กันดารวิถี 32

เผ่าที่อยู่ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน 1 คนเผ่ารูเบนและคนเผ่ากาดซึ่งมีฝูงสัตว์เป็นจำนวนมาก เห็นว่าดินแดนยาเซอร์และกิเลอาดเป็นทำเลเหมาะแก่ฝูงสัตว์ 2 ดังนั้นจึงพากันมาพบโมเสส ปุโรหิตเอเลอาซาร์ และเหล่าผู้นำของชุมชน แล้วกล่าวว่า 3 “อาทาโรท ดีโบน ยาเซอร์ นิมราห์ เฮชโบน เอเลอาเลห์ เสบาม เนโบ และเบโอน 4 ดินแดนซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปราบต่อหน้าประชากรอิสราเอล เป็นทำเลที่ดีเหมาะสำหรับฝูงสัตว์ของข้าพเจ้าทั้งหลาย 5 หากพวกเราเป็นที่โปรดปรานของท่าน ก็โปรดยกดินแดนส่วนนี้ให้ผู้รับใช้ของท่านแทนดินแดนอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดนนั้นเถิด” 6 โมเสสกล่าวกับคนเผ่ากาดและคนเผ่ารูเบนว่า “จะให้พี่น้องร่วมชาติออกรบขณะที่พวกท่านนั่งอยู่ที่นี่หรือ? 7 เหตุใดพวกท่านบั่นทอนกำลังใจพี่น้องอิสราเอลไม่ให้ข้ามไปยังดินแดนซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่พวกเขา? 8 บรรพบุรุษของพวกท่านก็ทำเช่นนี้ เมื่อเราส่งพวกเขาจากคาเดชบารเนียไปสำรวจดินแดนนั้น 9 หลังจากพวกเขากลับมาจากหุบเขาเอชโคล์และดูดินแดนนั้นแล้ว พวกเขาก็ทำให้พี่น้องอิสราเอลท้อใจ ไม่ยอมเข้าสู่ดินแดนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่เขา 10 ในวันนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธและทรงปฏิญาณว่า 11 ‘เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ติดตามเราอย่างสุดหัวใจ ดังนั้นจะไม่มีผู้ชายสักคนที่อายุยี่สิบปีขึ้นไปซึ่งออกมาจากอียิปต์จะได้เห็นดินแดนที่เราสัญญาไว้กับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ 12 ไม่มีเลยสักคน ยกเว้นคาเลบบุตรเยฟุนเนห์แห่งเคนัสและโยชูวาบุตรนูนผู้ได้ติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดใจ’ 13 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอิสราเอล และทรงกระทำให้เขาทั้งหลายเร่ร่อนในถิ่นกันดารตลอดสี่สิบปี ตราบจนคนในชั่วอายุนั้นที่ทำชั่วในสายพระเนตรของพระองค์ตายหมด 14 “แต่นี่พวกท่านเชื้อไม่ทิ้งแถว เดินตามรอยบรรพบุรุษ ทำให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอิสราเอลยิ่งขึ้น […]

