เลวีนิติ 6

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 2 “ผู้ใดทำบาปและไม่ซื่อตรงต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยหลอกเพื่อนบ้านเกี่ยวกับสิ่งของที่รับฝาก หรืออยู่ในการดูแล หรือถูกขโมย หรือคดโกงเพื่อนบ้าน 3 หรือเก็บของได้และโกหกว่าไม่ได้เอาไป หรือสาบานเท็จ หรือทำบาปใดๆ 4 เมื่อเขาทำบาปและมีความผิด เขาต้องคืนสิ่งที่ขโมย หรือที่ขู่กรรโชกมา หรือของที่เขารับฝากไว้ หรือของที่เขาเก็บได้ 5 หรืออะไรก็ตามที่เขาสาบานเท็จเกี่ยวกับสิ่งนั้น เขาต้องชดใช้ให้เต็มราคา และเพิ่มอีกหนึ่งในห้าของราคานั้นให้กับเจ้าของในวันที่เขาถวายเครื่องบูชาลบความผิด 6 และเพื่อเป็นการลงโทษ เขาต้องนำเครื่องบูชาลบความผิดมาให้ปุโรหิต นั่นคือเขาต้องถวายแกะผู้ที่ไม่มีตำหนิและมีค่าเหมาะสมจากฝูงแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า 7 ปุโรหิตจะทำการลบบาปให้เขาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยวิธีนี้ แล้วเขาจะได้รับการอภัยสำหรับความผิดเหล่านี้ที่ได้ทำไป” เครื่องเผาบูชา 8 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 9 “จงแจ้งคำสั่งนี้แก่อาโรนและบรรดาบุตรชายของเขาว่า ‘นี่เป็นกฎระเบียบเกี่ยวกับเครื่องเผาบูชา ให้ทิ้งเครื่องเผาบูชาไว้ตรงที่เผาตลอดคืนจนรุ่งเช้า และปล่อยให้ไฟบนแท่นบูชาลุกอยู่เช่นนั้น 10 แล้วปุโรหิตจะสวมเครื่องแต่งกายที่ทำจากผ้าลินินพร้อมกับเครื่องแต่งกายชั้นในที่ติดกับตัว และเขาจะกวาดเถ้าของเครื่องเผาบูชากองไว้ข้างแท่น 11 จากนั้นเขาต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วนำเถ้าออกนอกค่ายพักแรมไปยังที่ที่ไม่เป็นมลทินตามระเบียบพิธี 12 ให้ไฟบนแท่นบูชาลุกอยู่ตลอดเวลา อย่าให้ดับ ปุโรหิตจะเติมฟืนทุกเช้า วางเครื่องเผาบูชาประจำวันบนฟืน แล้วเผาไขมันของเครื่องสันติบูชาบนแท่น 13 จงให้ไฟลุกโชนอยู่ที่แท่นตลอดเวลา อย่าให้ดับเลย เครื่องธัญบูชา 14 “ ‘ต่อไปนี้เป็นกฎระเบียบเกี่ยวกับเครื่องธัญบูชา บรรดาบุตรชายของอาโรนจะนำเครื่องธัญบูชามาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าหน้าแท่นบูชา […]

