงกลางกองฟืน และเหมือนคบไฟลุกโชนกลางฟ่อนข้าว จะเผาผลาญชนชาติทั้งปวงที่อยู่ล้อมรอบทั้งซ้ายขวา ส่วนเยรูซาเล็มจะตั้งมั่นคงไม่ขยับเขยื้อน 7 “องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยกองทัพยูดาห์ก่อน เพื่อเกียรติของพงศ์พันธุ์ดาวิดและชาวเยรูซาเล็มจะไม่เกินหน้ายูดาห์ 8 ในวันนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงปกป้องชาวเยรูซาเล็มเพื่อผู้อ่อนแอที่สุดในพวกเขาจะเหมือนดาวิด และพงศ์พันธุ์ดาวิดจะเป็นดั่งพระเจ้า เหมือนทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้านำหน้าพวกเขาไป 9 ในวันนั้นเราจะทำลายชนชาติทั้งปวงที่มาโจมตีเยรูซาเล็ม บทคร่ำครวญแด่ผู้ถูกแทง 10 “และเราจะให้พงศ์พันธุ์ดาวิดกับชาวเยรูซาเล็มมีวิญญาณแห่งพระคุณและการอธิษฐาน พวกเขาจะมองดูเราผู้ที่พวกเขาได้แทง และจะไว้ทุกข์ให้เหมือนคนที่ไว้ทุกข์ให้ลูกคนเดียวของตน และร่ำไห้อย่างขมขื่นอาลัยผู้นั้นเหมือนอาลัยเมื่อลูกชายหัวปีของตนตาย 11 ในวันนั้นจะมีการร่ำไห้ครั้งใหญ่ในเยรูซาเล็ม เหมือนการร่ำไห้ครั้งฮาดัดริมโมนในที่ราบเมกิดโด 12 แผ่นดินจะไว้อาลัยแยกไปตามแต่ละตระกูล พวกภรรยาก็แยกต่างหากได้แก่ ตระกูลของดาวิดกับภรรยาของพวกเขา ตระกูลนาธันกับภรรยาของพวกเขา 13 ตระกูลเลวีกับภรรยาของพวกเขา ตระกูลชิเมอีกับภรรยาของพวกเขา 14 และตระกูลอื่นๆ ที่เหลือกับภรรยาของพวกเขา —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ZEC/12-4026fa85ac6e89b637ec7ce1dd725043.mp3?version_id=179—
เศคาริยาห์ 13
ชำระบาป 1 “ในวันนั้นจะมีน้ำพุพุ่งขึ้นมาสำหรับพงศ์พันธุ์ดาวิดและชาวเยรูซาเล็ม เพื่อชำระเขาทั้งปวงจากบาปและมลทินของเขา 2 “ในวันนั้นเราจะทำลายรูปเคารพทั้งปวงให้สิ้นชื่อจากทั่วดินแดนนั้น จะไม่มีใครนึกถึงรูปเคารพเหล่านั้นอีก” พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น “เราจะกำจัดทั้งผู้พยากรณ์เท็จและวิญญาณโสโครกไปจากแผ่นดิน 3 และหากผู้ใดยังขืนพยากรณ์ พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเขาเองจะกล่าวกับเขาว่า ‘เจ้าต้องตายเพราะเจ้าพูดเท็จในพระนามพระยาห์เวห์’ เมื่อเขาพยากรณ์ พ่อแม่ของเขาเองจะแทงเขา 4 “ในวันนั้นผู้เผยพระวจนะทุกคนจะอับอายที่เห็นนิมิต จะไม่มีใครสวมเสื้อผ้าขนสัตว์แบบผู้เผยพระวจนะเพื่อตบตาประชาชนอีก 5 เขาจะพูดว่า ‘ข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้เผยพระวจนะ แต่เป็นชาวไร่ชาวนา อาศัยแผ่นดินเป็นที่ทำกินมาตั้งแต่หนุ่มๆ’ 6 หากมีใครถามเขาว่า ‘ก็แล้วรอยแผลเป็นพวกนี้บนตัวเจ้าหมายความว่าอะไร’ เขาจะตอบว่า ‘เป็นแผลที่ได้มาจากบ้านเพื่อน’ ” คนเลี้ยงแกะถูกเล่นงาน ฝูงแกะกระจัดกระจาย 7 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “ดาบเอ๋ย จงตื่นขึ้น ห้ำหั่นคนเลี้ยงแกะของเรา และคนใกล้ชิดของเรา จงฟาดฟันคนเลี้ยงแกะ และแกะจะกระจัดกระจายไป และเราจะตวัดมือฟาดผู้เล็กน้อย” 8 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “สองในสามของทั้งดินแดนจะถูกห้ำหั่นพินาศไป เหลือไว้เพียงหนึ่งในสาม 9 หนึ่งในสามนี้เราจะเอาไปใส่ในไฟ เราจะถลุงพวกเขาเหมือนเงิน และทดสอบพวกเขาเหมือนทองคำ พวกเขาจะร้องเรียกนามของเรา และเราจะตอบพวกเขา เราจะกล่าวว่า ‘พวกเขาเป็นประชากรของเรา’ และพวกเขาจะกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าของเรา’ ” —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/ZEC/13-d292de96bbc2c9bb0977b07e0ee764af.mp3?version_id=179—