กันดารวิถี 33

เส้นทางการเดินทางของอิสราเอล 1 ต่อไปนี้คือเส้นทางออกจากอียิปต์ของชาวอิสราเอล เป็นหมู่เหล่าภายใต้การนำของโมเสสกับอาโรน 2 โมเสสบันทึกลำดับการเดินทางทุกระยะตามพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า 3 ชนอิสราเอลออกจากเมืองราเมเสสในวันที่สิบห้าเดือนที่หนึ่ง วันรุ่งขึ้นหลังจากพิธีปัสกา พวกเขายกพลออกมาอย่างสง่าผ่าเผย ต่อหน้าต่อตาชาวอียิปต์ 4 ซึ่งยุ่งอยู่กับการฝังศพบรรดาบุตรหัวปีที่ถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าประหาร เนื่องด้วยองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงลงโทษพระต่างๆ ของอียิปต์ 5 ชนอิสราเอลออกจากราเมเสสมาตั้งค่ายที่สุคคท 6 จากสุคคทมาตั้งค่ายที่เอธามใกล้ถิ่นกันดาร 7 จากเอธามวกกลับไปที่ปีหะหิโรท ไปยังแถบตะวันออกของบาอัลเซโฟน และตั้งค่ายใกล้ๆ มิกดล 8 ออกจากปีหะหิโรท แล้วข้ามทะเลเข้าไปในถิ่นกันดาร และหลังจากเดินทางเป็นเวลาสามวันในถิ่นกันดาร เอธามก็มาตั้งค่ายที่มาราห์ 9 ออกจากมาราห์แล้วมาถึงเอลิม ที่ซึ่งมีธารน้ำพุสิบสองแห่ง และมีต้นอินทผลัมเจ็ดสิบต้น พวกเขาตั้งค่ายอยู่ที่นั่น 10 จากเอลิม พวกเขามาตั้งค่ายพักริมทะเลแดง 11 และจากทะเลแดงมาตั้งค่ายที่ถิ่นกันดารสิน 12 จากถิ่นกันดารสินมาตั้งค่ายที่โดฟคาห์ 13 จากโดฟคาห์มาตั้งค่ายที่อาลูช 14 จากอาลูชมาตั้งค่ายที่เรฟีดิม ที่ซึ่งไม่มีน้ำให้ประชากรดื่ม 15 จากเรฟีดิม พวกเขามายังถิ่นกันดารซีนาย 16 จากถิ่นกันดารซีนายมาตั้งค่ายที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์ 17 จากขิบโรทหัทธาอาวาห์มาตั้งค่ายที่ฮาเซโรท 18 จากฮาเซโรทมาตั้งค่ายที่ริทมาห์ […]

กันดารวิถี 34

เขตแดนคานาอัน 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 2 “จงสั่งประชากรอิสราเอลว่า ‘เมื่อเจ้าทั้งหลายเข้าสู่คานาอันดินแดนซึ่งจะแบ่งสรรยกให้เป็นมรดกของเจ้านั้นจะมีพรมแดนดังนี้ 3 “ ‘ดินแดนทางใต้คือถิ่นกันดารศิน เลียบไปตามพรมแดนเอโดม เขตแดนทางใต้ด้านฝั่งตะวันออกเริ่มจากทะเลตาย 4 ไล่ลงมาผ่านช่องแคบแมงป่องไปยังศิน ลงใต้ไปที่คาเดชบารเนีย เรื่อยมาถึงฮาซารัดดาร์และอัสโมน 5 จากอัสโมนวกไปตามลำน้ำแห่งอียิปต์และสิ้นสุดลงที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 6 “ ‘พรมแดนตะวันตกของเจ้าคือชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 7 “ ‘พรมแดนด้านเหนือของเจ้าเริ่มจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเรื่อยไปถึงภูเขาโฮร์ 8 ไปยังเลโบฮามัทไปเศดัด 9 เรื่อยไปถึงศิโฟรนจนจดฮาซาเรนัน 10 “ ‘พรมแดนตะวันออกเริ่มจากฮาซาเรนันจนถึงที่เชฟาม 11 เรื่อยลงมาถึงริบลาห์ ด้านตะวันออกของเมืองอายิน ไล่มาตามลาดเขาด้านตะวันออกของทะเลคินเนเรท 12 แล้วเรื่อยมาตามแม่น้ำจอร์แดนและสิ้นสุดที่ทะเลเกลือ “ ‘นี่จะเป็นดินแดนของพวกเจ้าตามพรมแดนโดยรอบ’ ” 13 โมเสสสั่งชนอิสราเอลว่า “จงจับฉลากแบ่งสรรดินแดนนี้เป็นมรดกองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงบัญชาไว้ให้แบ่งกันในหมู่เก้าเผ่าและอีกครึ่งเผ่า 14 เพราะเผ่ารูเบน กาดและมนัสเสห์ครึ่งเผ่าได้รับมรดกของตนแล้ว 15 สองเผ่าและครึ่งเผ่านี้ได้รับดินแดนทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนแห่งเยรีโคเป็นมรดก” 16 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 17 “ต่อไปนี้เป็นรายชื่อผู้ที่จะทำหน้าที่จัดสรรมรดกในดินแดนคือ ปุโรหิตเอเลอาซาร์ โยชูวาบุตรนูน 18 และผู้นำซึ่งได้รับแต่งตั้งจากแต่ละเผ่า เพื่อช่วยแบ่งสรรดินแดนนั้น 19 รายชื่อของพวกเขา ได้แก่ คาเลบบุตรเยฟุนเนห์ จากเผ่ายูดาห์ […]