เลวีนิติ 7

เครื่องบูชาลบความผิด 1 “ ‘ต่อไปนี้เป็นกฎระเบียบเกี่ยวกับเครื่องบูชาลบความผิดซึ่งบริสุทธิ์ที่สุดคือ 2 สัตว์ที่นำมาถวายเป็นเครื่องบูชาลบความผิดจะฆ่าในที่สำหรับฆ่าสัตว์เป็นเครื่องเผาบูชา แล้วพรมเลือดของมันรอบแท่น 3 ปุโรหิตจะถวายไขมันทั้งหมด คือไขมันส่วนหางและไขมันหุ้มเครื่องใน 4 ไตสองลูก ไขมันหุ้มไตใกล้ส่วนเอว และพังผืดหุ้มตับซึ่งเอาออกมาพร้อมไต 5 ปุโรหิตจะเผาสิ่งเหล่านี้บนแท่นบูชาเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้านี่คือเครื่องบูชาลบความผิด 6 ผู้ชายในครอบครัวของปุโรหิตเท่านั้นจึงจะกินเนื้อนั้นได้ และต้องกินในที่บริสุทธิ์เพราะเป็นของบริสุทธิ์ที่สุด 7 “ ‘กฎเดียวกันนี้ใช้ได้ทั้งเครื่องบูชาไถ่บาปและเครื่องบูชาลบความผิดคือ เนื้อส่วนที่เหลือมอบให้เป็นอาหารของปุโรหิตผู้ทำการลบบาป 8 ปุโรหิตผู้ถวายเครื่องเผาบูชาจะได้รับหนังของมันด้วย 9 ปุโรหิตซึ่งถวายเครื่องธัญบูชาจะได้รับส่วนที่เหลือเมื่อเสร็จพิธีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นธัญบูชาที่อบ ปิ้ง หรือทอด 10 ธัญบูชาทุกอย่างไม่ว่าจะแห้งหรือเคล้าน้ำมัน เป็นของบรรดาบุตรของอาโรนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เครื่องสันติบูชา 11 “ ‘ต่อไปนี้เป็นกฎระเบียบเกี่ยวกับเครื่องสันติบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า 12 “ ‘หากเป็นเครื่องบูชาขอบพระคุณ ให้ผู้ถวายนำขนมปังไม่ใส่เชื้อคลุกน้ำมันควบคู่มากับเครื่องบูชา พร้อมด้วยขนมปังแผ่นบางไม่ใส่เชื้อทาน้ำมัน และขนมปังแป้งละเอียดเคล้าน้ำมัน 13 ให้นำขนมปังใส่เชื้อมาถวายควบคู่กับเครื่องสันติบูชา เป็นเครื่องบูชาขอบพระคุณ 14 เขาจะต้องนำส่วนหนึ่งจากเครื่องบูชาแต่ละชนิดมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าแล้วมอบให้ปุโรหิตผู้พรมเลือดของเครื่องสันติบูชา 15 เนื้อของเครื่องสันติบูชาเพื่อขอบพระคุณจะต้องกินในวันที่ถวาย อย่าเหลือค้างจนถึงวันรุ่งขึ้น 16 “ ‘หากเป็นเครื่องบูชาตามที่ถวายปฏิญาณไว้หรือเครื่องบูชาตามความสมัครใจ ส่วนที่ปุโรหิตยังไม่ได้กินในวันที่ถวายอาจจะกินในวันรุ่งขึ้นได้ 17 แต่เนื้อของเครื่องบูชาที่เหลือค้างจนถึงวันที่สามต้องเผาทิ้ง 18 เพราะหากกินส่วนใดของเครื่องสันติบูชาในวันที่สามจะไม่เป็นที่ยอมรับ ไม่เป็นผลดีแก่ผู้ที่นำมาถวายเพราะเป็นเครื่องบูชาที่ไม่บริสุทธิ์ […]

เลวีนิติ 8

การสถาปนาอาโรนและบุตรชาย 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 2 “จงนำอาโรนกับบรรดาบุตรชาย พร้อมทั้งเครื่องแต่งกายของพวกเขา น้ำมันเจิม วัวหนุ่มที่ใช้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป แกะผู้คู่หนึ่งกับกระจาดขนมปังไม่ใส่เชื้อมา 3 และเรียกอิสราเอลทั้งหมดมาชุมนุมกันที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ” 4 โมเสสก็ทำตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่ง และชุมชนทั้งหมดมาพร้อมหน้ากันที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ 5 โมเสสกล่าวกับชุมนุมประชากรว่า “นี่คือสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสสั่งให้ทำ” 6 แล้วโมเสสนำอาโรนและบรรดาบุตรชายของเขามาชำระกายด้วยน้ำ 7 ให้อาโรนสวมเสื้อตัวใน คาดสายคาดเอว สวมเสื้อคลุม และผูกเอโฟดด้วยแถบรัดเอวที่ทออย่างชำนาญ 8 แล้วคล้องทับทรวง สอดอูริมและทูมมิมไว้ในทับทรวง 9 และโพกผ้าโพกศีรษะกับแผ่นทองคำศักดิ์สิทธิ์บนหน้าผากของอาโรน ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสสไว้ 10 แล้วโมเสสนำน้ำมันเจิมมาเจิมที่พลับพลาและอุปกรณ์แต่ละอย่าง เป็นการชำระให้บริสุทธิ์ 11 เขาเอาน้ำมันพรมแท่นบูชาเจ็ดครั้ง เจิมแท่นบูชาและภาชนะใช้สอยประจำแท่นทุกชิ้นและอ่างชำระกับฐานรองเพื่อชำระให้บริสุทธิ์ 12 เขาเทน้ำมันเจิมลงบนศีรษะของอาโรน เป็นการเจิมตั้งเขาและชำระเขาให้บริสุทธิ์ 13 แล้วเขานำบรรดาบุตรชายของอาโรนออกมา ให้สวมเสื้อตัวใน คาดสายคาดเอว และคาดผ้าคาดหน้าผากให้เขา ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสสไว้ 14 จากนั้นโมเสสถวายวัวผู้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และให้อาโรนกับบุตรชายวางมือบนหัววัว 15 โมเสสฆ่าวัวนั้น เอานิ้วจุ่มเลือดปาดทั่วเชิงงอนทั้งสี่ของแท่นบูชาเพื่อชำระแท่นให้บริสุทธิ์ แล้วเทเลือดที่เหลือลงที่ด้านล่างของแท่น ดังนั้นเขาจึงได้ชำระและทำการลบบาปสำหรับแท่นนั้น 16 โมเสสนำไขมันหุ้มเครื่องใน […]