เศคาริยาห์ 14
องค์พระผู้เป็นเจ้า 1 วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้จะมาถึงแล้วเมื่อพวกเจ้าแบ่งของที่ริบมาได้ในหมู่พวกเจ้า 2 เราจะรวบรวมประชาชาติทั้งมวลมาสู้รบกับเยรูซาเล็ม กรุงนั้นจะถูกยึด บ้านเรือนถูกปล้น ข้าวของถูกริบ พวกผู้หญิงถูกข่มขืน ประชาชนครึ่งเมืองถูกจับไปเป็นเชลย ส่วนที่เหลือจะยังคงอยู่ในกรุงนั้น 3 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาสู้รบกับชนชาติเหล่านั้นเหมือนในยามศึก 4 ในวันนั้นพระองค์จะทรงวางพระบาทบนภูเขามะกอกเทศ ทางตะวันออกของกรุงเยรูซาเล็ม และภูเขามะกอกเทศจะแยกออกเป็นสองส่วน จากตะวันออกถึงตะวันตก ทำให้เกิดหุบเขาที่กว้างใหญ่ โดยครึ่งหนึ่งของภูเขาจะเคลื่อนไปทางเหนือ อีกครึ่งหนึ่งเคลื่อนไปทางใต้ 5 เจ้าจะหนีไปทางหุบเขาของเรา เพราะมันจะทอดยาวไปถึงอาเซล เจ้าจะหนีเหมือนเมื่อหนีจากแผ่นดินไหวในสมัยกษัตริย์อุสซียาห์แห่งยูดาห์ แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าจะเสด็จมาพร้อมผู้บริสุทธิ์ทั้งปวงซึ่งอยู่กับพระองค์ 6 ในวันนั้นจะไม่มีความสว่าง ความหนาวเย็น หรือน้ำค้างแข็ง 7 จะเป็นวันพิเศษ ไม่มีกลางวันหรือกลางคืนองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นทรงทราบ แม้เมื่อตกเย็นก็จะมีแสงสว่าง 8 ในวันนั้นน้ำแห่งชีวิตจะไหลออกมาจากเยรูซาเล็ม ครึ่งหนึ่งไหลลงทะเลตายทางตะวันออก อีกครึ่งหนึ่งไหลลงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตะวันตก ไหลตลอดทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาว 9 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเป็นกษัตริย์ครองทั้งโลก ในวันนั้นจะมีองค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงพระองค์เดียวและมีพระนามของพระองค์เพียงพระนามเดียวเท่านั้น 10 ทั่วทั้งแผ่นดินจากเกบาถึงริมโมนทางใต้ของเยรูซาเล็มจะเป็นเหมือนอาราบาห์ ส่วนเยรูซาเล็มจะสูงเด่น มันจะคงอยู่ในที่ของมัน จากประตูเบนยามินถึงบริเวณประตูที่หนึ่งถึงประตูมุม และจากหอคอยฮานันเอลถึงบ่อย่ำองุ่นหลวง 11 เยรูซาเล็มจะมีผู้คนอาศัยอยู่ มันจะมั่นคงปลอดภัยและไม่ถูกทำลายล้างอีกต่อไป 12 ภัยพิบัติที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงให้เกิดแก่บรรดาประชาชาติที่มาสู้รบกับเยรูซาเล็มมีดังนี้คือ เนื้อของเขาจะเปื่อยเน่าทั้งที่ยังยืนอยู่ ตาของเขาเน่าคากระบอกตา […]
ฮักกัย 1