กันดารวิถี 35

เมืองของพวกเลวี 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสในที่ราบโมอับริมแม่น้ำจอร์แดน ตรงข้ามเมืองเยรีโคว่า 2 “จงสั่งชนอิสราเอลให้ยกเมืองบางเมืองและทุ่งหญ้าโดยรอบจากมรดกที่ชาวอิสราเอลครอบครองให้แก่ชนเลวี 3 เมืองเหล่านี้จะเป็นที่พักอาศัยของพวกเขา และทุ่งหญ้าซึ่งอยู่รายรอบสำหรับฝูงสัตว์ของเขา 4 “ทุ่งหญ้าของชนเลวีมีระยะห่างประมาณ 450 เมตรจากกำแพงเมืองทั้งสี่ด้าน 5 ฉะนั้นจะมีอาณาเขตด้านทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตกด้านละประมาณ 900 เมตรโดยมีเมืองอยู่ใจกลาง พวกเขาจะได้ใช้พื้นที่นี้เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์สำหรับเมืองนั้นๆ เมืองลี้ภัย 6 “เจ้าจงยกเมืองหกแห่งให้แก่คนเลวี เพื่อเป็นเมืองลี้ภัยสำหรับผู้ที่ทำให้คนตายโดยไม่เจตนาจะหนีไปลี้ภัย นอกจากนั้นจงยกเมืองต่างๆ ให้อีก 42 เมือง 7 เจ้าต้องยกเมืองให้ชนเลวีรวมทั้งหมด 48 หัวเมืองและทุ่งหญ้าโดยรอบ 8 เมืองที่เจ้ายกให้คนเลวีจากดินแดนที่คนอิสราเอลครอบครองจะต้องเป็นไปตามสัดส่วนของมรดกในแต่ละเผ่า คือเผ่าที่มีมากก็ให้มาก แต่เผ่าที่มีน้อยก็ให้น้อย” 9 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 10 “จงบอกชนอิสราเอลว่า ‘เมื่อพวกเจ้าข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าสู่คานาอันแล้ว 11 จงกำหนดเมืองลี้ภัยไว้ เพื่อผู้ที่ทำให้คนตายโดยไม่เจตนาจะหนีเข้าไปพักพิง 12 เมืองเหล่านี้จะเป็นที่หลบหนีจากการแก้แค้นจากญาติของผู้ตาย เพื่อไม่ให้จำเลยตายก่อนที่จะถูกไต่สวนต่อหน้าชุมนุมประชากร 13 เมืองทั้งหกแห่งนี้จะเป็นเมืองลี้ภัย 14 โดยมีสามแห่งตั้งอยู่ในดินแดนคานาอันและอีกสามแห่งอยู่ที่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน 15 เมืองลี้ภัยทั้งหกแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่หลบภัยของชาวอิสราเอลเท่านั้น แต่สำหรับคนต่างด้าวและผู้สัญจรอีกด้วย […]