เลวีนิติ 9

ปุโรหิตเริ่มรับใช้ 1 ในวันที่แปดโมเสสเรียกอาโรนกับบุตรชายและบรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอลมาประชุม 2 เขากล่าวแก่อาโรนว่า “จงคัดลูกวัวหนุ่มซึ่งไม่มีตำหนิมาเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปของท่าน และแกะผู้ซึ่งไม่มีตำหนิเป็นเครื่องเผาบูชาของท่าน ให้ถวายต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 3 จากนั้นจงกล่าวแก่ชาวอิสราเอลว่า ‘จงคัดแพะตัวผู้มาเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับตนเอง พร้อมทั้งลูกวัวและลูกแกะเป็นเครื่องเผาบูชา สัตว์ทั้งสองนี้ต้องมีอายุหนึ่งขวบและไม่มีตำหนิ 4 และจงนำเครื่องสันติบูชามาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าคือวัวและแกะผู้อย่างละตัว รวมทั้งเครื่องธัญบูชาที่เคล้าน้ำมันแล้ว เพราะในวันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาปรากฏแก่เจ้าทั้งหลาย’ ” 5 เหล่าประชากรจึงนำสิ่งของตามที่โมเสสสั่งมาที่หน้าเต็นท์นัดพบและทั้งหมดมายืนรวมกันอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 6 โมเสสกล่าวว่า “นี่คือสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งให้ท่านทั้งหลายทำ เพื่อพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะปรากฏแก่พวกท่าน” 7 โมเสสกล่าวกับอาโรนว่า “จงเข้ามาที่แท่นบูชาและถวายเครื่องบูชาไถ่บาปและเครื่องเผาบูชาของท่าน เพื่อลบบาปสำหรับตนเองและประชากร จงถวายเครื่องบูชาสำหรับประชากรและลบบาปให้พวกเขาอย่างที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาไว้” 8 ดังนั้นอาโรนจึงเข้ามาที่แท่นบูชาแล้วฆ่าลูกวัวนั้นเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับตนเอง 9 บุตรชายทั้งหลายของอาโรนนำเลือดมาให้เขา เขาเอานิ้วจุ่มเลือดปาดที่เชิงงอนของแท่นบูชาและเทเลือดที่เหลือลงที่ด้านล่างของแท่น 10 อาโรนเผาไขมัน ไต และพังผืดหุ้มตับจากเครื่องบูชาไถ่บาปบนแท่นบูชาตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสสไว้ 11 เขาเอาเนื้อและหนังไปเผาที่นอกค่าย 12 แล้วอาโรนฆ่าสัตว์ซึ่งเป็นเครื่องเผาบูชา บุตรชายทั้งหลายของเขานำเลือดมาให้เขาและเขาก็พรมเลือดรอบๆ แท่นบูชา 13 พวกเขาส่งเครื่องเผาบูชามาให้ทีละท่อน รวมทั้งหัวด้วย และเขาเผาสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดบนแท่นบูชา 14 อาโรนล้างเครื่องในและขา แล้วเผาถวายบนเครื่องเผาบูชาซึ่งอยู่บนแท่นบูชา 15 แล้วอาโรนนำเครื่องบูชาสำหรับประชากรเข้ามา เขานำแพะสำหรับเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปของประชากรมาฆ่า และถวายเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปอย่างที่เขาได้ทำกับสัตว์ตัวแรก 16 […]