การทรงเรียกให้สร้างพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า 1 ในวันที่หนึ่งเดือนที่หกปีที่สองแห่งรัชกาลกษัตริย์ดาริอัส พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเศรุบบาเบลผู้ว่าการของยูดาห์บุตรเชอัลทิเอล และมหาปุโรหิตโยชูวาบุตรเยโฮซาดักโดยตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะฮักกัยความว่า 2 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “ประชากรเหล่านี้พูดว่า ‘ยังไม่ถึงเวลาที่จะสร้างพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า’ ” 3 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะฮักกัยว่า 4 “ถึงเวลาแล้วหรือที่พวกเจ้าเองอาศัยในบ้านซึ่งกรุไม้อย่างดี ในขณะที่พระนิเวศนี้ยังเป็นซากปรักหักพัง?” 5 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “จงใคร่ครวญวิถีทางของเจ้าให้ดี 6 เจ้าปลูกมากแต่เก็บเกี่ยวน้อยนิด เจ้ากินแต่ไม่เคยอิ่ม เจ้าดื่มแต่ก็ไม่เคยสิ้นความกระหาย เจ้านุ่งห่มแต่ไม่อบอุ่น เจ้าได้ค่าแรงแต่ก็เอามาใส่ในกระเป๋าเงินที่รั่ว” 7 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “จงใคร่ครวญวิถีทางของเจ้าให้ดี 8 จงขึ้นไปบนภูเขาและตัดไม้ลงมาสร้างพระนิเวศ เพื่อเราจะได้พึงพอใจและได้รับเกียรติ”องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น 9 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “เจ้าหวังมาก แต่ดูสิ ได้มาเพียงนิดเดียว สิ่งที่เจ้านำกลับมาบ้าน เราก็เป่ามันทิ้งไปเสีย ทำไมน่ะหรือ? ก็เพราะพระนิเวศของเรายังคงเป็นซากปรักหักพัง ในขณะที่เจ้าแต่ละคนสาละวนอยู่กับบ้านเรือนของตัวเอง 10 ฉะนั้นเป็นเพราะพวกเจ้า ฟ้าสวรรค์จึงยั้งหยาดน้ำค้างไว้ และโลกก็ไม่ยอมผลิพืชผล 11 เราสั่งให้เกิดความแห้งแล้งขาดแคลนทั่วท้องนาป่าเขาแก่เมล็ดข้าว เหล้าองุ่นใหม่ น้ำมัน และพืชพันธุ์ธัญญาหารทั้งหลาย ทั้งแก่ผู้คนและฝูงสัตว์ และแก่สิ่งที่เจ้าหยาดเหงื่อลงแรงไป” 12 แล้วเศรุบบาเบลบุตรเชอัลทิเอล มหาปุโรหิตโยชูวาบุตรเยโฮซาดัก และประชาชนทั้งหมดซึ่งยังเหลืออยู่ที่นั่น ก็เชื่อฟังพระดำรัสของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาและถ้อยคำของผู้เผยพระวจนะฮักกัย […]
ฮักกัย 2
สง่าราศีของพระนิเวศใหม่ที่ทรงสัญญาไว้ ปีที่สองแห่งรัชกาลกษัตริย์ดาริอัส 1 ในวันที่ยี่สิบเอ็ดเดือนที่เจ็ดองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะฮักกัยว่า 2 “จงกล่าวแก่เศรุบบาเบลผู้ว่าการของยูดาห์บุตรเชอัลทิเอล มหาปุโรหิตโยชูวาบุตรเยโฮซาดัก และประชาชนที่เหลืออยู่ จงถามพวกเขาว่า 3 ‘ใครบ้างในพวกเจ้าที่เหลืออยู่ที่เคยเห็นความโอ่อ่าตระการแต่เดิมของนิเวศนี้? บัดนี้เจ้าเห็นเป็นอย่างไร? รู้สึกว่าเทียบกันไม่ได้เลยใช่ไหม? 4 แต่บัดนี้จงเข้มแข็งเถิด เศรุบบาเบลเอ๋ย’องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ‘จงเข้มแข็งเถิด มหาปุโรหิตโยชูวาบุตรเยโฮซาดักเอ๋ย จงเข้มแข็งเถิด ประชาชนทั้งปวงในดินแดนนี้’องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น ‘และจงทำงานไปเถิด เพราะเราอยู่กับเจ้า’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น 5 ‘ตามที่เราได้ทำพันธสัญญาไว้กับเจ้าเมื่อเจ้าออกมาจากอียิปต์ และจิตวิญญาณของเรายังคงอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า อย่ากลัวเลย’ 6 “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘อีกสักหน่อยหนึ่ง เราจะเขย่าฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ทะเล และผืนแผ่นดินอีกครั้ง 7 เราจะเขย่ามวลประชาชาติและสิ่งที่ประชาชาติทั้งหลายพึงปรารถนาจะหลั่งไหลมา และเราจะทำให้นิเวศนี้เปี่ยมด้วยสง่าราศี’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น 8 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า ‘เงินและทองเป็นของเรา 9 สง่าราศีของนิเวศปัจจุบันจะรุ่งโรจน์กว่าสง่าราศีของนิเวศเดิม’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น ‘และเราจะให้สันติสุขแก่สถานที่นี้’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น” พระพรแก่ผู้ที่มีมลทิน 10 ในวันที่ยี่สิบสี่เดือนที่เก้าปีที่สองแห่งรัชกาลดาริอัส พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงผู้เผยพระวจนะฮักกัยว่า 11 “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘จงถามปุโรหิตดูเถิดว่าบทบัญญัติระบุไว้อย่างไร 12 หากผู้หนึ่งผู้ใดห่อเนื้อบริสุทธิ์ไว้กับเสื้อคลุม แล้วห่อเนื้อนั้นไปถูกขนมปังหรือแกง […]
เศฟันยาห์ 1
1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งมาถึงเศฟันยาห์ ผู้เป็นบุตรของคูชี ผู้เป็นบุตรของเกดาลิยาห์ ผู้เป็นบุตรของอามาริยาห์ ผู้เป็นบุตรของเฮเซคียาห์ในรัชกาลโยสิยาห์โอรสกษัตริย์อาโมนแห่งยูดาห์ ความว่า คำเตือนเกี่ยวกับหายนะที่จะมาถึง 2 “เราจะกวาดล้างทุกสิ่ง ไปจากพื้นโลก” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 3 “เราจะกวาดล้างทั้งคนและสัตว์ออกไป ตลอดจนนกในอากาศ และปลาในทะเล คนชั่วจะเหลืออยู่แค่กองปรักหักพัง เมื่อเรากำจัดมนุษย์จากพื้นโลก” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น กล่าวโทษยูดาห์ 4 “เราจะเหยียดมือออกต่อสู้ยูดาห์ และชาวเยรูซาเล็มทั้งปวง เราจะกำจัดคนของพระบาอัลทุกคนที่เหลืออยู่ให้หมดไปจากที่นี่ คือลบชื่อบรรดาปุโรหิตผู้ไม่นับถือพระเจ้า และผู้ฝักใฝ่รูปเคารพทิ้งไป 5 ได้แก่บรรดาผู้หมอบกราบอยู่บนดาดฟ้า เพื่อนมัสการหมู่ดาว บรรดาผู้หมอบกราบลงและสาบานโดยอ้างองค์พระผู้เป็นเจ้า และอ้างพระโมเลคด้วย 6 บรรดาผู้เลิกติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ได้แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าหรือทูลถามจากพระองค์ 7 จงสงบนิ่งต่อหน้าพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต เพราะวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงจัดเตรียมเครื่องบูชา และทรงชำระแขกรับเชิญของพระองค์ให้บริสุทธิ์ 8 ในวันถวายเครื่องบูชาขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้น เราจะลงโทษบรรดาเจ้านาย และโอรสของกษัตริย์ และลงโทษคนทั้งปวง ที่ปฏิบัติตามธรรมเนียมของคนต่างชาติ 9 ในวันนั้นเราจะลงโทษ คนทั้งปวงที่ไม่เหยียบธรณีประตู ผู้ทำให้บ้านเจ้านายของพวกตน เต็มไปด้วยความทารุณและการหลอกลวง” 10 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “ในวันนั้น จะมีเสียงร้องดังขึ้นจากประตูปลา มีเสียงร่ำไห้จากย่านใหม่ […]