กันดารวิถี 36

มรดกของบุตรสาวเศโลเฟหัด 1 บรรดาหัวหน้าครอบครัวในตระกูลกิเลอาดบุตรมาคีร์ บุตรมนัสเสห์ ผู้ซึ่งอยู่ในตระกูลต่างๆ ที่เป็นลูกหลานของโยเซฟ มาพบโมเสสและพวกผู้นำซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวของอิสราเอล 2 พวกเขาร้องเรียนว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้ท่านจัดสรรที่ดินโดยจับฉลากกันในหมู่ประชากรอิสราเอล และให้ยกมรดกของเศโลเฟหัดญาติของเราแก่เหล่าบุตรสาวของเขา 3 แต่หากพวกนางแต่งงานกับชนอิสราเอลเผ่าอื่น ที่ดินมรดกของพวกนางก็จะกลายเป็นของคนเผ่าที่นางแต่งงานด้วย ทำให้ที่ดินรวมของเผ่าของเราลดลงไป 4 เมื่อถึงปีกึ่งศตวรรษของอิสราเอล มรดกของพวกนางก็จะถูกรวมเข้ากับมรดกของเผ่าที่พวกนางแต่งงานด้วย เป็นการเอาที่ดินของพวกนางไปจากส่วนมรดกตามเผ่าที่เป็นของบรรพบุรุษของเรา” 5 โมเสสจึงแจ้งพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้าต่อหน้าชุมชนอิสราเอลว่า “สิ่งที่เผ่าของลูกหลานโยเซฟร้องเรียนมาก็ถูกต้อง 6 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาว่าบุตรสาวทั้งหลายของเศโลเฟหัดจะแต่งงานกับใครก็ได้ตามใจชอบ แต่ต้องเป็นคนในเผ่าของบิดาของพวกนาง 7 มรดกในอิสราเอลจะต้องไม่เปลี่ยนกรรมสิทธิ์จากของเผ่าหนึ่งไปเป็นของอีกเผ่าหนึ่ง เพราะชาวอิสราเอลทุกคนจะต้องรักษาที่ดินของเผ่าซึ่งได้รับมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเขา 8 หญิงสาวทุกเผ่าของอิสราเอลที่เป็นทายาทรับมรดกจะต้องแต่งงานกับชายเผ่าเดียวกัน เพื่ออิสราเอลจะรักษาที่ดินอันเป็นมรดกของบรรพบุรุษของตน 9 มรดกจะต้องไม่เปลี่ยนกรรมสิทธิ์จากเผ่าหนึ่งไปสู่อีกเผ่าหนึ่ง เพราะว่าชาวอิสราเอลแต่ละเผ่าจะต้องรักษาที่ดินอันเป็นมรดกของตนไว้” 10 บุตรสาวของเศโลเฟหัดจึงปฏิบัติตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งโมเสส 11 บุตรสาวของเศโลเฟหัดทั้งมาห์ลาห์ ทีรซาห์ โฮกลาห์ มิลคาห์และโนอาห์ จึงแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องทางสายบิดา 12 พวกนางแต่งงานกับชายในตระกูลต่างๆ ของเผ่ามนัสเสห์บุตรโยเซฟ มรดกของพวกนางจึงยังคงอยู่ในตระกูลและเผ่าของบิดา 13 ทั้งหมดนี้คือคำบัญชาและกฎระเบียบซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ประชากรอิสราเอลผ่านทางโมเสสในที่ราบโมอับริมแม่น้ำจอร์แดนตรงข้ามเมืองเยรีโค —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/NUM/36-36f4b058ff29b6ec0ee9cad90fdab984.mp3?version_id=179—