เลวีนิติ 10

นาดับและอาบีฮูสิ้นชีวิต 1 แต่บุตรชายทั้งสองของอาโรน คือนาดับและอาบีฮู ก่อไฟขึ้นในกระถางเครื่องหอมและเติมเครื่องหอมลงไป แล้วเขาถวายด้วยไฟที่ไม่ได้รับอนุญาตต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นการละเมิดพระบัญชาของพระองค์ 2 จึงมีไฟจากเบื้องพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้าลงมาเผาผลาญเขาทั้งสองสิ้นชีวิตต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 3 แล้วโมเสสกล่าวกับอาโรนว่า “นี่คือสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกล่าวไว้เมื่อพระองค์ตรัสว่า “ ‘ผู้ที่อยู่ใกล้เรา ต้องรับรู้ว่าเราบริสุทธิ์ และคนทั้งปวง จะต้องให้เกียรติเรา’ ” อาโรนก็นิ่งเงียบอยู่ 4 โมเสสเรียกมิชาเอลและเอลซาฟานบุตรชายของอุสซีเอลอาของอาโรนเข้ามา และพูดกับพวกเขาว่า “จงเข้ามาที่นี่ หามญาติของเจ้าออกไปนอกค่าย ให้พ้นจากหน้าสถานนมัสการนี้” 5 เขาทั้งสองจึงเข้ามาหามร่างของคนทั้งสองซึ่งยังสวมเสื้อตัวในออกไปนอกค่ายตามที่โมเสสสั่ง 6 แล้วโมเสสกล่าวแก่อาโรนและเอเลอาซาร์กับอิธามาร์บุตรชายอีกสองคนของอาโรนว่า “อย่าปล่อยให้ผมของพวกท่านลุ่ยลงมาและอย่าฉีกเสื้อผ้า มิฉะนั้นพวกท่านจะตาย และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงพระพิโรธชุมชนทั้งหมด แต่ญาติของพวกท่านคือชาวอิสราเอลทั้งหมดอาจจะไว้ทุกข์ให้คนทั้งหลายที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำลายด้วยไฟก็ได้ 7 พวกท่านอย่าออกจากทางเข้าเต็นท์นัดพบนี้ มิฉะนั้นพวกท่านจะตาย เพราะน้ำมันเจิมขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เหนือพวกท่าน” พวกเขาก็ปฏิบัติตามที่โมเสสกล่าว 8 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับอาโรนว่า 9 “เจ้ากับบุตรชายอย่าดื่มเหล้าองุ่นหรือของมึนเมาเมื่อเจ้าเข้าไปในเต็นท์นัดพบ มิฉะนั้นเจ้าจะตาย นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุ 10 เจ้าต้องแยกแยะระหว่างสิ่งบริสุทธิ์กับสิ่งทั่วไป และสิ่งที่เป็นมลทินกับสิ่งที่ไม่เป็นมลทิน 11 และเจ้าต้องสอนกฎหมายทั้งปวงซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานผ่านทางโมเสสนั้นแก่ชนชาติอิสราเอล” 12 โมเสสกล่าวกับอาโรนและเอเลอาซาร์กับอิธามาร์บุตรชายที่เหลืออยู่ของอาโรนว่า “จงนำเครื่องธัญบูชาที่เหลือจากการถวายด้วยไฟแด่องค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรุงโดยไม่ใส่เชื้อแล้วรับประทานที่ข้างแท่นเพราะเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่สุด 13 ท่านจงรับประทานในที่บริสุทธิ์ เพราะเป็นส่วนของท่านกับบรรดาบุตรชายจากเครื่องบูชาด้วยไฟที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะข้าพเจ้าได้รับคำบัญชามาเช่นนั้น 14 แต่อนุญาตให้ท่านกับบุตรชายบุตรสาวของท่านรับประทานเนื้ออกและเนื้อโคนขาที่ยื่นถวาย จงรับประทานสิ่งเหล่านี้ในที่ที่ไม่เป็นมลทินตามระเบียบพิธี […]