เลวีนิติ 1

เครื่องเผาบูชา 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกและตรัสกับโมเสสจากเต็นท์นัดพบ พระองค์ตรัสว่า 2 “จงแจ้งชนอิสราเอลว่า ‘เมื่อจะถวายเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าจงเลือกสัตว์จากฝูงวัวหรือฝูงแพะแกะของเจ้า 3 “ ‘หากจะถวายเครื่องเผาบูชาจากฝูงวัว จงใช้วัวผู้ซึ่งไม่มีตำหนิ เขาต้องนำมาถวายตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบเพื่อว่าสัตว์นั้นจะเป็นที่ยอมรับสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า 4 ให้ผู้ถวายวางมือบนหัวของวัวซึ่งใช้เป็นเครื่องเผาบูชา พระเจ้าจะทรงยอมรับวัวแทนตัวเขาเพื่อชดใช้โทษบาปให้เขา 5 ให้ผู้ถวายฆ่าวัวหนุ่มตัวนั้นต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้วบรรดาปุโรหิตซึ่งเป็นบุตรชายของอาโรนจะนำเลือดมาพรมรอบแท่นบูชาตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ 6 ให้เขาถลกหนังวัวตัวนั้นซึ่งเป็นเครื่องเผาบูชาและสับเป็นท่อนๆ 7 บรรดาบุตรชายของปุโรหิตอาโรนจะก่อไฟบนแท่นบูชาและเรียงฟืนบนไฟนั้น 8 แล้วเหล่าปุโรหิตผู้เป็นบุตรชายของอาโรนจะจัดเรียงชิ้นส่วนต่างๆ รวมทั้งหัวและไขมันบนฟืนที่กำลังลุกไหม้บนแท่นบูชา 9 ให้เขาเอาน้ำล้างเครื่องในและขาวัว ปุโรหิตจะเผาเครื่องถวายทั้งหมดบนแท่นบูชา นี่คือเครื่องเผาบูชา เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ เป็นกลิ่นหอมที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย 10 “ ‘หากจะใช้แกะหรือแพะจากฝูงเป็นเครื่องเผาบูชา ก็จะต้องเป็นตัวผู้ซึ่งไม่มีตำหนิ 11 ให้เขาฆ่ามันที่ด้านเหนือของแท่นบูชาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและบรรดาปุโรหิตซึ่งเป็นบุตรชายของอาโรนจะพรมเลือดของมันทั่วแท่นบูชา 12 ให้เขาสับมันเป็นท่อนๆ และปุโรหิตจะนำชิ้นส่วนเหล่านั้นรวมทั้งหัวและไขมันเรียงบนฟืนที่ลุกไหม้บนแท่นบูชา 13 ให้เขาเอาน้ำล้างเครื่องในและขา จากนั้นปุโรหิตจะเผาเครื่องถวายทั้งหมดบนแท่นบูชา นี่คือเครื่องเผาบูชา เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ เป็นกลิ่นหอมที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย 14 “ ‘ผู้ที่จะใช้นกเป็นเครื่องเผาบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าให้เลือกนกเขาหรือนกพิราบรุ่น 15 ปุโรหิตจะนำนกมายังแท่นบูชา บิดคอนกให้เลือดไหลลงมาข้างแท่น และเผานกนั้นบนแท่นบูชา 16 แล้วปุโรหิตจะผ่ากระเพาะและเอาสิ่งที่อยู่ข้างในออกทิ้งลงไปที่กองเถ้าถ่านด้านตะวันออกของแท่น 17 จากนั้นจับปีกทั้งสองข้าง ฉีกตัวนกออกแต่อย่าให้ขาดจากกัน และปุโรหิตจะเผานกบนฟืนที่กำลังติดไฟบนแท่นบูชา […]

เลวีนิติ 2

เครื่องธัญบูชา 1 “ ‘ผู้ที่จะถวายเครื่องธัญบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าจงนำแป้งละเอียดมา เทน้ำมันลงบนแป้ง และโรยเครื่องหอม 2 แล้วนำมามอบแก่บรรดาปุโรหิตบุตรของอาโรน ปุโรหิตจะกอบแป้งละเอียดมากำมือหนึ่งและน้ำมันพร้อมกับเครื่องหอมทั้งสิ้น และเผาเครื่องบูชานี้เป็นส่วนอนุสรณ์บนแท่นบูชา เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ เป็นกลิ่นหอมที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย 3 ธัญบูชาส่วนที่เหลือยกให้อาโรนกับบุตรชาย เป็นส่วนบริสุทธิ์ที่สุดของเครื่องบูชาด้วยไฟที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า 4 “ ‘หากจะนำขนมอบมาเป็นธัญบูชาจะต้องทำจากแป้งละเอียดเคล้าน้ำมันไม่ใส่เชื้อ หรือใช้ขนมปังแผ่นบางไม่ใส่เชื้อทาน้ำมัน 5 หากจะถวายขนมปังที่ปิ้งบนกระทะ จงทำจากแป้งละเอียดเคล้าน้ำมันไม่ใส่เชื้อ 6 บิเป็นชิ้นเล็กๆ รินน้ำมันราดเป็นเครื่องธัญบูชาอย่างหนึ่ง 7 หากจะถวายขนมที่ทอดในกระทะก็ทำจากแป้งละเอียดเคล้าน้ำมันเช่นเดียวกัน 8 จงนำธัญบูชาที่ทำจากสิ่งเหล่านี้มาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้านำมามอบให้ปุโรหิตซึ่งเขาจะนำมาที่แท่นบูชา 9 ปุโรหิตจะนำส่วนอนุสรณ์จากธัญบูชานี้มาเผาบนแท่นบูชา เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ เป็นกลิ่นหอมที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย 10 ธัญบูชาส่วนที่เหลือยกให้อาโรนกับบรรดาบุตรชาย เป็นส่วนบริสุทธิ์ที่สุดของเครื่องบูชาด้วยไฟที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า 11 “ ‘อย่าใส่เชื้อในเครื่องธัญบูชาที่เจ้านำมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะเจ้าจะต้องไม่เผาเชื้อหรือน้ำผึ้งในเครื่องบูชาด้วยไฟที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า 12 เจ้าอาจจะถวายขนมปังใส่เชื้อและน้ำผึ้งเป็นเครื่องถวายบูชาผลแรกแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าแต่ไม่ใช่นำมาเผาถวายบนแท่นบูชาเป็นกลิ่นที่พอพระทัย 13 จงใส่เกลือในเครื่องธัญบูชาทุกอย่าง อย่าให้เกลือแห่งพันธสัญญาของพระเจ้าขาดจากธัญบูชา จงใส่เกลือในเครื่องบูชาทุกอย่าง 14 “ ‘หากเจ้าถวายธัญบูชาเป็นผลแรก จงเด็ดเมล็ดจากรวงซึ่งเกี่ยวมาใหม่ๆ นำมาบดและย่างไฟถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า 15 ใส่น้ำมันและเครื่องหอมในนั้น นี่คือเครื่องธัญบูชา 16 ปุโรหิตจะเผาส่วนอนุสรณ์ของเมล็ดพืชบดและน้ำมันพร้อมกับเครื่องหอมทั้งหมด เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า —https://cdn-youversionapi.global.ssl.fastly.net/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/2-7e53782f7709711f69188d7ca5909e37.mp3?version_id=179—

เลวีนิติ 3

เครื่องสันติบูชา 1 “ ‘ถ้าผู้ใดจะถวายเครื่องสันติบูชา และเขาถวายสัตว์จากฝูงวัวไม่ว่าตัวผู้หรือตัวเมีย เขาจะต้องนำสัตว์ที่ไม่มีตำหนิมาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 2 ให้เขาวางมือบนหัวของสัตว์ที่จะถวาย แล้วฆ่ามันที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ เหล่าปุโรหิตซึ่งเป็นบุตรชายของอาโรนจะพรมเลือดวัวนั้นรอบแท่นบูชา 3 เขาจะนำส่วนหนึ่งจากเครื่องสันติบูชามาเผาด้วยไฟถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าคือไขมันที่หุ้มหรือติดกับเครื่องใน 4 ไตทั้งสองลูกกับไขมันที่ติดอยู่ใกล้บั้นเอว และพังผืดหุ้มตับซึ่งเอาออกมาพร้อมไต 5 จากนั้นบรรดาบุตรของอาโรนจะเผาสิ่งเหล่านี้บนเครื่องเผาบูชาซึ่งอยู่บนฟืนที่ติดไฟบนแท่นบูชา เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ เป็นกลิ่นหอมที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย 6 “ ‘หากเขาจะถวายแกะหรือแพะเป็นเครื่องสันติบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าใช้ได้ทั้งตัวผู้และตัวเมียซึ่งไม่มีตำหนิ 7 หากใช้ลูกแกะ จงนำมาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 8 ให้เขาวางมือบนหัวของมันและฆ่ามันหน้าเต็นท์นัดพบ และบรรดาบุตรของอาโรนจะพรมเลือดของมันรอบแท่นบูชา 9 เขาจะนำส่วนหนึ่งจากเครื่องสันติบูชามาเผาด้วยไฟถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าคือไขมัน ไขมันส่วนหางซึ่งตัดชิดกระดูกสันหลัง ไขมันทั้งหมดที่หุ้มหรือติดเครื่องใน 10 ไตทั้งสองลูกกับไขมันบนไตใกล้บั้นเอว และพังผืดหุ้มตับซึ่งนำออกมาพร้อมกับไต 11 ปุโรหิตจะเผาสิ่งเหล่านี้บนแท่นบูชา เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า 12 “ ‘หากเขานำแพะมาถวาย ให้นำมาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 13 ให้เขาวางมือบนหัวแพะและฆ่ามันที่ด้านหน้าเต็นท์นัดพบ จากนั้นบุตรของอาโรนจะพรมเลือดแพะรอบแท่นบูชา 14 เขาจะนำส่วนหนึ่งจากเครื่องถวายนำมาถวายบูชาด้วยไฟแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าคือไขมันทั้งหมดที่หุ้มหรือติดกับเครื่องใน 15 ไตทั้งสองลูกกับไขมันบนไตใกล้บั้นเอว และพังผืดของตับซึ่งเอาออกมาพร้อมไต 16 ปุโรหิตจะเผาสิ่งเหล่านี้บนแท่นบูชา เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ เป็นกลิ่นหอมที่พอพระทัย ไขมันทั้งหมดเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า 17 “ ‘อย่ากินไขมันหรือเลือดเลย นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุไม่ว่าเจ้าจะอาศัยอยู่ที่ใด’ ” […]