เลวีนิติ 11

อาหารที่เป็นมลทินและไม่เป็นมลทิน 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนดังนี้ 2 “จงกล่าวแก่ชนอิสราเอลว่า ‘ในบรรดาสัตว์ที่อาศัยอยู่บนแผ่นดิน สัตว์ที่เจ้ากินได้คือ 3 สัตว์ใดๆ ที่มีกีบแยกและเคี้ยวเอื้อง 4 “ ‘แต่เจ้าอย่ากินสัตว์ที่เคี้ยวเอื้องหรือมีกีบแยกเพียงอย่างเดียวเช่น อูฐ มันเคี้ยวเอื้องแต่ไม่มีกีบแยก นี่คือสัตว์ที่เป็นมลทินตามระเบียบพิธีสำหรับเจ้า 5 กระจงผาเคี้ยวเอื้องแต่ไม่มีกีบแยก จึงเป็นมลทินสำหรับเจ้า 6 กระต่าย แม้เคี้ยวเอื้องแต่ไม่มีกีบแยก นี่เป็นมลทินสำหรับเจ้า 7 และหมู แม้มีกีบแยกแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง นี่ก็เป็นมลทินสำหรับเจ้า 8 เจ้าอย่ากินเนื้อสัตว์เหล่านี้หรือแตะต้องซากของมัน เพราะเป็นสัตว์ที่เป็นมลทินสำหรับเจ้า 9 “ ‘เจ้ากินสัตว์น้ำจืดน้ำเค็มที่มีทั้งครีบและเกล็ดได้ 10 แต่เจ้าพึงรังเกียจสัตว์น้ำที่ไม่มีทั้งครีบและเกล็ด ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กๆ หรือสัตว์อื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในน้ำ 11 มันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับเจ้า ดังนั้นอย่ากินเนื้อของมันหรือแม้แต่แตะต้องซากของมัน 12 สัตว์น้ำใดๆ ซึ่งไม่มีทั้งครีบและเกล็ดเป็นที่พึงรังเกียจสำหรับเจ้า 13 “ ‘เจ้าอย่ากินสัตว์ปีกที่น่ารังเกียจต่อไปนี้คือ นกอินทรี แร้ง แร้งดำ 14 เหยี่ยวแดง เหยี่ยวดำทุกชนิด 15 กาชนิดต่างๆ 16 นกเค้าใหญ่ นกเค้า […]

เลวีนิติ 12

การชำระตนหลังคลอด 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 2 “จงกล่าวแก่ชนอิสราเอลดังนี้ ‘สตรีคนใดตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชาย ผู้เป็นแม่จะเป็นมลทินตามระเบียบพิธีเป็นเวลาเจ็ดวันเช่นเดียวกับที่เป็นมลทินระหว่างมีประจำเดือน 3 ในวันที่แปดให้ทารกชายนั้นเข้าสุหนัต 4 จากนั้นนางต้องคอย 33 วัน เพื่อชำระตนจากการหลั่งโลหิต นางจะต้องไม่แตะต้องสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์หรือเข้าไปในสถานนมัสการจนกว่าจะครบกำหนดการชำระของนาง 5 หากคลอดบุตรสาว นางจะเป็นมลทินอยู่สองสัปดาห์เช่นเดียวกับเมื่อมีประจำเดือน แล้วนางจะต้องรอ 66 วันเพื่อชำระตนเนื่องจากหลั่งโลหิต 6 “ ‘เมื่อสิ้นสุดระยะการชำระตนแล้ว ไม่ว่าจะคลอดบุตรเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย นางจะต้องนำลูกแกะอายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวมาเป็นเครื่องเผาบูชา และนกพิราบรุ่นหรือนกเขาหนึ่งตัวมาเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป นางจะนำมามอบแก่ปุโรหิตตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ 7 ปุโรหิตจะถวายเครื่องบูชาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อลบบาปของนาง แล้วนางจะพ้นมลทินตามระเบียบพิธีจากการที่โลหิตได้หลั่งไหล “ ‘สิ่งเหล่านี้คือกฎระเบียบสำหรับสตรีที่คลอดบุตรไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง 8 หากนางยากจนเกินกว่าจะถวายลูกแกะหนึ่งตัว ก็ให้นำนกเขาหรือนกพิราบรุ่นสองตัวมาแทน ตัวหนึ่งจะใช้เป็นเครื่องเผาบูชา ส่วนอีกตัวใช้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป ปุโรหิตจะทำการลบบาปโดยวิธีนี้ให้นางและนางจะพ้นมลทิน’ ” —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/12-e43c1c7bd47130759c3236f210420363.mp3?version_id=179—