เลวีนิติ 4

เครื่องบูชาไถ่บาป 1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 2 “จงแจ้งชนอิสราเอลว่า ‘เมื่อผู้หนึ่งผู้ใดทำบาปโดยไม่เจตนาและทำสิ่งใดๆ ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสห้าม 3 “ ‘หากปุโรหิตผู้ได้รับการเจิมตั้งไว้ได้ทำบาป นำความผิดมาสู่ประชากร เขาจะต้องถวายวัวหนุ่มไม่มีตำหนิแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับบาปที่เขาได้ทำ 4 ให้เขานำวัวมาตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเขาจะต้องวางมือบนหัววัวและฆ่าวัวนั้นต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 5 แล้วปุโรหิตผู้รับการเจิมตั้งจะนำเลือดของวัวเข้าไปในเต็นท์นัดพบ 6 เอานิ้วจุ่มเลือดและพรมที่หน้าม่านของสถานนมัสการต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเจ็ดครั้ง 7 ปุโรหิตจะเอาเลือดบางส่วนทาเชิงงอนของแท่นเผาเครื่องหอมต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าในเต็นท์นัดพบ เลือดที่เหลือของวัวผู้จะเทลงที่ด้านล่างของแท่นเผาเครื่องบูชาตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ 8 เขาจะเอาไขมันทั้งหมดของวัวผู้ที่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปออกมา คือไขมันที่หุ้มหรือติดกับเครื่องใน 9 ไตสองลูกกับไขมันบนไตใกล้บั้นเอว และพังผืดหุ้มตับซึ่งเอาออกมาพร้อมไต 10 เช่นเดียวกับไขมันซึ่งนำออกจากวัวที่ถวายเป็นเครื่องสันติบูชา แล้วปุโรหิตจะเผาสิ่งเหล่านี้บนแท่นบูชา 11 แต่หนัง เนื้อ หัว ขา เครื่องในและไส้ 12 คือส่วนที่เหลือของวัวตัวนี้ เขาต้องนำไปยังที่ซึ่งไม่เป็นมลทินตามระเบียบพิธีนอกค่ายพักแรมซึ่งเป็นที่ทิ้งเถ้า แล้วเผาส่วนทั้งหมดในกองฟืนบนกองขี้เถ้า 13 “ ‘หากชุมชนอิสราเอลทั้งหมดทำบาปโดยไม่เจตนาและทำสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสห้าม แม้จะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทุกคนก็มีความผิด 14 เมื่อพวกเขาตระหนักถึงบาปที่ได้ทำ เหล่าประชากรจะต้องนำวัวหนุ่มตัวหนึ่งมายังเต็นท์นัดพบเพื่อถวายเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป 15 บรรดาผู้อาวุโสของชุมชนจะวางมือบนหัววัวผู้และฆ่าวัวนั้นต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 16 จากนั้นปุโรหิตผู้รับการเจิมตั้งจะนำเลือดส่วนหนึ่งเข้าไปในเต็นท์นัดพบ 17 เอานิ้วจุ่มเลือดและพรมที่หน้าม่านเจ็ดครั้งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 18 แล้วเอาเลือดส่วนหนึ่งทาเชิงงอนของแท่นซึ่งอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าในเต็นท์นัดพบ เขาจะเทเลือดส่วนที่เหลือลงที่ด้านล่างของแท่นบูชาตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ […]

เลวีนิติ 5

1 “ ‘ผู้ใดทำบาปเพราะไม่ยอมให้การในศาลตามที่มีส่วนรู้เห็นในสิ่งที่เกิดขึ้น เขาต้องรับผิดชอบ 2 “ ‘ผู้ใดแตะต้องสิ่งที่เป็นมลทินตามระเบียบพิธีเช่น ซากสัตว์ที่เป็นมลทิน ไม่ว่าสัตว์ป่า สัตว์เลี้ยง หรือซากของสัตว์ที่เลื้อยคลาน แม้ว่าเขาไม่รู้ตัว เขาก็มีมลทินและมีความผิดแล้ว 3 “ ‘บทที่ หรือหากเขาแตะต้องสิ่งมลทินของคนคือ สิ่งใดๆ ที่ทำให้เขาเป็นมลทิน แม้ไม่รู้ตัว เมื่อรู้ตัวแล้วเขาก็มีความผิด 4 “ ‘บทที่ หรือหากผู้ใดกล่าวคำสาบานพล่อยๆ ว่าจะทำสิ่งใดไม่ว่าดีหรือร้าย คือในเรื่องใดๆ ที่เขาอาจจะสาบานโดยไม่ใส่ใจ แม้ไม่รู้ตัว เมื่อเขารู้ตัวแล้ว เขาจะมีความผิด 5 “ ‘บทที่ เมื่อผู้ใดทำผิดในกรณีใดกรณีหนึ่งที่กล่าวมา เขาต้องสารภาพว่าเขาได้ทำบาปอย่างไร 6 และเพื่อเป็นการลงโทษบาปที่เขาได้ทำไป เขาจะต้องนำเครื่องบูชาไถ่บาปมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะเป็นลูกแกะหรือแพะตัวเมียจากฝูงก็ได้ ปุโรหิตจะทำการลบบาปให้เขา 7 “ ‘หากเขาไม่สามารถนำลูกแกะมาถวาย ก็ให้นำนกเขาสองตัวหรือนกพิราบรุ่นสองตัวมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นการลงโทษบาปของเขา ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป อีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชา 8 เขาจะต้องนำนกเหล่านั้นมามอบให้ปุโรหิต โดยจะถวายนกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปเป็นอันดับแรก โดยจะต้องบิดคอของมันแต่ไม่ให้หัวหลุดจากตัว 9 จากนั้นพรมเลือดบางส่วนข้างแท่นบูชาด้านหนึ่งและเทเลือดที่เหลือลงที่ด้านล่างของแท่นบูชา นี่เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป 10 จากนั้นปุโรหิตจะถวายนกอีกตัวเป็นเครื่องเผาบูชา โดยปฏิบัติตามขั้นตอนตามที่ระบุมาข้างต้นและทำการลบบาปให้เขาสำหรับบาปที่เขาได้ทำไปและเขาจะได้รับการอภัย 11 “ ‘อย่างไรก็ตามถ้าเขาไม่สามารถถวายนกเขาสองตัวหรือนกพิราบรุ่นสองตัว ก็ให้เขานำแป้งละเอียดประมาณ 2 […]