เลวีนิติ 13

กฎระเบียบเกี่ยวกับโรคติดต่อทางผิวหนัง 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า 2 “หากผู้ใดเกิดอาการบวมที่ผิวหนัง หรือเป็นผื่น หรือมีรอยด่าง ให้สงสัยว่าเป็นโรคติดต่อทางผิวหนังจะต้องนำผู้นั้นมาพบปุโรหิตอาโรนหรือบุตรชายคนหนึ่งคนใดของอาโรนที่เป็นปุโรหิต 3 ปุโรหิตจะต้องตรวจดูรอยโรคของผู้นั้น หากขนบนผิวหนังบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาวและรอยโรคนี้ลามลึกกว่าผิวหนังลงไป แสดงว่าเป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทินตามระเบียบพิธี 4 แต่หากผิวหนังบริเวณนี้เป็นด่างแต่ไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง และขนในบริเวณดังกล่าวก็ไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีขาว ปุโรหิตจะต้องกักตัวเขาไว้ดูอาการเป็นเวลาเจ็ดวัน 5 ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะตรวจผู้นั้นอีกครั้ง หากบริเวณที่บวมดังกล่าวยังอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง ปุโรหิตก็จะกักตัวเขาไว้อีกเจ็ดวัน 6 ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะตรวจผู้นั้นอีกครั้ง หากรอยโรคดีขึ้น ไม่ได้ลามลึกลงไป ปุโรหิตก็จะประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน เป็นเพียงผื่นธรรมดา ผู้นั้นต้องซักเสื้อผ้าของตน แล้วเขาก็จะสะอาด 7 แต่หากผื่นนั้นเห่อลามไปหลังจากที่เขาให้ปุโรหิตตรวจดูหนหนึ่งแล้ว เขาจะต้องกลับมาหาปุโรหิตอีก 8 ปุโรหิตจะตรวจเขาใหม่ หากเห็นว่าผื่นนั้นเห่อลามตามผิวหนังก็จะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เขาเป็นโรคติดต่อ 9 “หากผู้ใดเป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง ต้องนำเขาไปพบปุโรหิต 10 แล้วปุโรหิตจะตรวจผู้นั้น หากเขามีอาการบวมซีดที่ผิวหนัง ขนบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาว และรอยบวมนั้นปริแตกเป็นแผล 11 เขาก็เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทินโดยไม่ต้องกักตัวไว้ดูอาการอีก เพราะเขาเป็นมลทินแล้ว 12 “แต่หากปุโรหิตเห็นว่ารอยโรคนั้นกระจายไปทั่วตั้งแต่ศีรษะจดเท้า 13 ปุโรหิตต้องตรวจดูเขา หากรอยโรคนั้นปกคลุมไปทั้งตัว ให้ประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน […]

เลวีนิติ 14

การชำระมลทินเมื่อหายจากโรคติดต่อทางผิวหนัง 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 2 “ต่อไปนี้เป็นระเบียบสำหรับผู้ที่หายจากโรคติดต่อทางผิวหนัง เมื่อเขามาหาปุโรหิตและรับการชำระให้สะอาดตามระเบียบพิธี 3 ปุโรหิตจะออกไปนอกค่ายพักเพื่อตรวจดูคนนั้น หากเห็นว่าหายโรคแล้ว 4 ปุโรหิตจะสั่งให้นำนกสองตัวที่ไม่เป็นมลทินและยังมีชีวิต ไม้สนซีดาร์ ด้ายแดง และกิ่งหุสบ สำหรับใช้ในพิธีชำระคนนั้นให้สะอาด 5 ปุโรหิตจะสั่งให้ฆ่านกตัวหนึ่งเหนือน้ำสะอาดที่อยู่ในภาชนะดินเผา 6 นำนกอีกตัวหนึ่งซึ่งยังมีชีวิตพร้อมกับไม้สนซีดาร์ ด้ายแดง และกิ่งหุสบจุ่มลงในเลือดของนกที่ถูกฆ่าเหนือน้ำสะอาด 7 จากนั้นปุโรหิตจะพรมเลือดที่ตัวคนนั้นเจ็ดครั้ง แล้วประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน และปล่อยนกที่มีชีวิตตัวนั้นไปในที่กลางแจ้ง 8 “คนที่ได้รับการชำระให้สะอาดนั้นต้องซักเสื้อผ้าของตน โกนผม และอาบน้ำ แล้วเขาจะสะอาดตามระเบียบพิธี หลังจากนั้นให้เขากลับมาอาศัยอยู่ในค่ายพักอีกครั้ง แต่จะต้องอยู่นอกเต็นท์ของตนเป็นเวลาเจ็ดวัน 9 ในวันที่เจ็ดเขาจะโกนผม หนวด เครา และคิ้ว ซักเสื้อผ้า อาบน้ำ แล้วเขาจะสะอาด 10 “ในวันที่แปด เขาต้องนำลูกแกะตัวผู้สองตัวซึ่งไม่มีตำหนิ และลูกแกะตัวเมียอายุหนึ่งขวบไม่มีตำหนิหนึ่งตัว แป้งโม่ละเอียดประมาณ 6.5 ลิตรเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นเครื่องธัญบูชา และน้ำมันประมาณ 0.3 ลิตร 11 ปุโรหิตผู้ทำหน้าที่ตรวจโรคจะนำคนนั้นพร้อมด้วยเครื่องบูชาของเขาเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ 12 “จากนั้นปุโรหิตจะถวายแกะผู้ตัวหนึ่งและน้ำมันประมาณ 0.3 […]

เลวีนิติ 15

สิ่งมลทินที่หลั่งออกจากร่างกาย 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งโมเสสกับอาโรนว่า 2 “จงแจ้งประชากรอิสราเอลว่า ‘ชายใดมีสิ่งที่หลั่งออกมาจากร่างกาย สิ่งที่หลั่งออกมานั้นเป็นมลทิน 3 ไม่ว่าสิ่งนั้นจะไหลออกมาหรือคั่งอยู่ก็ตามก็ทำให้เขาเป็นมลทิน สิ่งที่หลั่งออกจะทำให้เขาเป็นมลทินในกรณีต่อไปนี้คือ 4 “ ‘ชายใดมีสิ่งที่หลั่งออกมา นอนที่เตียงใดหรือนั่งบนสิ่งใด สิ่งนั้นพลอยเป็นมลทินไปด้วย 5 ใครก็ตามที่แตะต้องเตียงของเขาจะต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ เขาจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น 6 ใครก็ตามนั่งบนที่นั่งของชายที่มีสิ่งที่หลั่งออก ผู้นั้นต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และเขาจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น 7 “ ‘ใครก็ตามที่สัมผัสชายผู้มีสิ่งที่หลั่งออก จะต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และเขาจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น 8 “ ‘หากชายผู้มีสิ่งที่หลั่งออกถ่มน้ำลายไปถูกคนที่สะอาด คนนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และเขาจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น 9 “ ‘เขานั่งบนอานใดๆ อานนั้นก็เป็นมลทิน 10 ผู้ใดแตะต้องสิ่งที่เขานั่งทับ จะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น ผู้ใดหยิบฉวยสิ่งเหล่านั้น จะต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และเขาจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น 11 “ ‘หากชายผู้มีสิ่งที่หลั่งออกถูกเนื้อต้องตัวผู้ใดโดยไม่ได้ล้างมือก่อน ผู้นั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตนและอาบน้ำ และเขาเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น 12 “ ‘ถ้าผู้เป็นมลทินไปแตะต้องภาชนะดินเผา จะต้องทุบภาชนะนั้นทิ้ง ส่วนภาชนะไม้จะต้องล้างน้ำทุกใบ 13 “ ‘เมื่อเขาปลอดจากสิ่งที่หลั่งออก ให้เขาคอยอยู่เจ็ดวัน เป็นการชำระตนให้สะอาดตามระเบียบพิธี เขาต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำด้วยน้ำสะอาด แล้วเขาจะสะอาด 14 ในวันที่แปดเขาต้องนำนกเขาหรือนกพิราบรุ่นสองตัวมาเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ แล้วมอบนกให้แก่ปุโรหิต […]